สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่682 ฉันแบกเธอดีกว่า
บทที่682 ฉันแบกเธอดีกว่า
สถานการณ์ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ค่อนข้างจะลำบาก พวกเขาต้องแข่งกับเวลาเพื่อรีบออกจากทุ่งหิมะแห่งนี้
ห้ามขี้เซาเด็ดขาด
ความง่วงของเย้นหว่านนั้นหายไปในทันที เธอลืมตาขึ้น แล้วก็ลึกขึ้นนั่งจากถุงนอน
เธอพึ่งจะขยับ โห้หลีเฉินก็จับเธอไว้
“เดี๋ยวก่อน ด้านนอกหนาว เธอใส่เสื้อผ้าในถุงนอนนั่นแหละ”
หลังจากพูดจบ โห้หลีเฉินก็ลุกขึ้นนั่งข้างๆ แล้วก็หยิบเสื้อผ้าของเย้นหว่านจากทางด้านหลังของเขา หลังจากนั้นก็สวมเสื้อเข้าไปที่หน้าอกของเย้นหว่านด้วยท่าทีที่รวดเร็วและว่องไว
วินาทีที่โห้หลีเฉินออกไปนั่น ความหนาวจากด้านนอกก็พุ่งเข้ามา ทำให้เย้นหว่านรู้สึกหนาวถึงกระดูก
แต่ว่าตอนที่หน้าอกของเธอมีเสื้อผ้าสวมเข้ามานั่น ด้านบนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นแล้ว
เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอมองหน้าโห้หลีเฉินอย่างแปลกใจ เมื่อกี้ตอนที่เธอกำลังนอนหลับอยู่นั้น เขาหยิบเสื้อผ้าเธอเข้ามาไว้ที่ถุงนอนแล้วยังงั้นเหรอ?
นี่เป็นวิธีที่เธอใช้เวลาที่อากาศมันหนาวเกินไป เอาเสื้อผ้ามาไว้ในถุงนอนก่อนเผื่อทำให้มันอุ่น
แต่ไม่คิดเลยว่า โห้หลีเฉินที่เป็นผู้ชายที่สูงส่งไม่เหมือนคนปกติทั่วไปนั้น จะทำเรื่องแบบนี้เพื่อเธอ
เย้นหว่านนั้นรู้สึกหอมหวานในใจ จนแทบจะแตกเป็นฟอง
พอเห็นเย้นหว่านมองมาที่ตัวเองด้วยสายตางุนงง สายตาของโห้หลีเฉินก็ลึกซึ้ง รู้สึกดีเป็นพิเศษ
เขาคลี่รอยยิ้มที่มีความสุข แล้วก็พูดด้วยความรักและทะนุถนอมว่า
“เธอใส่เสื้อผ้าไปก่อน ฉันจะไปอุ่นอาหาร”
หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นจากถุงนอน แล้วก็ค่อยๆ ใส่เสื้อผ้า
เย้นหวานจ้องมองเขาอย่างงุนงง ในใจมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
โห้หลีเฉินในตอนนี้นั้น ใกล้เคียงกับการที่เหมือนคนธรรมดาที่สุด เรื่องแบบนี้ เดิมทีมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้นกับเขา
แต่ว่าเขาแบบนี้นั้น กลับทำให้เย้นหว่านรู้สึกได้ถึงความเป็นจริงของชีวิต
ระหว่างเขาและเธอนั้น ที่แท้ก็สามารถเป็นคู่สามีภรรยาตัวน้อยๆ แบบปกติทั่วไปได้
โห้หลีเฉินกำลังจะเอาอาหารไปอุ่น แต่ว่าก็ถูกสายตาที่ร้อนแรงของเย้นหว่านจ้องมองทุกการกระทำของเขา
แววตาของเขามืดมน แล้วก็จ้องมองเธออย่างรุกราน
“เธอมองฉันแบบนี้ เป็นการเชื้อเชิญให้ฉันทำอะไรกับเธอรึเปล่า? ”
สายตาที่ผู้หญิงมองมาที่ผู้ชายนั้น ในสายตาของผู้ชายคนหนึ่งแล้ว มันคือการเชื้อเชิญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นมาทันที แล้วก็รีบหลบสายตา
เธอบ่นพึมพำออกมา “ลามก”
โห้หลีเฉินจ้องเธอนิ่ง มีรอยยิ้มที่ชัดเจนเกิดขึ้นที่มุมปากของเขา
“ลามก ก็ลามกแค่กับเธอคนเดียวนั่นแหละ”
คำพูดที่คลุมเครือ เกิดขึ้นในเต็นท์นั้น ก็เหมือนกับว่าเพิ่มอุณหภูมิให้สูงยิ่งขึ้น
เย้นหว่านหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ในหัวอยากจะพูดว่าเขาหน้าไม่อาย แต่ว่ามุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้น
เธอหน้าแดง รีบเอาหัวมุดเข้าไปในถุงนอน หลบสายตาแล้วก็เริ่มใส่เสื้อผ้า
โห้หลีเฉินเฝ้ามองปฏิกิริยาที่น่ารักของผู้หญิงคนนั้นอย่างเอ็นดู ในใจเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างเติมให้เต็ม
แต่ว่าในแววตาของเขา กลับมีความกังวลอยู่ลึกๆ
ถ้าเกิดว่าสามารถเป็นแบบนี้ไปได้ตลอดชีวิต ใช้ชีวิตที่ธรรมดาเรียบง่าย เขาก็เต็มใจที่จะลำบาก แต่ว่าโรคของเขา…..
เมื่อมองไปที่หิมะที่กว้างใหญ่ด้านนอกผ่านรูหน้าต่างเล็กๆ นั้น ความไม่แน่นอนของการตามหายาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เวลาสามปี มันเพียงพอจริงๆ เหรอ?
อาหารแห้งที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ติดตั้งง่าย ไม่กินพื้นที่ แต่ก็สามารถอุ่นให้ร้อนได้
ถึงแม้ว่ารสชาติจะไม่ดีเท่าอาหารที่สดใหม่ แต่ว่าการที่กินอาหารด่วนด้านนอกแบบนี้ รสชาติมันก็ไม่สามารถดีไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่เสริมสมดุลด้านโภชนาการ และสามารถเพิ่มอุณหภูมิได้
ตอนที่เย้นหว่านกินอาหารเช้าเสร็จนั้น ก็รู้สึกอิ่มแล้ว อุณหภูมิร่างกายก็เพิ่มขึ้น รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ แต่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ กลับดูแลเธออย่างเอาใจใส่และอบอุ่น
ทันใดนั้นเธอก็ไม่รู้สึกกลัวหิมะที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตนี้อีกต่อไปแล้ว
เวลาผ่านไปหนึ่งคืน มือของโห้หลีเฉินยังคงจับอยู่ที่คอ แต่ว่าอาการของเขาดีขึ้นมาก ทำอะไรได้เรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
พวกเขาทั้งสองคนช่วยกันแพ็คข้าวของ ผ่านไปไม่นาน ก็สามารถเก็บเต็นท์ได้ทั้งหมดแล้ว
และออกเดินทางอีกครั้ง
โห้หลีเฉินและเย้นหว่านกอดกัน ในทุ่งหิมะที่หนาแน่นแห่งนี้ พวกเขาค่อยๆ เดินไปข้างหน้าด้วยกัน
เวลาสองสามวัน ความทรมานนั้นมันผ่านไปอย่างช้าๆ แต่มันก็เลื่อนผ่านนิ้วอย่างรวดเร็ว
อาการบาดเจ็บของโห้หลีเฉินนั้นดีขึ้นกว่าครึ่ง และไม่ต้องคอยแขวนไว้อีกต่อไปแล้ว
แต่ว่าร่างกายและอาการของเย้นหว่านนั้น กลับแย่ลงทุกวัน
ทุกๆ วันท่ามกลางหิมะสีขาวที่ไร้ขอบเขต เดินไปตามถนนที่นับแทบไม่ถ้วน เมื่อเห็นหิมะเธอไม่ได้มีความสุขและรู้สึกชื่นชมอีกต่อไป เหลือเพียงแต่ดวงตาที่พร่ามัวเท่านั้น ดวงตาเหมือนกับโดนความขาวของหิมะทิ่มแทงจนจะมืดบอด มองความขาวอย่างพร่ามัวไปหมด
ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่จากที่ชอบกลายเป็นเกลียด มันเป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ ไม่กี่วันเท่านั้นเอง
เย้นหว่านคิดว่า ถ้าเกิดว่าสามารถทำได้ ตลอดชีวิตนี้เธอไม่อยากจะเห็นหิมะอีกแล้ว ต่อไปเธอต้องหาสถานที่ที่อบอุ่น เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือไปตลอดชีวิต
แต่ว่าความจริงนั้น ยังคงปรากฏให้เห็นชัดอยู่ทั่วทุกหนแห่ง คือความเย็นที่เข้ากระดูก
แล้วก็ความเหนื่อยล้าที่ทำให้คนสามารถล้มลงไปได้
เธอเหนื่อยเกินไปแล้ว
ต้องเดินไปตามถนนที่นับไม่ถ้วนอยู่ทุกวัน ทนกับความหนาวเย็น เรี่ยวแรงของเธอนั้นหมดลงไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก้าวของเธอนั้นเต็มไปด้วยความทรมาน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ รู้สึกเหมือนกับว่าเดินมาหลายศตวรรษ แต่หนทางข้างหน้ายังคงมีหิมะขาวโพลนไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนกับว่าตลอดชีวิตนี้จะเดินออกไปไม่ได้อีกแล้ว
“เย้นหว่าน เธอโอเคไหม? ”
โห้หลีเฉินที่กอดเย้นหว่านแล้วก็เดินช้าๆ ไปด้วยกันนั้น จู่ๆ ก็หยุดเดิน มองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาที่จริงจังและหนักแน่น
คอเสื้อตั้งสูง ปิดจมูกเธอมากกว่าครึ่ง บนศีรษะสวมหมวกหนาๆ ปิดคิ้วเธอไปด้วยเหมือนกัน
ใบหน้าเล็กๆ นั้น แทบจะมีเพียงแค่ดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่โผล่ออกมาในตอนนี้
แต่ว่าดวงตาที่ปกติดูเฉียบแหลมคู่นี้ ตอนนี้ดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก เธอแม้แต่พยายามที่จะลืมตา ปฏิเสธที่จะหลับไป
เหนื่อยจนถึงขีดสุด ต่อให้ไม่ง่วงก็อยากจะนอน
เหมือนกับว่าเย้นหว่านใช้เวลาสองถึงสามวินาทีในการทำความเข้าใจสิ่งที่โห้หลีเฉินพูด เธอกะพริบตา มองเขา แล้วก็ค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ
“อืม ฉันสบายดีมาก”
เสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย แต่ว่ายังคงเสแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง
โห้หลีเฉินรู้สึกปวดใจอย่างอดไม่ได้
เขาจะมองไม่ออกได้ยังไง ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเย้นหว่านนั้นมันแย่แล้ว แต่ว่าเธอยังคงฝืน
เขาเม้มปาก แล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ
“ฉันแบกเธอไปเอง”
เย้นหว่านอึ้งไป หลังจากนั้นก็ปฏิเสธออกมาอย่างอัตโนมัติ
เธอพูดว่า “ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องแบกหรอก”
เธอเหนื่อย เขาก็ต้องเหนื่อยเหมือนกันแน่นอนอยู่แล้ว ปกติเดินในหิมะหนาแบบนี้ก็ยากอยู่แล้ว ถ้าโห้หลีเฉินยังแบกเธออีก มันไม่ใช่แค่หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองแล้ว แต่ว่ามันเป็นสามสี่เท่าเลย
โห้หลีเฉินไม่ขยับ เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาให้ความรู้สึกเหมือนคำสั่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
“อย่าดื้อ ขึ้นมา”
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่กว้างของผู้ชายตรงหน้า เย้นหว่านก็ยังคงส่ายหน้าอย่างแรง
เธออ้อมไปอยู่ด้านข้างของเขา แล้วก็ยื่นมือไปดึงแขนเขา “โห้หลีเฉิน ฉันเดินเองได้จริงๆ นายรีบลุกขึ้นมาเร็ว พวกเราเดินไปด้วยกัน”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแน่น มองไปที่ผู้หญิงที่คิดถึงแต่เขาที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่ซับซ้อน
เธอกังวลว่าเขาจะเหนื่อย แล้วจะให้เขาไม่ปวดใจกับเธอได้ยังไง