สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่729 พวกเธอเป็นไปไม่ได้หรอก
“ขอบใจ”
องค์หญิงพยักหน้ายิ้มอ่อนๆ ท่าทีดูใจดีและน่าเข้าใกล้ “คนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องเกร็งหรอก ที่จริงฉันเป็นคนมองโลกในมุมกว้างนะ ถือคติชายหญิงเท่าเทียม ทุกคนเท่าเทียมกัน เธอไม่ต้องใส่ใจตำแหน่งองค์หญิงของฉันหรอก พวกเราก็คุยกันตามปกติดีแล้ว”
คำพูดนั้นพูดได้สวยหรูมาก
ทำเอาคนที่ฟังแล้วก็ต้องรู้สึกดีกับเธอ และปล่อยวางความระวังตัว
แต่เย้นหว่านรู้ว่า องค์หญิงคนนี้มีนิสัยหยิ่งยโส สายตาไร้ผู้คน นิสัยก็ยังโอหังอีก ตอนนี้ที่แสดงออกมา ก็แค่แสร้งเพราะมีเป้าหมายเท่านั้น
เย้นหว่านยิ้มอ่อน “ค่ะ”
ตอบง่าย มีมารยาทที่ไม่ขาดหาย
ซาอินติเหมือนชกหมัดลงบนนุ่น ไม่มีคำตอบที่เธออยากจะได้ยินเลย
ก็จึงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
แต่นึกถึงแผนการของตัวเอง เธอก็อดทนไว้ และฝืนยิ้มต่อไป
“เสี่ยวหว่าน ครั้งก่อนตอนที่เจอกัน ยังไม่ได้คุยอะไรกับเธอมากเลย วันนี้มีโอกาส ฉันอยากให้ของขวัญพบกันครั้งแรก หวังว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะ”
พูดอย่างอ่อนโยน ซาอินติถอดกำไลทองออกมาข้อมือตัวเอง และยื่นให้เย้นหว่าน
เธอพูดอย่างภูมิใจว่า “นี่เป็นกำไลที่ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์ ด้านบนมีอัญมณีล้ำค่าฝังอยู่ ราคานับไม่ถ้วน ให้เธอเป็นของขวัญนะ”
แม้จะบอกว่าให้ แต่น้ำเสียงกลับเหมือนการประทานให้กับคนอื่น
เย้นหว่านมองดูกำไลตรงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย กำไลที่มีราคานับไม่ถ้วนนี้ ในบ้านเธอมีนับไม่ถ้วน ไม่อยากได้หรอกนะ
อีกอย่าง เธอไม่ชอบใส่ของที่คนอื่นใส่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นของที่ซาอินติเคยใส่อีก
ยิ่งรู้สึกไม่ปลื้มกับอารมณ์ของซาอินติที่เหมือนประทานให้กับเธอ
แค่เจอกันครั้งแรกซาอินติที่ไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำ ครั้งนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ยังให้ของขวัญเธออีก?
เห็นได้ชัดว่าเธอมีความคิดไม่ดีแน่
เดาไม่ยากเลย เย้นหว่านแค่คิด ก็รู้แล้วว่าเธอคิดจะทำอะไร
“ไม่ได้ทำอะไรรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ กำไลที่ล้ำค่าขององค์หญิง ฉันรับไว้ไม่ได้”
เย้นหว่านยิ้มมุมปาก และปฏิเสธไปอย่างมีมารยาท
ซาอินติอึ้งเล็กน้อย ไม่คิดว่าเย้นหว่านจะไม่เอากำไลอันนี้
ผู้หญิงตำแหน่งไม่สูงมาก นั่นก็หมายความว่า ไม่ได้รับเครื่องประดับมีค่าอะไร มองที่ตัวของเย้นหว่านอีกทีก็มีแค่เสื้อผ้าธรรมดา ไม่เห็นเครื่องประดับอะไรเลย
ตามหลักแล้ว เธอเห็นกำลังนี้แล้ว น่าจะหวั่นไหวจนทนไม่ได้สิ
อารมณ์ที่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย กลับทำให้ซาอินติแปลกใจเสียมากกว่า
ซาอินติอึ้งไปสักพัก จึงยื่นมือไปดึงมือเย้นหว่านมา และนำกำไลยัดลงไปในมือของเธอ
ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นของขวัญที่ฉันให้เธอ เธอเก็บไว้ก็พอแล้ว”
เห็นซาอินติยัดเยียดของให้ คงไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆสินะ
เย้นหว่านรู้สึกรำคาญ ไม่อยากจะมีเรื่องพัวพันกับเธอมาก
เพราะยังไงลึกๆแล้ว ซาอินติก็เป็นศัตรูรักของเธอ
เย้นหว่านเม้มปากบาง ทันใดนั้นก็พูดตรงๆว่า “เธออยากเป็นพี่สะใภ้ฉันเหรอ?”
พอพูดออกไป ซาอินติก็หยุดชะงัก ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด
สายตาเธอเปล่งประกาย มีความเขินอายของหญิงสาว
เธอจับมือเย้นหว่าน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“เสี่ยวหว่าน ฉันชอบพี่ชายเธอจริงๆนะ ต่อไปก็อยากแต่งงานกับเขา ฉันหวังว่าจะอยู่ร่วมกับเธอได้ กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
อารมณ์ที่มั่นใจว่าจะได้แต่งงานกับโห้หลีเฉิน ทำเอาเย้นหว่านรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ผู้ชายของเธอ คนอื่นมีสิทธิ์อะไรมาคิดไม่ซื่อ?
เย้นหว่านข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ จ้องซาอินตินิ่งๆ และพูดแต่ละคำอย่างเข้มงวดว่า
“องค์หญิง ความรักกับการแต่งงานเป็นเรื่องที่สองฝ่ายยอมรับกัน โห้หลีเฉินไม่ได้ชอบท่าน เขาไม่มีทางแต่งงานกับท่านแน่ ท่านอย่าเสียเวลากับเขาเลย”
ตรงมาก ปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี
ซาอินติแม้จะรู้ว่าโห้หลีเฉินจะไม่ชอบเธอ แต่ได้ยินเย้นหว่านพูดแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นอยากจะตะโกนใส่เธอว่า พูดจาพล่อยๆอะไร
แต่ว่า ยังไงก็ต้องอดทนไว้ก่อน ซาอินติมองเย้นหว่านด้วยสายตาเป็นประกาย และพูดอย่างมีความอดทนว่า
“เสี่ยวหว่าน ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงพี่ชายเธอ ห่วงความรู้สึกเขาเป็นหลัก แต่เรื่องไม่ง่ายเหมือนที่เธอเห็นนะ”
“โห้หลีเฉินเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบมาก ไม่มีใครเทียบเทียม ทั้งประเทศเบียนหนานนี้ ก็ไม่มีหญิงคนใดมีสิทธิ์แต่งงานกับเขา ยืนอยู่เคียงข้างเขา และคนที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด มีแต่ฉัน”
“ฉันเป็นองค์หญิงที่สูงส่งที่สุดในประเทศเบียนหนาน หน้าตาและตำแหน่งของฉัน ก็เพียงพอสำหรับยืนเคียงข้างเขาแล้ว และสามารถสนับสนุนการงานของเขาได้มากที่สุด ตามหลักแล้ว ฉันเป็นภรรยาที่ดีที่สุดของเขา และเป็นตัวเลือกเดียวด้วย”
“ในส่วนตัว ฉันก็มั่นใจว่าเขาต้องรักฉันแน่ ตอนนี้เขาแค่ยังไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ความดีของฉัน เสี่ยวหว่าน เพื่อความสุขทั้งชีวิตของพี่ชายเธอ ขอแค่เธอยอมช่วยฉัน พี่ชายเธอต้องยอมรับฉัน และตกหลุมรักฉันแน่นอน”
คำพูดนั้น พูดได้อย่างมีเหตุมีผล ดูมีหลักการอย่างมาก
ด้วยเหตุผลแล้ว โห้หลีเฉินเป็นตัวเลือกเดียว เหมือนมีแต่เธอเท่านั้น ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และมีแต่เธอ
ถ้าคนทั่วไปได้ยินคำพูดแบบนี้ อาจจะอดไม่ได้เห็นด้วย เพราะยังไงก็เหมือนจะเป็นอย่างที่ว่าเลย
แต่ว่า เย้นหว่านหัวใจเต้นรัวเหมือนมีม้าวิ่งตุบตับ
มีแต่ซาอินติที่คู่ควรกับโห้หลีเฉิน มีสิทธิ์เป็นภรรยาของเขามากที่สุดงั้นเหรอ?
งั้นเย้นหว่านล่ะ?
เธอเป็นแฟนตัวจริงของโห้หลีเฉินไหม!
แต่จะพูดความสัมพันธ์นี้ออกไปในตอนนี้ไม่ได้ เย้นหว่านจำใจต้องทำตัวเป็นใบ้ก่อน นอกจากหัวใจที่ร้อนรุ่มแล้ว
“เธอไม่ใช่แบบที่โห้หลีเฉินชอบ เขาไม่มีวันชอบเธอแน่”
เย้นหว่านเปลี่ยนคำพูดอีกแบบ ปฏิเสธคำพูดของซาอินติตรงๆ
พูดข้อดีข้อเสียมามากมาย ไม่คิดว่าเย้นหว่านจะฟังไม่เข้าหูด้วยซ้ำ ทำเอาซาอินติไม่พอใจเป็นอย่างมาก
สีหน้าเธอตึงเล็กน้อย และพูดว่า “เธอเป็นแค่น้องสาวของโห้หลีเฉิน ความรักและความในใจเขา เธออาจจะไม่เข้าใจขนาดนั้นก็ได้นะ”
งั้นเหรอ?
เย้นหว่านแสยะยิ้มเย็นชา เธอเข้าใจมากกว่าคนอื่นๆเสียอีก
เธอไม่อยากเถียงกับซาอินติในประเด็นนี้ เอากำไลที่ถูกยัดใส่มือเมื่อกี้ คืนให้กับซาอินติอีกครั้ง
“ในมุมของฉันแล้ว พี่ชายฉันไม่มีทางชอบเธอหรอก ฉันแนะนำนะเธออย่าทำอะไรที่ไม่ได้ผลเลย ยอมแพ้ดีกว่านะ”
พูดแล้ว เย้นหว่านก็ลุกขึ้นยืนทันที
ใบหน้ายังมีรอยยิ้ม แต่กลับเป็นแค่ฝืนยิ้มเท่านั้น “องค์หญิง สิ่งที่ฉันควรพูดก็พูดไปแล้ว คิดว่าท่านคงไม่อยากอยู่กับฉันต่อไป ท่านดื่มชาไปก่อน ฉันไม่ค่อยสบาย ขอตัวลาก่อน”
เย้นหว่านเดินออกไปทันที
ซาอินตินั่งอยู่ในศาลาคนเดียว ในมือจำกำไลไว้แน่น มองแผ่นหลังของเย้นหว่าน ด้วยสายตาที่โหดร้าย
ไม่คิดว่า เย้นหว่านจะกล้าปฏิเสธคำขอของเธอ
เหมือนกับพี่ชายไม่มีผิด ไม่เห็นค่าของตำแหน่งองค์หญิงของเธอและหน้าตา
ดี
ดีมาก
สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน
“เย้นหว่านคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ กล้าพูดกับองค์หญิงท่านแบบนี้!”
ในตอนนี้เอง ข้างๆศาลา คุณป้าเดินออกมาอย่างโมโห
สายตาเธอมองแผ่นหลังของเย้นหว่านด้วยความเกลียดชัง สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ปกปิดไว้ไม่อยู่