สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่76 ถอนหมั้นไม่ได้เด็ดขาด
บทที่76 ถอนหมั้นไม่ได้เด็ดขาด
เย้นหว่านนั่งลงแล้วเริ่มช่วยโห้หลีเฉินชิมอาหาร แต่ครั้งนี้แตกต่างจากปกติ เธอกินอาหารไปอย่างนึง ก็จะจดเขียนไว้บนสมุดโน๊ต
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยความแปลกใจ “คุณเขียนอะไรอยู่?”
“เดี๋ยวคุณก็รู้ค่ะ”
ครั้งนี้เย้นหว่านชิมอาหารละเอียดยิ่งกว่าปกติ กินเข้าไปคำนึงยังต้องย้อนคิดถึงรสชาติ หลังจากนั้นก็จดไว้ในสมุดโน๊ต
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยสายตาชิวๆ ดูๆแล้วเธอชอบอาหารที่ทำในครั้งนี้ เชฟที่ทำอาหารในวันนี้ เขาพิจารณาว่าจะครั้งต่อไปจะใช้งานพวกเขาต่อ
สิ่งที่เย้นหว่านไม่เข้าใจก็คือ ณ ตอนนี้ในห้องครัวมีเชฟอยู่สิบกว่าคน นั่นแค่สำหรับวันนี้เท่านั้น
เพื่อให้เธอได้กินอาหารที่แตกต่างกันทุกครั้ง ทุกครั้งเชฟในห้องครัวก็จะเปลี่ยนเชฟใหม่เข้ามาสิบคน และทั้งหมดเป็นเชฟชื่อดังระดับโลก
หลังจากชิมอาหารทั้งหมดแล้ว เย้นหว่านก็กินอิ่มแล้ว บนสมุดโน๊ตก็ได้เขียนข้อมูลไว้ไม่น้อย
เธอแยกอาหารที่อร่อยที่สุดออกมาอย่างคล่องแคล่ว เสิร์ฟมาตรงหน้าโห้หลีเฉิน
หลังจากนั้น ได้ส่งสมุดบโน๊ตให้กับโห้หลีเฉิน
“คุณโห้คะ นี่คือประสบการณ์จากช่วงเวลามานี้ที่ช่วยคุณชิมอาหาร ถึงแม้ทุกครั้งอาหารจะไม่เหมือนกัน แต่รสชาติที่ชอบมักจะมีรูปแบบของมัน ตามในสมุดโน๊ตที่ฉันสรุป อาหารที่เชฟทำออกมาจะต้องเป็นอาหารที่คุณชอบทั้งหมดค่ะ”
โห้หลีเฉินมองดูสมุดโน๊ตในมือ ในสมุดมีลายมือที่เรียบร้อยเขียนเหตุผลทุกข้อเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูแล้วมีความตั้งใจมาก
แต่ว่า……
สีหน้าของโห้หลีเฉินกลับดูไม่ค่อยดี “คุณให้สิ่งนี้กับผม หมายความว่ายังไง?”
เย้นหว่านถูกมองจนอึดอัดใจ กัดฟัน และอธิบายอย่างจริงจัง
“อีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดวันหมดสัญญาของเราแล้ว ต่อไปนี้ฉันก็ไม่สามารถช่วยคุณชิมอาหารแล้ว เพราะอย่างนั้นเลยเขียนข้อสรุปทั้งหมดไว้ แบบนี้หลังจากนี้ไปถึงแม้ไม่ต้องชิมอาหารแล้วคุณก็ยังสามารถได้กินอาหารที่คุณชอบค่ะ”
ทั้งหมดนี้เย้นหว่านคิดเพื่อโห้หลีเฉินทั้งนั้น แต่ยิ่งฟังแล้ว สีหน้าของโห้หลีเฉินกลับยิ่งดูไม่ดี
เขามองเธอด้วยสายตาที่หนักหน่วง แววตาเปล่งประกาย ความโมโหไม่รู้โผล่มาจากไหน
นี่เธอได้เริ่มวางแผนเรื่องหลังถอนหมั้นแล้วหรือ?
นี่เธอรอไม่ไหวที่อยากจะถอนหมั้นกับเขาแล้วหรือ?
มองดูสีหน้าที่อารมณ์เสียของโห้หลีเฉิน เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ หรือว่าเป็นเพราะเธอเขียนออกมาด้วยความเร่งรีบ เลยรู้สึกว่าเธอทำงานลวกๆไม่มีความรับผิดชอบ?
ลังเลไปสักครู่ เย้นหว่านพูดอย่างจริงใจ
“ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ ต่อจากนี้อาหารทุกอย่างฉันจะสรุปออกมาอย่างจริงจังและมีระเบียบ คุณโห้วางใจได้นะคะ อย่างนี้ต้องรอบคอบอย่างแน่นอนค่ะ”
โห้หลีเฉินมองดูเย้นหว่านอย่างเยือกเย็น และพูดว่า
“ออกไป”
ถ้าเธออยู่ต่อ เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับเธอหรือไม่
……..
กลางคืน
บังเอิญเจอกันในสถานบันเทิงหรู
ห้องVIP บนโต๊ะมีแต่เหล้าแพงๆทั้งนั้น บนโซฟามีผู้ชายไฮโซนั่งอยู่หลายคน
แต่คนที่ดูเด่นที่สุด ก็คือโห้หลีเฉิน
ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ไม่สามารถปิดบังความหล่อของเขาได้ บุคลิกภาพดูดี สง่า
เขานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้าเฉยเมย บนมือถือไวน์อยู่แก้วนึง เขาได้ดื่มหมดในกึ๊บเดียว แล้วก็รินอีกแก้วนึง
ข้างๆของมือที่ขาวและเรียวยาว มีขวดเปล่าอยู่สองสามขวด
ฉินฉู่ที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆ สำรวจโห้หลีเฉินซ้ำๆ หลังจากนั้น เขาจี้ไหล่ของเย้นเหวินหนาน
“นายดูหลีเฉินสิซิคืนนี้เขาดูแปลกๆใช่มั้ย? ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยว่ะ”
“ไม่ใช่ไม่ค่อยดี แต่ไม่ดีมากๆเลยแหละ”
เย้นเหวินหนานมองฉินฉู่อย่างมีความคิดบางอย่าง “นายไปปลอบใจเขาสักหน่อยมั้ย?”
ฉินฉู่ขนลุกทันที “แล้วทำไมนายไม่ไปล่ะ?”
ตอนที่โหหลีเฉินอารมณ์ไม่ดี ใครเข้าไปก็จะกลายเป็นเป้านิ่ง
เย้นเหวินหนานพูดอย่างจริงจัง “คิดๆดูแล้ว นายเป็นหลานชายแท้ๆของเขานะ”
ฉินฉู่ “…….” ไม่นับญาติล่ะก็เรายังเป็นเพื่อนกัน
ตอนที่ฉินฉู่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปปลอบใจดีมั้ย ทันใดนั้นโห้หลีเฉินเงยหน้ามองมาที่เขาสองคน
“มานี่ ฉันมีคำถามจะถามพวกนาย”
ฉินฉู่ตัวแข็งอย่างกระทันหัน ไม่อยากไปเลยแม้แต่น้อย
แต่พอมองเห็นสีหน้ารำคาญของโห้หลีเฉิน เขาก็กลายเป็นคนขี้ขลาดตาขาวทันที ดันเย้นเหวินหนานไปนั่งลงที่โซฟาด้านข้างของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินน่าจะดื่มไปไม่น้อย สีหน้าไม่ค่อยสดใสนัก แต่ก็ยังคมเข้มเหมือนเดิม
เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ:“ฉันหล่อมั้ย?”
ฉินฉู่:“….”
เย้นเหวินหนาน:“…..”
เขาสองคนมองหน้ากัน ทั้งสองรู้สึกขนลุกไปหมด คืนนี้โห้หลีเฉินไม่ปกติจริงๆด้วย
“หล่อมาก” ฉินฉู่ตอบตามตรง
โห้หลีเฉินถามอีก:“แล้วจะสามารถทำให้ผู้หญิงชอบมั้ย?”
“แน่นอนอยู่แล้ว แค่ยกตัวอย่างในเมืองหนาน สาวๆที่ชอบนายสามารถวงรอบเมืองหนานหนึ่งร้อยรอบเลยล่ะ” ฉินฉู่พยักหน้า
เหมือนโห้หลีเฉินจะไม่พอใจคำตอบนี้มากๆ ขมวดคิ้ว รอบตัวมีกลิ่นไอที่เยือกเย็นระเหยออกมา
ห้องที่กว้างใหญ่ขนาดนี้กลับทำให้คนรู้สึกคับแคบ อันตรายขึ้นมา
ฉินฉู่หน้าซื่อ เขาพูดผิดตรงไหนหรือ?
เขาดึงเสื้อของเย้นเหวินหนาน และมองเขาด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ สายตาเหมือนกับกำลังพูดว่า อยู่ที่นายแล้ว
เย้นเหวินหนานแทบไม่อยากพูด มองดูโห้หลีเฉิน ลองสืบถามว่า:“นายกับคุณเย้นทะเลาะกันใช่มั้ย?”
เห็นสีหน้าโห้หลีเฉินเปลี่ยน เขาพูดเสริมอีก:“วันนี้เธอเห็นเจมส์ อยากจะให้เจมส์มาเป็นนายแบบของเธอมากๆ แต่ตอนที่บอกว่าต้องขออนุญาตกับนาย เธอก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย”
โห้หลีเฉินสีหน้ายิ่งดูไม่ดีเข้าไปใหญ่ ผู้หญิงคนนี้กำลังหลบหน้าเขาจริงๆด้วย
เขาจิบไวน์ที่ถืออยู่คำนึง “อีกอาทิตย์นึงสัญญาหมั้นของเราสองคนก็จะถึงเวลากำหนดแล้ว เธอกำลังเตรียมตัวที่จะจากไป”
ห่างเหินเขา หลบหน้าเขา เขียนรายละเอียดของการชิมอาหาร
ทำเรื่องไปตั้งเยอะแยะมากมาย แค่รอให้ถึงเวลาสามสิบวันที่สัญญาไว้ เธอก็จะตัดขาดจากเขา และจากไปอย่างไม่มีเยื่อใย
เป็นคนใจร้ายไม่มีหัวใจจริงๆ
ฉินฉู่ถึงรู้ในทันที “ตลอดมานี้พี่สะใภ้คิดว่านายกับเธอแค่หมั้นกันหลอกๆ เธอทำแบบนี้มันก็เหมือนจะสมเหตุสมผลแล้วนะ……..”
เขายังพูดไม่ทันจบ เห็นสายตาที่โห้หลีเฉินที่มองเขายิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา เขาถึงกับต้องกลืนคำพูดของตัวเองเข้าไป
น่าสงสารจริงๆ เขาไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย
เย้นเหวินหนานมองฉินฉู่ด้วยสายตารังเกียจ เดิมทีโห้หลีเฉินก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เขายังพูดแบบนี้ มันโรยเกลือที่แผลชัดๆ?
เดือนนี้ โห้หลีเฉินได้พยายามดึงความสนใจต่อหน้าเย้นหว่าน ค่อยๆเอาใจเธอให้อยู่หมัดโดยไม่ให้เธอรู้ตัว แต่พริบตาเดียวเวลาก็จะถึงแล้ว ไม่เพียงแต่เอาใจเธอไม่อยู่ แถมเย้นหว่านยังวางแผนเรื่องถอนหมั้นอย่างกระตือรือร้น……..
ถ้าถอนหมั้นแล้ว อยากจะแต่งงานกับเย้นหว่านก็จะยากยิ่งขึ้น
“ถอนหมั้นไม่ได้เด็ดขาด อย่างน้อยก็ต้องให้คุณเย้นเป็นคู่หมั้นของนายต่อ”
“งั้นง่ายอยู่แล้ว” ฉินฉู่พูดอย่างหัวเราะ “นายแค่ไปมีอะไรกับพี่สะใภ้ แล้วยืนหยัดว่าจะรับผิดชอบเธอ แค่นี้ก็สามารถรั้งตัวเธอไว้แล้ว”
โห้หลีเฉินมองฉินฉู่อย่างเย็นชา
ฉินฉู่กลืนน้ำลาย “ไม่งั้นก็ นายให้เธอรับผิดชอบก็ได้”
โห้หลีเฉนขมับกระตุก แล้วดื่มไวน์อีกคำใหญ่ๆ เขาคิดได้ไงที่มาคุยเรื่องนี้กับสองคนนี้? อารมณ์ยิ่งแย่เข้าไปอีก
เรื่องในคืนนั้นก็ทำให้เย้นหว่านเกลียด“เขา”ขนาดนี้แล้ว ทำอีกครั้งนึง ไม่รู้ว่าเย้นหว่านจะหลบเขาไปไกลแค่ไหน
เย้นเหวินหนานเอียงตัวไปข้างหน้า บังฉินฉู่ที่ทำตัวฆ่าตัวตายไว้ข้างหลัง
เขาพูดว่า:“ฉันมีข้อแนะนำอย่างนึง นี่ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ไม่ใช่หรอ? คุณเย้นเตรียมตัวจะจากไป นายก็ทำให้เธอเตรียมตัวไม่ได้ กลับยิ่งจมยิ่งลึก”
ท่าทีเฉินดื่มของโห้หลีเฉินช้าลง ขมวดคิ้ว
ความคิดนี้ไม่เลวเลย