สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่689 อะไรคือความแตกต่าง
บทที่689 อะไรคือความแตกต่าง
สีหน้าของโห้หลีเฉินไม่ได้เปลี่ยนไป สายตาเย็นชาและอันตราย ความอยากสังหารนั้นรุนแรงมาก
ใครจะไปรู้ว่าตอนที่เขามาที่นี่ แล้วเห็นเย้นหว่านถูกคนขับไว้ แล้วท่อนไม้หนานั้นกำลังจะฟาดไปที่ร่างกายของเธอนั้น เขาอยากจะประหารคนพวกนี้มากแค่ไหน
เขาก็แค่ไม่อยู่ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ว่าผู้หญิงของเขา กลับได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้ายแบบนี้!
สมควรตาย!
คนพวกนี้ สมควรตายทั้งหมด
โห้หลีเฉินสายตาเย็นชา มือนั้นออกแรงหนักขึ้น
ทั้งร่างกายของเขา เผยให้เห็นความน่าหวาดกลัว เหมือนกับชูร่า
คุณป้าคนนั้นหน้าแดงขึ้นเรื่อยยๆ เหมือนกับว่าจะมีเลือดออกมา อ้าปากพะงาบๆ แต่แม้แต่เสียงที่จะร้องขอความเมตตาก็ไม่มี
เธอเจ็บปวดจนตาเริ่มเหลือกแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เย้นหว่านเห็นโห้หลีเฉินลงมือด้วยตัวเองแบบนี้ แถมยังจะฆ่าคนอีก
ความโหดร้ายที่น่ากลัวเหมือนกับชูร่า ช่างทำให้คนหวาดกลัว
แต่ว่ามันก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
แต่ว่าถ้าเกิดว่าฆ่าคนมันก็เป็นการทำผิดกฎหมาย เธอไม่อยากให้เขาต้องมือเปื้อนเลือดเพราะว่าเธอ
เย้นหว่านเห็นว่าคุณป้าคนนี้กำลังจะตายแล้ว อยากจะห้าม แต่ว่าก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
“คุณโห้ เดี๋ยวก่อน!”
มีชายวัยกลางคนในวัยสี่สอบกว่าๆ เดินเข้ามา สวมใส่เสื้อผ้าชั้นเยี่ยม ดูเป็นผู้ดีที่เหนือกว่ามาก
เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วขอร้องว่า
“คุณโห้ ภรรยาของผมทำผิดไป ผมจะลงโทษเธอให้หนัก! เห็นแก่ผม ยกโทษด้วยการไว้ชีวิตเธอเถอะนะครับ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว นิ้วที่เรียวยาวยังคงบีบที่คอของคุณป้าคนนั้น
คุณป้าคนนั้นตาเหลือกมากยิ่งขึ้น เธอแทบจะหมดลมหายใจแล้ว
ผู้ชายคนนั้นเห็นแล้วรู้สึกปวดหัว ก็รีบพูดว่า
“คุณโห้ ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่ว่าถ้าเกิดว่าคุณฆ่าคนเพราะว่าน้องสาวของคุณ จากนี้ไปน้องสาวของคุณจะกลายเป็นศัตรูกับผู้หญิงทุกคนที่นี่ สถานการณ์ของเธอจะยากขึ้นนะครับ ”
พอพูดประโยคนี้ออกไป มือของโห้หลีเฉินที่บีบแน่นอยู่นั้นก็หยุดลงทันที
บนใบหน้าที่หล่อเหลานั้น รูปลักษณ์นั้นหม่นหมองราวกับว่ามีเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์เต็มไปหมด
หลังจากผ่านไปอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่คุณป้าคนนั้นเกือบจะเป็นลมเขาก็ปล่อยและปล่อยให้คุณป้าคนนั้นล้มลงกับพื้น
เมื่อคุณป้าคนนั้นเป็นอิสระ เธอก็ไอและเธอกอดคอของเธอ
ผู้ชายคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วก็พูดว่า
“คุณโห้วางใจเถอะครับ ภรรยาของผมไม่รู้เรื่องราว ผมจะลงโทษเธอให้หนักเลย”
คุณป้าคนนั้นจับคอของตัวเองพร้อมกับไอ แต่ว่าก็ยังไม่ลืมที่จะเถียง
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ยัยเด็กคนนี้เธอ……”
“หุบปาก!”
ผู้ชายคนนั้นตำหนิด้วยสีหน้าที่มืดมน “เย้นหว่านกับพวกเธอไม่เหมือนกัน เธอคือคนที่มาจากภายนอก วิธีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกับพวกเรา วิธีการแบบนั้นของพวกเธอ อย่าเอามาใช้กับเธอ! ”
“ในเมื่อมาที่ประเทศเบียนหนาน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของประเทศเบียนหนาน” คุณป้าคนนั้นไม่พอใจ
ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าสีหน้าของโห้หลีเฉินเยือกเย็นมากกว่าเดิม ก็แทบจะทนไม่ไหวที่จะตบผู้หญิงโง่คนนี้ให้ตาย
กล้ารังแกเย้นหว่านต่อหน้าโห้หลีเฉิน สงสัยไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วจริงๆ
“หุบปากของเธอเดี๋ยวนี้!”
ผู้ชายคนนี้ไม่พูดพล่ามอะไรมาก แล้วก็เตะเข้าไปที่ร่างกายของคุณป้าคนนี้ทันที
เห็นได้ชัดว่ามันแรงมาก คุณป้าคนนั้นนอนลงไปกับพื้นทันที
เธอหุบปากด้วยความหวาดกลัวทันที แม้แต่จ้องเย้นหว่านอย่างคับแค้นใจ
เย้นหว่าน “……”
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ตอนแรกโห้หลีเฉินจะฆ่าเธอ หลังจากนั้นผู้ชายคนนี้ก็ทำร้ายเธอ แต่ว่าคุณป้าคนนี้ไม่ได้ตำหนิผู้ชายทั้งสองคนเลย แต่กลับกัน กลับโกรธแค้นเธอยังงั้นเหรอ?
“คุณเย้น ขอโทษด้วยนะครับ ภรรยาผมไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำให้คุณต้องลำบากแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นหันมายิ้มแย้มให้กับเย้นหว่าน แล้วก็ยื่นมือออกไปหาเย้นหว่าน “ผมคือเวนเดลล์”
เขาคือสามีของคุณป้าคนนี้ และก็คือคนที่พาเธอกับโห้หลีเฉินออกมาจากทุ่งหิมะ
ถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอกับโห้หลีเฉิน
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคุณป้าคนนั้นอย่างเต็มที่ แต่ว่าเย้นหว่านก็สามารถแยกบุญคุณได้ ยิ่งไปกว่านั้น เวนเดลล์ก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล
เธอคลี่ยิ้มอย่างมีมารยาท แล้วก็จับมือกับเวนเดลล์
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้นะคะ”
“นั่นมันเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วครับ ชีวิตนี้ของผม ที่ยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าปีนั้นคุณป่ายฉีช่วยเหลือเอาไว้”
เวนเดลล์ยิ้ม ตอนที่พูดถึงป่ายฉีนั้น แววตาก็เต็มไปด้วยความขอบคุณ
เย้นหว่านเม้มปาก
แปลกจริงๆ เวนเดลล์คนนี้ดูเป็นคนที่ดีมาก แถมยังเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ แต่ทำไมภรรยาของเขา ถึงได้ปากร้ายขนาดนี้?
นี่มันเป็นคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย
“แขนของเธอเลือดออก เข้าไปทายาก่อนเถอะ”
สายตาของโห้หลีเฉินมองไปที่เย้นหว่านอย่างมืดมน ผิวหนังมีที่รอยแผลนั้นยังมีเม็ดเลือดอยู่ด้วย
ตอนนี้เองเย้นหว่านถึงได้พึ่งรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แขนของตัวเอง
เธอเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงที่นี่ไม่มีใครมีเจตนาดีเลยแม้แต่คนเดียว
เธอพยักหน้า ตอนที่กำลังจะเดินออกไปนั้น ทันทีที่จะขยับตัวก็พบว่ามีอาหารปวดที่น่อง
“เป็นอะไรไป?”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว แล้วถามอย่างเป็นห่วง
เย้นหว่านรู้สึกไม่มีทางเลี่ยง “เมื่อกี้ตอนล้ม เหมือนกับว่าน่องจะพลิก ปวดนิดหน่อยน่ะ”
สีหน้าของโห้หลีเฉินดูแย่ขึ้นไปอีก การที่ไม่ฆ่าคุณป้าคนนี้ คือการที่เขาอดทนจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ
เวนเดลล์เห็นท่าทางโมโหที่น่าหวาดกลัวของผู้ชายคนนี้ ก็รีบพูดขึ้นมาทันที
“ในบ้านมียาอยู่ครับ พวกเราเข้าไปทายาให้คุณเย้นก่อนดีกว่า”
เขากลัวว่าถ้าเกิดว่าอยู่ที่นี่อีกสองสามนาที โห้หลีเฉินก็จะฆ่าภรรยาเขาจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะคบค้ากันเป็นเพียงแค่เวลาสั้นๆ แต่ว่าเขาก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า โห้หลีเฉินคนนี้เนี่ย ทรงพลังและดุร้าย ถ้าไปแตะโดนเส้นตายของเขาเข้าก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แล้วอีกอย่าง ประเทศของพวกเขา การฆ่าคุณป้านั้นมันง่ายเหมือนกับการเหยียบมด ไม่ต้องแบกรับความผิดใดๆ เลย
โห้หลีเฉินไม่ได้สนใจเวนเดลล์ ก้าวเข้าไปใกล้เย้นหว่าน
“เดี๋ยวฉันอุ้ม”
พอพูดจบนั้น เขาก็ยื่นมือเข้าไปจะอุ้มเธอ
เวนเดลล์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แล้วก็รีบยื่นมือออกไปจับแขนของโห้หลีเฉิน
“คุณโห้ ไม่ได้นะครับ! ”
ปกติเวลาที่รู้สึกไม่สบาย โห้หลีเฉินก็จะอุ้มเธอขึ้นๆ ลงๆ อย่างปวดใจ เย้นหว่านเองก็ชินแล้วเหมือนกัน เรื่องนี้สำหรับพวกเขาแล้ว เป็นเรื่องที่ปกติมาก
แต่ว่าสีหน้าของเวนเดลล์ เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องที่ถึงแก่ชีวิต
เขาส่งสัญญาณผ่านทางสีหน้าให้โห้หลีเฉิน “คุณเย้นก็แค่เคล็ดเล็กน้อยเท่านั้น ค่อยๆ ประคองเธอไปก็พอแล้วครับ”
พอพูดจบนั้น เขาก็เบาเสียงตัวเองลง แล้วก็พูดในระดับที่มีเพียงแค่คนที่อยู่ใกล้ที่สุดที่จะได้ยินเท่านั้น “ตอนนี้คุณยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำนะครับ”
โห้หลีเฉินสีหน้าหมองคล้ำ สายตาขอบเขา เหมือนกับพยายามยับยั้งไฟแห่งความโกรธในดวงตา
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งนั้น เขาก็มองเย้นหว่านด้วยสีหน้าที่เย็นชา และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “เธอเดินเองได้ไหม? ”
เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ไม่คิดเลยว่าโห้หลีเฉินจะให้เธอเดินเองจริงๆ นี่เขากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่กันแน่?
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงที่สิ่งที่คุณป้าคนนี้บอกเธอ ว่าโห้หลีเฉินบอกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขานั้น เป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้อง ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคู่รัก
ท่ามกลางพวกนี้ ต้องมีเหตุผลบางอย่างที่เธอยังไม่รู้อย่างแน่นอน
แต่ว่าความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้นี้ ทำให้เย้นหว่านรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ และอึดอัด
สุดท้ายเธอก็เข้าใจ แล้วก็พยักหน้าอย่างฉลาดหลักแหลม
“เดินได้”
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เย้นหว่านก็ขยับขาของตัวเอง อดทนต่อความเจ็บปวด แล้วก็ก้าวเดินไปด้านหน้า
อาการเคล็ดของเธอในครั้งนี้ ค่อนข้างจะร้ายแรง
ภายใต้สายตาของทุกคนนั้น เย้นหว่านนั้นพยายามฝืนทนความเจ็บปวด แล้วก็ก้าวเดินไปด้านหน้า