สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่812 มีแค่เธอ
เซอร์ยุนซีมองการกระทำต่อกันของทั้งสอง ก็คิ้วขมวดเล็กน้อย รับรู้อะไรได้ลางๆ
ตระกูลเย้นจะต้องหายากมากแน่
เขาขุดหลุมไว้เอง ยังมาถูกโห้หลีเฉินกดลงไปซะได้
น่าหงุดหงิด จะไปอยู่แล้วยังไม่เอาลมปากนั่นกลับไปอีก ไม่สบอารมณ์เลย
ฉู่ฉู่เห็นสีหน้าไม่พอใจของเซอร์ยุนซี เธอจับมือเขาแน่น กระซิบเบาๆ อยู่ข้างเขา “ท่านดยุก ตอนนี้คุณยังจะประชันขันแข่งกับคุณโห้อีก ยังมีใจให้เย้นหว่านอยู่อีกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” เซอร์ยุนซีรีบร้อนปฏิเสธ แสดงความซื่อสัตย์ต่อฉู่ฉู่ “ตอนนี้ในใจผมมีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น”
คำบอกรักที่ออกมาอย่างไม่คาดคิด ทำให้ฉู่ฉู่หน้าแดงใจเต้นอีกครั้ง
เย้นโม่หลินที่ยืนอยู่ไม่ไกลเอ่ยขึ้น
“เวลาพอสมควรแล้ว ควรจะออกเดินทางกันได้แล้ว”
ในใจของเย้นหว่านบีบตึง รู้สึกอาวรณ์เล็กน้อย และก็ค่อนข้างลิงโลดกับการจากไปด้วยเช่นกัน จากมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว
เซอร์ยุนซีรีบเอ่ยขึ้น “รอเดี๋ยว”
เย้นหว่านมองไปที่เซอร์ยุนซีอย่างสงสัย เขายังมีเรื่องอะไรอีกงั้นเหรอ?
“พวกนายจะไปจากทางอุโมงค์ใช่ไหม?” เขาถาม
เซอร์ยุนซีเองก็เจตนาบริสุทธิ์ เขาเพิ่งจะกลับมาจากข้างนอกได้ไม่นาน พวกของเย้นโม่หลินก็เข้ามาแล้ว เวลาช่างเหมาะเจาะ แทบจะไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้
และเขาก็ออกไปโดยใช้อุโมงค์ พอดีกับที่ถูกพวกของเย้นโม่หลินพบเข้า
เมื่อหวนคิดถึงวิธีการและแผนการของโห้หลีเฉิน เขาดูเหมือนจะคาดหวังได้ โห้หลีเฉินอาจจะรู้ถึงการมีอยู่ของอุโมงค์นานแล้วก็ได้ จึงจงใจหลอกให้เขาออกไปหากระบองเพชร จุดประสงค์ที่แท้จริงคือเปิดทางให้พวกเย้นโม่หลิน
ในเมื่อพวกเย้นโม่หลินเข้ามาทางอุโมงค์ ย่อมต้องออกไปทางอุโมงค์ได้เช่นกัน
โห้หลีเฉินนั้นมองไม่เห็นถึงความกังวลเลยแม้แต่น้อย สีหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย
เขาเอ่ยอย่างไม่หนักไม่เบา “ใช่”
รู้ความลับของประเทศเบียนหนานแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงวิกฤตเลยสักนิด ท่าทีไม่แยแสนั่น ทำเอาเซอร์ยุนซีหงุดหงิดขึ้นมาแวบหนึ่ง
อยากจะโค่นเขาชะมัด
แต่ สุดท้ายก็อดกลั้นความกระเหี้ยนกระหือรือที่ไม่จำเป็นในใจเอาไว้ เซอร์ยุนซีเอ่ย
“อุโมงค์ไม่ได้ใช้มาตลอดทั้งปี น้ำแข็งสะสมตัวอย่างหนัก รถปกติสามารถแล่นผ่านได้ แต่มีผลกับความเร็วและสมรรถนะ ตรงนั้นฉันมีรถที่เคยผ่านทางอุโมงค์อยู่ พวกนายใช้รถคันนั้นออกไปเถอะ”
เย้นหว่านมองเซอร์ยุนซีอย่างประหลาดใจ ในใจอบอุ่นขึ้นมาชั่วครู่
คาดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงไม่สนใจว่าพวกเขาได้รู้ความลับของประเทศเบียนหนานแล้ว ทั้งยังให้รถกับพวกเขาไปใช้อย่างใจกว้างอีก
เขาช่างเป็นคนที่จิตใจกว้างขวางจริงๆ
เซอร์ยุนซีและฉู่ฉู่ส่งพวกเย้นหว่านมาถึงปากทางเข้าอุโมงค์
นี่คือป่าเขาผืนหนึ่ง ถนนเป็นถนนสาขาที่ซ่อนไว้ คนทั่วไปไม่มีทางค้นพบว่าที่นี่จะยังมีอุโมงค์เส้นหนึ่งอยู่อย่างคาดไม่ถึง
เย้นหว่านยืนอยู่ปากอุโมงค์ เอื้อมมือปาดน้ำตาบนใบหน้าของฉู่ฉู่
“อย่าเศร้าเลย หลังจากนี้มีโอกาสพวกเราต้องได้พบกันแน่นอน”
พูดดังนั้น เย้นหว่านก็นำกระดาษแผ่นหนึ่งวางลงใบฝ่ามือของฉู่ฉู่ “นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของฉัน ถ้าเธอมาข้างนอกแล้ว ก็โทรเบอร์นี้มาหาฉันนะ”
ตอนนี้ฉู่ฉู่อยู่กับเซอร์ยุนซีแล้ว ด้วยนิสัยและฐานะของเซอร์ยุนซี ในอนาคตจะต้องได้ออกไปประเทศที่อยู่ข้างนอกแน่
ถึงเวลานั้นเป็นไปได้อย่างมากว่าจะพาฉู่ฉู่ออกมาด้วยกัน
การจากลาครั้งนี้ ก็จะไม่ใช่การจากกันไปตลอดกาลอีก
ขอบตาของฉู่ฉู่ยังคงเห่อแดง กุมมือของเย้นหว่านเอาไว้แน่น อาลัยอาวรณ์อย่างมาก
“เสี่ยวหว่าน พออีกเดี๋ยวเธอจะไปแล้ว ฉันก็ไม่ชินเลย”
เย้ยหว่านหัวเราะแล้วเอ่ยอย่างหยอกล้อ
“จะไม่ชินได้ยังไงกัน เริ่มคืนนี้ ก็เปลี่ยนเป็นเซอร์ยุนซีอยู่เป็นเพื่อนเธอไง แถมอยู่แบบไม่ห่างแม้สักนิ้วทั้ง24ชั่วโมงเลยยังได้”
ฉู่ฉู่พลันหน้าแดงขึ้นมา ทำฟึดฟัดอย่างเขินอาย
“อย่าพูดเหลวไหลเลยน่า”
“พูดเหลวไหลที่ไหนกัน? อีกเดี๋ยวฉันไปแล้ว พวกเธอจะต้องรอจะกลับบ้านไปด้วยกันอย่างหวานชื่นไม่ไหวแน่ ข้าวใหม่ปลามันน่ะ รักกันหวานซึ้ง24ชั่วโมงก็ไม่อยากแยกจาก”
แก้มของฉู่ฉู่ยิ่งเห่อแดงเข้าไปอีก เธอเอามือปิดหน้าอย่างเขินอาย แทบจะหาสักที่มุดเข้าไป
แม้ว่าเธอและเซอร์ยุนซีจะเคยมีความสัมพันธ์แบบนั้นมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดเธอก็เพิ่งจะได้อยู่กับเซอร์ยุนซี เมื่อเธอนึกถึงเรื่องแบบนั้นใบหน้าก็ร้อนผ่าวไปหมด
พูดเรื่องเหลวไหลกับฉู่ฉู่ไปอีกไม่กี่คำแล้ว ก็ถึงเวลาที่ควรไปเสียที
เย้นหว่านร่ำลาฉู่ฉู่อีกครั้ง ก่อนเงยขึ้นมองไปยังเซอร์ยุนซี
เซอร์ยุนซีเองก็มองมาที่เธอ
แววตาสั่นไหวเล็กๆ ซับซ้อนอย่างลึกซึ้ง
เขาเอ่ยเสียงทุ้ม “เสี่ยวหว่าน เดินทางปลอดภัยนะ”
“นายเองก็ดูแลตัวเองด้วยนะ”
เย้นหว่านพยักให้เขา แล้วจึงหันหลังแล้วเดินไปที่รถ
โห้หลีเฉินนั้นยืนรอเธออยู่ข้างๆ รถนานแล้ว
เย้นหว่านเดินไปถึงข้างกายเขา สบตายิ้มให้กัน แล้วก้มตัวเข้าไปในรถ
เธอนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง จากด้านในกระจกรถมองออกไปยังเซอร์ยุนซีและฉู่ฉู่ ยังมีภูเขาและแม่น้ำข้างนอกที่เป็นของประเทศเบียนหนานเท่านั้น
ตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงตอนนี้กว่าสามเดือนแล้ว ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากที่ประเทศเบียนหนานมาแล้ว
ได้รับบาดเจ็บและความอับอาย และหายาเจอ และยังได้รู้จักกับคนดีๆ อย่างฉู่ฉู่และเซอร์ยุนซี
เมื่อมองพวกเขา ประเทศเบียนหนานก็ไม่ได้ให้เพียงแค่ความทรงจำที่เลวร้ายกับเธออีก
บางทีถ้าหากครั้งหน้าเธอมีโอกาสมาที่ประเทศเบียนหนานอีกครั้ง ภายใต้การชี้นำของเซอร์ยุนซีที่นี่อาจจะเปลี่ยนไปอย่างที่แตกต่างสุดๆ เลยก็ได้
แน่นอนว่า จะต้องดีขึ้นดีกว่าตอนนี้
เย้นหว่านเอ่ยกระซิบเสียงเบา “ลาก่อนนะ ประเทศเบียนหนาน”
รถติดเครื่องยนต์ ก่อนขับเข้าไปในอุโมงค์อย่างไม่เร็วไม่ช้า
ทิวทัศน์ข้างนอกยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมองไม่เห็นอีก
เซอร์ยุนซีและฉู่ฉู่ยังคงยืนอยู่นอกอุโมงค์อยู่ตลอด มองไปยังรถที่ไกลออกไป
ดวงตาของฉู่ฉู่แดงผ่าว น้ำตาไหลพรากลงมาอย่างอดไม่อยู่
เพื่อนคนแรกในชีวิตนี้ เธอยังไม่คุ้นเคยกับการแยกจากกันเลย
สักพักหนึ่ง อารมณ์ของเธอถึงคงที่ขึ้นมาเล็กน้อย เธอช้อนสายตามองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย กลับเห็นเขากำลังจ้องตรงไปยังทิศทางของอุโมงค์ แววตาลึกล้ำซับซ้อน
ราวกับความหมกมุ่นบางอย่าง
หัวใจของฉู่ฉู่กระตุกอย่างแรง ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้ากลายเป็นซีดขาว
เธอมองไปที่เซอร์ยุนซีด้วยสายตามีนัย เรียกเขาเบาๆ “ท่านดยุก”
เซอร์ยุนซียังคงมองตรงไปยังทิศทางของอุโมงค์ ราวกับไม่ได้ยินเสียงของเธอ เหมือนตกอยู่ในภวังค์อย่างนั้น
ภาพนั้น คุ้นเคยจนทำให้หัวใจของฉู่ฉู่สั่นไหว
มันเป็นแบบนี้มาตลอด ในสายตาของเซอร์ยุนซีมีเพียงเย้นหว่าน แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีตัวตนของเธออยู่เลย
เธอทำอะไร เขาไม่เห็น เธอพูดอะไร เขาไม่ได้ยิน
เมื่อนึกถึงการขอแต่งงานอย่างกะทันหันของเซอร์ยุนซีในวันนี้ สีหน้าของฉู่ฉู่ก็ยิ่งซีดเผือด ร่างเล็กอดสั่นเทาไม่ได้
เธอค่อยๆ ถอยไปข้างหลังสองก้าว ละจากอ้อมแขนของเซอร์ยุนซี เขาก็ยังไม่ได้สังเกต
ฉู่ฉู่กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น น้ำตาเอ่อคลออยู่ในเบ้าตาไม่หยุด
เธอสะอื้นถาม
“เย้นหว่านไปแล้ว ละครก็ควรจะสิ้นสุด งั้นสินะ?”
น้ำเสียงของเธอช่างเศร้าสร้อย ทำให้เซอร์ยุนซีที่สติหลุดลอยไปรู้สึกตัวขึ้นมาทันที
เขาเพิ่งจะสังเกตได้ ไม่รู้ว่าฉู่ฉู่เดินออกไปด้านข้างสองก้าวแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่
และบนใบหน้าของเธอ น้ำตานอง ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดเสียใจอย่างมาก
เซอร์ยุนซีรีบเดินไปข้างเธอ เอื้อมมือจะโอบไหล่ของเธอ
“อย่าเศร้าไปเลย หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสฉันจะพาไปข้างนอกหาเย้นหว่านนะ”
อยากจะพาเธอไปหาเย้นหว่าน หรือเขาอยากจะพบเย้นหว่านเองกันล่ะ?