สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่674 อุบัติเหตุกะทันหัน
บทที่674 อุบัติเหตุกะทันหัน
โห้หลีเฉินมองไปยังเย้นหว่านด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ในอกอึดอัดใจอย่างมาก
เขาไม่เคยเข้าใจเลย สิ่งที่เย้นหว่านพูดและทำ ทั้งหมดก็ไตร่ตรองเพื่อเขา เพื่อให้เขาเบาใจไปบ้าง ให้เขาไม่ต้องรู้สึกผิด
ระหว่างทางมานี้ ที่เขาพาเธอมาทนทุกข์ ก็หักใจยากมากแล้ว
แต่กลับเป็นเพราะเขา จึงได้ละทิ้งโอกาสที่จะเป็นแม่อย่างสิ้นเชิง ทุก ๆ ครั้ง ไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้ถุงยาง ล้วนเป็นการย้ำเตือนทั้งสองทาง ถึงการทำความเดือดร้อนของเขา
เย้นหว่านเห็นสีหน้าย่ำแย่ของโห้หลีเฉิน ในใจก็ยิ่งวิตกขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งที่เธอกลัวที่สุด นั่นคือการที่เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้
เธอคว้ามือของเขาอย่างตื่นตระหนก อธิบายด้วยน้ำเสียงลนลาน
“โห้หลีเฉิน ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันไม่สนใจหรอก ได้มาตามหายากับนายก็ถือเป็นการเดินทาง และฉันก็ยังอายุน้อย ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีลูก”
“นายอย่าคิดมากไปเลยนะ?”
ในประโยคสุดท้ายนั้น น้ำเสียงของเธออ่อนแอ เต็มไปด้วยความกังวลและตื่นตระหนก
หัวใจของโห้หลีเฉินบีบรัดอย่างอดไม่ได้
เขามองตรงไปที่เธอ ในหัวใจอึดอัดราวกับมีอะไรทับอยู่ มีความเจ็บปวดประดังประเดเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
“เย้นหว่าน”
น้ำเสียงแผ่วเบาของเขาเรียกชื่อของเธอ
ใจของเย้นหว่านพลันเป็นกังวลขึ้นมา มองเขาด้วยแววตาส่องสว่าง “อื้มอื้ม?”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง จากนั้นไม่นาน จึงพูดขึ้นช้า ๆ
น้ำเสียงทุ้มต่ำหนักแน่นและทรงพลัง “ฉันไม่ได้บอบบางอย่างที่เธอคิด ฉันคือผู้ชายของเธอ เรื่องทั้งหมดก็ให้ฉันแบกรับไว้เถอะ”
มือใหญ่ของเขาจับมือเล็กของเธอกลับ บีบกุมเอาไว้แน่นในอุ้งมือ
“ฉันจะหายาให้เจอโดยเร็วที่สุด สามปีให้หลัง พวกเราจะต้องได้มีลูกเป็นของตัวเองแน่นอน”
ขอเพียงแค่รออีกสามก็พอ
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้
แต่บางที เขาคงทำได้แค่ปลอบเธอแบบนี้
แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ไม่รู้สึกผิด ให้เธอมองไปข้างหน้า ให้คำมั่นกับสัญญาสามปี
แต่ในใจนั้น แท้จริงก็คงจะทรมานสินะ
เย้นหว่านหดหู่อยู่ในใจ เบื้องหน้านั้นเธอพยักหน้าอย่างจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่นและก็สะอื้นอีกครั้ง
“ได้สิ!”
พวกเขาก็แค่รอสามปีเท่านั้น ก็จะต้องมีลูกของตัวเองอย่างแน่นอน
จะต้อง มีความสุขแน่
โห้หลีเฉินกุมมือเล็กของเย้นหว่านแน่นขึ้น พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เบามาก
“ต่อจากนี้ ฉันจะใช้ถุง”
นั่น….เย้นหว่านลังเลเล็กน้อย
แต่โห้หลีเฉินกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ เขาโยนยาคุมกำเนิดทิ้งลงถังขยะด้านข้างทันที
เย้นหว่านมองขวดยาคุมกำเนิดตาค้าง ในใจไม่มีความคิดเห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อเปิดเผยไปแล้ว งั้นจะถุงก็ใช้ถุงเถอะ
เมื่อเพลงสลับฉากเล็ก ๆ ผ่านไป ทั้งคณะก็เข้าสู่เส้นทาง โคลงเคลงอยู่บนรถกันต่อไป
ผ่านไปอีกสองวัน ขบวนรถที่เดิมขับไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ช้าไม่เร็วนั้นกลับหยุดลง
แต่เมื่อหยุดแล้ว ความโคลงเคลงของรถกลับไม่หยุดด้วย สั่นไหวเล็กน้อยเหมือนกับแผ่นดินไหวเบา ๆ
เย้นหว่านรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที “แผ่นดินไหวรึเปล่า?”
โห้หลีเฉินใส่หูฟัง รับรู้สถานการณ์เร็ว ๆ นี้ได้ตลอดเวลา
เขาเอ่ยเสียงทุ้ม “ไม่มีอะไร ก่อนหน้านี้ไม่นานเดินหิมะถล่ม ตอนนี้เป็นแค่แรงสะเทือนที่เหลืออยู่เท่านั้น”
หิมะถล่ม
เธอเคยเห็นในโทรทัศน์ หิมะถล่มนั้นฝังคนได้ทั้งเป็น
ที่นี่สูงเหนือระดับน้ำทะเลสูงมาก รอบทิศเป็นสีขาวโพลนกว้างสุดลูกหูลูกตา และกองหิมะหนาเตอะ
ถ้าเกิดหิมะถล่ม ก็จะเกิดพื้นดินไหวภูเขาสะเทือน
โชคดีที่มันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ถล่มลงมาตอนที่พวกเขาขับผ่านไป ไม่อย่างนั้นน่ากลัวว่าพวกเขาทั้งกลุ่มคงถูกฝังทั้งเป็น
“ถนนข้างหน้าถูกหิมะกลบไปแล้ว จะต้องเปิดทางใหม่ ต้องรอสักพัก”
โห้หลีเฉินอธิบายให้กับเย้นหว่านต่อ
เย้นหว่านไปข้างหน้าจากกระจกหน้า เธอเห็นคนของรถคันข้างหน้าแทบจะลงมาจากรถกันหมด โดยถือของต่าง ๆ เดินตรงไปข้างหน้า
คงจะไปเปิดทางกันแล้ว
พอดีกับที่เย้นหว่านเองก็นั่งอยู่ในรถมานานแล้ว ร่างกายค่อนข้างปวดเมื่อยแล้ว
“ฉันลงไปดูหน่อยได้มั้ย?”
“อืม”
โห้หลีเฉินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ห่อชุดกันความเย็นที่เตรียมเอาไว้ข้าง ๆ บนตัวของเย้นหว่านอย่างเสร็จสรรพ
ช่วงเวลาสิบวันมานี้ เย้นหว่านเคยชินกับความอบอุ่นในรถและอากาศหนาวเย็นด้านนอกรถแล้ว
เธอเปลี่ยนชุดกันความเย็นอย่างรวดเร็ว ใส่หมวก แล้วจึงลงจากรถไป
เพียงเพิ่งลงจากรถ ลมหนาวที่บาดผิวเสียดกระดูกก็หวีดร้อง
หนาวมาก
เย้นหว่านยกคอเสื้อสูงขึ้นเล็กน้อย ก่อนเข้าไปในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินอีกครั้ง
ในขณะที่ร่างสูงของเขาให้ความอบอุ่นกับเธอ ยังช่วยป้องกันลมหนาวส่วนใหญ่ให้เธออีกด้วย
“เดินช้า ๆ หน่อย ถนนตรงนี้ลื่นไม่มั่นคง”
โห้หลีเฉินพาเย้นหว่านเดินอยู่ที่ด้านในของถนน
ถนนนี้ถือว่าค่อนข้างกว้างกว่าถนนบนภูเขาแคบ ๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ดีไม่ดียืนได้ถึงสองสามคน
แต่ด้านข้างของถนน ก็ยังคงเป็นหน้าผาที่ลึกจนไม่เห็นก้น
ถ้าคนตกลงไปจากตรงนี้ ก็คงจะเหมือนลูกบอลกลิ้ง คงจะตึงตึงตึงกลิ้งไปด้านล่างที่เมฆหมอกตลบอบอวล หุบเหวที่มองไม่เห็น
เย้นหว่านมองไปยังเหวลึกใต้เท้า ถามเสียงเบา
“โห้หลีเฉิน นายว่าถ้าตกลงไปจากตรงนี้จะยังมีโอกาสรอดมั้ย?”
โห้หลีเฉินมองไปที่หน้าผา เขาเม้มปาก
“ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
เขาจะไม่พูดถึงเรื่องที่แน่นอน โอกาสที่จะรอดชีวิตนั้น มันน้อยจริง ๆ
เย้นหว่านเหนี่ยวโห้หลีเฉินให้แน่นขึ้นอีกหน่อย เธอก็จะไม่ตกลงไปแล้ว
โห้หลีเฉินเห็นร่างเล็กของเธอที่พึ่งพาตัวเองอยู่ มุมปากของเขาก็ยกขึ้นด้วยความเอ็นดู
“มีฉันอยู่ ไม่ให้เธอตกลงไปหรอก”
เย้นหว่านพยักหน้า จิตใจแน่วแน่
ไม่ว่าตอนไหน โห้หลีเฉินจะรับรองความปลอดภัยของเธอเสมอ เขานั้นไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
รถข้างหน้ามีสามคัน พวกเขาเดินไปถึงรถคันหน้าสุดย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้น บอดี้การ์ดทั้งหมดของขบวนรถต่างลงมากันแล้ว และกำลังยุ่งกับการเปิดทาง
เย้นโม่หลินคอยสั่งการอยู่ข้าง ๆ
โดยป่ายฉีนั้นยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเกียจคร้าน มองดูอย่างเฉยเมย
เดิมเย้นหว่านคิดจะเดินไปข้าง ๆ ป่ายฉี แต่โห้หลีเฉินหลับดึงเธอเอาไว้ เสียงทุ้มเอ่ย
“เธออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว”
ตำแหน่งที่เธอยืน เป็นด้านในของถนน ชิดกับภูเขา
ส่วนป่ายฉียืนอยู่ที่เลนนอกของถนน ห่างจากไหล่ทางด้วยระยะห่างเพียงสองสามก้าวเท่านั้น
แม้ว่าข้างตัวจะเป็นหน้าผาที่ลึกจนไม่เห็นก้น แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด ยืนอย่างสบาย ๆ เหมือนกับในตอนปกติอย่างนั้น
ใจกล้าจริง ๆ
แต่ก็ดูอันตรายหน่อย ๆ เหมือนกัน
เย้นหว่านพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ป่ายฉี นายยืนเข้ามาอีกหน่อยเถอะ”
ป่ายฉีมุมปากยกยิ้ม ไม่สนใจแม้แต่น้อย
“ฉันอยู่ตรงนี้ปลอดภัยดีน่า เธอดูพวกเขาสิ เท้าตกลงไปในหน้าผาครึ่งหนึ่งแล้ว”
ในขณะนั้น เหล่าบอดี้การ์ดที่กำลังดันทางอยู่นั้น ด้วยเหตุผลด้านตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องจักร แทบครึ่งหนึ่งของเท้าจึงเหยียบอยู่ด้านล่างของหน้าผาแล้วจริง ๆ
ดูเหมือนว่า ราวกับจะตกลงไปได้ทุกเมื่ออย่างน่ากลัว
แถมหิมะที่อยู่ด้านข้าง ก็ไถลลงมาเรื่อย ๆ
เย้นหว่านเห็นแล้วก็สูดหายใจ เอ่ยอย่างเป็นกังวล “มาตรการความปลอดภัยของพวกเขาเพียงพอรึเปล่า?”
โห้หลีเฉินเหลือบมองป่ายฉีอย่างไม่พอใจ ก็รู้ว่าจะทำให้เย้นหว่านตกใจกลัว
เขาอธิบายอย่างใจเย็น “ไม่หรอก พวกเขา….”
ยังไม่ทันพูดจบ ในตอนนั้นเอง ทันใดนั้นเสียงแกร๊กน่าขนลุกก็ดังขึ้นจากด้านข้าง
เห็นเพียงพื้นที่ป่ายฉียืนอยู่นั้น ปรากฏรอยแตกขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมันก็ถล่มลงมาด้วยความเร็วที่มนุษย์ไม่อาจตอบสนองได้ทัน
“ป่ายฉี!”
เย้นหว่านตาแทบหลุด เห็นป่ายฉีที่เดิมทีกำลังยืนอยู่อย่างสบาย ๆ ร่วงลงไปพร้อมกับหิมะอย่างกะทันหัน
ด้านล่างนั่น มันเป็นเหวที่มองไม่เห็นก้นเชียวนะ!