สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่619 หมายความว่าอะไร
บทที่619 หมายความว่าอะไร
เขามองเย้นหว่านอย่างตกใจ พูดเสียงเข้มว่า
“เธอมาทำไมกัน? ที่นี่อันตราย เธอไปอยู่กับเย้นโม่หลินไป”
เย้นหว่านเงยหน้ามองโห้หลีเฉิน ส่ายหน้าด้วยสายตาที่แน่วแน่
เธอยื่นมือออกไป จับมือใหญ่เขาไว้แน่น
พูดทุกถ้อยคำอย่างชัดเจนว่า “ฉันจะอยู่ข้างนาย แม้มีอันตราย ฉันก็จะอยู่กับนาย!”
โห้หลีเฉินมองดูเย้นหว่านอย่างตกตะลึง เหมือนหัวใจถูกไฟฟ้าช็อตยังไงยังงั้น
สั่นสะเทือนเล็กน้อย
เย้นหว่านแน่วแน่มาก เธอหันไปมองคนตระกูลหยู
“ถ้าจะตาย บาดเจ็บ ฉันก็จะอยู่เคียงข้างนาย!”
คำพูดนี้ พูดให้คนตระกูลหยูได้ยิน
ทุกคนตระกูลหยูได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก ทำหน้าเหมือนกินแมลงวันเข้าไป
ประชุมในตระกูลตัดสินใจแล้วว่า พวกเขาจะจัดการโห้หลีเฉิน ไม่มีอะไรต้องลังเล
แต่ใครจะรู้ เย้นหว่านเป็นลูกรักของตระกูลเย้น พูดได้ว่าเป็นชีวิตของตระกูลเย้นเลยก็ว่าได้ ใครกล้าทำร้ายเธอล่ะ?
เดี๋ยวก็โดนคนตระกูลเย้นล้างบางพอดี!
สีหน้าหยูฉู่สองมองดูเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินอย่างสับสน ขมวดคิ้วเป็นปม
เขาถามโห้หลีเฉินเสียงแข็งว่า
“ทำไม โห้หลีเฉิน นายเป็นลูกผู้ชาย ตอนนี้จะเอาเย้นหว่านมาเป็นที่พึ่งงั้นเหรอ? นายคิดว่าเย้นหว่านจะปกป้องนายได้ นายก็จะไม่ต้องชดใช้ในเรื่องที่นายเคยก่อไว้งั้นเหรอ?!”
ไม่ถึงสถานการณ์คับขัน หยูฉู่สองไม่ขัดใจเย้นหว่านแน่นอน ยิ่งไม่ทำอะไรเธอด้วย
ลูกศรทั้งหมดของเขาชี้ไปที่โห้หลีเฉินทั้งหมด
คนอื่นในตระกูลหยูก็จับจ้องโห้หลีเฉินด้วยสายตาที่โกรธแค้น ราวกับว่า จะใช้สายตาฆ่าเขาอย่างนั้น
ตระกูลหยูในตอนนี้ เอาโห้หลีเฉินเป็นคนนอกไปแล้ว และยังเป็นศัตรูอีก
ตระกูลที่มีสายเลือดเดียวกัน โห้หลีเฉินไม่รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเลย และพวกเขา ก็อยากได้ชีวิตเขาทั้งหมดด้วย
โห้หลีเฉินจับมือเย้นหว่านไว้ กระตุกยิ้มอย่างเย็นชาและประชดประชัน
สายตาที่ดูถูกของเขากวาดมองทุกคน ถามด้วยน้ำเสียงหยิ่งผยองว่า
“ฉันก็สงสัยนะ ฉันไปก่อเรื่องอะไรไว้อีก? พวกนาย มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิทธิ์การเป็นทายาทของฉัน?”
ทายาทของตระกูลหยู จะต้องทำตามกฎเกณฑ์เท่านั้น
เพื่อตัดปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งกัน ดังนั้นก็เลยออกกฎเหล็กนี้ไว้ ก็คือไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนที่จะได้เข้ารับตำแหน่งนี้ ก็คือลูกชายคนโตของตระกูล
นอกจากว่าจะตาย นอกนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนทายาทได้
แต่มีกฎข้อหนึ่ง ถ้าทายาทคนแรกก่อเรื่องที่ทำให้ตระกูลเสียผลประโยชน์ จะมีท่านอาวุโสในตระกูลทั้งหมดโหวตตัดสิทธิ์ได้ ในสถานการณ์ที่จะมีทายาทคนใหม่ได้ ก็สามารถตัดสิทธิ์ทายาทคนแรกไปได้
และราคาที่จะตัดสิทธิ์นั้น ทั้งโหดร้ายและราคาแพงมาก คนที่ถูกตัดสิทธิ์ จะต้องถูกทำร้ายอย่างหนัก พิการไปตลอดชีวิต อีกอย่าง จะไม่สามารถมีลูกต่อไปได้อีก
ประวัติตระกูลหยูที่ผ่านมานั้น เพราะมีกฎทายาทนี้อยู่ ยังมีผลลัพธ์ที่โหดร้ายอีก จึงไม่มีการตัดสิทธิ์ทายาทมาก่อน และทายาททุกสมัยเติบโตขึ้นจากการอบรมสั่งสอนของตระกูล และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในตระกูล จึงมีคนไม่น้อยที่สนับสนุน
อีกอย่างก็ไม่ถึงขั้นที่มีท่านอาวุโสมาโหวตตัดสิทธิ์แบบนี้
แต่โห้หลีเฉิน เป็นเหตุไม่คาดคิด
เขาเติบโตจากด้านนอก กลับมากะทันหัน แย่งตำแหน่งทายาทของหยูซือห้านไป และหยูซือห้านก็อยู่มานานแล้ว ได้รับแรงสนับสนุนจากท่านอาวุโสมากมาย โห้หลีเฉินอยู่ตระกูลหยู ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย
อีกอย่าง ยังแย่งภรรยากับหลาน ปลอมตัวเป็นกู้ซึง ผิดกับตระกูลเย้น การกระทำทั้งหมดนี้ ทุกข้อนี้ไปกระทบถึงศักดิ์ศรีและผลประโยชน์ของตระกูลหยู
จึงทำให้ ไม่มีท่านอาวุโสคนไหนยืนข้างเขา และยังตัดสิทธิ์โห้หลีเฉินกันหมด
ในนั้นยังรวมไปถึงหยูฉู่สองด้วย
สถานการณ์ถึงได้เป็นอย่างตอนนี้
ท่านอาวุโสผมเงินเดินไปข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวดว่า
“ในเมื่อนายไม่พอใจ งั้นพวกเราก็มาพูดกันให้เข้าใจแล้วกัน! นายปลอมตัวเป็นกู้ซึงไปตระกูลเย้น ก่อเรื่องที่น่าอับอายแบบนี้ ทำให้ตระกูลหยูเราเสียหน้า ยิ่งทำลายความสัมพันธ์ของตระกูลหยูและเย้นที่สร้างกันมาเป็นร้อยปี และผลประโยชน์!
ทายาทของตระกูลหยู มีกฎตัดสิทธิ์เขียนไว้อย่างชัดเจน ถ้าก่อเรื่องที่ทำให้ตระกูลเสียผลประโยชน์ ก็สามารถตัดสิทธิ์ได้!”
โห้หลีเฉินเลิกคิ้ว หันไปมองเย้นหว่านที่ยืนข้างตัวเองอย่างโมโห
เธอต้องเผชิญหน้ากับปืนมากมายและคนแย่ๆแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ากลัวมาก แต่กลับใจกล้ายืนอยู่ข้างเขา ไม่ถอยเลยด้วย
น้ำใจของเธอ เขารับรู้ได้แล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้……
โห้หลีเฉินเม้มปากหัวเราะ จับมือเย้นหว่านยกขึ้น ประสานสิบมือต่อหน้าทุกคน
เขาพูดประชดว่า “ฉันกับเย้นหว่านรักกันมาก และยังมีเย้นโม่หลินส่งกลับมาอีก พวกนายเห็นเหรอว่า ฉันทำลายความสัมพันธ์ที่ดีงามของตระกูลหยูกับเย้น? และยังทำให้เกิดผลเสียประโยชน์?”
ท่านอาวุโสผมเงินชะงัก
ในตอนที่ตัดสิทธิ์ พวกเขาได้รับการพยักหน้ายอมรับจากเย้นโม่หลิน และรู้ความโกรธแค้นของตระกูลเย้น
แต่สถานการณ์ตอนนี้เสี่ยงมาก ใครก็เดาไม่ได้
แต่เพียงเท่านี้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินของท่านอาวุโสได้
ท่านอาวุโสผมเงินชี้มือโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านที่จับกันไว้แน่น พูดด่าว่า
“โห้หลีเฉิน พวกเราไม่พูด นายก็ยังไม่มีความยางอายเลยนะ?! ตอนนี้เย้นหว่านเป็นภรรยาของหยูซือห้าน จากตำแหน่งแล้วก็คือหลานสะใภ้ของนาย ถึงนายจะรักกับเย้นหว่าน ก็ควรรักษาจริยธรรมความเป็นมนุษย์ด้วยสิ และไม่ใช่มาอยู่กับเย้นหว่านแบบนี้!”
“หลานสะใภ้?”
โห้หลีเฉินแสยะยิ้มเย็นชา เขาอมยิ้ม แต่ในตอนนั้นเองสายตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบคมน่ากลัวขึ้นมา
เขาถามด้วยเสียงเข้มว่า “ใครที่บอกว่าเย้นหว่านเป็นภรรยาของหยูซือห้านแล้ว พวกนายมีทะเบียนสมรสของพวกเขาไหม?”
ท่านอาวุโสผมเงินก็ขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
เขาสะอื้น พูดเสียงแข็งว่า
“จัดงานแต่งกันแล้ว ทะเบียนสมรสก็ต้องมีอยู่แล้ว! แต่ตอนนี้หยูซือห้านยังไม่กลับมา ไม่ได้เอากลับมาให้พวกเราดูเท่านั้นเอง”
“แต่นี่เป็นเรื่องจริง แม้หยูซือห้านไม่กลับมา ก็เปลี่ยนเรื่องที่เย้นหว่านเป็นหลานสะใภ้ของนายไม่ได้!”
“อากับหลานสะใภ้จะทำเรื่องผิดธรรมเนียมแบบนี้ได้ยังไง พวกเราตระกูลหยู ไม่มีทางอนุญาตแน่!”
แต่ละคำพูดหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ
โห้หลีเฉินหัวเราะ เขาละแปลกใจจริงๆ หลังจากที่งานแต่งพังไม่เป็นท่าแล้ว หยูซือห้านทำให้ท่านอาวุโสพวกนี้เชื่อได้ยังไง ว่าเขาจดทะเบียนกับเย้นหว่านแล้ว?
แต่ว่า ไม่ว่าจะฝีมือไหน ตรงหน้าความจริง ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
โห้หลีเฉินจับมือเย้นหว่านไว้แน่น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง
“ดูแล้วหยูซือห้านคงยังไม่ได้บอกกับทุกคน งานแต่งในวันนั้น หลังจากที่บังคับเย้นหว่านสวมแหวานแล้ว ฉันก็ไปถึงพอดี”
ทุกคนตระกูลเย้น หน้าซีดเซียวไปกันหมด
คำพูดนี้ ไม่ต้องคิดมาก ก็รู้ว่าหมายความว่ายังไง…