สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่667 อำลา
บทที่667 อำลา
ในใจของเย้นหว่านรู้สึกผิดเล็กๆ เธอไม่ได้ต้องการจะปิดบังอะไรโห้หลีเฉิน และอยากจะบอกทุกอย่างกับเขา แต่เรื่องยาคุมกำเนิดนั้น มันพูดยากจริงๆ
เธอเดินไปข้างหน้า เอื้อมมือกอดเอวของโห้หลีเฉินเอาไว้แล้วฝังหน้าลงบนแฝงอกของเขา
เธอพูดเสียงอู้อี้ “แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง เรื่องอื่นฉันจะไม่ปิดบังอะไรนายเลยนะ”
เธอจะซื่อสัตย์กับเขาอย่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โห้หลีเฉินเอื้อมมือมาลูบผมของเธอ สีหน้าอบอุ่นอ่อนโยน
น้ำเสียงทุ้มเย้ายวนน่าหลงใหล “ได้เลย”
เขามองไปที่กระเป๋าเป้ใบเล็กของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็จากไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร
ใครก็มีความลับกันทั้งนั้น
เขาสงสัยใคร่รู้มาก แต่ก็รอให้เธอมาบอกเขาด้วยตัวเองได้
หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ก็ให้ลูกน้องส่งสัมภาระออกไป กลุ่มของเย้นหว่านและโห้หลีเฉินก็ต้องออกเดินทางกันแล้ว
เย้นหว่านสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กและกำลังจะเดินขึ้นรถตรงหน้า
เย้นเจิ้นจื๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้ว มองเธอด้วยใบหน้าหนักใจและเป็นห่วง
เสียงทุ้มเอ่ยเตือน “เสี่ยวหว่าน ระหว่างทางต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเสมอนะ ถ้าเผชิญกับเรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องอื่นก็ช่างมันไปก่อน เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เย้นหว่านพยักหน้า สายตามองไปรอบๆ อย่างอดไม่ได้
คนสองคนที่ตัวติดกันมาตลอด ตอนนี้กลับมีแค่เย้นเจิ้นจื๋อที่มา ส่วนกงจืออวีนั้นไม่ได้ปรากฏตัว
ดูเหมือนว่า เธอคงไม่ได้คิดจะมาส่งเธอแล้ว
เย้นเจิ้นจื๋อลังเลเล็กน้อย ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่ของลูกอาลัยอาวรณ์ลูกมากน่ะ”
ถึงได้ไม่มาส่ง
เหตุผลนี้ อาจเป็นได้ว่าแท้จริงในใจของกงจืออวีนั้นยังไม่เห็นด้วยกับการไปพร้อมกันของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน
เย้นหว่านค่อนข้างหดหู่ และก็ไม่อาจบอกได้ชัด ว่าควรจะต้องเผชิญหน้ากับกงจืออวีในเรื่องนี้ยังไงกันแน่
“พ่อคะ ช่วยฝากแม่ให้หนูหน่อย ว่าหนูจะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”
“ได้สิ พ่อกับแม่จะอยู่ที่บ้านรอลูกกลับมานะ”
เย้นเจิ้นจื๋อมองเย้นหว่านด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ แล้วพูดอีกครั้ง “ระหว่างทางต้องคอยอยู่กับพี่เขาแล้วก็โห้หลีเฉินไว้นะ ต้องตามอยู่ข้างหลังพวกเขาไว้ อย่าอยู่คนเดียวเด็ดขาดล่ะ”
เย้นเจิ้นจื๋อที่มักจะพูดน้อย ในวันนี้ก็อดจู้จี้ขึ้นมาไม่ได้
เย้นหว่านเข้าใจดี ทั้งหมดก็เพราะเป็นห่วงเธอ
ในใจรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เย้นหว่านฟังและพยักหน้ารับคำอย่างเชื่อฟัง
หลังจากอำลากับเย้นเจิ้นจื๋อแล้ว เย้นหว่านก็หันไปมองทางกู้ซึงและกู้จื่อเฟยที่อยู่อีกด้าน
กู้ซึงมองเธอด้วยสีหน้าซับซ้อน มองความคิดของเขาไม่ออก
ส่วนกู้จื่อเฟยนั้นดวงตาแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความกังวลและอาวรณ์ แต่ก็กลับอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ร้องไห้
เย้นหว่านถอนหายใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน กู้จื่อเฟยคงเข้ามากอดเธอร้องห่มร้องไห้ เช็ดน้ำมูกน้ำตาบนตัวเธอแล้ว
ตอนนี้ผ่านเรื่องมามากมายขนาดนี้ กู้จื่อเฟยก็คุ้นเติบโตขึ้นมาก และยังสามารถอดทนอดกลั้นต่อความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว
แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ของเธอ เย้นหว่านจึงเจ็บปวดใจมาก
คุณหนูสูงส่งผู้ไร้ซึ่งความกังวลใดๆ กู้จื่อเฟยไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้
เย้นหว่านเม้มปาก เดินตรงเข้าไปด้านหน้าของกู้จื่อเฟยแล้วเอื้อมมือไปกอดเธอไว้
เธอพูดอย่างหยอกล้อ “กลับไปที่เมืองหนานเป็นเด็กดีรอฉันนะ รอพี่สาวจัดการเรื่องนุ่งเสร็จแล้วจะกลับไปหาเธอ ถึงตอนนั้นแล้วเธอต้องพาฉันไปดื่มเที่ยวด้วยล่ะ ห้ามปฏิเสธนะ”
“ยัยเย้นหว่าน ยังไม่ทันไปเลย ก็คิดจะโกงฉันยังไงซะแล้ว”
กู้จื่อเฟยตบหลังเย้นหว่านเบาๆ น้ำเสียงสะอึกสะอื้น
“งั้นก็พูดแล้วนะ เธอจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย ฉันจะพาเธอไปเที่ยวเล่น ดื่มจนฟ้าสางไม่งั้นก็ไม่กลับบ้าน!”
“ได้เลย!” เย้นหว่านพยักหน้าอย่างขึงขัง
ครั้งหนึ่งเธอและกู้จื่อเฟยก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจก็จะนัดกันไปเฮ้วไปเที่ยวด้วยกันเสมอ แต่นับหลังจากที่จากไปเมืองหนานแล้ว ก็คงไม่มีวันเวลาแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
พวกเธอต่างผ่านเรื่องราวมามากมาย จนไม่อาจจะไม่ทุกข์ไม่ร้อนได้อย่างแต่ก่อนอีกแล้ว
แต่เย้นหว่านเชื่อว่า หลังจากผ่านความยากลำบากทั้งหมดไปแล้ว จะมีชีวิตที่สุขสงบรออยู่ข้างหน้าเสมอ
เธอและกู้จื่อเฟยเองก็เช่นกัน
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ทั้งสองถึงผละจากกันอย่างไม่เต็มใจ กู้จื่อเฟยดวงตาแดงก่ำ น้ำตาแทบทนไม่ไหวไหลออกมาอยู่แล้ว
การแยกจากครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะได้เจอเย้นหว่าน
ยิ่งไม่อาจรับประกันว่าเย้นหว่านจะกลับมาอย่างปลอดภัย
ทำได้เพียงแค่รอคอยด้วยความหวังเท่านั้น
เย้นหว่านร่ำลากับกู้จื่อเฟยเสร็จก็ เงยมองไปทางกู้ซึงที่ยืนอยู่ข้างๆ
ตาสองคู่สบกัน กู้ซึงชะงักเล็กน้อย แววตาซับซ้อนและลึกล้ำสว่างวาบในดวงตาของเขา
แต่มันกลับหายวับไป
ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาก็เผยยิ้มล้อเลียน เอ่ยอย่างขี้เล่น
“ฉันเองก็ต้องกอดร่ำลากันด้วยมั้ย?”
โห้หลีเฉินที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก สายตาอันตรายทิ่มแทงกู้ซึง ทั้งเย็นชาและแหลมคม ราวกับจะขูดเขาออกไป
รอบข้าง แม้แต่ความอบอุ่นของอากาศก็ราวกับจะลดลงไปหลายองศา
มุมปากเย้นหว่านกระตุก พูดไม่ออกไปชั่วขณะ กู้ซึงนี่หาเรื่องเก่งจริงๆ เขาอาวรณ์เตียงผู้ป่วยนักหรือยังไง? อาการบาดเจ็บดีขึ้นเร็ว แล้วอยากจะโดนโห้หลีเฉินทุบตีจะได้อยู่ต่อเหรอ
“นายน่ะช่างเถอะ ชายหญิงควรเว้นระยะห่าง”
เย้นหว่านยั้งไว้อย่างติดตลก มองร่างกายของกู้ซึงอย่างไม่สบายใจ
เธอขมวดคิ้วเอ่ยเตือน “บาดแผลของนายยังไม่หายดีทั้งหมด กลับไปก็ต้องให้คนดูแลอย่างละเอียดรอบคอบ หลีกเลี่ยงการทิ้งรอยแผลเป็นและผลข้างเคียง จริงสิ ก่อนแผลจะหาย ให้ดีนายอย่าสูบบุหรี่ดื่มเหล้าล่ะ อาหารก็กินอ่อนๆ หน่อย”
กู้ซึงจ้องมองเย้นหว่านอย่างนึกสนุก เอ่ยแซวด้วยรอยยิ้ม
“ร่ำรี้ร่ำไรน่า อย่างกับคุณยายอย่างนั้นแหละ เธอไม่กลัวถูกโห้หลีเฉินเหม็นหน้าเหรอ?”
เย้นหว่านสำลัก รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
กู้ซึงนี่มันปากเสียเกินเยียวยาจริงๆ เธอบอกเขาด้วยความหวังดี ยังถูกเขาตอบโต้กลับมาอีก
เกินไปแล้ว
เย้นหว่านส่งเสียงฮึออกมา เธอหันหน้าแล้วเดินจากไป
ขี้เกียจจะพูดกับเขาให้มากความ อารมณ์เสียเปล่าๆ
กู้ซึงมองแผ่นหลังของเย้นหว่าน รอยยิ้มที่มุมปากนั้นดูเหมือนจะแข็งเกร็งไปชั่วขณะ ในดวงตา เก็บซ่อนความขมขื่นและผูกพันอย่างไม่อาจประมาณ
จากกันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะได้พบกัน
บางที อาจจะเป็นชั่วชีวิต
ในใจเต็มไปด้วยความเศร้า แต่กลับไร้ที่จะบรรเทา
“ไม่ควรจะเป็นของนาย ก็อย่าโลภ รักษาใจตัวเองให้ดี”
เสียงของโห้หลีเฉินดังขึ้นห่างไปไม่ใกล้ไม่ไกล
มันเบามาก มีเพียงกู้ซึงที่สามารถได้ยิน
นั่นคือคำแนะนำ และคำเตือน
กู้ซึงอึ้งไปเล็กหน่อย ค่อนข้างลนลาน โห้หลีเฉินมองความคิดเขาออกงั้นเหรอ?
ต้องเผชิญกับสายตาอันตรายคมกริบของโห้หลีเฉิน บวกกับคำที่เขาพูด ทันใดนั้นกู้ซึงก็สงบลงแล้วยิ้มขื่นอย่างจำใจ
ความคิดที่ซ่อนเอาไว้อย่างระมัดระวัง ที่เขาไม่กล้าเปิดเผย ถูกโห้หลีเฉินมองออกในทันที
ไม่รู้จะบอกว่าโห้หลีเฉินตาดีเกินไป หรือการแสดงของเขามันไม่ได้เรื่องเกินไปดี
เพียงแต่คำพูดของโห้หลีเฉิน กลับไม่ได้พูดผิดไปเลย
สิ่งที่ไม่ควรเป็นของเขา ก็อย่าโลภ ไม่อย่างนั้นมันจะทำร้ายทั้งคนอื่นและตัวเอง
เขาเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี ก็ไม่ควรจะอาวรณ์ให้มากไป
เพียงแต่…..
สุดท้ายนี้ขอให้เขาได้ส่งเย้นหว่าน บอกลาเธอ แล้วมองเธอจากไปอีกครั้ง
เย้นหว่านไม่ได้ยืดเยื้อนานนัก เธอโบกมือแล้วจึงขึ้นรถ
ไม่ว่าจะเย้นเจิ้นจื๋อหรือเย้นหว่าน หรือจะเป็นกู้ซึง ต่างก็เป็นคนที่เธอห่วงใย การร่ำลาสำหรับเธอนั้นก็เรื่องที่น่าเศร้าเรื่องหนึ่ง
การไปครั้งนี้ ใช้เวลาเนิ่นนาน ไม่สามารถกลับมาหาได้เป็นเวลานาน
เพียงจากไปอย่างสดใสสักหน่อย จะได้ไม่รู้สึกแย่ขนาดนั้น