สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่710พ่อหนุ่ม คุณคิดไปไกลจริงๆ
โห้หลีเฉินยิ้มเยาะที่มุมปากของเขาแล้วพูดว่า “ฉันเป็นคนต่างชาติ ท่านดยุกเซอร์รู้ได้ไหมครับ”
เซอร์ยุนซีพยักหน้ารับ “ผมรู้ครับ”
ในตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเย้นหว่านเป็นชาวต่างชาติ แต่ระหว่างทางที่มาที่นี่เขาส่งคนไปตรวจสอบและรู้ข้อมูลของเย้นหว่าน
หลังจากได้เห็นโห้หลีเฉิน เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
โห้หลีเฉินผู้มีความสามารถทุกด้านที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนในราชวงศ์ หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้ยินเรื่องนี้เข้าหู
เป็นที่ทราบกันดีว่าโห้หลีเฉินปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานกับเจ้าหญิงโดยไม่แม้แต่จะคิด ดังนั้นเขาจึงโชคดีอย่างยิ่งที่ข้อเสนอของเขาไม่ถูกปฏิเสธโดยตรง
โห้หลีเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ผมปฏิบัติตามกฎของคุณที่นี่ แต่กฎของทางเราก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้”
“เย้นหว่านของเรา ถูกเลี้ยงดูอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก เป็นสิ่งสำคัญที่ปกป้องไว้ในฝ่ามือมาอย่างดี แม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้ว เธอก็จะไม่สามารถรับใช้หรือดูแลผู้ชายหรือจะเป็นวัวหรือม้ารับใช้ผู้ชายไม่ได้ “
“ถ้าคุณต้องการแต่งงานจริงๆ คุณต้องยกเลิกระบบการปกครองแบบชายที่เหนือกว่า และความต่ำต้อยของเพศหญิงในครอบครัวเธอสำคัญที่สุด คุณไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นรังแกหรือนินทาเธอได้ คุณทำได้หรือเปล่า”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมาเซอร์ยุนซีก็ตะลึงงันไป
เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับคำขอต่างๆ มากมาย แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องนี้
ความคิดที่ว่าผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงนั้นฝังแน่นอยู่ในประเทศเบียนหนานและเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศของเขา
จะให้เขาตัดแนวคิดนี้ตอนนี้ง่ายๆได้อย่างไร
ถ้าแต่งงานกับเธอในอนาคต ทุกอย่างต้องเชื่อฟังเธอ เอาอกเอาใจเธออยู่ตลอด
เรื่องพวกนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศเบียนหนานและไม่เคยมีแบบอย่างให้เห็น
แม้แต่ซาอินติที่เพิ่งตามมาก็ยังตกใจเมื่อได้ยินแบบนี้
เธอบ่นพึมพำ “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ไม่มีทางหรอก”
แนวคิดนี้ฝังรากลึกเข้าสู่กระดูก มีเพียงไม่กี่คนในโลกที่มีความกล้าหาญที่จะต่อต้านได้
ยิ่งไปกว่านั้น เซอร์ยุนซียังคงเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่มีผลต่อประเทศเป็นอย่างมาก
เย้นหว่านมองไปทางโห้หลีเฉินด้วยความตกใจและชื่นชมนับถือ
ก่อนจะเข้าใจ ว่านี่เป็นมาตรการรับมือของโห้หลีเฉิน
ตั้งแต่แรกเริ่มที่โห้หลีเฉินไม่ได้ปฏิเสธออกไปโดยตรง แต่บอกว่าไม่มีใครคู่ควรกับเธอ ดังนั้นเขาจึงเริ่มลงมือจัดการเซอร์ยุนซี ทีละขั้นตอน จนถึงปัจจุบันข้อเรียกร้องสามประการคือบันไดที่ เซอร์ยุนซีไม่สามารถปีนข้ามไปได้
อยู่ที่นี่ ถ้าผู้หญิงปฏิเสธคำขอแต่งงานของผู้ชาย ก็จะมีจุดจบที่เลวร้ายมาก แต่ถ้าฝ่ายชายยอมแพ้โดยสมัครใจ ก็จะเป็นอีกผลลัพธ์หนึ่ง
โห้หลีเฉินพยายามบังคับเซอร์ยุนซีให้ละทิ้งความคิดริเริ่มเอง
ซาอินติมองไปที่เซอร์ยุนซีอย่างร้อนรน จากนั้นก็มองไปที่โห้หลีเฉินแล้วพูดชักชวน
“หลีเฉินคะ คำขอของคุณค่อนข้างลำบากใจ และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนั้น คุณเปลี่ยนคำเรียกร้องของคุณได้ไหมคะ”
“เฮอะ ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับเย้นหว่าน”
โห้หลีเฉินพูดอย่างเย็นชา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกประชดประชัน
เซอร์ยุนซีขมวดคิ้วแน่นมองไปที่เย้นหว่านที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังโห้หลีเฉินด้วยสายตาที่สับสนมาก
เธอเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
บางทีอาจเป็นเพราะเธอเป็นชาวต่างชาติ อิทธิพลทางวัฒนธรรมที่เธอได้รับจากวัยเด็กนั้นแตกต่างกับที่นี่ และนั่นคือเหตุผลที่เธอปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้
เป็นเพราะเหตุนี้ เขาจึงจะชื่นชมและชอบเธอ
การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่มีมาแต่โบราณเป็นสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้แต่เซอร์ยุนซีก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย
แต่ตอนนี้เพื่อให้ได้แต่งงานกับเย้นหว่าน เขายินดีที่จะคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้
เซอร์ยุนซีเม้มริมฝีปาก เขามองตรงไปที่โห้หลีเฉิน แล้วพูดอย่างหนักแน่นและจริงใจ
“โอเคครับ ผมเห็นด้วย จากนี้ไปในบ้านของผมเซอร์ยุนซีคนนี้ จะไม่มีความคิดที่ว่าผู้ชายมีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิงอีกต่อไป เย้นหว่านจะเป็นภรรยาที่มีจุดยืนเท่าเทียมกับผม เป็นภรรยาที่ผมจะรักและเอาแต่ใจไปตลอดชีวิต”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนที่ได้ยินก็พากันถกเถียงจนเกิดเสียงดังไปทั่วงาน
พอผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงได้ยิน พวกเขาทั้งหมดพาหันมองไปที่เซอร์ยุนซีด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“ ท่านดยุกบ้าไปแล้วหรือเปล่า”
“การเลี้ยงดูผู้หญิงอย่างดี นั่นเป็นสิ่งที่น่าตลกที่สุดในโลกเลย”
“เขาเป็นถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
ทุกคนตกใจมาก พวกเขาก็เริ่มพูดแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามัน
และยังพูดต่อหน้าเซอร์ยุนซีด้วย
การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเดิม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อใครก็ตาม จะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ไม่อาจจินตนาการได้
แม้แต่เซอร์ยุนซีก็ไม่มีข้อยกเว้น
ตั้งแต่ตอนที่เขาตัดสินใจ เขาก็รู้ดีว่ากำลังจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาเหลือบมองไปที่ฝูงชน จากนั้นก็หยิบเหรียญสามเหลี่ยมทองคำออกมาจากกระเป๋าหน้าอกของเขา
เขาวางมันลงในฝ่ามือของเขา และส่งให้กับเย้นหว่าน
“นี่คือป้ายดยุกของผม มันแสดงถึงตัวตนและสิทธิของผม คุณมีสิ่งนี้ คุณจะสามารถทำทุกสิ่งภายใต้ขอบเขตอำนาจของผม”
“ จากนี้ไป ผมขอมอบมันให้กับคุณ คุณกับผมเท่าเทียมกัน คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ”
เย้นหว่านตกใจมาก
เธอคิดไม่ถึงว่าเซอร์ยุนซีจะรับปากเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิงได้อย่างง่ายดายแบบนี้ แม้กระทั่งป้ายดยุกก็ยกมันให้กับเธอ
นี่เขาตั้งใจจะปฏิบัติต่อเธอในฐานะที่เท่าเทียมกันจริงๆ
อีกทั้งยังให้อำนาจเธอมากมายด้วย ถ้ามีป้ายดยุก สถานะของเย้นหว่านก็จะสูงขึ้น จนเกือบจะเทียบเท่ากับองค์หญิง
แล้วเธอยังมีอำนาจด้วย
ของขวัญชิ้นนี้ สำหรับในโลกภายนอกแล้ว มันมีค่ามาก
แต่ไม่ว่าจะมีค่าแค่ไหน เธอก็ไม่ได้คิดที่จะรับมันไว้
เย้นหว่านรู้สึกกระวนกระวายใจ เธอกระชับแขนเสื้อของโห้หลีเฉินไว้อย่างหวาดหวั่น
จะทำอย่างไรดี แม้แต่เรื่องแบบนี้เซอร์ยุนซียังยอมตกลงอีก นั่นหมายความว่าด่านแรกของเขาก็ผ่านแล้วน่ะสิ
ไม่นะ ไม่เอา เธอไม่อยากแต่งงานกับเขา
แววตาของโห้หลีเฉินมืดมน ราวกับเหวลึกที่มองไม่เห็นก้นเหว
เขายื่นมือออกไปแล้วหยิบป้ายดยุกมาไว้ในมือ
มุมปากของเขายกยิ้มอย่างเย็นชาและน่าหลงใหล“ ใคร ๆ ก็สามารถพูดได้ แต่ท่านดยุกเข้าใจเรื่องความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิงจริงๆหรือเปล่าว่าต้องทำยังไงบ้าง
ผมจะให้เวลาคุณสามวัน หลังจากนั้นสามวัน ให้คุณมาที่บ้านของเวนเดลล์เพื่อทำการทดสอบ”
ทุกคนดูตกตะลึงแตกตื่นกันมากยิ่งขึ้น
ท่านดยุกเซอร์รับปากกับคำขอของโห้หลีเฉิน เรื่องที่จะแก้ไขเรื่องความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง ขากรรไกรของพวกเขาก็อ้ากว้างจนกระดูกยึด ท่านดยุกเซอร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เขายังไม่ผ่านการทดสอบอีก นี่เขายังต้องทำการทดสอบอีกเหรอ
นี่เป็นยากเกินไปแล้ว
การแสดงออกของเซอร์ยุนซียังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาพยักหน้าอย่างเรียบง่าย
“ได้ครับ สามวันหลังจากนี้ ผมจะมาตรงตามเวลาที่นัดกันไว้ ผมจะทำตามที่คุณบอก และจะผ่านบททดสอบทั้งหมดที่คุณตั้งไว้ให้ได้”
เขารับปากว่าจะยกเลิกความไม่เท่าเทียมระหว่างชายและหญิง และจะรักเย้นหว่าน มันเป็นเพียงการตกลงด้วยวาจาเท่านั้น แม้ว่าจะมอบป้ายดยุกให้กับเย้นหว่าน แต่ก็อาจจะเป็นเพียงวิธีการของเขา
แต่การแต่งงานกัน มันมีความสัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตด้วยกันทุกวันหลังแต่งงานด้วย
เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีแค่คนที่เข้าใจความเท่าเทียมกันระหว่างชายกับหญิงอย่างลึกซึ้ง และรักภรรยาของตนเท่านั้นที่จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขหลังแต่งงานได้
ดังนั้นที่โห้หลีเฉินกำหนดเวลาเป็นสามวันหลังจากนี้ จะทำการทดสอบ
ตอนที่เซอร์ยุนซีตัดสินใจที่จะดูแลเอาใจใส่เย้นหว่าน เขาเข้าใจความหมายของโห้หลีเฉินดี ว่าสามวันหลังจากนี้ เขาจะต้องถูกทดสอบอย่างหนักในอีกสามวันข้างหน้าแน่ๆ
ที่จริงแล้วเขารู้สึกดีใจด้วยซ้ำ คำเรียกร้องของโห้หลีเฉิน จะทำให้เขาเรียนรู้วิธีจะใช้ชีวิตอยู่กับเย้นหว่านหลังแต่งงานได้อย่างราบรื่น
แบบนี้ แสดงว่าในใจของโห้หลีเฉินยอมรับเขาเป็นน้องเขยแล้วใช่ไหม
ทางเดินข้างหน้าจะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน