สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่562 จะต้องมีปาฏิหาริย์
บทที่562 จะต้องมีปาฏิหาริย์
เย้นหว่านรู้สึกหนาวเหน็บและขนลุกชันไปทั้งกาย
ตอนนี้หยูซือห้านยังคิดจะทำลายตระกูลเย้นอีกงั้นเหรอ?!
ตระกูลเย้นเป็นตระกูลใหญ่ที่แอบซ่อนเร้นอยู่ ที่จริงแล้วพลังเทียบเคียงได้กับตระกูลหยู คือการยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ตระกูลทรงอำนาจที่เพียงขยับก้าวเดินก็ทำให้โลกสั่นสะเทือนน
ตระกูลเช่นนี้ แม้ว่าจะสร้างศัตรูมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่กลับยังมีรากฐานที่มั่นคง
หยูซือห้านกล้าพูดคำพูดแบบนั้นออกมา เพราะถูกความแค้นบังตา หรือกำลังวางแผนร้ายกาจอะไรอยู่กัน?
นอกจากนี้ หยูซือห้านยังบอกว่าจะจัดการตระกูลโห้แห่งเมืองหนานอีกด้วย
เขาในตอนนี้แม้แต่เหมือนหมาข้างถนน แต่สุดท้ายแล้วยังไงอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า แม้การต่อกรกับตระกูลเย้นจะยากมาก แต่หากต้องการจะทำลายตระกูลโห้ กลับดูจะง่ายดายกว่ามาก
คุณย่าโห้เป็นย่าแท้ ๆ ที่โห้หลีเฉินเคารพรักมากที่สุด ในตอนแรกก็ดีกับเย้นหว่านอย่างมากด้วยเช่นกัน และยังเป็นคนกลางของเธอและโห้หลีเฉินด้วย
หญิงชราที่อ่อนโยนใจดีแบบนั้น ไม่ว่ายังไงเย้นหว่านก็ไม่อาจทนปล่อยให้เธอมาพัวพันอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวได้
แววตาของเย้นหว่านสั่นไหว จ้องเขม็งไปที่หยูซือห้าน
“หยูซือห้าน นายยังคิดจะทำอะไรอีก?”
หยูซือห้านมองเย้นหว่านด้วยแววตาโหดเหี้ยม ยิ้มอย่างร้ายกาจ
“ฉันบอกเธอไปคงไม่เสียหาย มีเธออยู่ในกำมือ ตระกูลเย้น เย้นโม่หลินและคู่สามีภรรยาตระกูลเย้น พวกเขาทั้งหมดก็ได้แต่หยิกเล็บเจ็บเนื้อเท่านั้น ทำอะไรฉันไม่ได้”
เขาต้องการจะใช้เธอ เพื่อทำลายตระกูลเย้น!
นัยน์ตาของเย้นหว่านหดตัว ทั้งตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
พี่ชายกับคุณพ่อคุณแม่ดีกับเธอมากแค่ไหน ใส่ใจเธอแค่ไหน เธอรู้ดียิ่งกว่าใคร
ถ้าหากหยูซือห้านคิดจะใช้เธอจัดการพวกเขาจริง ๆ พวกเขาก็มีความเป็นไปได้จริง ๆ …..
เย้นหว่านด่าทออย่างโกรธเกรี้ยว “หยูซือห้าน ตายไปไม่กลัวตกนรกหรือยังไง?!”
“หา นรก?”
หยูซือห้านแค่นยิ้มเย็น “สภาพฉันในตอนนี้ กับอยู่ในนรกมีอะไรต่างกันงั้นเหรอ?”
มีชีวิตอยู่แท้ ๆ แต่กลับน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนภูติผีเสียมากกว่า
ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ แต่กลับพิการอย่างรุนแรง ได้แต่นั่งรอความตายอยู่บนรถเข็น
เย้นหว่านอ้าปาก มองรูปลักษณ์น่าหวาดกลัวของเขา แม้แต่คำโต้แย้งก็ไม่มีให้พูดออกมา
เธอไม่เคยคิดเลย ในตอนนั้นที่หยูซือห้านวิ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับการระเบิด จนบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าจะยังมีชีวิตอยู่ได้
นี่เป็นเพียงปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อ
เป็นปาฏิหาริย์
ปาฏิหาริย์?
เย้นหว่านตกตะลึงไปชั่วครู่ ดวงตาเปล่งประกาย มองไปที่หยูซือห้านอย่างตื่นเต้น
เขาวิ่งเข้าไปในระเบิด ได้รับบาดเจ็บสาหัสรุนแรงจนเป็นแบบนี้ แต่กลับยังรอดมาได้ งั้นสมรรถภาพร่างกายและความสามารถของโห้หลีเฉินที่แข็งแกร่งกว่าหยูซือห้าน งั้นโห้หลีเฉิน จะมียังมีชีวิตอยู่เหมือนกันใช่มั้ย?
ต้องใช่แน่ ๆ !
โห้หลีเฉินจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่!
เขาอาจจะแค่ได้รับบาดเจ็บ ถูกน้ำซัดไป และถูกคนช่วยไว้แล้ว
หรือบางที อาจถูกเย้นโม่หลินที่ไล่ตามมาช่วยไว้ บางทีตอนนี้เขาอาจจะตื่นแล้ว และกำลังตามหาเธอ
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เย้นหว่านราวกับได้รับยากระตุ้น ทันใดนั้นก็เหมือนฟื้นคืนชีพ
เธอตาเป็นประกาย ตื่นเต้นจนแทบรอไม่ไหวที่จะออกไปตามหาโห้หลีเฉิน
แต่ตรงหน้านั้น คือปีศาจร้ายหยูซือห้าน
ข้างนอก มีสาวใช้สี่คนขวางประตูอยู่ อีกทั้งทางเดินทอดยาวที่ไม่รู้ทิศรู้ทางเลยอีก
เธอต้องออกไป มันยากมากอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้ แววตาของเย้นหว่านวูบไหว สายตาจับจ้องไปที่ร่างของหยูซือห้าน
สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสในระยะแรก สภาพร่างกายอ่อนแอมาก คงไม่มีแรงมากมายอะไรแน่นอน
ถ้าเธอเคลื่อนไหวอย่างคาดไม่ถึง จับตัวเขาไว้ อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะออกไปได้ก็ได้!
เย้นหว่านคิดคำนวณและคาดเดาในใจอย่างรวดเร็ว ก็ตัดสินใจในทันที
เธอกระโดดขึ้นจากพื้นอย่างไม่ลังเล พุ่งเข้าหาหยูซือห้านอย่างกะทันหัน
เธอเหลือบมองกรรไกรในมือเขา ใช้แรงจำนวนมากแล้วหลบมันในทันที
หยูซือห้านไม่ทันได้เตรียมตัว ก็ถูกกระชากกรรไกรไป นิ้วมากที่เกี่ยวอยู่ถูกดึงออกจากกันอย่างกะทันหัน ในผ้าพันแผลสีขาว เลือดจำนวนมากไหลออกมาในทันที
เขาเจ็บจนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณชาย!”
สาวใช้สี่คนที่ยืนอยู่ที่ประตู พุ่งเข้าหาเย้นหว่านทันทีเหมือนกระสุนปืนใหญ่
ท่าทีดุดันราวกับสัตว์ร้าย
เย้นหว่านนั้นกลัวมาก แต่กลับมุ่งมั่นยิ่งกว่า
เธออ้อมไปข้างหลังหยูซือห้านแล้วเอากรรไกรจ่อที่คอเขาอย่างรวดเร็ว
เธอตะคอกอย่างดุร้าย “อย่าเข้ามานะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเขา!”
เย้นหว่านนั้นไม่ได้ยั้งแรงไว้เท่าไรนัก กรรไกรจึงกดลงบนคอของหยูซือห้าน บางส่วนทิ่มเข้าไปแล้วเล็กน้อย จนเลือดไหลออกมาซิบ ๆ
ถัดไปอีกเล็กน้อย ก็อาจจะเจาะหลอดเลือดแดงที่ลำคอของเขาโดยตรงและฆ่าเขาได้
สาวใช้ทั้งสี่มองด้วยสายตาดูหมิ่น ฝีเท้าหยุดลงอย่างตื่นตระหนก
พวกเธอพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ถ้าเธอกล้าทำร้ายคุณชาย ชีวิตเธอไม่เหลือแน่!”
“ฉันถูกพวกเธอกักขังไว้ที่นี่ต่อไป ตายไปซะเลยยังจะดีกว่า”
เย้นหว่านกัดฟันพูด
เธอกดมือข้างหนึ่งบนไหล่ของหยูซือห้าน อีกมือหนึ่ง ถือกรรไกรจ่อคอของหยูซือห้านอย่างไม่ขยับเขยื้อน
เธอเหงื่อไหลเต็มหัวไปหมด นิ้วมือสั่นเล็กน้อย
เธอกลัวมาก ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็ไม่เคยทำเรื่องบ้าคลั่งแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็กัดฟันและสามารถเอาชนะความกลัวในใจของเธอได้
ที่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะหนีออกไป เธอจะขี้ขลาดไม่ได้ จะยอมแพ้ไม่ได้
เธอต้องออกไป
ต้องตามหาโห้หลีเฉิน!
เธอตะคอกใส่สาวใช้ “พวกเธอถอยไปให้หมด ปล่อยฉันออกไป ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเขา เลวร้ายที่สุด ก็พินาศไปด้วยกัน!”
“เสี่ยวหว่าน เธอไม่กล้าหรอก”
บนลำคอของหยูซือห้านมีเลือดไหลออกมา แต่กลับยังคงนั่งนิ่งสงบราวกับว่าไม่เป็นอะไรเลย
เสียงของเขาแหบแห้ง แต่คำพูดของเขากลับหนักแน่นมาก
“มือของเธอไม่เคยเปื้อนเลือดมาก่อน เธอไม่มีความกล้าที่จะฆ่าคน อย่าทำอะไรที่มันเกินตัวเลย วางกรรไกรลงซะ”
วางกรรไรลง แล้วถูกเขาขังจองจำต่อไปงั้นเหรอ? ให้เขาใช้เธอเพื่อไปทำอันตรายคนตระกูลเย้นอีกรึไง?
เซลล์ทั้งหมดในร่างของเย้นหว่านกำลังต่อต้าน
ถึงเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้ กระทั่งแม้แต่ไก่สักตัวก็ยังไม่เคยฆ่า แต่ความเป็นตายของคนทั้งครอบครัว และความปลอดภัยของคนรักทั้งหมดตกอยู่ที่ตัวเธอ เธอไม่มีสิทธิ์ถอย!
“หยูซือห้าน กระต่ายจนตรอกก็กัดคนได้นะ ถ้าทำได้ ก็ลองดูสิว่าฉันจะกล้าไม่กล้า!”
เย้นหว่ายขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พูดลอดไรฟันออกมาทีละคำ
ท่าทีของเธอแน่วแน่เฉียบขาด มั่นคงอย่างไม่มีความลังเลใด ๆ
หยูซือห้านเหล่ตามองเธอ หัวใจพลันเต้น “ตึกตึก” อย่างผิดจังหวะขึ้นมาก
เขาตาไม่กะพริบ ไม่กล้าพูดออกมาอีกว่าเย้นหว่านไม่กล้า
เธอในตอนนี้ ดวงตาแดงฉาน ดูไปก็เหมือนแมวป่าตัวหนึ่งที่กำลังคลุ้มคลั่ง เผยให้เห็นกรงเล็บอันแหลมคมที่ซ่อนอยู่ของเธอ
ดุดัน และเด็ดเดี่ยว
ดูเหมือนว่า จะยิ่งน่าทึ่งน่าตื่นตามากขึ้น
ถ้าเธอไม่ได้กำลังขู่เอาชีวิตเขาด้วยกรรไกรอยู่ เขาอาจชื่นชมความกล้าหาญของเธอในตอนนี้ก็ได้
“เสี่ยวหว่าน เธอรักพ่อกับแม่ แล้วยังพี่ชายกับโห้หลีเฉิน เธอคือคุณหนูผู้สูงส่ง ที่มีชีวิตที่มีความสุขและสมบูรณ์แบบที่สุด
เธอยอมเอาชีวิตของตัวเองมาทิ้งกับคนร่อแร่ใกล้ตายอย่างฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?
มันเป็นการจ่ายที่ไม่คุ้มหรอก”
หยูซือห้านค่อย ๆ พูด พยายามเกลี้ยกล่อมเย้นหว่าน