สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่539 ในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว
บทที่539 ในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว
รอให้เย้นหว่านปลอดภัยเมื่อไหร่ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยโห้หลีเฉินไป
แน่นอนว่าเย้นโม่หลินก็รู้ลำดับความสำคัญเหมือนกัน แล้วอีกอย่าง ตอนนี้วิธีที่จะรู้ที่อยู่ของเย้นหว่านอย่างรวดเร็วที่สุด ก็มีแค่รอให้โห้หลีเฉินได้ข้อมูลจากตระกูลหยู
การร่วมมือของพวกเขา เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เย้นโม่หลินพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ได้ การช่วยเย้นหว่านนั้นสำคัญกว่า กลับมาพวกเราค่อยมาคิดบัญชีกัน! ”
โห้หลีเฉินกับเย้นโม่หลินตกลงร่วมมือกันได้
ภายนอดนั้น เย้นโม่หลินจับโห้หลีเฉินขังอยู่ที่คุกใต้ดิน และส่วนตัวแล้วนั้น เขากับโห้หลีเฉินกำลังเตรียมการหลายอย่าง ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ได้แต่รอให้หยูซือห้านลงมือ เหวี่ยงตัวเองเข้าไปในตาข่าย
……
บนทะเล
ที่ปลายขอบฟ้าที่ทะเลและท้องฟ้ามาบรรจบกัน เริ่มมีสีขาว ฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นแล้ว
บนดาดฟ้าของเรือยอร์ชนั้น เย้นหว่านยังคงนั่งย่อๆ ก้มหน้าก้มตา แล้วก็พยายามตัดเชือก
เชือกนี้ มันตัดยากมากกว่าที่เธอคิดเป็นร้อยเท่า
ไม่รู้เลยว่าเชือกบ้านี้มันทำมาจากอะไร ดูเหมือนกับเชือกธรรมดาๆ แต่ว่ามันก็ยากที่จะทำลายด้วยเหล็กกล้า
แต่ว่าถ้ามันแข็งจนไม่มีทางตัดขาดแล้ว เย้นหว่านก็ยอมแพ้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ออกแรงพยายามตัดมันมานานแล้ว แต่ว่ามันก็ขาดออกแค่นิดเดียวเอง
ตราบใดที่อดทนตัดมัน เชือกนี้ ยังไงก็ต้องขาด
สิ่งที่เธอต้องการ ก็คือเวลา
กู้ซึงนั้นง่วงนอน หัวของเขาค่อยๆ ร่วงลงเรื่อยๆ แต่ว่าเขาก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เขาลืมตาขึ้นมาอย่า’สะลึมสะลือ ก็เห็นหัวเล็กๆ ที่ฝังอยู่ตรงหน้าของเขา
เธอยังอยู่ในท่าทางเดิมก่อนที่เขาจะหลับไป ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้าก็จะสว่างแล้ว
กู้ซึงไม่ได้รู้สึกง่วงนอนอีกต่อไป เขาขมวดคิ้ว “เสี่ยวหว่าน ไม่ต้องตัดแล้ว”
มันใกล้ขาดแล้ว”
ไม่ได้นอนหลับทั้งคืน เสียงของเย้นหว่านนั้นแหบแห้งอย่างมาก
เธอไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ตั้งใจในการตัดเชือกนั้น ข้อมือของเธอนั้นเจ็บจนชา แต่ว่าเธอก็กัดฟันทน
ด้านล่างมือนั้น คือเชือกที่เธอพยายามตัดทั้งคืน มันขาดไปครึ่งหนึ่งแล้ว ยังเหลือชั้นบางๆอยู่ ใกล้จะขาดแล้ว
บางที เธออาจจะสามารถตัดมันก่อนรุ่งสางก็ได้
แล้วอาศัยโอกาสตอนที่ทุกคนยังไม่ตื่น แล้วหนีไป
กู้ซึงมองเย้นหว่านอย่างทนไม่ได้ ในใจของเขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเขา เย้นหว่านก็จะไม่ถูกหยูซือห้านข่มขู่ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเขา เย้นหว่านก็ไม่ต้องอดหลับอดนอนทั้งคืนแบบนี้ ไม่รู้ว่ามือของเธอเจ็บขนาดไหนแล้ว
กู้ซึงรู้สึกผิด และก็รู้สึกหงุดหงิดใจ นี่เขาช่างไร้ความสามารถจริงๆ ถึงกับต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาดูแล
“เสี่ยวหว่าน การที่เธอไม่ยอมทิ้งฉันแบบนี้ ถ้าเกิดว่าครั้งนี้รอดไปได้ ฉันต้องตอบแทนเธออย่างแน่นอน”
ดวงตาปวกเปียก เจ็บ ทั้งร่างกายทรมานไปหมด รู้สึกไม่สบายไปทั่ว
เธอแทบจะหมดแรงแล้ว เธอสามารถตัวอ่อนปวกเปียกล้มลงบนดาดฟ้านี้ได้ทุกเมื่อ แต่ว่าเธอก็ฮึดสู้อีกหนึ่งอึดใจ ยืนกรานต่อไป
เธอปากแห้ง ตอนที่กำลังพยายามจะบอกเขาว่า เธอต่างหากที่ทำให้เขาลำบาก และติดหนี้เขา แต่ว่ายังไม่ทันจะพูดออกมานั้น ก็ได้ยินประโยคที่น่าตกใจของกู้ซึง
“ฉันเองก็ไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากมาย ก็มีแค่ตัวเองที่ดีเยี่ยมนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ายังงั้นฉันจะยกชีวิตให้เธอเอาแล้วกัน”
พอประโยคนี้โพล่งออกมา เย้นหว่านก็ตกใจจนมือสั่น มีดเกือบจะบาดมือแล้ว
มุมปากของเธอกระตุก ยกชีวิตยังงั้นเหรอ?
กู้ซึงเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง
ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง เธอก็ไม่ได้ต้องการ
เย้นหว่านเม้มปาก แล้วมือของเธอก็หยุด พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองกู้ซึง
“นายพูดจริงเหรอ? ”
กู้ซึงก้มหน้าลงมา สบตากับเย้นหว่าน
ดวงตาของเธอนั้นสวยมาก ชัดเจนและสดใส แต่ตอนนี้ตาแดงไปหมดซึ่งเป็นอาการของการนอนดึกและเพลีย
ใบหน้าเล็กๆ ของเธอนั้นซีดและดูซีดเซียวมาก
กู้ซึงอึ้งไป เหมือนกับว่ามีอะไรมากระแทกใจของเขา เกิดความรู้สึกสงสารที่ไม่สามารถทนได้
ประโยคนั้น ก็หลุดออกมาจากปากของเขาอย่างไม่รู้ตัว
“ฉันพูดจริง”
พอพูดไปแล้ว เขาก็อึ้งไป
ตอนแรกเขาก็แค่ล้อเล่น แต่ว่าเมื่อกี้ตอนที่พูดออกมานั้น เหมือนกับว่าเขาจริงใจจริงๆ
ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ เขาก็ไม่ถือสาที่จะยกชีวิตเพื่อเย้นหว่าน
เย้นหว่านมองหน้ากู้ซึง สีหน้าของเธอจริงจังมาก
ดวงตาของเธอเป็นประกาย ขมวดคิ้วแน่น หลังจากนั้น ก็หยุดการเคลื่อนไหวของมือตัวเอง แล้วก็ถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
แล้วเธอก็พูดอย่างจริงจังมาก “ถ้ายังงั้นฉันไม่ช่วยนายแล้ว”
กู้ซึง “……”
ซวยแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้เขายอมยกชีวิตตัวเอง เธอก็เลยเลือกที่จะไม่ช่วยเขาแล้ว!
เขาเลือกที่ยกชีวิตของตัวเอง แล้วจะให้เธอไม่สนใจยังงั้นเหรอ?!
หัวใจดวงน้อยของกู้ซึงเหมือนได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง เขารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เขาพูดอย่างกลัดกลุ้ม “เธอจะไม่ช่วยแล้วจริงๆ เหรอ? ”
บอกว่าใกล้จะขาดแล้วไม่ใช่เหรอ จะมายอมแพ้ตอนนี้ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง
เย้นหว่านกลับมีสีหน้าที่มุ่งมั่น
เธอคุกเข่าอยู่นาน ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงไปหมด มือของเธอค้ำเสาเอาไว้ ถึงได้ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
การเคลื่อนไหวของเธอดูแข็งกระด้าง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก แต่ว่าท่าทางที่ถอยหลังของเธอนั้นกลับดูแน่วแน่มาก”
และก็เป็นการบอกกู้ซึงว่า เธอจะไม่ช่วยเขาแล้วจริงๆ
กู้ซึงมองไปที่เธออย่างตะลึง เหมือนมีม้าวิ่งดุเดือดอยู่ภายในใจของเขา
เขาก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แต่สาวน้อยคนนี้ กลับจะทิ้งเขาไปจริงๆ
ความมุ่งมั่นที่อยากจะช่วยเขาเมื่อคืนนี้ ตอนนี้ไม่เห็นมันอีกต่อไปแล้ว
การที่เขาจะยกชีวิตเพื่อเธอนั้น มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขาหล่อไม่พอใช่ไหม?
เขารวยไม่พอใช่ไหม?
เขาดีไม่พอใช่ไหม?
กู้ซึงรู้สึกหดหู่จนแทบจะกระอักเลือด ความคิดที่ผุดขึ้นมาในวินาทีนั้น ก็ถูกทำลายไปจนหมดจรด
เขากับเย้นหว่านนั้น มันเป็นโชคชะตาจริงๆ
ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง
เย้นหว่านเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงและเชื่องช้า เธอเดินอยู่หลายก้าว ร่างกายที่แข็งทื่อก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากนั้น เธอก็หยิบขวดน้ำดื่มด้านข้าง แล้วก็ดื่มมัน
เธอพยายามตัดเชือกอยู่ทั้งคืน เธอเร่งรีบออกพลังงานจนไม่ได้ดื่มแม้แต่น้ำอึกเดียวด้วยซ้ำ ตอนนี้ในที่สุดก็ได้ปล่อยวางลงแล้ว ถึงได้ดื่มน้ำได้
กู้ซึงมองเธอนิ่ง มุมมองของเขาก็เหมือนจะแตกสลาย
ทำไมจู่ๆ เย้นหว่านถึงได้เปลี่ยนไป? เขาไม่ทันตั้งตัว!
เงียบเป็นเวลาหลายวินาที พอเห็นเย้นหว่านดื่มน้ำเสร็จแล้ว กู้ซึงก็กัดฟัน ยอมแพ้แล้ว
“เสี่ยวหว่าน จู่ๆ ฉันก็คิดได้แล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันไม่ยกชีวิตให้เธอแล้ว ฟ้ากำลังจะสว่างแล้ว เธอรีบมาตัดเชือกให้ฉันก่อน พวกเราจะได้หนีไป”
อิสรภาพอยู่ตรงหน้า กู้ซึงก็ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง
เย้นหว่านส่ายหน้า “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ช่วยแล้ว กลัวว่านายจะมาพึ่งพาฉัน”
กู้ซึง “……”
เย้นหว่านชี้นิ้วไปที่เชือกบนร่างกายของกู้ซึง
“นายช่วยตัวเองไปเถอะ”
เขาจะช่วยตัวเองได้ยังไงกันล่ะ?
กู้ซึงสงสัย แล้วก็มองไปยังตรงที่เย้นหว่านชี้ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นว่า เชือกที่เย้นหว่านได้ตัดนั้น มันขาดไป 99.99%แล้ว เหลือเพียงแค่ร่องรอยของมันเท่านั้นเอง
แค่เขาดึงธรรมดาๆ มันก็ออกแล้ว
มุมปากของกู้ซึงกระตุก ตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว ที่แท้ที่เย้นหว่านยอมแพ้ไม่ช่วยเขาแล้วนั้น เพราะว่าเธอได้ตัดเชือกขาดเรียบร้อยแล้ว
แต่ว่าที่เมื่อกี้ไม่ยอมบอกเขา ก็คือกำลังล้อเขาเล่นอยู่!
“เย้นหว่าน เธอนิสัยเสียแล้ว! ”
กู้ซึงพูดอย่างไม่พอใจ
แต่ว่าเขารู้สึกอารมณ์ดีมาก รีบดึงเชือกออก แล้วก็สลัดมันออกจากตัว
ในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว!