สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่719 กลั่นแกล้ง
นาทีนี้ ในหมู่คนมีเสียงที่ไม่เหมือนใครดังขึ้น
เป็นเสียงของผู้ชาย เสียงไม่ดัง แต่เต็มไปด้วยความชื่นชม
“ท่านดยุกมีเจ้าของแล้ว พวกคุณคงไม่มีโอกาสแต่งงานกับเขาแล้ว อิจฉาก็ไม่มีประโยชน์ แต่พวกคุณสามารถแต่งงานกับชายอื่นได้ ให้ผู้ชายอีกคนคอยรักและประคบประหงมคุณ”
มีคนโต้แย้งว่า “ดูทั้งประเทศเบียนหนานสิ ยังมีผู้ชายแบบนี้อยู่อีกที่ไหนกัน?”
แนวความคิดที่รากฝังแน่นไม่เพียงผูกมัดผู้หญิงไว้ ยิ่งได้ผูกมัดผู้ชายไว้
“ผู้ชายมีฐานะสูงส่ง ไม่ใช่เพราะพวกผู้หญิงเสนอข้อเรียกร้องไม่เป็นเหรอ ถูกพวกคุณโอ๋จนเสียคนเป็นแบบนี้ พวกคุณดูเย้นหว่านสิ ไม่ใช่เพราะเสนอข้อเรียกร้องเหรอถึงทำให้ท่านดยุกกลายเป็นแบบนี้?”
ผู้ชายพูดอย่างเอ้อระเหย “นี่ก็คงเป็นความรักสินะ ถ้าผมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็จะทำแบบนี้กับเธอเหมือนกัน”
ผู้คนต่างก็แสดงความคิดเห็นกันต่างๆนานา
รัก?
พวกผู้หญิงเหมือนจะตระหนักได้ทันทียังไงอย่างงั้น ไม่ใช่ว่าประเทศเบียนหนานมีผู้ชายแบบนี้หรือเปล่า แต่คือผู้ชายคนนั้นรักตัวเองหรือเปล่า
ถ้าหากรัก ก็จะคิดเผื่อตัวเองเหมือนกับท่านดยุก ก็จะไม่แคร์ความคิดเห็นของชาวโลกเหมือนท่านดยุก และจะรักและประคบประหงมตัวเองเหมือนท่านดยุก
เพราะฉะนั้นพวกเธอก็สามารถไขว่คว้าสวัสดิการเหมือนเย้นหว่านได้!
ความรู้เห็นนี้ทำให้พวกสาวๆเดือดพลุ่งพล่านและตื่นเต้นจนตาเปล่งประกายขึ้นมาในพริบตา
“ฉันจะกลับไปถามสามีที่บ้านฉันดูว่ารักฉันหรือเปล่า”
“ฉันก็เหมือนกันๆ”
พวกเธอรู้สึกทั้งหมดล้วนเป็นการต่ำต้อยที่มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่เคยคิดคำถามนี้มาก่อน
“ต่อไปตอนที่พวกเราแต่งงานกับอีกฝ่ายก็สามารถถามก่อนแต่งได้ ไม่ใช่ตามผู้ชายไปอย่างมึนงงสับสนอย่างนั้นเลย”
“ใช่ๆๆ ที่จริงว่าไปแล้ว เวลาผู้ชายมาสู่ขอ ไม่ว่าพฤติกรรมของเขาจะเป็นยังไง หน้าตาภายนอกและครอบครัวเป็นยังไงบ้าง ล้วนจะต้องแต่งกับเขาทั้งนั้น จุดนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย พวกผู้หญิงอย่างเราไม่มีแม้แต่สิทธิ์จะปฏิเสธเลย”
“ก็นั่นน่ะสิ ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายอย่างท่านดยุกก็ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ผู้หญิงมากมายก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับขี้เหล้า ผีพนัน หรือแม้กระทั่งคนหลายใจ คอยอยู่ด้วยอย่างทนทุกข์ทรมานทั้งชีวิต”
สาวๆยิ่งพูดยิ่งมันส์ แต่หนุ่มๆกลับฟังจนเหงื่อท่วมหัวและกระวนกระวายใจ
ถ้าหากพวกผู้หญิงล้วนกลายเป็นคนที่เรียกร้องนั่นเรียกร้องนี่ ไม่เพียงฐานะที่ผู้ชายอยู่บ้านจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต่อไปแม้แต่แต่งเมียก็จะยากขึ้นทุกวันแล้ว
“ท่านดยุกน่าทึ่งขนาดนี้แล้ว จะไม่มีผู้ชายแบบนี้อีกแน่นอน ฉันคนหนึ่งที่จะไม่เห็นด้วยเด็ดขาด”
“ใช่ ฉันก็ไม่เห็นด้วยหรอก กฎที่บรรพบุรุษสืบทอดกันมา ผู้หญิงก็ควรจะทำตามสิ จะบอกว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ยังไง ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
พวกผู้ชายมีคนเปิดปากพูด ก็มีคนคล้อยตามและโต้แย้งกันขึ้นมา
พวกผู้หญิงที่วิจารณ์กันอย่างคึกคัก ทันใดนั้นต่างก็ตกใจจนเสียงหาย ไม่กล้าไปปฏิเสธผู้ชายพวกนี้ด้วยสัญชาตญาณ
พริบตาเดียว ฉากในเหตุการณ์ก็ได้กลายเป็นฉากหลักของพวกผู้ชายอีก
พวกผู้ชายหัวเราะอย่างได้ใจ นี่สิถึงจะเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องที่สมควร
แต่แล้ว จู่ๆในหมู่คนมีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “ถ้าไม่แก้ พวกผู้หญิงอย่างเราก็ไม่แต่งงานแล้ว ถ้าผู้ชายทั้งหมดหาเมียไม่ได้ ดูซิว่าพวกคุณจะแก้มั้ย”
ทันใดนั้นในงานเงียบสงบ
พวกผู้ชายแปลกใจ คำพูดนี้เนรคุณเกินไปแล้ว!
แต่แล้ว ต่อมาในหมู่คนก็มีเสียงคล้อยตามของผู้หญิงดังขึ้นอีก “แต่งงานไปก็เตรียมตัวถูกเหยียดหยามและเป็นวัวเป็นม้า สู้ไม่แต่งจะดีกว่า”
“ประเทศข้างนอกเท่าเทียมกันทุกคนตั้งนานแล้ว ทุกคนก็เป็นคนเหมือนกัน ทำไมพวกเราจะไม่ได้?”
“ผู้หญิงก็ควรจะใช้ชีวิตให้เหมือนผู้หญิงสิ ไม่ใช่เหมือนคนรับใช้!”
คำพูดเหล่านี้ ได้จุดไฟให้หัวใจของสาวๆลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง
ความทรงพลังของพวกเธอพุ่งปรี๊ด พริบตาก็ได้กดขี่ผู้ชายข่มเหงพวกผู้ชาย
พวกผู้ชายต่างก็ตกตะลึงจนตาค้าง ชีวิตนี้ไม่เคยถูกผู้หญิงคัดค้านมาก่อน ถูกคัดค้านครั้งแรก แถมยังถูกผู้หญิงมากมายขนาดนี้คัดค้าน ความรู้สึกที่ช็อกสุดขีดทำให้พวกเขารับไม่ได้จริงๆ
รู้สึกมุมมองทั้งสามของพวกเขากำลังเกิดรอยแตกร้าว
เย้นหว่านมองดูการโต้เถียงของด้านล่างแล้วเหนือความคาดหมายมาก พอคิดๆแล้ว แต่ก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่อยู่ในเหตุและผล
ฐานะและตำแหน่งของเซอร์ยุนซี บวกกับคุยโวโอ้อวดขนาดนี้ ถึงจะเป็นเอฟเฟคคลั่งไคล้ดารา ก็จะทำให้คนบางส่วนเรียนรู้กับเขาไปโดยปริยาย
เวลาเพียงแค่สามวัน เพราะเรื่องของเซอร์ยุนซี ได้ทำให้คิดความเห็นของผู้หญิงบางส่วนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะกระทบทั้งประเทศเบียนหนานให้พวกเขาเปลี่ยนประเพณีที่ชายสูงศักดิ์หญิงต่ำต้อยแบบนี้หรือเปล่า?
เย้นหว่านเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ หรือโห้หลีเฉินจงใจทดสอบเซอร์ยุนซีอย่างคุยโวโอ้อวด ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงความรักของประเทศ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ โห้หลีเฉินก็ใจป้ำเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าเดิมพันใหญ่ขนาดนี้!
“เชอะ ถึงจะพูดแบบนี้ก็เหอะ แต่หลังจากแต่งงานอยู่ด้วยกันจริงๆ ท่านดยุกจะซักผ้าทำกับข้าวจริงเหรอ? อย่าล้อเล่นหน่อยเลย แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ผู้ชายอกสามศอกคนไหนจะมาทำแบบนี้”
ในหมู่คน มีคนเอะอะเสียงดังด้วยความสงสัย
ผู้ชายที่เหลือเนื่องจากคล้อยตามคำพูดนี้เหมือนจะหาความมั่นใจเจอ ก็เลยวิจารณ์ตาม
พวกผู้หญิงไม่พอใจอยากจะเถียง แต่พอมองผู้ชายที่สูงศักดิ์ด้านบนแล้ว ไม่อาจจินตนาการจริงๆว่าหน้าตาตอนที่เขาทำงานบ้านและคลุมผ้ากันเปื้อนจะเป็นแบบไหน
ในขณะนี้ นิ้วมือเรียวยาวของผู้ชายยกขึ้นมา ก็มีผู้ชายสองคนยกกะละมังมาสองใบทันที
กะละมังใบหนึ่งใส่เสื้อผ้ากองโต ส่วนอีกหนึ่งกะละมังใส่น้ำไว้
ผู้คนมึนตึ๊บ ยกกะละมังมาสองใบทำไม? เดินผิดที่แล้วมั้ง?
แต่แล้ว โห้หลีเฉินกลับจิบชาอย่างสง่ากรึ๊บหนึ่งแล้วถึงพูดกับเซอร์ยุนซีอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ซักผ้า”
เซอร์ยุนซีเบิกตากว้างอย่างตะลึงงัน สีหน้าเหลือเชื่อ “ซักที่นี่เนี่ยนะ?”
ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ให้เขาซักผ้า? แถมยังไม่รู้ซักผ้าของใครด้วย เสื้อผ้ากองเบ้อเริ่มเทิ่ม สีสันและหยาบกระด้าง
เซอร์ยุนซีขมับกระตุก สีหน้าแววตาลังเลมาก เขาพูดเสียงต่ำ “พี่ครับ ต่อไปผมจะซักผ้าของเสี่ยวหว่านเอง พี่เชื่อผมนะ แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วมั้งครับ….”
ยังไงก็เป็นท่านดยุกคนหนึ่ง ต่อหน้าผู้คนซักผ้าของคนอื่นมันนับประสาอะไร?
เขาก็มีโรคกลัวความสกปรกเหมือนกันนะ
มุมปากของโห้หลีเฉินมีรอยยิ้มที่เย็นชาและไม่แคร์สักนิดเลย
“งั้นก็ยอมแพ้ซะ”
ยอมแพ้? ยอมแพ้ที่จะแต่งงานกับเย้นหว่าน?
“ผมจะซักเดี๋ยวนี้เลยครับ!”เซอร์ยุนซีได้หยิบผ้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้ใส่น้ำลงไป และเทผงซักฟอกลงไป…….
ท่าทางดูเก้งก้างและแข็งกระด้างเล็กน้อย แต่ขั้นตอนกลับไม่ผิดเลย
ล้อเล่นน่ะ สามวันนี้เขาไม่เพียงแค่อ่านหนังสืออย่างเดียวนะโอเค๊? เพื่อแต่งงานกับเย้นหว่านแล้ว เขาได้เรียนเสริมชีวิตคู่ทั้งหมดอย่างครบถ้วนเชียวนะ
เรื่องซักผ้าแบบนี้ไม่ยากเกินความสามารถของเขาหรอก
ผู้คนก็เลยมองดูด้วยสีหน้าระทึกขวัญและเหลือเชื่อ ท่านดยุกที่สูงส่ง ท่านดยุกที่ไม่ต้องทำงานบ้านอะไรเลย นาทีนี้กลับซักผ้าอยู่ที่นั่นอย่างขยันขันแข็ง!
ในอากาศ นอกจากเสียงซู่ซ่าของน้ำ ดูเหมือนยังมีเสียงมุมมองทั้งสามของผู้คนแตก“เพล้งๆๆ”ด้วย
ใบหน้าของพวกผู้ชาย แทบจะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ส่วนพวกผู้หญิงต่างก็ได้มองเซอร์ยุนซีด้วยสายตาเร่าร้อนดั่งไฟ ราวกับเขาก็คือเทพที่ลงมาจากสวรรค์ แม้แต่ซักผ้าก็ยังหล่อจนทำให้คนเคลื่อนย้ายสายตาไม่ได้
นี่สิถึงจะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง!