สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่566 ตีจนตาย
บทที่566 ตีจนตาย
“โอย หน้าของเขาทำไมไหม้จนเป็นแบบนั้น? น่าสงสารจัง”
“ขอกำลังขอให้ช่วย ใครรู้บ้างว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ผู้หญิงที่เข็นรถเข็นอยู่ข้างหลังเขาน่ะ เหมือนจะมีอะไรผิดปกตินะ พวกคุณดูสิ แววตาที่เธอมองเขามันดุร้ายมาก”
“คุณผู้ชายท่านนี้ บอกมาสิว่าคุณเป็นอะไรไป? พวกเราจะได้ช่วยได้”
……
ผู้คนพากันพูดคุยหารือ และมีบางคนที่รีบทำสิ่งที่ถูกต้อง ลุกขึ้นมาทำตัวเป็นฮีโร่
ขมับของเย้นหว่านเต้นตุบ ๆ ปวดหัวขึ้นมา
เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ คนเยอะวุ่นวาย ถ้าหยูซือห้านฉวยโอกาสนี้หนีไปเธอก็ไม่สามารถควบคุมเขาได้อีก
เย้นหว่านรีบพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รบกวนทุกท่านแล้ว เขาเพียงแค่ที่ตัวถูกไฟลวกจนเจ็บมากเกินไป จนทนไม่ไหวถึงได้ร้องออกมาน่ะค่ะ”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ?”
ทันใดนั้นฝูงชนก็พากันพยักหน้าอย่างเข้าใจเหตุผล แผลไฟลวกบนร่างกายของหยูซือห้านนั้นร้ายแรงมาก จะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก็มีเหตุผลอยู่
มีคนแนะนำขึ้นมา “คุณหนู เขาดูไปแล้วน่าสงสารมากจริง ๆ ถ้าเจ็บปวดมากจริง ๆ คุณให้ยาชาเขาสักหน่อยก็ดีนะ”
เย้นหว่านรีบร้อนพยักหน้า มุมปากยกยิ้ม
“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอถอนหายใจเบา ๆ โชคดีที่เธอหาข้ออ้างแล้วผ่านมันไปได้
เธอรีบดึงผ้าก๊อซออกมาแล้วพันให้กับหยูซือห้านใหม่ แต่ทันใดนั้นหยูซือห้านกลับคว้าแขนเสื้อของเย้นหว่านเอาไว้ แล้วดึงกรรไกรที่เธอซ่อนไว้ในมือออกมา
เขาชี้สิ่งที่เห็นในมือของเธอ แล้วกรีดร้องอย่างหวาดกลัว
“ผมไม่รู้จักเธอ เธอจะฆ่าผม!”
เย้นหว่านใจเต้นระส่ำ รีบเก็บกรรไกรในมือทันที
แต่ว่าในจังหวะเมื่อครู่ ก็ยังถูกคนตาดีเห็นเข้าอยู่หลายคน
ในเวลานั้นสายตาที่ผู้คนของเขาก็เปลี่ยนไป ทั้งระแวดระวังและยังรังเกียจ
กระทั่งมีชายร่างสูงพุ่งเข้ามาจะโจมตีเธออย่างโกรธเกรี้ยว
เย้นหว่านร่างกริ่งเกร็ง รับรู้ถึงอันตรายร้ายแรงที่มาถึง
เธอตัวคนเดียวนั้นอ่อนแอ ไม่มีทางต่อสู้กับคนพวกนี้ได้อยู่แล้ว แต่หยูซือห้านดูไปก็ช่างน่าสังเวช แล้วเธอยังถือกรรไกรไว้อีก ต่อให้มีเป็นร้อย ๆ เหตุผลก็อธิบายให้เข้าใจได้ไม่หมด
เย้นหว่านใจระส่ำ ถูกหยูซือห้านผลักให้เข้าสู่ความสิ้นหวัง
แววตาของหยูซือห้านฉายแผนการอันชั่วร้าย เขากดเสียงต่ำพูด
“เย้นหว่าน ฉันให้โอกาสเธอแล้ว เธอไม่รักษามันไว้เอง ก็อย่าหาว่าฉันลงมือเหี้ยมโหดก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นฝูงชนที่โกรธเกรี้ยวและดุร้ายเหล่านั้น เย้นหว่านที่เป็นแค่เด็กสาวนั้นอาจถูกทุบตีอย่างรุนแรงได้
อย่าว่าแต่ข่มขู่หยูซือห้านอีกเลย ตอนนี้เธอแค่ปกป้องตัวเองยังยาก
เย้นหว่านดวงตาแดงก่ำ เธอกัดฟันพูด “หยูซือห้าน! ไม่กลัวฉันแทงตายหรือยังไง?”
“เธอไม่กล้าหรอก”
หยูซือห้านมาดมั่น
รอยยิ้มในดวงตาของเขาช่างหยิ่งยโสและน่ารังเกียจ
โสตประสาทของเย้นหว่านตึงเครียดเมื่อมองชายร่างใหญ่ที่พุ่งเข้ามา ราวกับเห็นชะตากรรมของเธอแล้ว
คนพวกนี้ต่างเป็นฝูงชนคนธรรมดา ไม่เหมือนกับคนของหยูซือห้าน ที่เป็นห่วงความเป็นตายของเขาก็เพราะเธอข่มขู่หยูซือห้านถึงได้เข้ามา
หากเธอยังใช้วิธีคุกคามต่อไป มีแต่จะดึงให้ความรู้สึกยิ่งรุนแรงมากขึ้น และไม่นานก็คงดึงดูดตำรวจหรือกองปราบจลาจลมา
และสุดท้าย ที่เธอกลัวก็คือการถูกซุ่มยิง เป็นผลโดยตรง
เดิมทีในตอนนี้เธอก็ไม่มีตัวเลือกอยู่แล้ว สูญเสียโอกาสในการควบคุมหยูซือห้านไปแล้วแน่นอน
ในเมื่อควบคุมหยูซือห้านไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น ก็ลากเขาตายไปด้วยกันนี่แหละ!
ทันใดนั้นแววตาของเย้นหว่านก็ฉายประกายคมกริบ มือกำกรรไกรแทงคอของหยูซือห้านอย่างดุเดือด
ขอแค่เขาตาย เขาก็ไม่มีทางแอบสร้างปัญหา ทำร้ายตระกูลเย้นและตระกูลโห้ได้อีกต่อไป
ยังไงก็ตาม ต่อให้มือจะเปื้อนเลือด แต่อย่างน้อยเธอก็ปกป้องคนในครอบครัวจากอันตรายแล้ว
“เย้นหว่าน เธอกล้าดียังไง!”
หยูซือห้านมองการกระทำของเย้นหว่าน ดวงตาที่เบิกกว้างอย่างเหยียดหยามเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เขาคิดไม่ถึง ว่าเย้นหว่านที่เหมือนกับลูกแกะตัวเล็ก ๆ เองก็สามารถลงมือเอาชีวิตของเขาได้
อย่างโหดเหี้ยมแบบนั้น
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันมาก แม้ว่าสมองของหยูซือห้านจะยังทำงานอยู่ แต่ว่าร่างกายนั้นเสื่อมทรุดจนไม่อาจทำอะไรได้แล้วจริง ๆ
เขาไม่มีกำลังจะหยุดเย้นหว่านได้เลย
ได้แต่เบิกตามองคมกรรไกรนั้นแทงเข้าที่คอของเขาอย่างรุนแรง
มันเย็นเฉียบ
“ปึก!”
ทันใดนั้นก็มีขวดน้ำขวดหนึ่งลอยมาจากที่ไม่ไกลนัก มาโดนมือของเย้นหว่านอย่างพอดิบพอดี
ข้อมือของเย้นหว่านเจ็บอยู่ชั่วขณะก็เปลี่ยนทิศทาง กรรไกรที่ตั้งใจจะเจาะเข้าไปในคอของหยูซือห้านนั้นจึงเบี่ยงไปปักเข้ากับกระดูกไหปลาร้าของเขา
“ซี้ด!”
หยูซือห้านสูดอากาศด้วยความเจ็บปวด
ทันใดนั้นเลือดจำนวนมากก็ทะลักออกมาจากตำแหน่งไหปลาร้าของเขา ย้อมเสื้อผ้าของเขาเป็นสีแดงฉาน
ในฝูงชน พวกผู้หญิงอุทานด้วยความหวาดกลัวอย่างทนไม่ไหว
และผู้ชายบางคนที่ด่าทอเธออย่างโกรธเกรี้ยว “ผู้หญิงคนนี้ก้าวร้าวเกินไปแล้ว! ฆ่าคนต่อหน้าคนมากมาย! จับเธอเอาไว้ จับเอาไว้!”
วินาทีต่อมา ชายที่เดินเข้ามาก็เหวี่ยงกำปั้นใส่ร่างของเย้นหว่านไร้ความปรานี
ร่างกายของเย้นหว่านจะไปแข็งแกร่งกว่ากำปั้นของผู้ชายได้ยังไง เธอถูกต่อยจนถอยไปหลายก้าว ในลำคอมีรสคาวขึ้นมาในทันที
ในขณะเดียวกัน ผู้คนรอบข้างต่างพากันโยนสิ่งของในมือ น้ำ ผลไม้ ขนมปัง โยนใส่ร่างของเย้นหว่าน
เธอราวกับหนูข้ามถนนตัวหนึ่งที่ผู้คนต่างรังเกียจทุบตี
ยังมีคนตะโกน “จับเธอไว้ ตำรวจจะมาแล้ว!”
เย้นหว่านพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดจากทุกที่บนร่างกายของเธอ มองไปที่หยูซือห้านอย่างดุร้าย
แม้เธอจะถูกจับแล้ว แต่เลือดที่คอของเขาก็ไหลออกมามาก จะเป็นจะตาย ก็ยังไม่รู้
ถึงเขาจะยังไม่ตาย แต่ร่างกายสะบักสะบอมนี้ กลัวว่าจะเข้าใกล้ยมบาลไปอีกก้าวหนึ่ง
เพียงแต่น่าเสียดาย ที่ไม่ได้ฆ่าเขาให้คาที่
“หญิงบ้า!”
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุร้าย เอื้อมมือมากระชากเย้นหว่านขึ้นมาจากพื้น ด้วยกำลังที่น่ากลัวของผู้ชาย เขายกเย้นหว่านจนสองเท้าลอยจากพื้น
เขาด่าทอ “ฆ่าคนต่อหน้าคนมากมาย ยังไม่สำนึกอีก? ดูท่าว่าฉันต้องตีแกให้ตาย!”
พูดดังนั้น เขาก็ทิ้งเย้นหว่านลงบนพื้นอีกครั้ง จากนั้นก็เตะซ้ำเข้าไปอีก
เจ็บ!
เจ็บราวกับว่าร่างกายจะแหลกสลายไปทั้งตัว
เย้นหว่านกอดร่างสั่นเทิ้มของตัวเอง ในปากมีกลิ่นคาว เลือดข้นไหลออกจากปากของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้
เธอตะเกียกตะกายพยายามจะลุกขึ้น แต่กลับเผชิญกับเท้าอีกข้างของชายโฉดอีก
เธอถูกเตะลอยออกไปหลายเมตร จนตกลงในฝูงชน
ผู้คนต่างถอยหลังไปสองก้าว จ้องมองเธอแล้วเดินขึ้นมาใหม่อีกสองก้าว
มีคนตะโกนขึ้น “ตีเธอให้ตาย!”
เย้นหว่านที่ไม่มีเวลาให้คิดอะไร ก็เห็นฝ่าเท้านับไม่ถ้วนเตะมาที่เธอ
ท่ามกลางความวุ่นวาย เธอไม่อาจสนใจอะไรได้ ได้แต่กุมหัวเอาไว้แน่น
“ตุบตุบตุบ”
เสียงหนักหน่วงดังขึ้นบนตัวของเธออย่างต่อเนื่อง
ความเจ็บปวดของการถูกทุบตีแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
ดวงตาของเย้นหว่านมืดบอด ได้แต่กุมศีรษะของตัวเองอย่างสุดชีวิต แต่สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มเลือนรางเข้าไปทุกที ราวกับจะตายได้ทุกเมื่อ
ถูกตีจนตาย