สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่732 ทำไมถึงวางยาฉัน
เย้นหว่านเกลียดความรู้สึกแบบนี้มาก ทำให้เธอทั้งโกรธทั้งอัดอั้นใจ และกังวลว่าถ้าตัวเองเกิดเรื่องขึ้น โห้หลีเฉินจะต้องตามหาเธอสุดกำลังแน่
แผนการตามหายา ก็คงล้มเหลว
เธอจะนั่งรออยู่เฉยๆไม่ได้!
“ฉู่ฉู่ เย้นหว่าน กินข้าวแล้ว”
ในตอนนี้เอง มีเสียงของคุณป้าดังขึ้นจากที่ไม่ไกลมาก
เธอสวมผ้ากันเปื้อน มีรอยยิ้มบนหน้าที่นานครั้งจะได้เห็น
เย้นหว่านมองเธออย่างแปลกใจ คุณป้าคนนี้วันๆเอาแต่มองค้อนเธออย่างเกลียดชัง ทำไมวันนี้ถึงไม่มองค้อนแล้วล่ะ?
หรือว่าเธออารมณ์ดีแล้ว? ไม่มีเวลามาโกรธเธอ?
เย้นหว่านสงสัย
คุณป้าก็เร่งอีกว่า “รีบมากินข้าว เดี๋ยวอาหารเย็นกันพอดี”
“ได้ ไปแล้ว”
ฉู่ฉู่ยังเกรงกลัวคุณป้าอยู่ ก็เลยรีบลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง
เย้นหว่านพอได้ยินซาอินติพูดแบบนี้แล้ว ก็ไม่อยากกินข้าวอีก ก็เลยส่ายหน้า พูดกับฉู่ฉู่ว่า
“เธอไปเถอะ ฉันไม่หิน ไม่กินแล้ว”
ฉู่ฉู่มองออกว่า เย้นหว่านเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี และเข้าใจเธอ
ก็เลยไม่ได้พูดอะไร ตัวเองเดินไปหาคุณป้าเอง
คุณป้าเห็นเธอเดินมาคนเดียว ก็ตะโกนอย่างไม่พอใจว่า
“เธอมาคนเดียวทำไม? เย้นหว่านล่ะ ทำไมไม่มากินข้าว?”
“แม่ เสี่ยวหว่านบอกว่าไม่หิน ก็เลยไม่กินแล้ว พวกเราไปกินกันเองเถอะ”
คุณป้าก็ขมวดคิ้ว ผลักฉู่ฉู่ออก เดินไปหาเย้นหว่านอย่างเร็ว
“เย้นหว่าน ไปกินข้าวกัน”
เสียงสูงนั้น ข่มความอดทนเอาไว้
เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ คุณป้าคนนี้ปกติก็แทบไม่อยากให้เธอปรากฏในห้องอาหาร ทำไมวันนี้ถึงมาเรียกเธอไปกินข้าวล่ะ?
เย้นหว่านอธิบายอย่างอดทนว่า “ฉันไม่หิว กินไม่ลง พวกเธอไปกินเถอะ”
“กินไม่ลงก็ต้องกินนะ เพราะเธอฉันเลยทำอาหารไว้เยอะมาก เธอมีสิทธิ์อะไรมาสิ้นเปลือง?”
คุณป้าไม่พอใจอย่างมาก สีหน้าบึ้งตึง ท่าทางจะบังคับให้เย้นหว่านไปกินให้ได้
ถ้าเป็นคนอื่น ส่วนมากก็คงกังวลเย้นหว่านไม่กินข้าว เดี๋ยวจะหิวเอา
แต่คุณป้าคนนี้ไม่มีทางคิดเรื่องพวกนี้แน่นอน
และยังทำอาหารมากมายเพื่อเย้นหว่านงั้นเหรอ?
คุณป้าคนนี้เป็นคนดีแบบนี้เมื่อไหร่กัน?
ต้องรู้ว่า โต๊ะอาหารของผู้ชาย ไม่ว่าจะมีแค่เด็กผู้ชายสองคน หรือเวนเดลล์พวกเขาอยู่ จะมีอาหารเต็มโต๊ะ ทุกครั้งที่กินไม่หมดก็สิ้นเปลือง
เย้นหว่านก็แค่เพิ่มสำรับอาหารหนึ่งชุด ไม่มีปัญหาเรื่องการทำอาหารมากเลย
แต่มาวันนี้……
คุณป้าคนนี้แปลกจริงๆ
เย้นหว่านมองด้วยสายตาสงสัย คุณป้าก็หลบสายตาอย่างรู้สึกผิด และพูดเสียงแข็งต่อว่า
“มองอะไร? เร็วเข้าสิ อย่าให้ทุกคนต้องรอเธอคนเดียว!”
เธอดูเด็ดขาดมาก เย้นหว่านจะต้องไปกินข้าวให้ได้
เย้นหว่านขมวดคิ้ว เรื่องไม่ปกติต้องมีเรื่องไม่ดีแน่
มีเรื่องแน่นอน
เธอครุ่นคิดสักพัก ก็ลุกขึ้น และตอบว่า “ได้”
ได้ยินคำนี้ คุณป้าก็โล่งอกถอนหายใจ
อารมณ์เปลี่ยนแปลงที่ปกปิดไม่ได้อย่างเห็นได้ชัดนั้น ทำเอาเย้นหว่านยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
อาหารมื้อนี้ มีเรื่องอะไรกันแน่?
หรือว่าซาอินติมาอีกแล้ว แล้วนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารรอ?
หรือว่าจะมาเกาะเธออีก?
แค่คิดแบบนี้ เย้นหว่านก็เริ่มปวดหัวแล้ว แต่ตอนนี้ขึ้นหลังเสือจะลงก็ยาก เธอคงต้องไปห้องอาหารก่อนถึงจะสลัดคุณป้าคนนี้ออกไปได้
เย้นหว่านสงสัยมาก ตั้งแต่ซาอินติมาแล้ว อาหารทุกมื้อก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
ห้องอาหารอยู่ไม่ไกลมาก เย้นหว่านเดินมาถึงเร็ว
ที่ทำให้เธอตกใจคือ ซาอินติที่คิดไม่อยู่ในห้องอาหาร โต๊ะหลักมีแค่สำหรับสามชุด
เด็กผู้ชายสองคน กับเย้นหว่าน
และที่เหมือนกับปกติก็คือ วันนี้ถ้วยของพวกเขาแต่ละคนมีข้าวเปล่าอยู่ในนั้น
หนึ่งถ้วยเต็มๆ
ต้องรู้ว่าปกติคือต้องตักข้าวเอง
“รีบไปกินข้าวสิ”
คุณป้าเร่ง
เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจหนักอึ้ง รู้สึกต้องมีอะไรไม่ดีแน่
อาหารมื้อนี้ เกรงว่าจะมีเลศนัยแอบแฝง
เย้นหว่านครุ่นคิดอย่างเร็ว มองดูคุณป้าที่จัดแจงเด็กผู้ชายสองคนนั่งแล้ว กะพริบตาเล็กน้อย
เธอเดินไปข้างเด็กผู้ชายหนึ่งในนั้น ตั้งใจพูดเสียงสูง หัวเราะและพูดว่า
“เสี่ยวซื่อ วันนี้พี่รู้สึกไม่สบาย หนูสลับที่นั่งกับพี่ได้ไหม ให้พี่นั่งตรงนี้ดีไหม?”
น้ำเสียงอ่อนโยน บวกกับความไร้เดียงสาของเด็ก เสี่ยวซื่อรีบพยักหน้าตกลง
“พี่ นั่งสิ”
ร่างกายเล็กๆรีบกระโดดลงจากเก้าอี้ และวิ่งไปที่นั่งของเย้นหว่าน
เก้าอี้ของเด็กน้อยเป็นเก้าอี้ที่มีหนักพิง ทั้งนุ่มทั้งสบาย
เย้นหว่านนั่งลงแล้ว ในตอนที่เขายกถ้วยขึ้น ก็ตั้งใจพูดเสียงดังว่า
“เสี่ยวซื่อ งั้นหนูก็กินข้าวถ้วยพี่นะ พี่ยังไม่ได้กิน หนูไม่รังเกียจใช่ไหม”
“อืมๆ”
เสี่ยวซื่อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง หยิบตะเกียบขึ้นกินข้าว
เย้นหว่านหรี่ตาลง สังเกตมองดูท่าทีของเขา เตรียมออกมือห้ามทุกเมื่อ
แต่ทว่า ในตอนที่ข้าวยังไม่ทันเข้าปากเสี่ยวซื่อ ก็มีร่างหนึ่งวิ่งออกมาเหมือนสายลม ปัดตะเกียบของเสี่ยวซื่อออกไปอย่างเร็ว
เป็นคุณป้าคนนั้น
เธอสีหน้าตื่นกลัว ตกใจ และด่าเย้นหว่านไม่หยุดหย่อน
“นังสารเลว เธอเกือบทำให้ลูกชายฉันตายแล้วนะ!”
ทำให้ตายงั้นเหรอ?
เย้นหว่านใจเต้น แค่ความคิดคาดเดาเท่านั้น ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วสินะ
ข้าวที่ตักไว้ก่อนแล้ว มียาพิษ!
คุณป้าคนนี้ทำดีโดยไม่มีเรื่องอะไร ที่แท้ก็อยากวางยาฆ่าเธอนี่เอง
แผ่นหลังเย้นหว่านเต็มไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อกี้ถ้าเธอไม่รู้สึกว่าผิดปกติ ตั้งใจให้เสี่ยวซื่อทดลองอาการของคุณป้า ตอนนี้คนที่ล้มอยู่บนพื้นคงเป็นเธอแล้วล่ะ
คุณป้าพูดจบ ก็ถึงรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป
สีหน้าเธอเปลี่ยนไป รีบแก้คำพูดว่า
“ฉัน ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ใช่ เสี่ยวซื่อของฉันมีโรคกลัวสกปรก แพ้ง่าย จับของที่คนอื่นกินแล้วไม่ได้ เธอให้เขากินข้าวของเธอ ก็ทำร้ายเขาน่ะสิ”
คำอธิบายมั่วๆ มีรูรั่วมากมาย
อยู่ด้วยกันหลายวัน เย้นหว่านเห็นเสี่ยวซื่อกับเสี่ยวซานกินคุกกี้ด้วยกัน ชอบเล่นโคลนดินจนสกปรกแทบทุกวัน ไม่มีปัญหาของโรคกลัวสกปรกเลยสักนิด
คำโกหกนี้ ฟังไม่ขึ้นเลยนะ
เย้นหว่านขมวดคิ้วเป็นผม มองคุณป้าด้วยสายตาแหลมคม
“ทำไมต้องวางยาพิษให้ฉันด้วย?”
แม้คุณป้าคนนี้จะเกลียดตัวเอง แต่เวลาช่วงนี้ มากสุดก็แค่หน้าบึ้งตึง มองเธอด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่พอใจ ล่าสุดก็แค่ลงมือ แต่ไม่เคยร้ายขนาดนี้มาก่อน ถึงกับวางยาเอาชีวิตเลยเหรอ
และช่วงหลายวันนี้ เพราะมีบอดี้การ์ด เย้นหว่านแทบไม่ได้เจอกับคุณป้าคนนี้เลย ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกันมาก
เธอวางยากะทันหัน คิดยังไงก็ไม่มีเหตุผลมากพอ
อีกอย่าง คุณป้าคนนี้แม้จะดุร้าย แต่ไม่ได้โหดเหี้ยมอำมหิตถึงขั้นนั้น ไม่ถึงกับฆ่าชีวิตคนได้