สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่824 ฝู้เหวยข่าย
แต่ในสายตาของเขามีเพียงหญิงสาวที่อยู่บนชิงช้าเท่านั้น เขามองเธอด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยนที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม
เขาผลักหญิงสาวเป็นครั้งคราวเพื่อให้ชิงช้าของเธอแกว่งต่อไป
ผู้ที่ดูสูงศักดิ์กำลังทำเรื่องแบบนั้นแต่กลับดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก ราวกับว่าเพียงเพื่อเธอแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็สามารถทำได้
แม้แต่ในอากาศก็เต็มไปด้วยฟองอากาศแห่งความรักอย่างน่าอิจฉา
แขกทั้งหลายพากันมองไปอย่างไม่รู้ตัว ทุกคนต่างมองอย่างนึกอิจฉาถึงกับนึกอยากจะมีความรักขึ้นมาบ้าง
บรรยากาศแบบนั้นมันช่างสวยงามจริงๆ
ทว่า ด้านข้างของชิงช้านั้นกลับเป็นภูมิทัศน์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ยังมีคู่ชายหญิงที่โดดเด่นไม่แพ้กันอยู่อีกคู่ยืนห่างออกไปไม่ไกล
ผู้หญิงนั้นเป็นเจ้าภาพของคืนนี้ คุณหนูกู้จื่อเฟย เธอสวมชุดกระโปรงสีเทาเงินดูงดงามและประณีตซึ่งกำลังยืนตัวตรงเป็นไม้บรรทัด
ดวงหน้ารูปไข่ที่สวยงามของเธอมีความหวั่นเกร็งอยู่เล็กน้อย
ชายร่างสูงที่ยืนถัดไปจากเธอเพียงครึ่งก้าว รูปลักษณ์นั้นหล่อเหลาระยิบระยับ แต่ทั่วร่างกลับปกคลุมด้วยความกดอากาศต่ำที่รุนแรงและอันตราย ทำเอากลัวจนแม้แต่จะมองเขาก็ไม่กล้ามองมาก
กระทั่งกู้จื่อเฟยที่ยืนอยู่ข้างเขาเองก็ยังระแวงจนไม่กล้ามอง
กู้จื่อเฟยจิกนิ้วของตัวเองแน่น ราวกับที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเป็นภูเขาน้ำแข็งอย่างนั้นแหละ
หากไม่ใช่ว่าเขาเป็นคู่ควงของเธอ เธอก็อยากหนีไปให้ไกลสักสิบเมตรเดี๋ยวนี้เลย
บรรยากาศของเย้นโม่หลินในคืนนี้เย็นเยือกจริงๆ เย็นจนพาให้สั่นสะท้าน ก็ไม่รู้ว่าใครไปยั่วโมโหให้ชายผู้นี้อารมณ์เสียเข้า
หรือการมาเป็นคู่ของเธอมันทำให้เขารู้สึกไม่ดีขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?
ในที่สุดท่ามกลางความทุกข์ทรมาน กู้จื่อเฟยก็เห็นร่างที่ทำให้ตาเธอเป็นประกายที่ทางเข้างานเลี้ยงเสียที
ในที่สุดฝู้เหวยข่ายก็มาแล้ว
เขาสวมสูทอย่างเป็นทางการ เห็นได้ชัดว่าแต่งมาอย่างประณีต ใบหน้าที่เดินนั้นก็หล่อเหลาอยู่แล้วนั้นยิ่งดูดีมากขึ้น
เขาเดินเข้ามาให้สวนดอกไม้แล้วกวาดมองไปรอบๆ ไม่นานสายตาก็ไปตกอยู่ที่ร่างของกู้จื่อเฟย
มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข ขายาวก้าวออกไป เดินตรงดิ่งมุ่งไปยังกู้จื่อเฟย
ขณะกำลังจะเดินถึงเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“จื่อเฟย ที่แท้ก็อยู่นี่เอง ฉันเพิ่งจะไปหาเธอในบ้านแล้วไม่เจอเธอน่ะ”
เขาเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ฉันมีธุระนิดหน่อยเลยมาช้าไปเล็กน้อย โทรมาหาเธอก็ไม่มีคนรับสาย เธอคงไม่ได้โกรธใช่ไหม?”
ระหว่างที่พูดเขาก็เดินมาถึงเบื้องหน้าของกู้จื่อเฟยแล้ว
เขายืนหันหลังให้ไฟพอดิบพอดี เงาร่างสูงใหญ่ที่ฉายทาบออกมาจึงปกคลุมกู้จื่อเฟยเอาไว้ในเงาของเขา
ทันใดนั้นกู้จื่อเฟยก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นที่ส่งมาจากด้านข้างนอกเหนือจากเงา
ร่างกายของเธอเกร็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว บนใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มสุภาพเอาไว้และส่ายหน้า
“ไม่ได้โกรธอยู่แล้ว ขอโทษนะ ฉันไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วยน่ะ”
ได้ยินดังนั้น ฝู้เหวยข่ายยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ยื่นมือออกไปทางกู้จื่อเฟยอย่างเป็นสุภาพบุรุษ “ไม่โกรธก็ดีแล้ว งานเลี่ยงใกล้จะเริ่มแล้วไปกันเถอะ เราไปพบคุณพ่อของเธอด้วยกัน”
กู้จื่อเฟยมองไปยังมือของฝู้เหวยข่ายก็อึ้งไปเล็กน้อย
คืนนี้เดิมทีก็ตกลงกันไปแล้วว่าเธอจะเป็นคู่ให้ฝู้เหวยข่าย ตามหลักการแล้วพวกเขาก็ควรจะเข้างานมาพร้อมกันและไปอวยพรด้วยกัน
แต่ว่าตอนนี้ กู้จื่อเฟยเหลือบมองชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาสั่นไหว
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็พูดขึ้นอย่างลำบากใจ
“เหวยข่าย ฉันแนะนำให้นายรู้จักนะ นี่คือเย้นโม่หลินเป็นพี่ชายของเพื่อสนิทของฉัน เขาเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ”
สายตาของฝู้เหวยข่ายจึงเพิ่งจะมองไปที่เย้นโม่หลิน
ความจริงระหว่างทางที่เดินมาเขาก็สังเกตเห็นเย้นโม่หลินและเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินที่แกว่งชิงช้าอยู่ไม่ไกลแล้ว กระทั่งชายแปลกหน้าที่นั่งเฉยๆ บนม้านั่งห่างออกไปไม่กี่เมตรก็ด้วย
คนเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะภายนอกหรือบรรยากาศก็ล้วนแต่กต่างจากคนอื่นๆ ในงานเลี้ยง
ฐานะก็ต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเย้นโม่หลินที่ยืนอยู่ใกล้กับกู้จื่อเฟยขนาดนั้น ในใจของฝู้เหวยข่ายจึงมีการประมาณการอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
แต่เขากลับไม่ได้แสดงกิริยาไม่เหมาะสมหรือประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย บนใบหน้านั้นประดับรอยยิ้มสุภาพอย่างเคย เขายื่นมือไปทางเย้นโม่หลินอย่างเป็นสุภาพบุรุษ
“สวัสดีครับ ผมชื่อฝู้เหวยข่าย ได้เจอกันครั้งแรก ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ”
“ยินดีที่ได้พบครับ”
เย้นโม่หลินยื่นมือออกไปจับอย่างเฉยเมย
การจับมือที่ดูธรรมดาเขากลับจับแน่นทั้งห้านิ้ว ทันใดนั้นฝู้เหวยข่ายก็รู้สึกได้ถึงแรงกดและความเจ็บที่แล่นมาจากฝ่ามือ
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่เขากลับยับยั้งไว้อย่างรวดเร็ว บนใบหน้ายังคงรอยยิ้มเอาไว้แล้วมองไปที่เย้นโม่หลินอย่างไม่แสดงจุดอ่อนใดๆ
การแข่งขันลับๆ นั้นสาดประกายไฟลุก
กู้จื่อเฟยนั้นไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มทั้งสองได้เกิดการแข่งขันกันอย่างลับๆ ขึ้นมาแล้ว เพียงแต่มองดูทั้งสองคนจับมือกันอย่างยาวนานไม่ยอมปล่อยอย่างประหลาดใจ
จับมือกันจำเป็นต้องใช้เวลานานขนาดนี้เลยเหรอ?
หลังจากนั้นพักใหญ่ มือที่จับกันของทั้งสองคนถีงได้ปล่อยออก
ฝู้เหวยข่ายรีบดึงมือกลับทันทีแล้วสอดลงในกระเป๋ากางเกงแบบสบายๆ บนใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ทว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่ามือของเขาในตอนนี้เจ็บจนเหมือนจะหักอยู่แล้ว
เขาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แรงมือก็ไม่เลว แต่การแข่งขันสั้นๆ กับเย้นโม่หลินเมื่อครู่นั้นเขากลับถูกทำลายและบดขยี้โดยสมบูรณ์
เพิ่งจะเจอกันก็ถูกอีกฝ่ายเหยียบมิดซะแล้ว
ยิ่งรู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูได้อย่างลึกซึ้ง
ฝู้เหวยข่ายพูดกับกู้จื่อเฟยด้วยรอยยิ้มบางๆ
“จื่อเฟย ดึกแล้วพวกเราไปพบคุณลุงกู้กันก่อนเถอะ ฉันเอาของขวัญวันเกิดมาให้เขาด้วย”
กู้จื่อเฟยแววตาสั่นระริกก่อนเอ่ยอย่างเกรงใจ “เหวยข่าย นั่นน่ะฉันคงจะ….”
“คุณฝู้ คืนนี้จื่อเฟยเป็นคู่ของผม คงไปเป็นเพื่อนคุณก่อนไม่ได้แล้ว”
เย้นโม่หลินพูดอย่างแข็งทื่อ น้ำเสียงไม่มีความไพเราะเลยแม้แต่น้อย
มุมปากของกู้จื่อเฟยกระตุก เธอมองไปที่เย้นโม่หลินตรงๆ อย่างอดไม่ได้แล้วหันไปมองฝู้เหวยข่ายอีกที
การผิดนัดแบบนี้กับตัวเธอเองมันค่อนข้างน่าละอายจริงๆ
ฝู้เหวยข่ายแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาตกตะลึงไปสองวินาทีแล้วจึงมองไปทางกู้จื่อเฟยอย่างไม่มั่นใจ
“จื่อเฟย ที่เขาพูดจริงเหรอ?”
กู้จื่อเฟยพยักหน้าอย่างอึดอัดใจ “อื้ม เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่ เพื่อนสนิทฉันเลยวานให้คืนนี้ช่วยดูแลเขาหน่อยน่ะ ดังนั้นช่วยเข้าใจหน่อยนะเหวยข่าย….”
เมื่อได้ยินดังนั้น เย้นโม่หลินก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ในใจมีความหงุดหงิดเล็กน้อย
ยังจะอธิบายให้ฝู้เหวยข่ายแบบนี้ เธอใส่ใจความรู้สึกของฝู้เหวยข่ายขนาดนี้ กลัวฝู้เหวยข่ายจะเข้าใจผิดงั้นเหรอ?
คิดถึงตรงนั้น บรรยากาศรอบตัวของเขาก็เย็นยะเยือกลงหลายเท่า
ฝู้เหวยข่ายมองเย้นโม่หลิน จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่เป็นไร ยังไงก็มาเพื่อฉลองวันเกิดให้คุณลุงกู้ ใครจะเป็นคู่ของเธอก็ได้ทั้งนั้น”
เมื่อเห็นฝู้เหวยข่ายพูดอย่างดีขนาดนั้นและไม่ได้ติดใจอะไร กู้จื่อเฟยจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
แต่เพิ่งจะเบาใจลงหน่อยก็กลับได้ยินฝู้เหวยข่ายพูดขึ้น
“จื่อเฟย เรื่องหลังงานเลี้ยงที่เธอสัญญากับฉันน่ะ ยังนับอยู่ใช่ไหม?”
หลังหยุดไปครู่หนึ่ง ด้วยกลัวว่ากู้จื่อเฟยจะผิดคำเขาจึงพูดเสริมอีกครั้ง “ฉันรอเธอจัดการธุระเสร็จและส่งแขกกลับไปหมดได้”
เธอรับปากเขาไว้ก่อนแล้วว่าตอนกลางคืนจะไปเดินเล่นด้วยกัน