สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่793 แบบนี้ก็ไม่แย่
เย้นหว่านเสียงสะอื้น “โห้หลีเฉิน เรายอมแพ้กันเถอะ ซาอินติคงไม่ฆ่าฉันทันทีหรอก เธอน่าจะขังฉันเอาไว้ นายค่อยมาช่วยฉัน ดีไหม?”
“ฉันเชื่อในตัวนาย ขอแค่ออกไปจากที่นี่ นายคงมีวิธีที่จะช่วยฉันแน่นอน”
ไม่ว่ายังไง ก็ต้องควบคุมซาอินติเอาไว้ให้ได้ แล้วให้เมล็ดแมกโนเลียคงอยู่ที่นี่ต่อ
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่มืดมน น้ำเสียงของเขาเด็ดขาดไม่มีการยอมให้ต่อรองแต่อย่างใด
เขาพูดขึ้นเสียงว่า “เธอทำลายเมล็ดแมกโนเลียไปเลยก็ได้!”
เย้นหว่านตกใจจนเบิกตากว้าง รีบตะโกนว่า “ไม่ได้! ซาอินติ นั่นคือชีวิตของโห้หลีเฉินนะ เธอห้ามทำลายเมล็ดแมกโนเลีย!”
ซาอินติกำเมล็ดแมกโนเลียที่อยู่ในมือ พร้อมสีหน้าที่ดุร้าย
“ฉันไม่ทำลายก็ได้ เย้นหว่าน แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ในขณะที่พูด ซาอินติเผยแขนของเธอออกมา ในมือเธอจับเมล็ดแมกโนเลียเอาไว้ แล้วกำมันไว้อย่างแน่น
เพียงแค่เธอออกแรงนิดหน่อย ยาช่วยชีวิตที่เปราะบางนั้น ก็จะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆได้
เย้นหว่านที่มองอยู่หัวใจเต้นรัว แต่วินาทีนั้นเธอไม่สนอะไรแล้ว
เธอตะโกนตอบกลับ “ได้ ฉันออกมาตอนนี้เลย!”
เย้นหว่านลุกยืนขึ้นเต็มตัว แล้วจะเดินออกไปด้านนอก
ในเวลานี้ โห้หลีเฉินกลับกระโดดเข้ามา แล้วจับมือเธอเอาไว้ แล้วกดเธอเข้าในอ้อมกอดของเขา
แรงของเขานั้นเยอะมาก ไม่ให้โอกาสเธอได้ขัดขืนแต่อย่างใด
โห้หลีเฉินพูดกับซาอินติด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ซาอินติ จะทำลายก็ทำไปเลย ฉันไม่มีทางใช้ชีวิตกับเธอหรอก และฉันก็ไม่มีทางให้เธอได้เย้นหว่านไป ฉันทำได้แต่ ให้เธอไปตาย”
“อย่าได้ให้โอกาสฉัน เพราะฉันจะฆ่าเธอแน่”
คำพูดแต่ละคำแต่ละประโยค เต็มไปด้วยความอาฆาต
ไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อยนิด มีเพียงแต่ความรังเกียจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
คำพูดเหล่านั้นก็เหมือนกับเข็มที่ปักเข้าที่หัวใจของซาอินติ ทำให้ความรักในใจของเธอนั้น กลายเป็นความเหลืออด
ซาอินติโมโหจนตาแดง พร้อมกรีดร้อง “โห้หลีเฉิน นายมันแน่! นายมันแน่! ฉันจะทำให้นายเสียใจทีหลัง ฉันจะทำให้นายเสียใจทีหลังแน่นอน!”
เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่ง นิ้วของเธอออกแรงอย่างแรง
เมล็ดแมกโนเลียที่น่ารำคาญนั้น ถูกบดจนมีน้ำไหลออกมาในมือของเธอ แล้วโดนบีบจนแตกเป็นเศษ โดนบดจนราวกับเมือก ไหลออกจากซอกนิ้วมือของเธอ
เย้นหว่านที่เห็นภาพตรงหน้า ถึงกับนิ่งไป
ราวกับถูกโยนลงไปในก้นทะเลสาบน้ำแข็ง มีแต่ความรู้สึกหนาวจนเข้ากระดูก แล้วตัวของเธอนั้นก็ไม่สามารถลอยขึ้นมาเหนือน้ำได้ เพราะโดนกลืนด้วยน้ำตรงก้นทะเลสาบ และถูกผลักให้ลึกลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
จบแล้ว
ทุกๆอย่างจบแล้ว
เมล็ดแมกโนเลียเม็ดเดียวบนโลกนี้ เสียไปแล้ว
ไม่มีวิธีไหนที่จะช่วยโห้หลีเฉินได้อีกแล้ว เขาสามารถ สามารถใช้ชีวิตได้อีกไม่ถึงสามปี
เย้นหว่านรู้สึกหน้ามืด สิ้นหวังราวกับปลาที่เป็นตะคริว จากนั้นก็ล้มลงอย่างอ่อนแรง
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแน่น เขาออกแรงอย่างมาก ก่อนจะอุ้มเธอได้
เขาพูดเสียงต่ำ “เย้นหว่าน ถึงจะไม่มีเมล็ดแมกโนเลีย ฉันก็ยังมีเวลาสามปีไม่ใช่หรือไง? ฉันยังมีชีวิตได้อีกสามปี ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ดีกว่าตายตอนนี้เยอะเลย คุ้มแล้ว”
คุ้มแล้ว?
หัวใจของเย้นหว่านเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เพราะมันคือการที่เขาใช้ชีวิตของเขา มาแลกกับชีวิตของเธอยังไงล่ะ
คนที่ต้องตายวันนี้ คือเธอเพียงคนเดียวมาตลอด แต่โห้หลีเฉินดื้อรั้นที่จะปกป้องเธอ
หลังจากที่บดเมล็ดแมกโนเลียจนแหลก ก็ไม่ได้รับปฏิกิริยาจากฝ่ายตรงข้าม ซาอินติ คงสติแตกไปแล้ว
ผู้ชายที่เธออยากได้ ในใจของเขานั้นไม่มีพื้นที่สำหรับเธอเลยสักนิดเดียว ถึงเธอจะทำทุกวิถีทางแล้วก็ตาม เขาก็ไม่เหลียวแลเธอเลยแม้แต่น้อยนิด
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไปตายเถอะ
ซาอินติออกคำสั่งอย่างโหดเหี้ยม “พวกแกทุกคน บุกเข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ไม่ตายหมดห้ามถอยเด็ดขาด! ฉันจะฆ่าพวกมัน จะฆ่าพวกมัน!”
พวกองครักษ์ต่างพากันตัวสั่น พวกเขามองไปยังซาอินติกับสีหน้าที่รู้สึกกลัว
องค์หญิงคนนี้ บ้าไปแล้ว
แม้เธอจะบ้าไปแล้ว แต่กลับเอาชีวิตของพวกเขาไปบ้าน่ะสิ
องครักษ์ลังเล “องค์หญิงขอรับ อีกฝ่ายมีการซุ่มโจมตี พวกเราไม่สามารถข้ามไป……”
“งั้นก็ไปตายให้หมด! ไปบอกพวกมันนะ ถ้าไม่ข้ามไปตอนนี้ ถึงจะกลับไปแล้ว ฉันก็จะสั่งประหารพวกแกทั้งหมด! กล้าขัดคำสั่งของฉันดู พวกแกตายกันหมดแน่!”
คำพูดที่โหดร้าย อย่างเลือดเย็น
จนพวกองครักษ์รู้สึกหนาว รู้สึกกลัวแต่ก็รู้สึกสิ้นหวัง
แม้จะรู้ว่าทางข้างหน้าที่ต้องไปคือความตาย แม้จะรู้ว่ากองทัพทั้งหมดของพวกเขาจะโดนกวาดล้าง แต่มันคือคำสั่งขององค์หญิง พวกเขาไม่สามารถที่จะขัดขืนได้
เพราะผลของการขัดขืน ก็คือตายเหมือนกัน
ลุยเข้าสู้คงจะดีกว่า ไม่ก็เหยียบศพของเพื่อนร่วมรบ แล้วมีไม่กี่คนที่โชคดีรอดกลับมาได้
“ลุย!”
หัวหน้าองครักษ์ตะโกนเสียงดัง ก่อนที่จะพุ่งตัวออกไป
องครักษ์ห้าหกสิบคนที่เหลือ ก็ออกตัวไปกันหมด ทุกๆคนยืนเบียดกันอย่างรู้ตัว เพราะอาจจะเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของพวกเขาได้
พวกเขาเหมือนเกราะป้องกันที่ทำจากคน แล้ววิ่งไปข้างหน้า
เย้นหว่านหันหน้ากะทันหัน ก็เจอกับพวกองครักษ์ที่วิ่งกันมาอย่างบ้าคลั่ง ใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ
คนเยอะขนาดนี้ แล้วพุ่งตัวมาอย่างเร็ว ถึงเธอจะใช้มือทั้งสองข้างยิงปืน ก็คงฆ่าพวกเขาไม่ทันหรอก
เธอกับโห้หลีเฉิน แค่จะหนีออกจากที่นี่ก็ไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?
ดวงตาโห้หลีเฉินเย็นชาขึ้น เขายัดปืนพกเข้ามือของเย้นหว่านอีกรอบ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เราอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
ตราบใดที่เราอยู่ด้วยกัน แม้จะต้องเจอกับความตาย ก็ไม่ต้องหวั่น
เย้นหว่านจ้องมองไปที่โห้หลีเฉิน สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่นั้นคือความมืดมน ทันใดนั้น ก็ฟื้นคืนชีพกลับมา
ใช่ แค่ได้อยู่ด้วยกันกับเขา ต่อให้ต้องตาย เธอก็ไม่กลัว
เขาและเธอ ต้องออกจากที่นี่ไปให้ได้
เย้นหว่านกำปืนในมือของเธออย่างแน่น กัดฟันพร้อมสู้ “โห้หลีเฉิน เรามาแข่งกัน ว่าใคร จะฆ่าซาอินติได้ก่อน”
ในดวงตาของเธอนั้น เหมือนมีไฟที่กำลังลุกไหม้ ดูน่าเจ็บปวดแต่ก็สวยงามเป็นอย่างมาก
โห้หลีเฉินที่มองอยู่ถึงกับสติล่องลอย เขาแค่อยากจะมองอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เขาพยักหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนให้คนหลงใหล “ได้”
เย้นหว่านใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรักมองมายังเขา เธอไม่ลังเลอะไร ก่อนจะใช้มือทั้งสองจับปืน แล้วยิงไปยังคนกลุ่มนั้น
“ปัง ปัง ปัง”
เสียงของปืนดังจนหูแทบไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่น
องครักษ์ล้มลงทีละคน พื้นที่เต็มไปด้วยเลือด
ส่วนคนที่อยู่ด้านหลัง เหยียบศพคนพวกนั้น วิ่งมุ่งหน้ามาต่อ
ราวกับเครื่องบดทับ ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
โห้หลีเฉินบาดเจ็บสาหัส การที่จะยิงปืนนั้นถือว่ายากลำบากสำหรับเขา การยิงต่อเนื่องนั้นถึงเป็นขีดจำกัดที่เขาจะสามารถทนได้
ทั้งสองมีปืนเพียงสี่กระบอก แล้วต้องสู้กับคนเยอะขนาดนี้ ในระยะที่ใกล้แค่นี้ คงไม่ไหวหรอก
พวกเขามองพวกองครักษ์ ที่เข้าใกล้มาทีละก้าว
สามเมตร
สองเมตร
หนึ่งเมตร……
เย้นหว่านและโห้หลีเฉินเข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น แผ่นหลังทั้งสองหลังชนกัน ต่างจับมืออีกข้างหนึ่งไว้อย่างแน่น
ฟังเสียงปืนที่ดังอยู่ข้างหู โห้หลีเฉินถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม “เย้นหว่าน กลัวไหม?”
ร่างกายของเย้นหว่านเกร็งไปหมด แต่ที่น่าแปลกคือ จิตใจของเธอสงบมาก
เธอยังยิ้มออกมา “ได้อยู่กับนาย ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
เมล็ดแมกโนเลียโดนทำลายไปแล้ว ชีวิตของโห้หลีเฉินไม่มีอะไรช่วยได้อีกแล้ว จะตายตอนนี้ หรืออีกสามปี ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
ตอนนี้ยังดี ที่พวกขายังสามารถสู้ด้วยกัน ตายด้วยกัน
สำหรับเย้นหว่านแล้ว นี่ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่แย่เหมือนกัน