สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่551 จะตายก็ตายไปด้วยกัน
บทที่551 จะตายก็ตายไปด้วยกัน
สาวใช้มองจ้องจุดสีแดงเล็กๆตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยออกมา “สีแดงสว่างขึ้นมา เดี๋ยวก็จะได้รู้”
หลังจากที่สีแดงกะพริบออกมา แสงที่ส่องออกมาถ้าเป็นสีฟ้า มันก็จะสำเร็จ ถ้าเป็นสีเขียวที่สว่างออกมา การออกฤทธิ์ของยาก็จะล้มเหลว
แต่มันกะพริบสีแดงออกมา ตอนนี้เองก็ได้บ่งชี้ออกมาแล้วว่าร่างของโห้หลีเฉินเกิดปัญหาออกมาจริงๆ
หยูซือห้านยกยิ้มมุมปากด้วยความปีติยินดี เห็นสภาพอย่างนี้ของโห้หลีเฉินแล้ว ผลลัพธ์นั้น ฤทธิ์ยามันจะต้องสำเร็จลงแล้วแน่ๆ!
เขาหัวเราะเสียงดังอย่างพึงพอใจ “โห้หลีเฉิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกก็เป็นเศษสวะคนหนึ่งแล้ว ฮ่าๆๆ…อ๊ะ!”
เสียงหัวเราะของหยูซือห้านหยุดชะงักไปในทันที
เห็นเพียงแค่เครื่องมือที่เดิมทีแล้วได้จ่ออยู่บนลำคอของโห้หลีเฉิน แต่จู่ๆก็ถูกโห้หลีเฉินแย่งไป เขารวดเร็วอย่างมาก โยนไปทางหยูซือห้านทันที
ตรงหัวของเครื่องมือเพียงแค่โค้งมนลงเล็กน้อย ไม่นับว่าแหลมมากนัก แต่ทะลุผ่านระยะไม่กี่เมตรนี้ ด้วยแรงที่มหาศาล มันได้แทงทะลุเข้าไปในข้อมือของหยูซือห้านเต็มๆ!
ในขณะเดียวกัน ก็มาพร้อมกับเสียงแตกดัง “แกรก” ดังขึ้นมา
ในมือของหยูซือห้านถือรีโมทอยู่ และมันก็ถูกทะลุผ่านจากตรงกลางของอุปกรณ์ควบคุมระยะไกล พังโดนตรงที่จุดควบคุมหลักเข้าพอดี
ปุ่มสีแดงเด้งออกมาทันที แต่ลูกระเบิดบนตัวของเย้นหว่านกลับไม่ได้ระเบิดออกมา
รีโมท พังไปแล้ว
“โห้หลีเฉิน นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้า…!”
หยูซือห้านจับข้อมือที่มีเลือดสดไหลออกมา ใบหน้าตกใจช็อกทั้งยังโกรธแค้นออกมา
ให้ตายยังไงเขาก็นึกไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะอาศัยเครื่องมือที่ไร้พลังการโจมตีอย่างนี้ เจาะมือเขาทะลุได้
พละกำลังที่รุนแรงอย่างนี้ เขาเองก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ตกลงโห้หลีเฉินเป็นใครกันแน่?
อีกทั้งวิธีนี้เอง แม่นยำเสียจนน่าตาย
แยกห่างออกมาตั้งไกลขนาดนั้น ตกลงแล้วโห้หลีเฉินตัดสินกับโครงสร้างภายในของรีโมทควบคุมอันนี้ยังไงกันแน่? นึกไม่ถึงว่าเพียงแค่การโจมตีเดียว จะทำให้ตรงส่วนที่สำคัญที่สุดของรีโมทพังไปได้
หลังจากที่โห้หลีเฉินยืนยันจนแน่ใจแล้วว่ารีโมทได้พังไปแล้ว ก็ไม่ได้หันไปมองหยูซือห้านมากมายนัก เตะสาวใช้ปลิวออกไป เอาเย้นหว่านมากอดเอาไว้
เขาก้มหน้าจ้องมองเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนสุดๆ
“วางใจเถอะ ไม่เป็นไรแล้ว”
ไม่เป็นไรแล้ว
ใจของเย้นหว่านเหมือนกับกำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่ ขึ้นๆลงๆ ในที่สุดก็ได้ตกกลับไปที่เดิมอย่างปลอดภัย
นึกไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะลงมือออกมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งแค่โจมตีถูกข้อมือของหยูซือห้านไป ก็ทำมือของเขาพังไปเสียแล้ว และก็ได้ช่วยเธอเอาไว้ด้วย
ที่แท้โห้หลีเฉินก็วางแผนเอาไว้แล้วตั้งแต่แรก
จงใจกินยา เพื่อให้หยูซือห้านลดการระวังตัว แล้วค่อยลงมือออกไปโดยที่ไม่ทันได้คาดคิดไปอย่างแม่นยำ
เขาคิดมาเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ในใจของเย้นหว่านนั้นกลับยิ่งเจ็บปวดยากที่จะทนไหวขึ้นมา
เธอกอดเขาด้วยความเจ็บปวดใจ น้ำตากำลังคลออยู่ตรงเบ้าตา
“คุณโอเคหรือเปล่า?”
สีหน้าของเขาซีดเซียว เหงื่อเย็นบนหน้าผากไหลออกมาเยอะมากจนเช็ดไม่ทัน
โห้หลีเฉินส่ายหน้าออกมา สภาพดูเหนื่อยล้า แต่ในดวงตายังประดับไปด้วยรอยยิ้มออกมา
น้ำเสียงอ่อนโยน “ผมไม่เป็นไร”
ยังคงกำลังปลอบเธอออกมา
กินยาจำพวกนั้นไป จะไม่เป็นไรไปได้ยังไงกันล่ะ? เมื่อกี้ก็กำเริบออกมาแล้ว สีหน้าของเขาก็ดูย่ำแย่เสียขนาดนี้ ตอนนี้เกรงว่าจะกำลังฝืนอยู่
ใจของเย้นหว่านเจ็บปวดจนใกล้ระเบิดออกมา
เธอประคองเขา พร้อมมองออกไปทางด้านนอก
“ฉันจะพาคุณไปหาหมอ”
“ครับ”
โห้หลีเฉินในครั้งนี้ ได้ตอบรับมาอย่างรวดเร็ว
หยูซือห้านเจ็บจนแทบจะหมดสติไป อาการกระง่อนกระแง่น แต่กลับอาศัยจังหวะเพียงแค่ช่วงลมหายใจเฮือกเดียวฮึดสู้ฝืนประคับประคองอาการเอาไว้
ตอนนี้เขายังล้มลงไปไม่ได้
ล้มลงไปแล้ว มันก็จะพ่ายแพ้ไปโดยสมบูรณ์ แล้วมันยังแลกมาด้วยทั้งชีวิตของเขาด้วย!
“พวกแกคิดว่าจะรอดออกไปได้ง่ายๆงั้นหรอ?”
หยูซือห้านเอ่ยปากพูดออกมาอย่างโหดเหี้ยมน่ากลัว สายตามืดมนประหนึ่งปีศาจร้าย
ในเมื่อเขาตกต่ำมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้พวกมันได้กลับไปอย่างปลอดภัยโดยเด็ดขาด
ในระหว่างที่พูดนั้นเอง หยูซือห้านก็ยกมือขึ้นมา รับปืนที่สาวใช้อีกคนหนึ่งเป็นคนโยนเข้ามาเอาไว้ เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย โดยเตรียมที่จะยิงไปทางโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านเอาไว้ ทั้งยังเอียงกายเข้าหาหยูซือห้านไปด้วย ไม่ได้ทำการเตรียมรับมือป้องกันอะไรเลย
ความเร็วของหยูซือห้านที่รวดเร็วออกมาเสียขนาดนั้น นับได้ว่าเป็นการซุ่มโจมตีเลยก็ว่าได้
ตอนที่เย้นหว่านเห็นปากกระบอกปืนที่ดำสนิท ตัวเธอก็ไม่แม้แต่จะหายใจออกมาทันที
หยูซือห้านที่ได้กลายเป็นหมาจนตรอกไปแล้ว เตรียมจะฆ่าโห้หลีเฉิน เพื่อให้ตายไปด้วยกันงั้นหรอ?!
“อย่า!”
เย้นหว่านตกใจกลัวจนสีหน้าซีดเผือด ภายใต้อาการตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เธอได้เอาร่างของโห้หลีเฉินมากอดเอาไว้ตามสัญชาตญาณ
ร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินยืนอยู่ตรงที่เดิม ยืนตระหง่านนิ่งไม่ไหวติง
เขาถึงขั้นที่ว่าไม่ได้มองหยูซือห้านไปมากมายนัก ไม่ได้สนใจเขาที่เตรียมจะลั่นไกออกมาเลยแม้แต่น้อย สายตานั้นมองเย้นหว่านที่อยู่ในอ้อมแขนไปด้วยความอ่อนโยนเอามากๆ
นาทีชี้เป็นชี้ตาย เธออยากจะเข้าไปขวางตรงหน้าของเขาเอาไว้โดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เธอแคร์เขาอย่างนี้ ทำให้ความสุขอุ่นวาบขึ้นมาภายในใจของเขา แต่กลับเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาด้วย กังวลว่าเย้นหว่านจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาจริงๆ
ในสถานการณ์ที่อันตราย เขายอมให้ตัวเขาบาดเจ็บเองเสียดีกว่า อย่าให้เธอได้เป็นอะไรไปเลย
เทียบกับความนิ่งเฉยของโห้หลีเฉินแล้ว เย้นหว่านนั้นกลัวจะตายอยู่แล้ว
นั่นมันปืนเลยนะ กระสุนมันเร็วขนาดนั้น จะหลบยังไงมันก็หลบไม่พ้น!
อีกอย่าง โห้หลีเฉินก็ยังไม่หลบไปอีก?
เขาเจ็บจนไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วหรอ?
ทันใดนั้นเอง ในใจของเย้นหว่านก็คิดวุ่นขึ้นมา ยืดตัวออกไปสุดๆ ความคิดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือใช้ร่างกายของตัวเองบังลูกกระสุนที่จะพุ่งเข้ามาเอาไว้
“ปัง”
เสียงปืน ระเบิดดังออกมา
ทั้งร่างของเย้นหว่านแข็งค้างไป
โห้หลีเฉินเองก็ปล่อยให้เธอกอดไป
แต่สามวิหลังจากนั้น เธอกลับไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บบนร่างขึ้นมาเลย และก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่ากระสุนยิงมาที่ร่างของโห้หลีเฉิน อาการสั่นเทาจากร่างของเขา
กระสุนยิงมาไม่โดน?
เย้นหว่านทั้งตื่นกังวลและทั้งแปลกใจขึ้นมา จึงรีบหันไปมองทางหยูซือห้านทันที
จึงได้มองไปอย่างตื่นตะลึง ปืนของหยูซือห้านได้ตกลงไปบนพื้นห่างออกไปอีกหลายเมตร เย้นโม่หลินที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถือแท่งเหล็กอยู่แท่งหนึ่ง ตีไปบนร่างของหยูซือห้านอย่างโหดเหี้ยม
บนร่างของหยูซือห้านบาดเจ็บไปหลายจุด มือก็ยังใช้การไม่ได้ไปข้างหนึ่งอีก ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด
เดิมทีถ้าเขายังสามารถตีเสมอสู้เย้นโม่หลินได้ล่ะก็ ตอนนี้กำลังก็ได้เสื่อมกำลังลงไปอย่างมากแล้ว ทำได้เพียงแค่ถูกเย้นโม่หลินไล่เอาชนะไปอย่างงดงาม
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว หยูซือห้านก็ได้ถูกต่อยไปหลายหมัด โดนกระทืบไปอีกหลายที
มุมปากอดไม่ได้ที่จะมีเลือดพ่นออกมา
ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงยืนอยู่ แต่ก็มองออกว่ากำลังฝืน ใกล้จะทนไม่ไหวพร้อมที่จะทรุดลงบนพื้นอยู่ตลอดเวลา
เย้นหว่านแปลกใจ “พี่ชายฉันมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
แต่พอเห็นเย้นโม่หลิน ใจของเธอก็นับได้ว่าสงบลงไปโดยสมบูรณ์แล้ว
มีโห้หลีเฉินกับเย้นโม่หลินอยู่ หยูซือห้านจะก่อเรื่องอะไรออกมาอีก ก็ไม่อาจทำอะไรออกมาได้แล้ว
ทำได้เพียงแค่อยู่ให้ถูกตีให้พิการ หรือตีให้ตายไปเท่านั้น
“มากับผม”
โห้หลีเฉินตอบกลับมาอย่างสงบนิ่ง เขาวางแผนมาตั้งแต่แรกแล้ว เย้นโม่หลินซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด รอให้เขาช่วยเย้นหว่านก่อนแล้วค่อยลงมือ
“พวกเราไปกันเถอะ เขาจะเก็บกวาดส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยเอง”
พูดไปแล้ว โห้หลีเฉินก็ได้โอบเย้นหว่านเอาไว้ เตรียมที่จะเดินออกไปด้านนอก
เย้นโม่หลินเกลียดหยูซือห้านเข้ากระดูก ตอนนี้จับกุมหยูซือห้านเอาไว้ เตรียมที่จะลงมือระบายความโกรธแค้นออกไปด้วยตัวเอง ทุบตีเขาให้ตายทั้งเป็นถึงจะสามารถคลายความโกรธของเขาลงได้
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคาวเลือดเกินไป โห้หลีเฉินไม่อยากให้เย้นหว่านเห็นมัน แล้วทิ้งเงามืดอะไรที่ไม่ดีเอาไว้
มีเย้นโม่หลินอยู่ เรื่องเก็บท้าย แน่นอนว่าไม่มีทางพลาดไปอยู่แล้ว
หยูซือห้าน จะต้องตายแน่ไม่ต้องสงสัยเลย
ใจของเย้นหว่านก็สบายใจลง ไม่ได้ไปสนใจหยูซือห้านอีก ตอนนี้เธอมีความกังวลกับยาที่โห้หลีเฉินกินเข้าไปมากกว่า
ตอนนี้เขาจะต้องรู้สึกไม่ดีมากแน่ๆ
นอกจากนี้ ทักษะทางการแพทย์ของป่ายฉีก็สุดยอดมาก บางทีอาจจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาก็ได้ ช่วยโห้หลีเฉินเอาไว้น่ะ?
เธอจะต้องทำเวลา เพื่อไปหาป่ายฉีสิ
เย้นหว่านประคองโห้หลีเฉิน ทันทีที่เตรียมจะเดินออกไปจากโบสถ์ ในเวลานั้นเอง ด้านหลังก็มีเสียงร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่งผิดปกติของหยูซือห้านดังออกมา
“จะตายก็ต้องตายไปด้วยกันเนี่ยแหละ!”
ตามมาด้วยเสียงพูดที่หลุดออกมา หยูซือห้านไม่รู้ว่าทำอะไร ตำแหน่งที่วางเทวรูปในโบสถ์นั้น จู่ๆก็ระเบิดออกมา!