สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่822 แค่เพื่อน
กู้หรงพูดเสียงดัง “ทุกคนต่างก็สามารถเลือกทำงานได้หลากหลาย แต่เธอกลับเลือกอาชีพหมอ ก็พิสูจน์แล้วว่าให้ใจของเธอ ในกระดูกของเธอนั้นเป็นคนโอบอ้อมอารีและชอบช่วยเหลือผู้คน”
ในชีวิตของฉันน่ะชื่นชมเด็กหนุ่มที่มีหัวคิดอย่างเธอที่สุดเลยล่ะ ไม่เลวเลยจริงๆ เยี่ยมมากๆ”
กู้หรงพูดไปพยักหน้าไป ยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจ
สายตานั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเลือกได้ถูกคน มองจนป่ายฉีรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างบอก
เขาเหลือมองแล้วรีบเงียบปาก ไม่พูดอะไรอีก
สัญชาตญาณบอกกับเขา คุณพ่อแปลกๆ คนนี้ เหมือนจะไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ระวังอาจจะตกหลุมพรางได้
กู้จื่อเฟยมองพ่อของตัวเองอย่างแปลกประหลาดใจ เมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจในอาชีพของคนอื่นขนาดนี้ และก็ไม่ได้ประเมินแพทย์สูงขนาดนั้นด้วย กระทั่งเคยค่อนแคะเรื่องอุบัติเหตุทางการแพทย์ด้วยซ้ำ
วันนี้เป็นอะไรไป กินยาผิดรึยังไง?
“จื่อเฟย”
ขณะกำลังครุ่นคิด กู้หรงก็เรียกกู้จื่อเฟยอย่างใจดีอีกครั้ง ถึงกับเอื้อมมือไปกุมมือของกู้จื่อเฟยเอาไว้
ความอบอุ่นที่มือใหญ่ส่งผ่านมานั้น กลับทำให้กู้จื่อเฟยตัวแข็งทื่อขึ้นมา
มองไปยังกู้หรงอย่างระแวดระวังเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้น
ผู้เฒ่าคนนี้ วันนี้เป็นอะไรไปน่ะ?
กู้หรงยิ้มอย่างอ่อนโยน สายตามองไปมาระหว่างกู้จื่อเฟยกับป่ายฉีแล้วเอ่ยอย่างสนิทสนม
“จื่อเฟย ลูกบอกพ่อมาตามจริงเถอะ ลูกกับพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันงั้นเหรอ?”
ความสัมพันธ์อะไร?
ทันใดนั้นในใจของกู้จื่อเฟยก็มีเสียงชะงักกึกขึ้นมา
สายตาของเธอมองไปทางเย้นโม่หลินอย่างไม่รู้ตัว ในใจค่อนข้างสับสนและว้าวุ่น
คำถามนี้ของกู้หรงไม่ได้หมายความตามเนื้อผ้า หรือว่า เขาจะรู้เรื่องพวกนั้นระหว่างเธอกับเย้นโม่หลินแล้วงั้นเหรอ?
แต่ว่า เธอก็แค่คิดไปเองฝ่ายเดียวทั้งนั้น มันถูกตัดขาดไปหมดแล้ว ไม่มีทางบอกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์อะไรอีกแล้ว
หรือว่า คุณพ่อจะไม่ได้รู้บทสรุปแล้วเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเย้นโม่หลิน
กู้จื่อเฟยใจเต้นระส่ำอย่างไม่สบายใจ เธอเอ่ยอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“แน่ แน่นอนว่าเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนไงคะ หนูกับพวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้นค่ะ”
“แค่เพื่อนกันเท่านั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของกู้หรงมีความสงสัยอย่างชัดเจน ถึงกับเปรยให้เธอสารภาพออกมาด้วย
การเต้นของหัวใจของกู้จื่อเฟยยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก
พ่อของเธอรู้อะไรเข้าแล้วงั้นเหรอ? ต้องรู้อะไรแล้วแน่ๆ
แต่เขาถามจี้จุดออกแบบนี้แท้จริงคิดจะทำอะไรนอกจากจะทำให้เธอสุดทนก็เท่านั้น
กู้จื่อเฟยกุมมือของกู้หรงกลับ มองไปยังเขาด้วยแววตาวิงวอนก่อนเอ่ยเสียงเบา
“คุณพ่อ หนูกับพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาจริงๆ พ่อไม่ต้องถามอะไรอีกแล้วนะคะ? พ่อเชื่อหนูนะ”
เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยเป็นเช่นนั้น กู้หรงก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
มาถึงจุดนี้แล้ว พากลับมาบ้านก็แล้ว กู้จื่อเฟยยังไม่คิดจะพูดอีกงั้นเหรอ?
ยังจะยืดเวลาออกไปถึงเมื่อไหร่กัน?
กู้หรงเพียงแค่เป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของเธอเท่านั้น
สุดท้ายก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของลูกสาวได้ กู้หรงพยักหน้าก่อนหันไปมองทางป่ายฉี
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ป่ายฉี เธอคือคู่ควงออกงานในคืนนี้ของเฟยเฟยใช่ไหม?”
ทุกคนในที่นั้นต่างเกินความคาดหมายอย่างมาก
ส่วนป่ายฉีเองนั้นก็มึนงงยิ่งกว่าเดิม คุณอากู้คิดได้ยังไงกันแน่ เขาดูเหมือนจะเข้ากับออร่าของกู้จื่อเฟยแล้วเป็นคู่ควงกันได้ตรงไหนกัน?
ขณะเดียวกับที่กำลังแขวะอยู่ในใจ เธอก็ยังรับรู้อย่างฉับไวได้ถึงลมหายใจเย็นยะเยือกอันอันตราย
ป่ายฉีร่างแข็งเกร็งขึ้นมาทันใด เขารีบเอ่ย
“คุณอากู้ ผมไม่ใช่คู่ควงในคืนนี้ของกู้จื่อเฟยหรอกครับ คนที่จะมาเป็นคู่ของเธอคือคุณชายเย้นครับ”
“คุณชายเย้น?”
สายตาของกู้หรงมองไปยังเย้นโม่หลิน รู้สึกเหลือเชื่ออย่างมาก
เย้นโม่หลินนั่งตัวตรงแหน็ว พูดด้วยน้ำเสียงไม่สูงไม่ต่ำ “เรียกผมเย้นโม่หลินเถอะครับ”
ป่ายฉียกนิ้วโป้งให้พี่ใหญ่ของตัวเองอย่างลับๆ ใครว่าเขาEQต่ำเตี้ยเรี่ยดินกัน? ดูสิ แค่เดี๋ยวเดียวก็รู้วิธีที่จะเข้าหาว่าที่พ่อตาได้แล้ว
อยากรู้ว่าบนโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่กล้าเรียกชื่อของเขา?
กู้หรงพยักหน้าจากนั้นสาวตาก็มาตกอยู่ที่กู้จื่อเฟย เขาเอ่ยถาม
“เฟยเฟย ลูกอย่าโกหกพ่อเรื่องที่ต้องรู้พ่อรู้หมดแล้ว ลูกพูดมาตามจริง สุดท้ายคู่ในคืนนี้ของลูกคือป่ายฉีใช่ไหม?”
น้ำเสียงที่สงสัยแบบนั้น ไม่เชื่ออย่างสิ้นเชิง
ป่ายฉีที่ถูกเรียกชื่ออีกครั้งนั้นก็รู้สึกท่าไม่ดีขึ้นมาทันที เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าทำไมกู้หรงถึงคิดว่าเขาคือคู่ของกู้จื่อเฟย
ไม่เห็นใครบางแถวนี้แผ่รังสีทะมึนขึ้นมาอีกแล้วรึไง
การเข้าใจผิดนี้ไม่ได้ดีเลยสักนิด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจจะแย่ก็ได้
กู้จื่อเฟยเองก็ค่อนข้างแปลกใจ ไม่ค่อยเข้าใจว่าพ่อตัวเองไปเอาความมั่นใจมั่วๆ นี่มาจากไหน
เธอมองไปยังเย้นโม่หลินด้วยแววตาสั่นไหว ก่อนเอ่ยเสียงเบา
“พ่อคะ คู่ของหนูในคืนนี้คือคุณชายเย้นจริงๆ ค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หัวคิ้วของกู้หรงก็ขมวดเข้ามาอย่างไม่ชอบใจ
มองไปที่ป่ายฉี เย้นโม่หลินและกู้จื่อเฟยด้วยสายตาซับซ้อนอยู่พักหนึ่ง
สุดท้าย เธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“คุณชายเย้นเขาเป็นผู้ดีสูงศักดิ์ ยัยเด็กกะโปโลอย่างลูกเป็นคู่ของเขาน่ะมันไม่เหมาะกันเลย”
กู้จื่อเฟย “…..”
นี่ใช่พ่อแท้ๆ รึเปล่าเนี่ย? พูดแบบนั้นต่อหน้าคนเยอะแยะแล้วจะเอาหน้าเธอไปไว้ไหนกันล่ะ?
กู้จื่อเฟยโมโหจนแทบอยากล้มโต๊ะ
จากนั้น กู้หรงยังพูดต่อไปอีกว่า “ป่ายฉีน่ะร่าเริงและมีชีวิตชีวา อาชีพเองก็เรียบง่ายเป็นกันเอง เข้ากันได้กับบุคลิกของลูก พวกลูกสองคนอยู่ด้วยกันถึงจะดูเข้ากันหน่อย”
กู้จื่อเฟย “……”
ป่ายฉี “……”
คู่กรณีทั้งสองต่างมองหน้ากัน ในแววตามีเพียงความรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง
กู้หรงกลับมองป่ายฉีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเอ่ยอย่างอัธยาศัยดี
“ป่ายฉี คืนนี้เธอมีคู่ออกงานรึยังล่ะ? ถ้ายังไม่มีคืนนี้ก็เป็นคู่ของจื่อเฟยสิ ช่วยฉันดูแลหล่อนสักหน่อยเถอะนะ”
มุมปากของป่ายฉีกระตุกอย่างแรง เมื่อเผชิญกับคำเชิญของกู้หรง ใบหน้าที่งุนงงก็มีความตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
นี่เขาถูกบังคับให้ “แย่ง” ผู้หญิงของพี่ใหญ่ตัวเองใช่ไหม?
น่ากลัวว่า คงได้ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ
เขารีบโบกมืออย่างอึดอัด “ไม่ได้หรอกครับ กู้จื่อเฟยพูดกับคุณชายเย้นแล้ว….”
“พูดไปแล้วก็แก้ไขได้นี่ ฉันหาหญิงสาวที่งดงามสักคนให้เป็นคุณชายเย้นเป็นคู่ควงก็พอแล้ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้หรงยิ่งอ่อนโยนเป็นมิตรขึ้นอีก “ส่วนเธอ มาเปิดตัวที่บ้านของเราครั้งแรกก็ควรจะให้ถูกต้องหน่อย อยู่ด้วยกันกับเฟยเฟย จะได้ให้ทุกคนได้เตรียมใจไว้บ้าง”
เตรียมใจ?
เตรียมใจอะไร?
อีกอย่างเขากับเย้นโม่หลินก็มาด้วยกัน ทำไมเขาเปิดตัวแล้วต้องทำให้ถูกต้องด้วยล่ะ?
ป่ายฉีที่ถูกวางไว้บนตำแหน่งพิเศษ ผิวหนังทั่วร่างพลันรู้สึกขึงตึง สับสนอลหม่านอย่างมาก
เขารีบส่งสายตาให้กับกู้จื่อเฟย ใช้น้ำเสียงที่มีแค่ทั้งสองคนเท่านั้นที่ได้ยินเอ่ยขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับพ่อเธอ? รีบทำให้เขาหยุดพูดได้แล้ว ฉันยังไม่อยากตาย”
กู้จื่อเฟยเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าพ่อตัวเองกำลังทำบ้าอะไรของเขา
คำพูดพวกนั้นล้วนมีความหมายแฝงอยู่และกลั่นกรองมาอย่างละเอียด ราวกับว่าความจริงแล้วเธอกับป่ายฉีเป็นชู้กันอย่างนั้นแหละ
จะมีความเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ได้
กู้จื่อเฟยพูดกับกู้หรง “พ่อคะ เรื่องงานเลี้ยงในคืนนี้หนูจัดเตรียมไว้หมดแล้ว พ่อไม่ต้องกังวลไปหรกค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทางไม่เข้าร่องเข้ารอยแบบนั้นของกู้จื่อเฟย กู้หรงก็โมโหขึ้นมา
แฟนก็พามาถึงที่บ้านแล้ว ไม่ยอมรับความสัมพันธ์ยังพอว่า ยังจะไม่ให้เขาเป็นคู่ออกงานอีกงั้นเหรอ?