สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่780 พี่ชาย พี่แทงผิดคนแล้วใช่มั้ย
ถ้าตอนนี้ไปจับมือแสดงความสมานฉันท์ ขอโทษแสดงความสำนึกผิด โห้หลีเฉินก็คงได้ชั่งน้ำหนักดูแล้ว ก็จะฝืนปล่อยเขาไป
แต่ ตอนนี้เขาได้เปิดเผยกำลังของเขาออกไปหมดแล้ว เซอร์ยุนซีจะต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ ต่อจากนั้นก็ก่อรัฐประหารที่รุนแรง เขาไม่มีความมั่นใจที่จะชนะแน่นอนได้
เย้นหว่าน เป็นจุดอ่อนที่เขาจะต้องควบคุมเอาไว้
แต่ควบคุมเย้นหว่าน นั่นก็หมายความว่าได้ทำการล่วงเกินโห้หลีเฉินและตระกูลหยูไปโดยสมบูรณ์
การแก้แค้นของตระกูลหยูเองก็เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะรับมันได้เช่นกัน
โอหยางฝู่รู้สึกกลัวขึ้นมา เย็นเฉียบไปทั้งร่าง ใบหน้าหดเกร็ง
ไม่เคยคิดเลยว่า แผนที่ของเขาเดิมทีนับได้ว่าดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด แต่ทำไมได้ทำให้ตนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากที่จะถอนตัวออกจากเสืออย่างนี้ไปได้
มีการโจมตีจากศัตรูมาทั้งหน้าและหลัง ไม่ว่าเขาจะทำยังไง ก็ไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดออกไปได้เลย
เซอร์ยุนซีต้องการให้เขาตาย
โห้หลีเฉินเองก็จะเอาชีวิตเขาด้วยเหมือนกัน
“เหอะ”
โอหยางฝู่กัดฟันหัวเราะเสียงเย็นออกมา ในทันใดนั้นเองก็แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวออกมา ในเมื่อไม่มีทางให้เดิน งั้นเขาก็จะสร้างเส้นทางที่โชกเลือดออกมาเอง!
จับเย้นหว่านไว้ แล้วฆ่าโห้หลีเฉินไปซะ!
ในเมื่อคนของโห้หลีเฉินอยู่ในอุโมงค์ งั้นเขาก็ยังพอจะมีเวลา ซุ่มโจมตีในอุโมงค์ คนพวกนั้นก็จะตายกันหมด
หลังจากนั้นรอให้เขาได้กุมประเทศเบียนหนานเอาไว้ แล้วไปบอกกับตระกูลหยูว่าเซอร์ยุนซีฆ่าโห้หลีเฉิน ให้เซอร์ยุนซีเป็นแพะรับบาป เขาก็ปลอดภัยแล้ว
พอคิดอย่างนี้แล้ว จิตสังหารของโอหยางฝู่ก็ท่วมท้นออกมาทันที
สายตาที่โหดร้ายน่ากลัวประหนึ่งปีศาจร้ายของเขา ดึงมีดสั้นที่พกอยู่ออกมาจากตรงช่วงเอว
มีดสั้นที่แหลมคมชูขึ้น “ฆ่าโห้หลีเฉิน จับเป็นเย้นหว่าน!”
คำพูดดังขึ้นมา เขาจึงนำเข้าไปจู่โจม ความเร็วมันทั้งเร็วและทั้งเหี้ยมโหด เตรียมจะปลิดชีวิตคน
ในขณะเดียวกัน เหล่าการ์ดต่างก็หยิบมีดสั้นกันออกมา กระโจนเข้าไปฆ่าจากรอบทิศ
เย้นหว่านตื่นตกใจยกใหญ่ออกมา ทั้งร่างแข็งเกร็งไปหมดด้วยความกังวลขึ้นมาทันที
เธอไม่เข้าใจ ทำไมโห้หลีเฉินถึงต้องเปิดเผยสถานะของตัวเอง ทำไมหลังจากที่โห้หลีเฉินเปิดเผยสถานะออกไปแล้ว โอหยางฝู่ถึงได้ต้องการจะฆ่าโห้หลีเฉินออกมาอย่างมาดมั่นออกมาได้
“หลบอยู่ข้างหลังผม”
เสียงทุ้มต่ำของโห้หลีเฉินดังขึ้นข้างๆใบหูของเธอ
จากนั้นร่างของเย้นหว่านก็ถูกดึงไปทางด้านหลังอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ หลังจากที่ถอยจากข้างหน้าไปข้างหลัง ก็ไปยืนอยู่ด้านหลังของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินดึงมีดสั้นออกมาจากอ้อมอกอย่างว่องไว เข้าไปรับมีดสั้นของโอหยางฝู่ไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเย้นหว่าน มองภาพฉากนั้นไปอย่างเหม่อลอย
ปกติแล้วบนร่างของโห้หลีเฉินแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยจะพกดาบหรือมีดมาก่อน เธอไม่รู้เลยว่าเขาไปเตรียมมาตอนไหน
การเข้าต่อสู้กับศัตรูในตอนนี้ หรือว่าเขาได้คาดเดาเอาไว้ก่อนแล้วงั้นเหรอ?
ตกลงโห้หลีเฉินกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่?
เย้นหว่านรู้สึกสงสัยออกมา ทั้งยังรู้สึกกังวลอย่างมากเช่นกัน เกิดกลัวว่าจะเกิดการนองเลือดในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ โห้หลีเฉินจะได้รับบาดเจ็บขึ้นมา
และรอบด้านก็มีมีดทั้งแปดเล่มแทงกันเข้ามา และมันก็ได้ทำให้เธอเสียสติไปโดยสมบูรณ์เช่นกัน
โห้หลีเฉินบุกเดี่ยวเพียงลำพัง จะไปรับมือมีดทั้งแปดเล่มนี้ได้ยังไงกัน?
สิ่งที่พวกเขากลัวมันไม่ใช่การถูกฟันตาย
แต่ในช่วงที่เป็นวิกฤตแบบเส้นยาแดงผ่าแปดที่มีดกำลังจะแทงเข้ามาถึงตัว เสียงโลหะที่กระทบเข้ามาเสียงดัง “เพล้งๆๆ” ดังขึ้นมา
ก็เห็นเซอร์ยุนซีที่จู่ก็ปรากฏตัวเข้ามา ถือดาบยาวปัดมีดของการ์ดพวกนั้นให้หลุดออกไป
เหล่าพวกการ์ดถอยไปข้างหลังเนื่องด้วยเหตุการณ์มันเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันจึงไม่ทันได้ตั้งตัวกัน กำลังเดินเข้าไปข้างหน้าต่อ ด้านหลังของพวกเขากลับมีพวกการ์ดอีกหลายคนจู่โจมกันเข้ามาต่อสู้กับพวกเขา
ทันใดนั้นก็ไม่มีความสามารถที่จะรับมือกับหลายๆด้านไปพร้อมกันได้
เซอร์ยุนซีมองเย้นหว่านไปด้วยความกังวล “เสี่ยวหว่าน เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
ความคิดที่ตึงเครียดของเย้นหว่าน ในที่สุดมันก็ได้คลายลง
ร้ายดียังไง มันก็ไม่ได้ทำให้โห้หลีเฉินต้องสู้แบบหนึ่งต่อเก้า
เธอรีบเอ่ยออกไปทันที “รีบช่วยโห้หลีเฉินเร็วเข้า”
“ครับ”
เซอร์ยุนซีตอบรับอย่างไม่มีลังเลเลยแม้แต่น้อย รีบเอาดาบยาวที่ถืออยู่ในมือฟันไปทางโอหยางฝู่
โอหยางฝู่กำลังประมืออยู่กับโห้หลีเฉิน จู่ๆก็มีใบมีดคมโจมตีเข้ามา ทำให้เขาทำการตอบสนองออกไปตามสัญชาตญาณ โดยการถอยออกมาต้านดาบยาวของเซอร์ยุนซีเอาไว้
“เพล้ง”
เสียงโลหะกระทบกัน เกิดเสียงดังเสียดหูออกมา
ในขณะเดียวกันนั้นเอง โห้หลีเฉินก็ได้โอกาสเอามีดสั้นในมือพลิกแทงเข้าไปตรงด้านหน้า——
โอหยางฝู่ตื่นตกใจออกมา ดวงตาเบิกกว้าง ร้องคำรามออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“พวกแกกล้าทำร้ายฉัน คนของฉัน จะต้องก่อกบฏขึ้นมาอย่างแน่นอน!”
หลังจากเสียงของเขาหลุดออกมา มีดสั้นที่แหลมคมก็ได้แทงเข้าไปในร่างเขา
โอหยางฝู่ เซอร์ยุนซี ต่างพากันตะลึงงันกันออกมา
พวกเขาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างออกมา เหมือนกับคนโง่ก็ไม่ปาน มองไปยังจุดที่มีดเล่มนั้นแทงเข้าไปอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ
ไม่ใช่ร่างของโอหยางฝู่ แต่เป็นบนอกของเซอร์ยุนซี
ความเจ็บปวดที่รุนแรงแผ่ออกมาจากตรงหน้าอกของเซอร์ยุนซี สีหน้าของเขาซีดเผือด มองโห้หลีเฉินไปอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ
“พี่ชาย พี่แทงผิดคนหรือเปล่า?”
โอหยางฝู่ก็งงงวยไปหมดเหมือนกัน จึงได้มองโห้หลีเฉินไปด้วยอาการที่ทั้งตกใจและทั้งประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะแคลงใจออกมาว่า โห้หลีเฉินเป็นศัตรูของศัตรู เป็นกองกำลังที่เป็นมิตรของเขา?
สีหน้าของโห้หลีเฉินเรียบนิ่ง เหมือนกับว่าได้ทำเรื่องที่มันธรรมดาอย่างมาก
เขาคลายมือออกไปอย่างสง่างาม หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดคราบเลือดบนนั้นไปเล็กน้อย
เอ่ยพูดออกมาเบาๆว่า “โอหยางฝู่แทงท่านดยุกตาย พยายามจะก่อกบฏ สามารถจับได้แล้ว”
โอหยางฝู่ “…”
เซอร์ยุนซี “…”
นี่ไม่ใช่ว่าโห้หลีเฉินเป็นคนแทงเองหรือไง พูดคำนี้ออกไปโจ่งแจ้งอย่างนี้ เขาไม่คิดว่ามโนธรรมมันจะเจ็บเอาหรือไง?
โอหยางฝู่ด่าว่าออกไปเสียงดังด้วยความแค้นเคือง “นึกไม่ถึงว่าแกต้องการจะใส่ความฉัน? เลยต้องมาใช้วิธีที่สกปรกอย่างนี้?”
หลายคนต่างก็มองเห็นกันทั้งนั้นว่าโห้หลีเฉินเป็นคนแทงมั้ยล่ะ!
โห้หลีเฉินมีสีหน้าเรียบนิ่ง และได้เดินออกไปหลายก้าวแล้ว
เหมือนกับการที่พวกเข้าไปใกล้เกินไป มันทำให้เขารังเกียจขึ้นมา
เขาพยักหน้ายอมรับอย่างสบายๆ “อืม”
เพียงคำเดียว เปิดเผยเสียจนทำให้คนอื่นเขาเป็นบ้ากันขึ้นมา
“บิดาจะฆ่าแกให้ตาย!”
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครกล้าวางแผนใส่ร้ายเขาเลยสักคน แล้วยังเป็นการใส่ร้ายกันอย่างโจ่งแจ้งอย่างนี้อีก จึงโกรธแค้นถึงขีดสุด
โอหยางฝู่โกรธเกรี้ยวออกมาจนเตรียมที่จะเข้าไปโจมตีโห้หลีเฉิน
แต่ เซอร์ยุนซีที่กำลังอยู่ในอาการเจ็บปวดและตื่นตกใจนั้นเอง ก็ได้มีการตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปกดไหล่ของโอหยางฝู่เอาไว้
เอ่ยร้องเรียนออกไป “โอหยางฝู่ นายทำการฆาตกรรมท่านดยุก ต้องโทษประหารชีวิต! ใครก็ได้เข้ามาจับเขาให้ฉันหน่อย!”
หลังจากที่เสียงพูดหลุดออกไป จู่ๆก็มีการ์ดกลุ่มใหญ่พุ่งกันเข้ามาจากทางด้านนอกของลานบ้าน เอากระบี่ชี้ไปยังโอหยางฝู่กันออกมาตามๆกัน อีกทั้งยังมีผู้ชายสูงใหญ่สองคนเดินออกมา จับกุมแขนของโอหยางฝู่ซ้ายคนหนึ่งข้างขวาคนหนึ่ง
โอหยางฝู่ตื่นตกใจจนเรียกสติกลับมาไม่ได้
เขามองการ์ดที่บุกเข้ามาที่อยู่ตรงหน้าของเขาเหล่านั้นไปอย่างตื่นตะลึง แล้วก็มองด้านนอกประตูที่ว่างเปล่าไปอีกที
ทั้งๆที่เขาเอาการ์ดมากมายมา คอยเฝ้ากันอยู่ด้านนอก ทำไมคนของเซอร์ยุนซีถึงบุกเข้ามาได้?
คนที่เขาพามาล่ะ?
ในใจก็สะท้านขึ้นมาเป็นระยะๆ
เซอร์ยุนซีกุมมีดสั้นที่อยู่ตรงอกเอาไว้ ถึงแม้ว่าทั้งศีรษะจะเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ใบหน้าซีดเซียว แต่ก็ยังคงยืนตรงอยู่ มองโอหยางฝู่ไปด้วยความเย็นชา
“ท่านเสนาฯ เลิกมองได้แล้ว การ์ดที่เฝ้าอยู่ของนาย ถูกคนของฉันจัดการไปหมดแล้ว”
โอหยางฝู่แข็งค้างออกมาทันที กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นออกมาอย่างแรง “จะเป็นไปได้ยังไง ฉันเอาการ์ดส่วนตัวมาตั้งเยอะ…”
“โอหยางฝู่ นายฉลาดไปหมด แต่กลับไม่รู้จักคำกล่าวประโยคหนึ่ง”
เซอร์ยุนซียิ้มเย็นออกมา “ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลังไง”
โอหยางฝู่มีสีหน้าที่ขาวซีดดุจกระดาษ
เขาได้สติกลับมาในทันที ร้องคำรามออกไปด้วยความโกรธ “ทั้งหมดในวันนี้ เป็นแผนที่แกวางไว้? แกวางแผนคิดบัญชีฉันมาตั้งแต่แรก!”
ไม่อย่างนั้นมันจะบังเอิญอย่างนี้ได้ยังไง เซอร์ยุนซีนำคนมามากกว่าเพื่อจัดการกับการ์ดของเขา แล้วยังปลุกเร้าให้มีการต่อสู้กันทั้งสองฝ่าย จนทำให้เซอร์ยุนซีได้รับบาดเจ็บเข้าพอดี