สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่724 คิดถึงเธอ
ไม่นาน ห้องโถงก็มีเสียงดังขึ้น
เสียงโทนต่ำ ดังขึ้นช้าๆ
“เงื่อนไขข้อที่สองง่ายมาก นายไปหากระบองเพชรใหม่มาสูงประมาณครึ่งตัวของคน เย้นหว่านชอบ”
เย้นหว่านมีคำถามขึ้นมาในหัว เธอชอบกระบองเพชรตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“กระบองเพชร?”
เซอร์ยุนซีพูดซ้ำอย่างตกใจ ขนาดเสียงยังขึ้นสูงไปด้วย
นี่เป็นคำขอแปลกๆอะไรกัน?
หรือว่าโห้หลีเฉินไม่รู้ว่า รอบด้านที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหิมะ ภายในประเทศอากาศก็มีอุณหภูมิต่ำ มีน้ำไหลลื่นดี ไม่มีที่ไหนที่เป็นทะเลทรายเลย
ยิ่งไม่มีกระบองเพชรพืชที่เติบโตขึ้นในทะเลทรายโดยเฉพาะหรอกนะ
จะให้เขาไปหาที่ไหนเนี้ย?
โห้หลีเฉินอารมณ์ยังคงเรียบเฉย และเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
“ไปหามาเถอะ”
คำพูดง่ายๆสี่คำ ก็เป็นเหมือนกับการไล่ทางอ้อม
เซอร์ยุนซีขมับกระตุก สีหน้าลังเลและลำบากใจ
เขาลังเลสักพัก และพูดอย่างสับสนว่า
“พี่ ในประเทศไม่มีกระบองเพชรเลย ต้องไปหาด้านนอกอย่างเดียว แต่พี่ก็รู้ ประเทศเบียนหนานเข้ามายาก ออกไปก็ไม่ง่าย……”
“แล้ว?”
โห้หลีเฉินพูดตัดคำพูดของเซอร์ยุนซีด้วยโทนเสียงไม่สูงมากไม่ต่ำมาก ในน้ำเสียงนั้น เหมือนมีกลิ่นอายของความไม่พอใจแล้ว
เสียงของเซอร์ยุนซีหยุดชะงัก หัวใจหดลงไปตามๆกัน
วินาทีต่อมา น้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนไป
“แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ ก็หยุดฉันไปนำกระบองเพชรกลับมาไม่ได้! ในเมื่อเสี่ยวหว่านชอบ ฉันจะต้องเอามาให้เธอให้ได้”
เย้นหว่านที่แอบฟัง “……”
ฉู่ฉู่ “……”
บอดี้การ์ดสี่คน “……”
พวกเขาเหมือนพบเรื่องที่ไม่ได้การ น่าจะเป็นท่านดยุกผู้สูงส่ง ดูเหมือนจะไม่ค่อยมี……จังหวะ?
เปลี่ยนหน้าเร็วกว่าพลิกหนังสือเสียอีก
เย้นหว่านหันไปมองฉู่ฉู่ ถามเสียงเบาว่า “ที่นี่ของพวกเธอระยะทางห่างจากทะเลทรายเท่าไหร่?”
ฉู่ฉู่ส่ายหน้า “ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่เคยออกไป”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดต่อว่า “ตามที่ฉันรู้ พื้นที่ทะเลทรายใกล้ที่สุด ก็มีสองหมื่นกิโลเมตรได้ และพวกเรานั่งเครื่องบินไปไม่ได้ การเดินทางท่ามกลางหิมะนี้ ไปกลับครั้งหนึ่ง ถ้าปลอดภัย น้อยสุดก็น่าจะเดือนกว่า”
หนึ่งเดือนกว่า?
งั้นแปลว่าอะไรล่ะ เซอร์ยุนซีไปกลับ อย่างน้อยก็จะมีหนึ่งเดือนที่หายไป!
ตามความคืบหน้าในการหายาของโห้หลีเฉินในตอนนี้ ไม่นานอาจจะได้ยา นั่นก็แปลว่า ก่อนที่พวกเขาจะออกจากประเทศเบียนหนานได้อย่างปลอดภัย ก็จะไม่เจอกับเซอร์ยุนซีอีก
เย้นหว่านดีใจจนหัวเราะเสียงดัง นี่เป็นข่าวดีในหลายวันมานี้ที่เธอได้ยินมาเลย
ขนาดกระบองเพชรที่รอบตัวมีหนาม เธอก็เริ่มชอบแล้ว
ฉู่ฉู่มองดูท่าทางดีใจของเย้นหว่านที่ปกปิดไว้ไม่อยู่ ก็อดไม่ได้บ่นไปว่า
“เสี่ยวหว่าน เธอชอบกระบองเพชรขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่อากาศที่นี่ของพวกเรา อาจจะปลูกกระบองเพชรไม่ได้นะ”
ถ้านำกลับมา กลับต้องตาย เย้นหว่านก็คงจะเสียใจแย่?
เย้นหว่านไม่สนใจว่าจะปลูกได้หรือไม่ได้หรอกนะ ที่เธอดีใจคือไม่ต้องเจอกับเซอร์ยุนซีอีก
เธอยิ้มกว้าง และตอบไปว่า “ชอบสิ ชอบมากเลย”
ในคำพูดนั้น เธอมองออกไปนอกม่านด้วยความคาดหวัง อยากให้คุยกันจบเร็วๆ เซอร์ยุนซีรีบออกไป
เธออดไม่ได้อยากกอดโห้หลีเฉินเต็มทีแล้ว
ผู้ชายของเธอเก่งจริงๆด้วย ทรมานเซอร์ยุนซีไปรอบหนึ่ง แก้แค้นให้เธอ และยังสกัดตัวเซอร์ยุนซีออกไปได้อย่างเงียบๆอีกด้วย
แต่ทว่า ในขณะนี้เอง เสียงที่ไม่ลงรอยกันดังขึ้น
“พืชที่เติบโตในทะเลทรายที่แห้งแล้งได้ เป็นสิ่งที่ฉันชื่นชมและนับถือมาตลอด พี่คะ ตอนที่นำกระบองเพชรกลับมา เอาให้ฉันดูด้วยนะ เปิดโลกฉันหน่อย”
ซาอินติพูดเสียงใส เดินเข้ามาช้าๆ
เธอสวมกระโปรงยาวครึ่งเข่าสีแดงและขาวผสมกัน บุคลิกสง่าหรูหรา ใบหน้ามีรอยยิ้มหวาน ทำให้รอบตัวเธอเปล่งประกาย
สวยสดงดงาม
สายตาเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน มองโห้หลีเฉินด้วยดวงตาเปล่งประกาย เสียงอ่อนโยนลงอีกระดับ
“หลีเฉิน”
สองคำเรียบเบา ออกมาจากปากของเธอ ก็เหมือนกับกำลังออดอ้อนและโปรยเสน่ห์
เย้นหว่านที่กำลังดีใจอยู่นั้น รอยยิ้มก็ชะงักไปในทันที
สีหน้าเธอตื่นเต้น รู้สึกมีอันตรายเข้ามา
ศัตรูรักมาแล้วนี่!
เธออยากจะเดินออกไปเสียตอนนั้น ขวางเธอกับโห้หลีเฉินไว้
กำลังขยับ ฉู่ฉู่ก็รีบคว้ามือเธอไว้ “เสี่ยวหว่าน เธอทำอะไรน่ะ? พวกเราแอบฟังกันอยู่นะ”
เดินออกไปจากที่นี่ เธอก็สารภาพไปเองน่ะสิ ว่าเธอแอบฟังอยู่
เย้นหว่านชะงัก และใจเย็นลงเล็กน้อย
ภายในห้องโถง โห้หลีเฉินไม่ออกเสียง และไม่รู้ว่าเขารู้สึกและคิดยังไงอยู่
แต่เซอร์ยุนซีกลับหัวเราะและถามว่า
“อินติ เธอมาได้ยังไง?”
ที่เบียนหนานผู้ชายสูงส่งผู้หญิงด้อยกว่า และในทุกด้านก็มีการควบคุมและจำกัดผู้หญิงเอาไว้ทุกอย่าง ในนั้นก็มีข้อหนึ่งว่าไว้ โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะไม่ไปเป็นหาผู้ชายที่บ้านก่อน
ซาอินติเป็นถึงเจ้าหญิง แม้ตำแหน่งจะไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ แต่ก็เป็นคุณหนู น้อยครั้งจะออกจากวัง และไม่เคยมาบ้านผู้ชายแบบนี้มาก่อน
วันนี้ เป็นเรื่องแปลกมากที่เธอมาที่นี่
ซาอินติคิดไว้แล้วว่าจะพูดยังไง เธอหัวเราะตอบไปว่า
“ฉันได้ยินว่าวันนี้พี่มาทดสอบที่นี่ อยากจะมาดูสักหน่อย สนับสนุนให้กำลังพี่ไง ยินดีด้วยนะ ที่ผ่านด่านแรกไปแล้ว”
เหตุผลนี้เพื่อพี่ชายตัวเอง ก็สมเหตุสมผลดี
แต่มายินดีเขาจริงๆงั้นเหรอ? เซอร์ยุนซีไม่เชื่อทั้งหมด
แม้จะเป็นพี่น้อง แต่ต่างมารดากัน ระดับความสนิทก็ต่างกัน ปกติแล้วก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมาก ไม่ใช่ศัตรูแต่ก็ไม่สนิทกันขนาดนั้น
“ขอบใจ”
เซอร์ยุนซีไม่พูดอะไร และยิ้มพยักหน้ารับ
เวนเดลล์ตามเข้ามา เห็นซาอินติยังยืนตรงนั้น ก็มีความรู้สึกผิดเล็กน้อย
เพราะยังไงก็เป็นองค์หญิง จะเมินเฉยไม่ได้
เขารับเดินเข้าไป เคารพอย่างมีมารยาทและพูดว่า
“องค์หญิง ท่านดยุก เชิญประทับพระที่นั่งครับ เดี๋ยวคนในวังจะส่งชาและขนมมาให้ครับ”
“รบกวนนายด้วยนะ”
ซาอินติยิ้มอย่างมีมารยาท และนั่งลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ที่นั่งของเธอใกล้ที่นั่งของโห้หลีเฉินพอดี
ระหว่างทั้งสองมีโต๊ะชาเล็กๆกั้นเอาไว้
เวนเดลล์มองโห้หลีเฉินอย่างกังวล และเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้น มีความพอใจเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ นอกจากเย้นหว่านแล้ว เขาเกลียดผู้หญิงทุกคนที่ใกล้เขามากกว่าหนึ่งเมตร
เวนเดลล์รู้สึกไม่สบายใจ กำลังจะพูดอะไรเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศหน่อย ก็เห็นโห้หลีเฉินลุกขึ้นมา
พูดกับซาอินติด้วยสีหน้าเย็นชา
“ในเมื่อมายินดีกับท่านดยุก พวกเธอพี่น้องก็พูดกันไปก่อน ฉันไปก่อนล่ะ”
พูดจบ เขาก้าวเท้ายาว เดินออกไปทันที
เวนเดลล์เส้นขมับกระตุก ท่านดยุกองค์หญิงอยู่ที่นี่กันหมด โห้หลีเฉินเอาแต่ใจแบบนี้ อย่าให้พวกเขาโมโหเชียวล่ะ?
ไม่งั้น ก็จะวุ่นวายไปกันใหญ่
แต่ไม่คิดว่า โห้หลีเฉินพึ่งเดินออกไป ซาอินติก็เดินตามไปทันที และกอดแขนโห้หลีเฉินเอาไว้
ใบหน้าเธอแดงระเรื่อ เสียงร้อนใจอย่างมาก
“หลีเฉิน นายเข้าใจผิดแล้ว ที่จริงฉันแค่หาข้ออ้าง อยากจะมาเจอนายเท่านั้น ฉัน……คิดถึงนายน่ะ”