สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่523 โง่เขลาจริงๆ !
บทที่523 โง่เขลาจริงๆ !
ถ้าหากตัดสายไปเลยทันที ไม่รับ อาจจะนำมาซึ่งความเคลือบแคลงสงสัยของเย้นโม่หลิน
ถ้าเขารีบพุ่งมาทันที พวกเขาก็อาจจะหนีออกไปไม่ทัน
เย้นหว่านมองสีหน้าไม่สู้ดีของหยูซือห้าน ดูแล้วเขาอาจจะคาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนไปแบบนี้ ในใจก็เกิดความหวังเล็กน้อย
เธอข่มขู่เสียงสูงว่า “หยูซือห้าน เดี๋ยวพี่ชายฉันจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ คุณรีบปล่อยฉันซะ ไม่งั้นพี่ชายฉันจะไม่ปล่อยคุณเด็ดขาด!
แม้ว่าคุณจะเป็นคุณชายที่ได้รับการประคบประหงมเอาใจของตระกูลหยู แต่วิธีการจัดการของพี่ชายฉันคุณก็รู้ดี เขาสามารถทำให้คุณสูญเสียทุกอย่าง”
ตระกูลเย้นมีเย้นโม่หลินเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ตอนนี้ก็เป็นคนกุมอำนาจอีก เท่ากับว่าเรื่องของตระกูลเย้นเขาเป็นคนตัดสินใจ เขาสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลเย้นได้เลย
ส่วนหยูซือห้านแม้จะมีอำนาจมากที่ตระกูลหยู แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริง พอเขาเกิดเรื่องอะไรใหญ่โต ตระกูลหยูก็ได้แต่ทอดทิ้งเขา รักษาผลประโยชน์ของตระกูลหยู
แข็งเจอกับแข็ง หยูซือห้านไม่มีโอกาสจะชนะเลย
หยูซือห้านสีหน้าย่ำแย่ นิ้วมือบีบโทรศัพท์มือถือที่ดังอยู่ในมือไม่หยุดแน่นๆ แทบจะบีบให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
เย้นหว่าน เป็นตัวซวยของเขาจริงๆ
แต่ให้เขายอมทิ้งทุกอย่างขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไร
ครั้งนี้ เขาทุบหม้อข้าวจมเรือแล้ว เอาทั้งหมดเป็นเดิมพัน แพ้แล้ว ก็จะกลายเป็นไม่เหลืออะไร ชนะแล้ว เขาก็จะกลับช่วงชิงทุกอย่างของตระกูลหยูมาได้
ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจะไม่มีทางปล่อยเย้นหว่านที่อยู่ในมือไป
สายตาเขามองไปยังโทรศัพท์อย่าง จากนั้น สั่งด้วยเสียงเข้มว่า
“เอาตัวไป!”
“ครับ”
ชายชุดดำบังคับเอาตัวเย้นหว่านแบกขึ้นมา ไม่สนใจการดิ้นรนขัดขืนของเธอ เอาเธอลากเดินออกไปอีกด้านของป่า
เย้นหว่านมองป่าดำมืดตรงหน้า ขนหัวลุก ในใจยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
หยูซือห้านบ้าไปแล้วจริงเหรอ
เธอร้องตะโกน “หยูซือห้าน พี่ชายฉันติดต่อฉันไม่ได้ ไม่เกินห้านาที ต้องมาหาฉันที่นี่แน่! แม้ว่าคุณจะจับตัวไว้ฉันแล้ว แต่ก็ไม่สามารถออกจากตระกูลเย้นได้!”
เธอเชื่อมั่นในตัวของเย้นโม่หลิน
หยูซือห้านก็ไม่กล้าระแวงสงสัยในความใส่ใจที่เย้นโม่หลินมีให้เย้นหว่านว่าอยู่ในระดับไหน
เขาเม้มปาก สีหน้าดูไม่ได้เลย
กำโทรศัพท์มือถือ สาวเท้าไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็วมาก
เวลาเดียวกันนี้เอง เขาพูดกับหูฟังไร้สายว่า
“เตรียมคนให้พร้อม!”
เสียงโทรศัพท์มือถือของเย้นหว่านที่อยู่ในป่า กลายเป็นแสงสว่างเพียงจุดเดียว ยังคงส่งเสียงดัง กะพริบอย่างนั้นไม่เปลี่ยน
หยูซือห้านถืออยู่ในมือ เดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ไม่มีท่าทีที่จะรับสาย และก็ไม่มีท่าทีจะปล่อยเย้นหว่านด้วย
ในใจเย้นหว่านหดหู่สิ้นหวัง หวาดกลัวอย่างมาก อธิษฐานให้เย้นโม่หลินรีบเห็นความผิดปกติได้เร็วๆ รีบมาหาเธอที่นี่!
ขอแค่เย้นโม่หลินพบว่าเกิดเรื่องกับเธอ ก็จะรีบปิดล้อมตระกูลเย้นทันที แล้วก็สามารถช่วยเหลือเธอไว้ได้
เย้นหว่านคาดหวังอย่างกังวล หวังว่าเย้นโม่หลินจะมาเร็วหน่อย มาเร็วขึ้นอีก
“ติ๊ด——”
เสียงเบาๆดังขึ้นหนึ่งครั้ง เสียงเรียกของโทรศัพท์มือถือที่ดังไม่หยุด เงียบลง
แสงสว่างดับมืดลง รอบๆตัวมืดมิด
เย้นหว่านมองหน้าจอมือถือที่ดับลง ในใจกลับมีความปีติยินดีขึ้นมา เธอไม่เคยไม่รับสายของเย้นโม่หลิน เขาน่าจะรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านคิดอยู่ในใจ เวลานี้ กลับมีแสงสว่างวาบอยู่ตรงหน้า เธอถูกพามายังรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ในป่า
รถผ่านการตกแต่ง คือรถออฟโรด ที่มีสีใกล้เคียงเหมือนกับป่า ไม่มองใกล้ๆก็แทบจะดูไม่ออก
เธอจึงคิดว่า หยูซือห้านพวกเขาไม่รู้ว่ามาจากทางไหน ก็คงอาศัยรถยนต์คันนี้มาพากระมัง
ในใจเธอหวาดวิตก รถมาถึงแล้ว ต่อไปก็จะเอาตัวเธอไปแล้วใช่มั้ย
เย้นโม่หลินรีบมา จะยังมาทันมั้ย
เวลานี้ เสียงเรียกโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีก “ติ๊งต่องๆ”
เย้นโม่หลินโทรมาอีก
แม้ว่าเย้นหว่านจะยิงไปหาเขาแค่ครั้งเดียว แล้วก็วางสาย แต่ด้วยนิสัยของเย้นโม่หลินแล้ว จะต้องโทรมาถามให้รู้เรื่องแน่
ถ้าหากไม่เกิดเหตุสุดวิสัย ตอนนี้เขาก็น่าจะอยู่ระหว่างทางมาที่ป่านี้แล้ว
อีกไม่นาน
เธอแค่ต้องอดทนเอาไว้อีกนิด หาวิธีถ่วงเวลาออกไป จึงจะได้รับการช่วยเหลือ
“ถ้าเย้นโม่หลินมาแล้ว อย่างนั้นชีวิตของเขา ก็ควรจะจบลง”
เสียงหยูซือห้านเย็นเป็นพิเศษ
เย้นหว่านตกตะลึง มองตามสายตาหยูซือห้านไป ก็มองเห็นด้านหลังรถ กู้ซึงถูกมัดคอเอามือไพล่หลังมีเชือกมัดมือ มีเทปกาวปิดปากอยู่ คุกเข่าอยู่ที่พื้นด้วยท่าทางน่าสมเพชเวทนา
ข้างๆเขา มีบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ กดเขาเอาไว้ ไม่ให้เขาขยับเขยื้อนได้
ตอนแรกเขาสวมชุดสูทตอนนี้เสื้อผ้าหลุดลุ่ย บนใบหน้า มีบาดแผลและรอยฟกช้ำมากมาย
เย้นหว่านเบิกตาโตทันที “กู้ซึง!”
มิน่าเล่าเธอไม่เห็นตัวกู้ซึง เขาถูกหยูซือห้านจับตัวมานี่เอง!
ในใจเย้นหว่านหวาดกลัว ร้องตะโกนอย่างตื่นตกใจว่า“หยูซือห้าน คุณทำอะไรกู้ซึง คุณรีบปล่อยเขาเดี๋ยวนี้นะ!”
“ก็แค่ต่อยหนึ่งที ให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเท่านั้นเอง”
หยูซือห้านพูดอย่างสบายๆ ไม่แยแสอะไร
เขาสาวเท้ามา เดินอย่างสง่ามาตรงหน้ากู้ซึง มือคลำที่ตำแหน่งหนึ่ง หยิบกริชที่แหลมคมออกมาจากบริเวณเอว
ใบมีดที่แหลมคม แนบติดกับลำคอของกู้ซึง
“อื้อๆๆ”
กู้ซึงเบิกตาโตอย่างตื่นตกใจ ส่งเสียงอื้ออ้าออกมา
เขาใกล้จะถูกทำให้ตกใจตายแล้ว
เขาได้รับการดูแลเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เด็ก ไม่เคยถูกคนเอามีดมาจี้คอมาก่อน จะตายแล้วๆ
เย้นหว่านลมหายใจกระตุกเกร็ง รีบร้องตะโกน
“หยุดนะ คุณอย่าทำร้ายเขานะ!”
หยูซือห้านกลับเอาใบมีดแนบชิดกับคอของเขาอย่างช้าๆ ผิวของเขาแยกออกทันที เลือดสดๆค่อยๆไหลซึมออกมา
ใบมีดนั้นแหลมคมผิดปกติ แค่ค่อยๆเฉือน ชีวิตของกู้ซึงก็คงต้องจบลงตรงนี้แล้ว
เย้นหว่านตกใจแทบเป็นบ้าแล้ว ร่างกายอ่อนแรง หน้าขาวซีดเป็นกระดาษ
เธอร้องตะโกนอย่างตื่นตระหนก “หยูซือห้าน ตกลงคุณคิดจะทำอะไรกันแน่ คุณอย่าทำร้ายเขา! คุณบอกมา คุณจะเอาอะไรฉันรับปากคุณทุกอย่าง”
“โอ้ ผมบอกอะไรคุณจะรับปากทุกอย่างเหรอ”
การเคลื่อนไหวมือของหยูซือห้านจึงได้หยุดชะงัก ใบมีดยังคงแนบอยู่กับคอของกู้ซึง
รอยยิ้มมุมปากมีเลศนัยของเขา ดูถูกและเหยียดหยาม “เขาก็แค่กู้ซึงเท่านั้น สำหรับคุณแล้ว ไม่ใช่คนรักและก็ไม่ได้สำคัญมากมายอะไร คุณยังยอมช่วยเขาอีกเหรอ”
“อื้อๆ”
กู้ซึงส่งเสียงอู้ๆอี้ๆ ราวกับว่าพยายามอยากจะพูดอะไรบางอย่าง น่าเสียดาย พูดไม่ออก
เย้นหว่านไม่เคยพบเจอเรื่องระทึกขวัญนองเลือดแบบนี้มาก่อน ตกใจจนแทบจะเสียสติอยู่แล้ว แต่กลับไม่กล้าผ่อนคลายลงบ้างเลยสักนิดเดียว
เธอมีสติรู้ตัวดี ความจริงคือตอนนี้ชีวิตของกู้ซึงอยู่ในมือของเธอ
เธอกัดฟัน “ฉันยอม!”
กู้ซึงแม้จะไม่ใช่คนรักของเธอ แม้ว่าจะปากเสียและน่ารังเกียจมาก แต่ก็เพราะเธอและโห้หลีเฉินเขาจึงมาอยู่ที่นี่ ช่วงเวลานี้เขาก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ตอนนี้กู้ซึงตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ สาเหตุก็เพราะเธอ เธอเป็นหนี้เขา แน่นอนว่าไม่อาจทนดูเขาเป็นอะไรไปต่อหน้าได้
นี่เป็นความรับผิดชอบ และก็มนุษยธรรม
หยูซือห้านมุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มเยาะ “ช่างโง่เขลาจริงๆ”
“ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องจะไม่ง่ายขนาดนั้น ต้องมีความเป็นความตายเป็นจุดเปลี่ยนจึงจะทำให้คุณยอม คิดไม่ถึงว่า คุณจะแสนดีจนโง่เขลา”
หยูซือห้านยกมือ โยนโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้าของเย้นหว่าน