สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่540 ลงน้ำ
บทที่540 ลงน้ำ
ไหนจะเป็นโอกาสดีที่จะได้หนี!
เขาไม่ชักช้าร่ำไร รีบลุกตรงไปหาเย้นหว่าน ถามเธอว่า
“เรือลำเล็กอยู่ที่ไหน? พวกเรารีบไปกันเถอะ ไปเดี๋ยวนี้ตอนนี้เลย”
เขาไม่อยากถูกหยูซือห้านจับขังคุกอีกแล้ว
เย้นหว่านดื่มน้ำ ขยับขยายตัวคลายเส้น ตอนนี้เรี่ยวแรงเธอได้กลับคืนมาไม่น้อยแล้ว
ดวงาเธอส่องประกาย เต็มไปด้วยความหวัง
ในตอนพลบค่ำเธอมาไม่ทันขวางโห้หลีเฉินไปตระกูลเย้น แต่ตอนนี้เธอสามารถที่จะหนีได้ แล้วก็จะสามารถทำให้พวกเขายุ่งยากกันน้อยลง
หยูซือห้านไม่ได้หมั้นกับเธอ ก็ไม่ถือว่าเป็นคนของบ้านตระกูลหยู แม้ว่าชื่อเสียงจะถูกทำลาย หรือทายาทเพียงคนเดียว แต่อย่างน้อยก็ไม่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
เธอปลอดภัยแล้ว ไม่ว่ายังไงก็สามารถให้โอกาสเขาได้
เย้นหว่านชี้ไปที่ทางเดิน “อยู่ด้านหลังตรงนั้น เดี๋ยวฉันพาไป”
ในขณะที่พูด เย้นหว่านก็เดินนำตรงไป
ตอนนี้ด้วยฟ้าไม่สว่างนัก ออกจะอึมครึม ไม่มีใครอยู่ที่ดาดฟ้า การ์ดที่คอยลาดตระเวนอีกสักพักหนึ่งจะเดินกัน
เมื่อคืนเธออ่านพฤติกรรมออก อาศัยประสบการณ์ที่หลบออกมาได้ พากู้ซึงหลบพวกบอดี้การ์ดได้อย่างฉลาด
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่ที่เก็บเรือเล็ก
กู้ซึงดีใจเป็นอย่างมาก เขากระโดดลงไปก่อน
เขายืนอยู่บนเรือ ก็รีบเร่งให้เย้นหว่านขึ้นเรือ แล้วก็พยายามจะปลดเชือก
“กิ๊งๆ กึกๆ ”
ปลดเชือกออก ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงสายเหล็กชนกันดังขึ้น
เสียงนั้นไม่ดังและก็ไม่เบาเท่าไหร่ แต่ว่าในตอนเช้าที่เงียบสงัดนี้ มันก็ดูรุนแรงมากเป็นพิเศษ
กู้ซึงรู้สึกตัวหดในทันที กลัวว่าจะมีคนได้ยินเข้า แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างสับสนวุ่นวาย
เย้นหว่านขมวดคิ้ว แล้วก็ถามอย่างตื่นเต้นว่า “ทำไมเหรอ? ”
กู้ซึงเห็นว่าทางเดินยังไม่มีคนเดินมา ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วก็มองไปที่เชือกอย่างระมัดระวัง
พอเห็นแล้ว เขาก็โกรธขึ้นมาทันที อดไม่ได้ที่จะด่าออกมาอย่างหยาบคาย
“เชี่ยเอ้ย! ”
เย้นหว่านสงสัย ยืนอยู่บนเรือยอร์ช แล้วก็โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อมองกู้ซึง แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นว่า ใต้เชือกที่ผูกเรือเล็กไว้กับเรือนั้น ยังมีโซ่คล้องอยู่!
แถมโซ่ที่คล้องอยู่นั้น ยังถูกล็อกด้วยแม่กุญแจขนาดใหญ่
เย้นหว่านหน้าซีด “กู้ซึง นายแก้ล็อกได้ไหม? ”
กู้ซึง “……”
เป็นลูกชายที่ถูกประคบประหงมมาเป็นเวลา20กว่าปี เขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่เคยได้แอบเข้าไปในหอพักของหญิงสาวกลางดึก
ในอากาศนั้น เงียบเชียบไปสองวินาที
กู้ซึงหยิบมีดที่เย้นหว่านใช้ตัดเชือกออกมา เขาหักมือพร้อมกับใบหน้าที่ดูเป็นนักสู้ “เรือลำนี้ทำด้วยไม้ ฉันจะเจาะรูให้มัน! ”
เมื่อเจาะรูแล้ว โซ่เหล็กก็จะหลุด
วิธีนี้มันโง่มาก แต่ว่าก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เย้นหว่านพูด “เดี๋ยวฉันช่วย”
พอพูดจบ เธอก็ลงไปที่เรือลำเล็ก
ทันใดนั้น ก็มีฝ่ามือหนายื่นเข้ามา จับแขนของเย้นหว่านไว้ ดึงเธอไปด้านหลัง
เย้นหว่านไม่ทันตั้งตัว พุ่งเข้าไปชนกับหน้าอกของผู้ชายคนนั้น
กลิ่ยที่ไม่คุ้นเคยก็พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของเธอ
เย้นหว่านตัวหด หน้าซีด แล้วก็หันกลับไปมองทันที
เสียงเธอสั่น “หยู หยูซือห้าน!”
หยูซือห้านมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่อ่อนโยน อารมณ์ดีมาก
เขาพูดว่า “เสี่ยวหว่าน ตัดเชือกทั้งคืนแล้ว ไม่เมื่อยมือเหรอ? ”
เย้นหว่านอึ้งไป
ทันใดนั้นก็มีเสียงดัง “ปัง”ขึ้นมา แล้วหัวของเธอก็โล่งไปหมด
เขาหมายความว่ายังไง?
นี่เขารู้ว่าเธอใช้มีดตัดเชือกอยู่ทั้งคืน ถึงได้ช่วยกู้ซึงออกมาได้? นี่มันก็หมายความว่า……
เธอพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย “เมื่อคืนนายรู้ว่าฉันแอบหนีออกมาแล้วช่วยกู้ซึงยังงั้นเหรอ? ”
หยูซือห้านยื่นมือออกไป แล้วก็ลูบผมของเย้นหว่านด้วยความรักและทะนุถนอม
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นอย่างมาก “เธออยากจะเล่น ฉันก็ต้องทำให้เธอพอใจสิ ให้เธอได้เล่นอย่างมีความสุข”
ดังนั้นที่เมื่อคืนเธอสามารถตัดเชือกได้สำเร็จโดยที่ไม่มีใครพบนั้น เพราะว่าหยูซือห้านเป็นคนสั่งเอาไว้
เขาเฝ้าดูเธอตัดเชือกอยู่ในความมืด เล่นกับเธอเหมือนเป็นสุนัข
“หยูซือห้าน นายหน้าด้านเกินไปรึเปล่า? แม้แต่ผู้หญิงก็ยังรังแกได้! ”
กู้ซึงยืนอยู่บนเรือ แล้วก็ด่าออกมาอย่างโมโห
เขาอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
ข้อที่หนึ่งคือปวดใจเพราะเย้นหว่าน พยายามตัดเชือกทั้งคืนอย่างยากลำบาก มือทั้งอ่อนและเจ็บ แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบนั้น เป็นแค่การละเล่นของหยูซือห้านเท่านั้น
เกรงว่าเขาน่าจะได้ดูการแสดงดีๆ ทั้งคืน แค่คิดก็โมโหจะตายอยู่แล้ว
ข้อที่สองก็คือไม่ง่ายเลยกว่าที่เขากับเย้นหว่านจะหาโอกาสหนีออกมาได้ แต่ว่ามันกลับล้มเหลว!
ความเหลื่อมล้ำนี้ ทำให้กู้ซึงหน้าซีด รู้สึกหายใจไม่ออก ทุกข์ใจจนอยากจะฆ่าคน
ทันใดนั้นสายตาของหยูซือห้านก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขามองไปที่กู้ซึงด้วยสายตาที่เหมือนวิญญาณร้าย
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ดูเหมือนว่าการที่มัดแกไว้กับเขา มันสบายเกินไป ทำให้แกมีแรงมาด่านั่นด่านี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้ายังงั้นแขวนแกไว้ดีกว่า”
แขวนแขนทั้งสองข้างไว้ เท้าไม่ติดพื้น ทำให้ร่างกายต้องเจ็บปวดเพราะถูกยืด
นี่มันคือการทรมาน
กู้ซึงหน้าซีดลงทันที ยกมีดเล็กในมือขึ้นแล้วชี้ไปที่หยูซือห้าน
“แกกล้าดียังไง ฉันกับแกต้องตายกันไปข้างใดข้างหนึ่ง”
สองวันนี้ เขาทุกข์ทรมานมากแล้ว การตายไปด้วยกันนั้นถือว่าเป็นการปลดปล่อยสำหรับเขา
หยูซือห้านกลับไม่กลัวเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาควบคุมเย้นหว่านด้วยมือเดียว แล้วอีกมือก็ยกขึ้นโบกพร้อมกับออกคำสั่งว่า
“จับมันขึ้นมา!”
บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็เดินเข้าไปหากู้ซึงด้วยท่าทีที่ดุร้ายทันที
พวกเขาร่างกายสูงใหญ่ กำลังนั้นมีเยอะมาก การจัดการกู้ซึงนั้นง่ายมาก ถึงแม้ว่าในมือของกู้ซึงนั้นจะถืออาวุธอยู่ก็ตาม
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างรุนแรง ดวงตาของเธอกะพริบอย่างรุนแรง
เธอรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้โห้หลีเฉินต้องกลับไปที่ตระกูลเย้นแล้วอย่างแน่นอน เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่เธอก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าเกิดว่าแผนการของหยูซือห้านนั้นสำเร็จ ตอนนี้ตัวตนของโห้หลีเฉินต้องถูกเปิดเผยแล้วอย่างแน่นอน
ส่วนกู้ซึงที่อยู่ในฐานะคนที่จะเปิดโปงตัวตนของโห้หลีเฉินได้นั้น สำหรับหยูซือห้านแล้ว ก็ไร้ประโยชน์
อย่างมาก ก็คือเอามาข่มขู่เธอ
หยูซือห้านนั้นเลวทราม ถ้าเกิดว่ากู้ซึงไปยั่วให้เขาโกรธจริงๆ เขาจะไม่ออมมืออีกต่อไป แล้วต้องฆ่ากู้ซึงอย่างแน่นอน
กู้ซึงยังอยู่ที่นี่ ก็พูดได้ว่า เหมือนมีมีดจ่ออยู่ที่คอของตัวเอง
เย้นหว่านเคยสาบานในใจของตัวเองแล้วว่า กู้ซึงต้องมาจุดอยู่ในจุดนี้ก็เพราะว่าตัวเธอดึงให้เขาเข้ามามีส่วนร่วม เธอไม่สามารถปล่อยให้กู้ซึงเป็นอะไรไปอย่างเด็ดขาด
ความคิดของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และก็ตัดสินใจในทันที
ทันใดนั้นเธอก็ผลักหยูซือห้านออก แล้วก็พุ่งเข้าไปหากู้ซึงในทันที
หยูซือห้านเองก็ตอบสนองอย่างไว แทบจะตอนที่เย้นหว่านเป็นอิสระแล้วกำลังจะพุ่งเข้าไปด้านหน้านั้น เขาก็ยื่นมือไปจับเย้นหว่านไว้ในทันที
ร่างกายของเย้นหว่านยันอยู่กับขอบของเรือยอร์ช ไม่มั่นคงเอาเสียเลย
แต่ว่าเธอกลับไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ฉวยโอกาสจากสถานการณ์ทั้งหมดหยิบมือในมือของกู้ซึงมา แล้วก็ออกแรงผลักเขาออกไป
เธอตะโกน “นายหนีไปก่อน! ”
กู้ซึงไม่ทันระวัง แถมเรือเล็กก็เล็กมาก เขาถอยหลังไปสองก้าวแล้วก็ตกลงไปในน้ำพร้อมกับเสียงดัง “ตูม”
น้ำกระเซ็นขึ้นมา
กู้ซึงรีบกระพือขึ้นจากนั้นทันที ลอยอยู่บนน้ำ แล้วก็มองไปที่เย้นหว่านด้วยความประหลาดใจ
หยูซือห้านจับเอวของเย้นหว่านไว้ แล้วก็ดึงเธอกลับไปอย่างหยาบคาย
และในขณะเดียวกัน เขาก็ออกคำสั่งด้วยสีหน้าที่มืดมน “ลงน้ำ ไปจับมันกลับมา! ”
ที่นี่คือเขตอิทธิพล คนที่อยู่บนเรือก็ต่างเป็นคนของเขาทั้งนั้น นึกว่าเขาจะดำน้ำหนีได้ยังงั้นเหรอ?
ตลกแล้ว!
“ใครกล้าขยับ