สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่816 เห็นแล้ว
ตอนนี้รีบไปถึงงานเลี้ยง ก็ยังทันได้เวลา
แต่ในเมื่อเป็นการจัดเลี้ยง ชุดราตรีเอยสูทเอยก็ยังไม่ได้เตรียมมาใส่ จะเข้าไปในบ้านกู้จื่อเฟยทั้งแบบนี้ ก็คงไม่ดีเท่าไหร่
โห้หลีเฉินมองสีหน้าท่าทางสับสนของเย้นหว่าน ก่อนลูบหัวน้อยๆ ของเธออย่างเอาใจ
เขาโน้มตัวเอ่ยเสียงเบาที่ข้างหูเธอ
“ตอนที่ฉันอยากเจอเธอ ก็ร้อนอกร้อนใจแบบนี้เหมือนกัน”
ไอร้อนจากคำพูดของชายหนุ่มเป่ารดที่ใบหู เหมือนกระแสไฟฟ้าที่กระจายบนผิวหนัง ทำเอาหูของเย้นหว่านแดงเห่อไปทั้งใบ
เธอเขินอายจนถอยไปหลบอยู่ข้างหลังเล็กน้อย หันไปมองแผ่นหลังที่รีบเร่งของเย้นโม่หลินอีกครั้ง ทันใดนั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“นายหมายความว่า พี่ฉันอยากจะเจอกู้จื่อเฟยเหรอ? ทำไมเขาจะ…..”
เย้นหว่านยิ่งงงงวยไม่เข้าใจ
เธอก็รู้อยู่ ว่าเย้นโม่หลินไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับกู้จื่อเฟย กระทั่งยังเคยทำร้ายเธออย่างไร้ความรู้สึก จึงนำไปสู่ความตึงเครียดและแตกหักในตอนนี้ของทั้งสองคน
เธอนึกว่าที่เย้นโม่หลินรีบร้อนมาเพียงเพื่อยาเสียอีก ตอนนี้กลับเหมือนว่าจะเป็นเพราะกู้จื่อเฟย
หากเป็นเช่นนั้น งั้นที่เขารีบมาก่อนงานเลี้ยงอย่างไม่หลับไม่พัก ก็สมเหตุสมผลแล้ว
“หรือว่าพี่ชายฉัน ชอบกู้จื่อเฟยแล้ว?”
เย้นหว่านพึมพำ พูดไปเธอเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อนัก
ทัศนคติของเย้นโม่หลินต่อกู้จื่อเฟยย่ำแย่ขนาดนั้น ดูท่าทางจะชอบได้ที่ไหนกัน
“ไปเถอะ รอแค่พวกเราแล้ว”
โห้หลีเฉินไม่ปล่อยให้เย้นหว่านคิดต่อไป เขาจับมือเธอแล้วเดินไปทางคันรถ
เย้นหว่านขึ้นรถแล้ว คนขับจึงรีบติดเครื่องและมุ่งหน้าไปยังบ้านของกู้จื่อเฟยด้วยความเร็วสูง
แต่กลับไม่ใช่คนขับรถที่ตั้งใจจะขับเร็วขนาดนั้นเอง แต่เป็นรถคนนั้นที่เย้นโม่หลินนั่งอยู่ด้านหน้าสุดนั้นขับอย่างบ้าคลั่งราวกับเมาเลือดไก่
รถคันด้านหลัง จึงได้แต่เร่งคันเร่งตามไป
ระหว่างทาง เย้นหว่านก็เห็นอาคาร ถนนหนทางที่คุ้นเคยผ่านนอกหน้าต่างเป็นระยะๆ นั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ส่วนมากก็ยังเป็นอย่างในความทรงจำของเธอ
เมืองแห่งนี้ ยังคงเป็นที่คุ้นเคยขนาดนี้
ในหัวของเย้นหว่าน ก็มีฉากที่เคยใช้ชีวิตที่นี่ฉายผ่านราวกับภาพยนตร์ มีทั้งความเจ็บปวด ทั้งความสุข ทั้งใจเต้น
ทั้งหมดนั้น สุดท้ายก็โยนความผิดไปตกอยู่ที่ตัวชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกาย
ตกเป็นของเธอ
“โห้หลีเฉิน ฉันโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอนาย”
เย้นหว่านเอ่ยด้วยความรู้สึกลึกๆ
ในตอนแรกเริ่ม เพราะเธอถูกวางยา ถึงได้จับพลัดจับผลูไปมีอะไรกันกับโห้หลีเฉิน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายที่สูงส่งเย่อหยิ่งคนนั้น ชำเลืองมองเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะจุดเริ่มต้นนี้ เธอคิดว่า เธออาจจะไม่มีโอกาสได้คุยกับโห้หลีเฉินด้วยซ้ำ ยิ่งไม่มีการสนิทสนมหวั่นไหวและตกหลุมรักกันและกันในภายหลัง
โห้หลีเฉินเอื้อมมือไปโอบเย้นหว่านไว้ในอ้อมแขน “ฉันเองก็โชคดีที่ได้เจอเธอ ไม่อย่างนั้น….”
เขาชะงัก น้ำเสียงสดใสเต็มอก “ฉันอาจจะต้องเป็นโสดไปทั้งชีวิตแล้วล่ะ”
ได้ยินดังนั้น เย้นหว่านก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
แม้จะเป็นคำพูดขบขัน แต่กลับเป็นคำบอกรักที่น่าประทับใจที่สุด
ทั้งสองรักใคร ราวกับมาถึงเมืองหนานแล้ว ทำให้ความรักของพวกเขากรุ่นไออุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
ระหว่างที่กำลังเนิบนาบ บ้านของกู้จื่อเฟยก็ถึงแล้ว
ด้วยการขับรถอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่มาถึงประตูบ้านของเธอก็ยังไม่ถึงห้าโมงครึ่ง
ในเวลานี้ งานเลี่ยงก็ยังไม่เริ่ม และยังไม่มีแขกมา
ตระกูลของกู้จื่อเฟยไม่ถือตระกูลทรงอิทธิพลแนวหน้าของเมืองหนาน แต่ก็นับเป็นตระกูลที่ยอดเยี่ยม บ้านนี้สร้างคฤหาสน์สามชั้นที่ตั้งโดดเดี่ยวในทำเลที่ดี มีสวนดอกไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
ยิ่งวันนี้ที่ผ่านการจัดแต่งมาเป็นพิเศษ สวนดอกไม้นั้นดูวิจิตรงดงามอย่างมีเสน่ห์ ริบบิ้นหลากสีถูกแขวนไว้ในสถานที่สำคัญ บนพื้นปูพรมแดง
มีที่นั่งต้อนรับที่ประตู แต่ยังไม่มีใครเฝ้าอยู่
ขบวนรถกลุ่มหนึ่งหยุดอยู่ที่ประตูบ้าน ด้วยความสะดุดตา ทันทีหลังจากนั้น สาวใช้ที่อยู่ข้างในก็เดินออกมา
ขณะเธอกำลังเตรียมจะทักทายแขกผู้มาถึง หลังจากเห็นคนที่ลงจากรถนั้นคือเย้นหว่าน ก็เรียกออกมาอย่างประหลาดใจ
“เสี่ยวหว่าน เธอมานี่เอง! ฉันก็ว่าอยู่ว่าใครจะมาเร็วขนาดนี้น่ะ”
ก่อนหน้านี้เย้นหว่านเองก็มาที่บ้านกู้จื่อเฟยบ่อยๆ คุ้นเคยกับสาวใช้ในบ้านของเธออยู่บ้าง สาวใช้คนนี้คือป้าหวางที่เคยเจอกันมาก่อน
“ป้าหวาง ฉันมาหาจื่อเฟย เธออยู่รึเปล่า?”
ป้าหวางพยักหน้ารัว “อยู่สิ กำลังแต่งหน้าอยู่ในห้องน่ะ วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณท่าน จื่อเฟยเป็นคุณผู้หญิงของเรา ต้องแต่งหน้าให้สวยงามจะได้เป็นดอกไม้ที่โดดเด่นเกินดอกไหนๆ”
ขณะพูด ป้าหวางก็สังเกตเห็นการแต่งตัวของเย้นหว่าน ก็ยังเป็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดา
เธอสงสัยเล็กน้อย จึงถามอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวหว่าน เธอมาหาจื่อเฟยแค่ไม่นานเหรอ?”
ความหมายของคำพูดนั้นคือถามเธอว่า ต้องการจะร่วมงานเลี้ยงวันเกิดรึเปล่า
ชุดนี้ไม่เหมาะกับการร่วมงานเลี้ยงนัก
แต่เย้นหว่านไม่ได้สังเกตถึงขนาดนั้น เธอพยักหน้า กำลังคิดจะบอกให้ป้าหวางพาเธอเข้าไปหากู้จื่อเฟย ป้าหวางกลับดึงมือเธอแล้วพูด
“งั้นเธอต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ จื่อเฟยยังมีชุดราตรีอีกไม่น้อย คุณเลือกสักตัวมาใส่ก่อนนะ”
ป้าหวางคิดได้อย่างรอบคอบจริงๆ
เย้นหว่านหัวเราะ ดึงป้าหวางเอาไว้ ก่อนหันไปหาชายหนุ่มหลายคนที่อยู่ด้านหลัง
“พี่คะ พวกเราเข้าไปสี่คนก็พอแล้วล่ะ ให้พวกบอดี้การ์ดไปกันก่อนหรือให้รออยู่ใกล้ๆ ก็ได้”
ถ้าพวกบอดี้การ์ดเข้าไป จะดึงดูดความสนใจของคนคนนั้นได้ง่าย
ถึงตอนนั้นคงเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้
เย้นโม่หลินออกคำสั่งเสียงทุ้มต่ำ “พวกนายไปเฝ้าอยู่แถวนี้ อย่าให้ใครพบการมีอยู่ของพวกนาย”
“ครับ”
เหล่าบอดี้การ์ดตอบรับอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นก็ขึ้นรถอย่างว่องไวแล้วขับรถออกไป
ป้าหวางจึงเพิ่งจะสังเกตเห็นชายหนุ่มหลายคนที่เย้นหว่านพามา ล้วนมีบุคลิกที่ไม่ธรรมดาและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา ทั้งออร่าและรูปลักษณ์ภายนอก สามารถเทียบเคียงโห้หลีเฉินได้เลยทีเดียว
ที่เป็นพิเศษคือสองคนในนั้น
ดวงตาเธอเป็นประกาย ดึงเย้นหว่านมาเอ่ยเสียงเบา
“เสี่ยวหว่าน เธอเป็นเพื่อนซี้ที่ดีที่สุดของจื่อเฟยเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คิดถึงเธอ รู้ว่าวันนี้ที่คุณท่านจัดงานเลี้ยงจุดประสงค์หลักยิ่งกว่าก็คือการเลือกสามีให้หล่อน เธอก็เลยพาผู้ชายชั้นเยี่ยมมาสองคนแบบนี้”
เย้นหว่านเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เลือกสามี?
ดังนั้นที่เรียกว่างานวันเกิดในวันนี้ แท้จริงคืองานหาคู่งั้นเหรอ?
เมื่อตระหนักในจุดนี้ได้ เย้นหว่านก็มองไปทางเย้นโม่หลิน
ก็พบใบหน้าหล่อเหลาของเขามืดทะมึน รอบกายราวกับมีแรงกดดันอันเย็นยะเยือกที่สะกดกลั้นไว้
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าอารมณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ดีเป็นอย่างมาก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะต้องมาร่วมงานหาคู่ของคนอื่นอย่างแปลกประหลาด มันทำลายความองอาจของเขา หรือว่าเพราะกู้จื่อเฟยกำลังหาคู่งั้นเหรอ?
จากนั้น กลุ่มของเย้นหว่านจึงเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยการนำของป้าหวาง
ในคฤหาสน์ยังมีคนใช้คนอื่นที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดแต่งและเตรียมอาหาร ป้าหวางพาพวกเขาขึ้นไปยังห้องของกู้จื่อเฟยที่ชั้นสามโดยตรง
ในตอนนั้น ประตูห้องของกู้จื่อเฟยไม่ได้ปิดเอาไว้ มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างในอย่างรีบร้อน
อีกนิดเดียวก็จะชนกับพวกของเย้นหว่านแล้ว แต่ก็เพียงแค่ขออภัยเล็กน้อยแล้วตาลีตาลานวิ่งไป
รีบขนาดนั้นจะไปทำอะไรกัน?
เย้นหว่านเดินผ่านไปอย่างงุนงง เมื่อเดินมาถึงประตูห้อง ก็ได้เห็นผืนหิมะขาวอย่างไม่ได้ตั้งใจ
กู้จื่อเฟยหันหลังให้กับพวกเขา และกำลังถอดเสื้อผ้า เผยให้เห็นแผ่นหลังงามเข้าพอดี