สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่488 กระอักกระอ่วน เจอเข้าอย่างจัง
บทที่488 กระอักกระอ่วน เจอเข้าอย่างจัง
กู้จื่อเฟยหน้าซีด ใจเต้นแรง
ท่าทางจริงจังของเย้นโม่หลินทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ไม่สบายใจ เธอไม่อยากจะโกหกเขา แม้แต่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ยอมให้คนอื่นมาโกหกเขาได้
ถ้าเกิดว่าโกหก ไม่แน่ว่าผลที่ตามมา……
“พี่เย้น ทำไมฉันต้องโกหกพี่ด้วยล่ะ ฉันสาบานเลยนะ ว่าฉันจริงใจกับพี่จริงๆ ”
กู้จื่อเฟยบังคับให้ตัวเองมองตรงไปที่เขา จ้องสายตาที่แหลมคมของเขา พยายามรักษาความสงบไว้ให้มากที่สุด
สายตาของเย้นโม่หลินเย็นชาขึ้นเยอะ
มือที่บีบคางของกู้จื่อเฟยอยู่นั้น ก็ออกแรงขึ้นโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว
กู้จื่อเฟยขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ แต่กัดริมฝีปากแน่นไม่กล้าส่งเสียง
เย้นโม่หลินที่ดุร้ายและอันตรายแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็น มันทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
อ่านไปครู่หนึ่ง เย้นโม่หลินก็ปล่อยกู้จื่อเฟย แล้วก็ยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่มืดมน
เขาไม่มองเธอแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ก้าวยาวเข้าป่าไป
“เรียกรวมคน ไปค้นในป่า! ”
พวกลูกน้องรีบตอบรับ “ได้ครับ คุณผู้ชาย”
แม้ว่าเย้นโม่หลินจะปล่อยมือไปแล้ว แต่ว่ากู้จื่อเฟยยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่คางของตัวเอง
เขาช่างโหดจริงๆ!
ไม่อ่อนโยนต่อผู้หญิงเลยจริงๆ!
เธอยังไม่ทันจะบ่น แต่พอได้ยินว่าเย้นโม่หลินบอกให้ค้นป่า เธอก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว
ตอนที่อยู่บนเรือนั้น ที่เธอเสแสร้งทำไปทุกอย่าง แกล้งทำเป็นเมาเรือ ข้อที่หนึ่ง เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเย้นโม่หลิน ข้อที่สอง เพราะว่ากู้ซึงแอบบอกเธอว่า โห้หลีเฉินอยู่ใกล้ๆ นี่
ดังนั้นพอขึ้นฝั่งแล้ว เธอก็เอาแต่พัวพันอยู่กับเย้นโม่หลิน เพื่อให้เย้นหว่านได้เข้าป่าไปหาโห้หลีเฉิน
แต่ว่าถ้าตอนนี้ไปค้นหาในป่าแล้ว โห้หลีเฉินและกู้ซึงก็อยู่ที่นั่น ก็จะถูกเจอได้ง่ายไม่ใช่เหรอ?
จับกู้ซึงมาจากเมืองหนาน พยายามปกปิดอย่างยากลำบากมาตั้งนาน คงจะไม่ความแตกแบบนี้ใช่ไหม
กู้จื่อเฟยรีบลุกขึ้นมาจากผ้าปูทันที แล้วก็รีบตามเย้นโม่หลินไป
เธอตามไปข้างๆ เขา แล้วก็พูดว่า “พี่เย้น พี่จะเข้าไปอย่างคเหรอกโครมขนาดนี้ เกรงว่าน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง? ถ้าเกิดว่าเสี่ยวหว่านกับพี่กำลังทำอะไรอยู่ ถ้าไปเจอเข้ามันจะกระอักกระอ่วนเอานะ”
ฝีเท้าของเย้นโม่หลินหยุด สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ในพริบตาเดียว เขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ เกรงว่าน่าจะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะ”
ความห่างเหินที่ดูเข้ากันไม่ได้ มันไม่เหมือนกับคู่รักที่สนิทสนมกันเลยแม้แต่นิดเดียว
ถึงแม้ว่าจะเข้าป่าไปด้วยกัน แต่ว่าเข้าป่าไปทำอะไรนั้น เย้นโม่หลินเริ่มรู้สึกสงสัยแล้ว
เรื่องความรักอะไรพวกนี้เขาไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ว่าเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรัก เขาจะค่อนข้างว่องไวและเฉียบแหลม ข้อบกพร่องและช่องโหว่เพียงเล็กน้อย เขาก็จะจับได้ โดยไม่มีที่ให้ซ่อน
สรุปแล้วกู้ซึง เย้นหว่านซ่อนอะไรไว้กันแน่? เขาต้องจับให้ได้!
กู้จื่อเฟยมองดูท่าทางที่อันตรายของเย้นโม่หลิน ใจก็เต้นรัวอย่างวิตกกังวล
เธอแอบพนมมือ ขอให้พระเจ้าอวยพร กู้ซึงกับโห้หลีเฉิน อย่าให้ถูกเจอพร้อมกันเลย!
ป่านั้นใหญ่โตมาก แต่ว่าเย้นโม่หลินก็เตรียมตัวมาอย่างดี
ถึงแม้ว่าจะไม่มีสัญญาณ แต่ว่าเขาก็ติดตั้งเครื่องบอกตำแหน่งในมือถือของเย้นหว่าน
พอเห็นตำแหน่งของเย้นหว่านนั้น เย้นโม่หลินก็มีสีหน้ามืดมนทันที เครื่องระบุตำแหน่งก็ถูกบดขยี้ด้วยมือของเขา
สมควรตายจริงๆ !
เย้นหว่านเข้าไปไกลขนาดนั้น! เขตนั้น มันมีสัตว์ป่าไปๆ มาๆ
นี่มันเป็นแค่การเดินเล่นธรรมดาๆ งั้นเหรอ?
นี่กู้ซึงดูแลเย้นหว่านยังไงกัน เขามีปัญหาแน่!
“ไป!”
เย้นโม่หลินถือเครื่องระบุตำแหน่ง ออกคำสั่งด้วยสีหน้าที่มืดมน แล้วก็เดินนำไปข้างหน้า
บอดี้การ์ดชุดดำหลายคนก็รีบเดินตามไป
กู้จื่อเฟยมองดูแผ่นหลังของเย้นโม่หลิน ก็รู้สึกตื่นตระหนก ขนหัวลุก
กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
หวังว่ากู้ซึงจะไม่อยู่ อย่าอยู่เลยนะ
เธอรีบถกกระโปรงขึ้นแล้วเดินตามไป เดินตามไป ด้านหลังมีบอดี้การ์ดสองคนเดินตามมาไม่ใกล้ไม่ไกล บางทีก็คอยพยุงเธอ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอล้มลงตรงทางที่เดินยาก
ตอนที่กู้จื่อเฟยถูกบอดี้การ์ดพยุงเป็นครั้งที่แปดนั้น เงยหน้าขึ้นมา ก็ไม่เห็นแผ่นหลังของเย้นโม่หลิน
แล้ว
ตั้งแต่เข้าป่ามา เขาก็เอาแต่เดินไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะหันมามองเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว และก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าเธอจะตามมาทันหรือไม่
ผู้ชายคนนี้ ช่างเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกจริงๆ
ถ้าเกิดว่าตอนนี้คนที่อยู่ด้านหลังของเขาคือเย้นหว่าน เย้นหว่านก็คงจะไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียวแบบนี้ใช่ไหม?
อดไม่ได้ หัวใจของกู้จื่อเฟยก็รู้สึกเจ็บ รู้สึกไม่ดีและก็เป็นทุกข์
เธอน่าสมเพชจริงๆ หึงแม้แต่น้องสาวของเขา
ตามความเร็วของเย้นโม่หลินในป่า เดิมทีจะสามารถเจอเย้นหว่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าด้านหลังของเขากลับมีตัวภาระที่น่ารักตามมาด้วย
กู้จื่อเฟยเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในป่ามาก่อน ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามตามมาอย่างเร็วที่สุดแล้ว แต่ว่าความเร็ว ก็ยังถือว่าช้าอยู่
เย้นโม่หลินก็ทำได้แค่พยายามลดความเร็วลง ทำให้กู้จื่อเฟยตามมาทัน
เขาพยายามอดทนต่อความวุ่นวายใจของตัวเองในตอนนี้ ใช้เวลามากกว่าตัวเองอย่างน้อยสามเท่า ในที่สุดก็เริ่มเข้าใกล้เย้นหว่านแล้ว
อยู่ที่พงหญ้าด้านหน้านี่เอง
ใกล้มาก
เย้นโม่หลินก็ไม่รอช้า รีบเปิดพงหญ้านั้น แล้วก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวหว่าน ทำไมเธอถึงได้เดิน……”มาไกลขนาดนี้……
เขาพูดได้คเหรอ่งเดียว ตอนที่เห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจนนั้น คำพูดก็หายวับไปในทันที
เย้นโม่หลินเหมือนถูกฟ้าผ่า ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
และในขณะเดียวกัน ในป่าก็มีเสียงกรีดร้องที่เขินอายอย่างถึงที่สุดของเย้นหว่านดังขึ้น
“อ๊าย——!”
ยังต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่เหรอเปล่า?!
ตอนนี้ เย้นหว่านกำลังนั่งคร่อมอยู่บนตักของโห้หลีเฉิน เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของร่างกายได้หายไปแล้ว และผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ากำลังฝั่งศีรษะอยู่ตรงหน้าอกของเธอ……
เธอสับสนวุ่นวายจนกำลังจะพุ่งเข้าไปในก้อนเมฆ เธอหรี่ตา แล้วก็เห็นเย้นโม่หลินที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังพงหญ้า
ทั้งสองคนสบตากันอย่างไม่ทันได้เตรียมตัว
สมองของเย้นหว่านมีเสียงพึมพำ อายจนแทบอยากจะหารูมุดเข้าไป
ภาพที่น่าอายของเธอ ทำไม ทำไมเย้นโม่หลินต้องเห็นด้วย?
เธออับอายจนอยากจะผลักโห้หลีเฉินออก แต่ว่ากำลังจะขยับ ก็คิดได้ว่าถ้าเกิดว่าเธอผลักโห้หลีเฉินออกแล้วนั้น เย้นโม่หลินก็จะเห็นหน้าอกของเธอ แล้วมันก็จะยิ่งน่าอายเข้าไปใหญ่เลย
เธอก็เลยกอดหัวของโห้หลีเฉินไว้อย่างตื่นตระหนก กดหัวของเขาไว้ที่หน้าอกของตัวเอง
ใบหน้าของโห้หลีเฉินแนบชิดกับความอ่อนนุ่มที่ร้ายแรง เสียงอู้อี้ ดังขึ้นมาจากลำคอของเขา
เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นมาทันที อยากตายจริงๆ
เย้นโม่หลินปากกระตุก รู้สึกกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม
ใครรู้บ้างว่าเขากำลังเห็นอะไรอยู่!
นี่คือในป่าที่รกร้าง แต่พวกเขากลับ กลับ……
“พวกแกหยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ หันหน้าไป แล้วไสหัวกลับไปซะ! ”
เย้นโม่หลินหันหน้ากลับไปยังอีกด้านของพงหญ้า แล้วก็คำรามออกมาด้วยใบหน้าที่มืดมน
พวกบอดี้การ์ดที่กำลังจะแหวกพงหญ้าเข้ามา ถูกคำรามใส่จนตกใจวิญญาณแทบจะบินออกจากร่าง ไม่กล้านึกถึงเหตุผลด้วยซ้ำ รีบหันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ทันที
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”
กู้จื่อเฟยนึกว่าเกิดเรื่องขึ้น ก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แหวกหญ้าดู