สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่567 ไม่ตายก็ซ้ำ
บทที่567 ไม่ตายก็ซ้ำ
“ออกไปให้พ้น!”
ท่ามกลางสติอันเลือนราง เย้นหว่านราวกับฝันไป เธอได้ยินเสียงที่ไม่เหมือนกับเสียงตะโกนให้ตีให้ฆ่า
เป็นใครกัน?
ฟังดูแล้วเสียงของเขา เหมือนจะคุ้น ๆ อยู่บ้าง
เธอลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากแล้วมองผ่านร้องนิ้วของ คนตัวสูงราวกับจะบดบังดวงอาทิตย์คนหนึ่ง ผลักกลุ่มคนออกแล้วเดินมาถึงเบื้องหน้าของเธอ
เขาขมวดคิ้วแน่น ย่อตัวลงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพาให้ใจสั่น
“ฉันจะพาเธอไป”
พูดไปดังนั้น เขาก็อุ้มเย้นหว่านขึ้นมาจากพื้นแล้วกอดไว้ในอ้อมแขนแน่น
สายตาของเย้นหว่านค่อนข้างพร่าเลือน เหมือนว่ากำลังฝันไป เธอมองเค้าโครงใบหน้าที่คุ้นเคยของเขา
เธอพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “นาย นายคือ…..โห้หลีเฉินงั้นเหรอ….”
“คนเป็นฮีโร่มาช่วยสาวงาม ไม่ได้มีแค่โห้หลีเฉินหรอกนะ”
ชายหนุ่มพูดแขวะอย่างไม่ชอบใจ “จะว่าไป ใบหน้านี้ของฉันเหมือนโห้หลีเฉินมากงั้นเหรอ?”
น้ำเสียงทีเล่นทีจริงนั้น ชัดเจนว่าเป็นกู้ซึงอย่างไม่ต้องสงสัย
คนที่มานั้น ไม่นึกว่าจะเป็นกู้ซึง
เย้นหว่านกะพริบตา หัวใจที่ตื่นเต้น ทันใดนั้นก็ร่วงกลับลงสู่พื้นทันที
ไม่ใช่โห้หลีเฉิมปลอมมาหรอก
ไม่ใช่โห้หลีเฉิน
มันก็น่าตลก เธอกลัวจนค้างไปเลยสินะ โห้หลีเฉินตอนนี้เป็นตายไม่แน่ชัด ไม่นึกว่าเธอจะยังคาดหวังให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าเธอแล้วช่วยเธอจากภัยอันตรายเหมือนกับเทพเจ้า
กู้ซึงที่เห็นความสดใสบนใบหน้าของเย้นหว่านหรี่ลง ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“เย้นหว่าน ยังไงตอนนี้ฉันก็ทำเพื่อเธอนะ ถึงบุกเข้ามาในสถานที่อันตรายขนาดนี้ เธอจะแสร้งทำเป็นซาบซึ้งใจให้ฉันหน่อยจะได้มั้ย?”
เย้นหว่านสำลัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกขอบคุณเขา เพียงแต่จิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก และเป็นห่วงแค่สิ่งที่ใส่ใจที่สุดเท่านั้น
ยังสายเกินไป…
ขณะที่พูด ฝูงชนที่ถูกผลักออกไปเองก็ได้สติกลับมาในเวลานั้น
พวกเขาชี้หน้ากู้ซึงแล้วด่าทอ “ผู้หญิงคนนี้เป็นฆาตกร ฉันขอเตือนว่าคุณอย่ามายุ่ง รีบวางหล่อนลงเดี๋ยวนี้!”
“ใช่ รีบวางเธอลงซะ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะตีคุณด้วย”
กลุ่มคนต่างพากันก่นด่า และโมโหอย่างมาก
กู้ซึงเห็นสภาพสะบักสะบอมไปทั้งตัวของเย้นหว่าน สีหน้าพลันเย็นเยือก แววตาดุดัน
หากไม่ใช่เพราะเขาอยู่ที่นี่พอดี เย้นหว่านก็จะถูกพวกเขาทุบตีจนตายเลยใช่มั้ย?
คนพวกนี้ ไม่รู้จริงเท็จ ก็จะตีคนให้ตายแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าไปแล้วจริง ๆ รึไง?
กู้ซึงกอดเย้นหว่านไว้แน่น ทันใดนั้นเขาก็ขึ้นเสียงตะโกนออกมา
“ถึงคิวพวกคุณแล้ว ตีให้ตายมันฉันต่างหาก!”
สิ้นเสียงพูด ด้านข้างก็เกิดเสียงสนั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เห็นเพียงคนเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งถือท่อนไม้วิ่งเข้ามา ฟาดใส่หัวใส่หน้ากลุ่มคนที่ล้อมรอบอยู่อย่างแรง
“อ๊า—อ๊าก! อ๊าก! ตีคนแล้ว!”
“ช่วยด้วย—”
เสียงครวญครางดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกคนจะไปคาดคิดได้ที่ไหนว่าพวกเขาที่ทุบตีคนอย่างโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ อยู่ ๆ ตอนนี้จะเปลี่ยนกลายเป็นฝ่ายถูกตี
แถมคนเร่ร่อนพวกนี้ก็ลงมืออย่างไม่มีหนักเบา ราวกับจะตีให้พวกเขาพิการเสียอย่างนั้น
ผู้คนไม่มีความคิดที่จะมุงดูและทำตัวเป็นฮีโร่ต่อสู้กับความอยุติธรรมอีกต่อไป ทั้งหมดกุมหัวแล้วแตกฮือกันไป
บนถนนเกิดความโกลาหลขึ้นทันที
กู้ซึงใช้ประโยชน์จากความโกลาหล กำลังจะอุ้มเย้นหว่านไป
แต่ทันใดนั้นเย้นหว่านกลับจับไหล่ของเขาแน่น มองไปยังหยูซือห้านที่นั่งอยู่บนรถเข็นไม่ไกลด้วยความชิงชัง
ในฝูงชนเมื่อครู่มีหมออยู่ด้วย และได้ทำการรักษาฉุกเฉินให้กับเขา บนคอของเขาถูกพันไว้หมดแล้ว
เลือดที่ไหลก็หยุดลงชั่วคราว
ในเวลานั้น เขากำลังนั่งอยู่บนรถเข็น ก้มหน้า หลับตา ไม่รู้ว่าตายหรือไม่ตาย
เย้นหว่านกัดฟันพูด “เข้าไปดูหน่อย ไม่ตายจะได้ซ้ำ”
เธอต้องการให้เขาตาย
ขมับของกู้ซึงเต้นกระตุกอย่างแรง มองเย้นหว่านอย่างเหลือเชื่อ มุมปากกระตุกยิก ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสุด ๆ
“เสี่ยวหว่าน เธอถูกใครสับเปลี่ยนตัวมารึเปล่า? เมื่อก่อนเธอไม่ได้โหดขนาดนี้นี่นา”
โหดเหี้ยมถึงขนาดจะเอาหยูซือห้านให้ตาย
เย้นหว่านเหลือกตามองกู้ซึง สีหน้าเรียบนิ่ง “หรือนาย ยังคิดจะให้เขามีชีวิตต่อไปงั้นเหรอ?”
มีชีวิตอยู่ ก็รังแต่จะก่อเรื่องวุ่นวาย
กู้ซึงรีบส่ายหัว ในอดีตที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการข่มเหงของหยูซือห้าน เขาไม่เคยลืมเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้มือต้องเปื้อนเลือด ก็ไม่เสียดาย
เขาเม้มปากแล้วเดินเข้าไปหาหยูซือห้านทันที
“คุณชาย!”
ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงคนหนึ่งก็เบียดตัวเข้ามาให้ฝูงชนอย่างกะทันหัน คุกเข่าต่อหน้าหยูซือห้านอย่างปวดใจ แล้วมองเขาอย่างกังวลเป็นที่สุด
และในขณะเดียวกัน ด้านหลังของเธอ ยังมีหลายคนที่กำลังวิ่งเข้ามาที่นี่
เป็นคนของหยูซือห้าน
พวกเขาตามมาแล้ว!
เย้นหว่านขมวดคิ้วแน่น ไม่สบอารมณ์อย่างมาก
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เธอกับกู้ซึงสองคน อีกทั้งคนเร่ร่อนพวกนี้ รวมกันแล้วก็ยังสู้สาวใช้ไม่กี่คนนั้นไม่ได้เลย
เย้นหว่านตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “รีบไปกันเถอะ”
กู้ซึงหยุดฝีเท้า มองไปยังหยูซือห้านอย่างซับซ้อน จากนั้น จึงอุ้มเย้นหว่านหันเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เดินไป เขาตะโกนออกมา “ไปรุมตีผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถเข็น ใครทำเขาตายได้ ฉันจะให้คนนั้น100ล้าน!”
เหล่าคนเร่ร่อนก็เดือดพล่านขึ้นมาทันที
พวกเขาไม่สนใจฝูงชนที่แตกตัวกันไปรอบ ๆ อีก ทั้งหมดเงื้อไม้ ฟาดลงไปยังหยูซือห้าน
หยิงสาวเตะคนเร่ร่อนที่พุ่งเข้ามาออกอย่างรวดเร็ว แต่จากนั้น ก็มีคนเร่ร่อนสามคนเข้าไปซ้ำอีก
เป้าหมายของพวกเขายิ่งชัดเจน ท่อนไม้ทั้งหมดต่างหันเข้าหาตัวหยูซือห้าน
“พวกแกกำลังรนหาที่ตาย!”
หญิงสาวด่า โมโหโกรธา เตะคนเร่ร่อนสองคนด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่กลับหยุดคนจรจัดคนที่สามเอาไว้ไม่ทัน
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เธอไม่สนใจอย่างอื่นแล้วทำได้แค่ตะครุบร่างของหยูซือห้านเพื่อรับท่อนไม้นั้นทันที
ไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะของเธอ หน้าผากของเธอมีเลือดไหลออกมาทันที
ดวงตาของหญิงสาวมืดบอด ยังไม่ทันได้ตอบสนอง บนร่างกายก็ถูกท่อนไม้ตีเข้าต่ออีกหลายไม้
เธอถึงกับกระอักเลือด
แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นใด ได้แต่ใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องหยูซือห้านไว้
แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น คนเร่ร่อนที่บ้าคลั่ง เมื่อตีไม่โดนหยูซือห้านจึงใช้ไม้แทง ซึ่งแทงไปบนร่างกายของหยูซือห้านอย่างกะทันหัน
บนร่างกายของเขายังมีบาดแผลสาหัส การแทงนี้ ทำให้มันแตกออกในทันที เลือดสดให้ออกมา
หยูซือห้านหลับตา ร่างกายกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เลือดไหลออกจากมุมปากช้า ๆ
สาวใช้โกรธตาแทบถลน กรีดร้องอย่างปวดร้าว “คุณชาย!”
อีกไม่กี่คนอื่น ๆ รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เห็นคือหยูซือห้านที่ตัวโชกเลือด
พวกเขาแทบจะใจเสียกันหมด
“เร็วเข้า! รีบไปช่วยคุณชาย!”
ในที่นั้น เป็นไปด้วยความโกลาหล
คนเหล่านั้นตื่นตระหนกแทบตาย ทั้งหัวใจไปอยู่บนร่างของหยูซือห้านแล้ว ไม่ทันได้หันไปสนใจกู้ซึงและเย้นหว่านที่วิ่งหนีไปแล้วเลย
กู้ซึงนั้นเหมือนจะคุ้นเคยก็ที่แห่งนี้เป็นอย่างดี เขาใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายเขาเดินตรงเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ด้านข้าง ลัดเลี้ยวไปอย่างว่องไป ไม่นานก็ออกไปจากถนนสายนั้นแล้ว