สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่532 ข่มขู่ ถ่ายภาพ
บทที่532 ข่มขู่ ถ่ายภาพ
“ก็เพราะว่าไอ้คนพวกนี้มันเป็นบ้า ใช้กาวบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่สนใจว่าฉันจะเจ็บปานตาย มาทาบนแผลของฉัน”
แล้วก็แต่งหน้าดี ดังนั้นพอมองดูแล้ว บนใบหน้าของเขาก็ไม่มีรอยแผลอะไรเลย
บวกกับโทนเสียงการพูดแขวะๆ แบบนี้ คือกู้ซึงจริงๆ
เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม บังคับเธอใส่กระโปรง แถมยังจับกู้ซึงแต่งตัวอีก หยูซือห้านจะทำอะไรกันแน่?
พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเย้นหว่าน ครั้งนี้หยูซือห้าน ก็อธิบายอย่างเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี
“เสี่ยวหว่าน เย้นโม่หลินยังไม่รู้ว่าเธอกับกู้ซึงไปเที่ยวที่ไหนกัน เธอถ่ายรูปส่งให้เขาดูหน่อยสิ”
พอพูดจบนั้น หยูซือห้านก็ส่งโทรศัพท์ให้กับเย้นหว่าน
เย้นหว่านก็เข้าใจในทันที
นี่เขากำลังจะให้เธอกับกู้ซึงถ่ายภาพคู่รักที่หวานซึ้งกัน แล้วเอาไปหลอกเย้นโม่หลิน
ยิ่งเธอถ่ายรูปดีขนาดไหน เย้นโม่หลินก็ยิ่งจะไม่สงสัยอะไร
หยูซือห้านวางแผนมาดีจริงๆ!
เย้นหว่านหรี่ตามองโทรศัพท์ที่เขายื่นมาให้ แต่ในใจกลับมีแผนอื่น
ตอนนี้ อุ้งเท้าของหยูซือห้าน ไม่ได้จับเพียงแค่เธอกับกู้ซึง แต่ว่ายังคงวางแผนที่จะจัดการกับโห้หลีเฉินอีกด้วย
โทรศัพท์เครื่องนี้ เป็นเครื่องมือที่เขาใช้ในตอนนี้
เย้นหว่านยอมให้เกิดเรื่องขึ้นกับตัวเอง แต่จะไม่ยอมให้โห้หลีเฉินต้องมาเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย
ในใจเธอรู้สึกกลัว กังวล แต่ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด นี่คือโอกาสที่หาได้ยาก แถมรอบข้างไม่ไกลนักก็เป็นทะเล สามารถอาศัยโอกาสตอนที่หยูซือห้านไม่ทันตั้งตัว โยนโทรศัพท์ลงทะเลไป
พอไม่มีโทรศัพท์ โห้หลีเฉินติดต่อเธอไม่ได้ ก็จะรู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ!
การตัดสินใจนี้มันอันตรายมาก มันสามารถยั่วให้หยูซือห้านโกรธได้ และยังทำให้เธอสูญเสียโอกาสในการขอความช่วยเหลืออีกด้วย แต่ว่าเย้นหว่านก็กัดฟันแน่น ยังไงก็ได้มีการตัดสินใจแล้ว
เธอมองโทรศัพท์เครื่องนั้น หลังจากนั้นก็จับไว้ แล้วก็วิ่งไปยังด้านข้างของเรืออย่างรวดเร็ว
เธอวิ่งเร็วมาก ยกมือขึ้นเตรียมจะปาโทรศัพท์ออกไปแล้ว
ทันใดนั้น ด้านหลังของเธอก็มีเสียงที่เยือกเย็นของหยูซือห้านดังขึ้น
“เธอลองปาดูสิ”
มือของเย้นหว่านที่กำลังจะปล่อยนั้นก็ค้างนิ่งทันที
ข้างหลังของเธอนั้น ก็มีความเย็นยะเยือกที่เย็นจนเข้ากระดูก
เธอยังคงโทรศัพท์อยู่ หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นภาพที่ทำให้เลือดของเธอแทบหยุดไหลเวียน
มือของหยูซือห้านถือกริซที่แหลมคม จ่อไว้ตรงหน้าอกของกู้ซึง
ท่าทางของเขานั้น ราวกับว่าพร้อมจะทิ่มลงไปเมื่อไหร่ก็ได้
ใบหน้าของหยูซือห้านทาแป้ง แต่งหน้า แต่ก็ยังมองออกว่า ตอนนี้ใบหน้าของเขานั้นซีดมาก
เย้นหว่านขมวดคิ้วแน่น หยูซือห้านทำเหมือนครั้งที่แล้วอีกแล้ว!
แต่ว่าครั้งนี้ เธอจะไม่หลงกล
“นายไม่กล้าฆ่ากู้ซึงหรอก”
เธอแน่ใจ
ถ้าเกิดว่าจะเปิดโปงโห้หลีเฉิน ก็จำเป็นต้องให้กู้ซึงอยู่ ถึงจะมีกู้ซึงสองคนเพื่อมาเปิดโปงโห้หลีเฉินได้
หยูซือห้านยิ้มอย่างชั่วร้าย “ฉันฆ่าเขาไม่ได้ก็จริง แต่ว่า……”
เขาหรี่ตาลงอย่างอันตราย และมือที่ถือกริชอยู่นั้น ก็ค่อยๆ เลื่อนลงมา สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่ของรักของหวงของผู้ชาย
“แต่ว่าฉันสามารถตอนมันทิ้งให้สืบพันธุ์ต่อไปไม่ได้อีก”
ลมหายใจเย้นหว่านชะงัก
เธอด่า “หยูซือห้าน นายหน้าด้านรึเปล่า!?! ”
มุมปากกู้ซึงกระตุก หน้าซีดลงเยอะมาก สีหน้าของเขาเหมือนกำลังจะพังทลายแล้ว
“ไอ้เวร เอากริซไปไกลๆ หน่อย ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้นะเว้ย! ”
จะเอาชีวิตเขาไปก็ย่อมได้ แต่ว่าจะเอาศักดิ์ศรีเขาไปไม่ได้เด็ดขาด
เรื่องนี้สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว มันเป็นทุกข์กว่าการฆ่าเขาซะอีก
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างรุนแรง ในใจรู้สึกท้อแท้และอึดอัดเป็นอย่างมาก
รอยยิ้มบนใบหน้าของหยูซือห้านไม่ได้น้อยลงเลย เขาหันหน้าไปมองเย้นหว่าน ยิ้มจางๆ พร้อมกับพูดว่า
“เสี่ยวหว่าน จะปาโทรศัพท์ลงไป หรือว่าจะให้ทำหมันเขา? เธอเลือกได้ตามสบายเลย”
เย้นหว่านกำโทรศัพท์แน่น เธอหวังอย่างมากว่าจะมีความแข็งแกร่งเหมือนกับฮัคก์ แล้วก็บดขยี้โทรศัพท์เครื่องนี้ไปซะ
สมควรตายจริงๆ
นี่คือให้เธอเลือกตามสบายที่ไหนกัน? เธอไม่ได้มีทางเลือกเลยสักนิด!
ถึงแม้ว่าสิ่งที่หยูซือห้านขู่อยู่นั้นไม่ได้ถึงแก่ชีวิตของกู้ซึง แต่ว่าสำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้วนั้น ตรงนั้นมันสำคัญกว่าชีวิตซะอีก
ต่อให้เธอไม่ยอม แต่ว่าเธอก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นชีวิตที่สองของกู้ซึงถูกตัดขาดหรอก
“ฉันก็ไม่ได้กะจะปาจริงๆ หรอก นายวางมีดลงก่อน”
เย้นหว่านเอาโทรศัพท์ที่ชูไว้เหนือหัววางลง
หยูซือห้านไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ดูการกระทำของเย้นหว่าน แล้วมุมปากก็มีรอยยิ้มที่อยากจะเอาชนะ
แต่ว่ากริซของเขานั้น ยังคงจ่ออยู่ที่ตำแหน่งชีวิตที่สองของกู้ซึงอยู่
เขาพูดอย่างไม่รอช้า “เสี่ยวหว่าน ตอนนี้จะถ่ายรูปให้พี่ชายเธอได้รึยัง? ”
เธอสามารถตอบว่าไม่ได้ไหมล่ะ?
เย้นหว่านกัดฟัน แล้วก็บีบทีละคำออกมาจากช่องฟันของตัวเอง
“ฉัน ถ่าย”
“เสี่ยวหว่าน……”
แววตาของกู้ซึงดูคลุมเครือ เขามองเย้นหว่านอย่างละอายใจอย่างมาก
ถ้าเกิดว่ามีดนั้นจะฆ่าเขา เขาจะยังรู้สึกโกรธและพาลใส่หยูซือห้านบ้าง แต่ว่านี่หยูซือห้านจะพรากชีวิตที่สองของเขาไปอย่างต่ำช้า ต้องเป็นขันทีไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะยังไงเขาก็รู้สึกรับไม่ได้จริงๆ
เย้นหว่านรู้สึกทุกข์ใจและอึดอัดมาก แต่ว่าบนใบหน้าของเธอนั้น ยังพยายามคลี่ยิ้มอย่างไม่แคร์
“ไม่เป็นไรหรอก ถ่ายไป พี่ชายฉันจะได้สบายใจหน่อย”
กู้ซึงอารมณ์เสีย เขาเข้าใจดีเป็นอย่างมากว่า ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเขา เย้นหว่านก็คงจะไม่ถูกข่มขู่ ถูกควบคุมแบบนี้หรอก
แต่ว่าชีวิตอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น ยังจะมีวิธีอะไรอีกล่ะ?
หยูซือห้านเห็นว่าทั้งสองคนห่อเหี่ยวไม่มีพลังงาน ในที่สุดก็น่ารักเชื่อฟัง ถึงได้วางกริชลงอย่างสบายใจ
แต่ว่าก่อนจะเอาออกนั้น ยังขู่ว่าจะปาดคอของกู้ซึง
กู้ซึงก็ขนลุกในทันที ทั้งโกรธ ทั้งหงุดหงิด และหวาดกลัว
ถ้าเกิดว่าตอนนี้เขาไม่มีประโยชน์แล้ว เขาจะไม่สงสัยเลยสักนิด หยูซือห้านต้องฆ่าเขาอย่างแน่นอน
แบบที่ไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ
หยูซือห้านผละออกไป เย้นหว่านก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากู้ซึง แล้วก็มองเขาอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“นายโอเคไหม?”
กู้ซึงส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร”
“เธอนั่นแหละ ถ้าเกิดว่าถ่ายรูปไปให้เย้นโม่หลินแล้ว เขาเชื่อว่าพวกเราไปเที่ยวกัน เกรงว่าพวกเราจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเขาแล้วจริงๆ นะ”
เขากับเย้นหว่านอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้เย้นโม่หลินคือโอกาสเดียวของพวกเขาที่จะได้รับการช่วยเหลือ
ในใจของเย้นหว่านรู้สึกหมดหวัง ใบหน้าของเธอ ยังคงพยายามฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก
“ยังไงก็ต้องมีโอกาสแหละ”
ก่อนที่ผลลัพธ์จะมาอยู่ตรงหน้า ก็ต้องมีโอกาสอยู่เสมอ
เย้นหว่านปลอบใจกู้ซึง แล้วก็ปลอบใจตัวเองด้วยเหมือนกัน
“พูดจาไร้สาระจบรึยัง? รีบถ่ายได้แล้ว”
หยูซือห้านนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางใหญ่โตอีกครั้ง เขย่าค็อกเทลในมือ และเร่งอย่างหมดความอดทน
เย้นหว่านกำโทรศัพท์แน่น ในใจรู้สึกหนักอึ้ง
เธอรู้ดีว่า ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก
เธอมองหน้ากู้ซึง แล้วพูดว่า “แสดงหน่อย”
กู้ซึงพยักหน้าอย่างแข็งกร้าว
เย้นหว่านเปิดโทรศัพท์ออก ก็พบว่าสัญญาณนั้นเป็นศูนย์ เห็นได้ชัดว่าเพื่อที่ป้องกันโอกาสที่เธอจะขอความช่วยเหลือแล้วนั้น หยูซือห้านก็ตัดสัญญาณทั้งหมดไป
จิตใจของผู้ชายคนนี้นี่ช่างน่ากลัวจริงๆ
“แชะ แชะ แชะ”
เย้นหว่านถ่ายไปหลายรูป แล้วก็ส่งโทรศัพท์คืนให้หยูซือห้าน
“เสร็จแล้ว”
หยูซือห้านรับโทรศัพท์ไป แล้วก็เปิดรูปภาพดู พร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจ
“ใบหน้าบึ้งตึ้งของพวกนายเนี่ย ถ่ายแบบนี้ คิดว่าจะใช้ได้เหรอ? ”
เย้นหว่านสีหน้าเรียบเฉย “ฉันให้ความร่วมมือสุดๆ แล้ว นายจะเอายังไงอีก? ”
ยิ้มก็ยิ้มแล้ว แต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้ รอยยิ้มมันก็จะดูแข็งทื่อหน่อย จะทำยังไงได้อีกล่ะ
หยูซือห้านไม่สนใจอะไร เขาออกคำสั่งอีกครั้ง
“ถ่ายใหม่!”