สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่541 หนีได้คนหนึ่งก็คนหนึ่ง
บทที่541 หนีได้คนหนึ่งก็คนหนึ่ง
เย้นหว่านดุด้วยเสียงเคร่งขรึม มีดที่อยู่ในมือพลิกหมุนแล้วจี้มาที่คอตัวเอง
เธอใช้แรงไม่น้อย ปลายมีดที่แหลมคมก็กรีดผิวของเธอถลอกทันที เลือดสีแดงสดได้ไหลออกมา
หยูซือห้านสีหน้าเปลี่ยนทันที เขาดุด้วยเสียงเคร่งขรึมและเฉียบ “เย้นหว่าน คุณทำอะไร?! เอามีดออก!”
กู้ซึงที่ลอยอยู่ในน้ำก็สีหน้าช็อก มองเย้นหว่านอย่างตะลึงงันสุดๆ
เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะใช้การฆ่าตัวตายมาข่มขู่หยูซือห้าน
แค่เพื่อให้เขาจากไป…..
ในใจของกู้ซึงซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก สีหน้าท่าทางที่แต่ไหนแต่ไรยิ้มแย้มแจ่มใส นาทีนี้ดูเคร่งขรึมและหนักหน่วง
“เสี่ยวหว่าน คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย คุณอย่าทำร้ายตัวเองนะ ผมไม่หนีแล้ว อยู่ที่นี่ก็ไม่เป็นไรหรอก”
ระหว่างพูด กู้ซึงก็จะว่ายน้ำขึ้นมา
เย้นหว่านกลับตาแดงก่ำ และตะคอกด้วยเสียงแน่วแน่ “ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันตายก็รีบไป! ที่นี่ห่างจากพื้นที่ทางบกไม่เยอะ คุณรีบหนีแล้วค่อยหาคนมาช่วยฉัน”
ท่าทางที่กู้ซึงว่ายน้ำได้แข็งทื่อไว้
ถึงแม้เขามีความเป็นไปได้สูงที่จะหากำลังเสริมมาช่วย แต่ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าเขาจะถึง ต้องนานเท่าไหร่ถึงจะได้รับการช่วยเหลือ มันเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ
เย้นหว่านเพื่อช่วยเขา ถึงได้ช่วยเขาล้วนๆ
เขาเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก จะทิ้งเย้นหว่านไว้แล้วจากไปคนเดียวได้อย่างไร?
หยูซือห้านสีหน้ามืดครึ้ม น้ำเสียงเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด “เย้นหว่าน คุณอย่าทำอะไรที่มันไร้ประโยชน์เลย ที่นี่ยังไกลจากชายฝั่งอยู่เยอะ อีกอย่าง ถึงกู้ซึงได้รับการช่วยเหลือ มันก็ไม่สามารถแน่ใจว่าเราได้ไปที่ไหนแล้วกันแน่ ถึงเรียกกำลังเสริมมาช่วย ก็ช่วยคุณไม่ได้หรอก”
“มีโอกาสย่อมดีกว่าไม่มีโอกาส! หยูซือห้าน แค่นี้คุณก็ไม่กล้าเดิมพันเหรอ?”
เย้นหว่านหัวเราะเยาะอย่างเหน็บแนมสีหน้าเฉียบขาด “แทนที่พวกเราจะถูกคุณนำตัวไปหมด สู้ให้กู้ซึงหนีไปดีกว่า อย่างน้อยฉันยังมีความหวังจะได้รับการช่วยเหลือ ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยกู้ซึงไป ฉันมีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่มีความหมายแล้ว ถ้าคุณแน่จริงก็ไปจดทะเบียนสมรสกับศพเลย!”
สีหน้าของหยูซือห้านดูแย่มาก
เขาเกลียดกู้ซึงมาก ไม่คิดจะปล่อยเขาไปเลยด้วยซ้ำ กำลังเตรียมจะทรมานกู้ซึ้งแล้วค่อยฆ่ามันทิ้งซะ
แต่ตอนนี้……..
หยูซือห้านหน้าบูดบึ้ง เข้าใกล้เย้นหว่านด้วยสายตาร้ายกาจ น้ำเสียงมั่นใจ “คุณก็แค่อาศัยว่าผมไม่กล้าฆ่าคุณ โอเค คุณใจกล้างั้นก็ลองฆ่าตัวตายเลย!”
สีหน้ากู้ซึงเปลี่ยนไปทันที
หยูซือห้านมั่นใจว่าเย้นหว่านแค่ขู่เขา จึงมีที่พึ่งเลยไม่เกรงกลัวอะไร ถึงกับย้อนกลับมาขู่เย้นหว่าน
เย้นหว่านเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง สามารถเอามีดจี้มาที่คอตัวเองก็ถือว่ากล้าหาญมากแล้ว ยังจะมีความกล้าหาญกรีดคอจริงๆได้อย่างไร?
เย้นหว่านก็คาดไม่ถึงว่าหยูซือห้านจะทำให้เธอจนตรอกอย่างนี้
เขามั่นใจว่าเธอไม่กล้าใช่มั้ย?
เย้นหว่านกัดฟัน แววตามีความโหดเหี้ยมแว็บผ่าน “ก็แค่หนึ่งชีวติเท่านั้น ฉันตายไป คุณก็ไม่มีทางได้อำนาจของตระกูลหยู และตระกูลเย้นก็ไม่ปล่อยคุณไปหรอก หยูซือห้าน คุณเองก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเหมือนกัน งั้นฉันก็ลากคุณมาเป็นแพะรับบาป และตายไปพร้อมกันดีกว่า!”
เย้นหว่านกุมมีดไว้แน่น แทงที่คอตัวเองอย่างเฉียบขาด
ผิวถูกกรีดออก เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
กู้ซึงเบิกตากว้างอย่างตื่นตกใจ อ้าปากค้างแม้แต่เสียงก็ไม่มีแล้ว
สีหน้าท่าทางของหยูซือห้านสั่นเทารุนแรง เขาเดินอยู่บนทางเดิน ย่อมสามารถคาดการณ์ได้อย่างชัดเจนว่าคราวนี้เย้นหว่านได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดมากแค่ไหน
เธอแทงเข้าไป สามารถเอาชีวิตเธอได้จริงๆ
ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว
เขาไม่กล้าลังเลอีก จึงรีบร้อนตะโกนว่า “ผมปล่อยมันก็ได้!”
ท่าทางของเย้นหว่านหยุดลงมาอย่างแข็งกระด้าง
ที่คอมีความเจ็บปวดกระตุ้นระบบประสาทส่งผ่านมา ทำให้นิ้วมือของเธอก็ยังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เธอไม่ใช่ว่าไม่กลัว แต่กำลังเดิมพันกับชีวิตอยู่
ดีที่เธอชนะแล้ว
เธอไม่กล้าวางมีดลง “พูดคำไหนคำนั้นนะ? ไม่งั้นก่อนจะจดทะเบียน ฉันก็มีวิธีมากมายที่จะสามารถแสวงหาความตายได้”
เป็นการข่มขู่ที่เปิดเผย
หยูซือห้านโตจนป่านนี้ยังไม่เคยถูกใครขู่แบบนี้มาก่อน อีกอย่างยังใช้ชีวิตของเธอเองด้วย
เขาไม่แคร์ชีวิตของเย้นหว่านเลยด้วยซ้ำ แต่กลับแคร์ผลประโยชน์ทุกอย่างที่เธอจะสามารถนำพามาให้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
เธอยังตายไม่ได้
หยูซือห้านพยักหน้าด้วยสีหน้าโกรธกริ้ว “ผมบอกว่าปล่อยก็คือปล่อย และจะไม่ส่งคนไปตามมันหรอก แต่ผมก็จะบอกคุณนะ ทะเลแห่งนี้ยังไกลจากพื้นที่ทางบกอยู่มาก และมีปลาฉลามออกมาหากินด้วย ง่ายมากที่มันจะตายอยู่กลางทะเล”
เย้นหว่านไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย เธอยังนึกว่าที่นี่อยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ทางบกแล้ว
เธอรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
กู้ซึงเปิดปากพูดอย่างเด็ดขาด “กูเป็นคนดวงแข็งไม่ตายง่ายๆหรอก สามารถว่ายไปถึงชายฝั่งแน่นอน! เสี่ยวหว่าน คุณรอผมนะ ผมจะกลับมาช่วยคุณแน่นอน!”
เขาให้คำมั่นสัญญา ความมั่นใจเต็มเปี่ยม
สีหน้าท่าทางเย้นหว่านสั่นเล็กน้อย เธอลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ได้ตัดสินใจ
ถ้ากู้ซึงอยู่ต่อจะต้องถูกหยูซือห้านเอาตายแน่นอน หนีไปตอนนี้อย่างน้อยยังมีโอกาสรอดชีวิตเสี้ยวหนึ่ง
สิ่งที่เย้นหว่านจะสามารถทำเพื่อเขาก็มีแค่นี้แล้ว เย้นหว่านกัดฟันพูด มองหน้ากู้ซึงแล้วพูดทีละถ้อยคำ “ได้ค่ะ ฉันจะรอคุณกลับมาช่วยฉันค่ะ!”
“รอผม ผมจะกลับมาช่วยคุณแน่นอน!”
น้ำเสียงของกู้ซึงไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อน
ชีวิตนี้เขาไม่เคยให้คำมั่นสัญญาใคร แต่สิ่งที่เขาพูดกับเย้นหว่านในตอนนี้ เขาจะทำให้ได้แน่นอน
กู้ซึงไม่เสียเวลาอีก เขารีบว่ายไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
เย้นหว่านมองเงาที่ยิ่งอยู่ยิ่งจากไปไกลของเขา หยูซือห้านก็ไม่ได้ส่งคนไปตามเขาจริงๆ ในที่สุดเธอที่อกสั่นขวัญแขวนก็ได้ผ่อนคลายลงเสียที
ถึงตอนนี้เธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อย่างน้อย กู้ซึงก็มีความหวังรอดชีวิตแล้ว
สีหน้าของหยูซือห้านดูแย่มาก
ถูกข่มขู่ แถมยังถูกขู่สำเร็จอีกด้วย นี่เป็นจุดด่างพร้อยและความล้มเหลวที่สุดในชีวิตเขาชัดๆ
กู้ซึง หวังว่ามันจะสามารถรอดชีวิตไปถึงชายฝั่งนะ
พอจบเรื่องนี้แล้ว เขาจะเป็นคนไปจับกู้ซึงมาด้วยตนเองและหั่นมันเป็นชิ้นๆ ให้วิธีตายที่โหดเหี้ยมที่สุดกับมัน จะได้ระบายความแค้นในใจ
หยูซือห้านมองหน้าเย้นหว่านอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงก็เย็นชาเหน็บแนม “เย้นหว่าน ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณน่าจะสนใจมาก”
มองรอยยิ้มเจตนาร้ายของหยูซือห้าน จู่ๆเย้นหว่านรู้สึกใจหายใจคว่ำ และกระวนกระวายใจมาก
ได้ยินหยูซือห้านพูดต่อจริงๆด้วย “เมื่อคืนโห้หลีเฉินใส่หน้ากากของกู้ซึงไปที่ตระกูลเย้น ถูกเย้นโม่หลินจับได้คาหนังคาเขา ฐานะของเขาถูกเปิดโปงในเหตุการณ์เลย”
เย้นหว่านสีหน้าซีดเซียว
เมื่อคืนเธอก็กังวลและอกสั่นขวัญแขวนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถึงได้หาเรื่องทำตลอด คอยกรีดเชือกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
เธอรู้ว่าโห้หลีเฉินฉลาดมาก แต่ในใจก็ยังภาวนาอยู่ดี ครั้งนี้โห้หลีเฉินก็สามารถดูข้อบกพร่องออก เปลี่ยนเหตุร้ายให้กลายเป็นดี
แต่ตอนนี้ ความหวังเสี้ยวนั้นก็แตกสลายแล้ว
โห้หลีเฉินถูกจับได้แล้ว!
แถมยังถูกเย้นโม่หลินที่แข็งทื่อและดื้อด้านจับได้ด้วย!
เย้นโม่หลินจะไม่ยกโทษให้โห้หลีเฉินอีกแน่นอน พ่อแม่ของเธอก็เช่นกัน พวกเขาจะเกลียดโห้หลีเฉินเข้ากระดูกดำ เธอกับโห้หลีเฉินอยากอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย เกรงว่าชาตินี้ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
เย้นหว่านรู้สึกหดหู่ ทรมานใจจะแย่อยู่แล้ว
หยูซือห้านเห็นสีหน้าผิดหวังของเธอแล้ว อารมณ์ถึงดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
เขาพูดต่อด้วยเจตนาร้าย “อีกอย่าง โห้หลีเฉินปลอมตัวเป็นกู้ซึงอยู่ที่ตระกูลเย้น เรื่องนี้แพร่สะพัดไปถึงตระกูลหยูแล้ว คนของตระกูลหยูรู้หมดแล้ว คุณลองคิดดูสิ ต่อจากนี้โห้หลีเฉินจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน?”