สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่96 แม้แต่เตียงก็เตรียมพร้อมแล้ว
บทที่96 แม้แต่เตียงก็เตรียมพร้อมแล้ว
เย้นหว่านโมโหความโรคจิตของป่ายฉี ทันใดนั้นในใจเธอรู้สึกน่าอับอายมาก
เธอรีบจับเสื้อตัวเองไว้แน่น “คุณโห้คะ ฉันว่ารายการนี้ไม่ต้องตรวจแล้วค่ะ ถ้าที่อื่นยังมีกล้องแอบถ่ายอีกล่ะ?”
“ผมตรวจเช็คหมดแล้ว ไม่มีแล้ว”
โห้หลีเฉินจ้องมองเย้นหว่านอย่างไม่คลาดสายตา สายตาช่างลึกซึ้ง
เวลานี้ดูๆแล้วเขานั่นแหละเป็นคนที่อันตรายที่สุด
เย้นหว่านจับเสื้อตัวเองแน่นยิ่งขึ้น เจอเรื่องที่ผ่านมาเมื่อกี๊แล้ว ตอนนี้ไม่มีความกล้าที่จะถอดเสื้อต่อหน้าโห้หลีเฉินเลยสักนิด
เธอถอยหลังด้วยความอึดอัด ค่อยๆตีตัวออกห่างจากโห้หลีเฉิน
“คือว่า แต่ก่อนฉันเคยไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอยู่ครั้งนึงค่ะ พอรู้บ้างว่าจะต้องทำยังไงคะ ฉันทำเองดีกว่าค่ะ”
โห้หลีเฉินหรี่ตา เสียงที่เซ็กซี่จนถึงแก่ชีวิตดังขึ้นมา:
“คุณกำลังอายเหรอ?”
ถอดเสื้อต่อหน้าผู้ชายแท้ๆทั้งคน ผู้หญิงคนไหนจะไม่อายล่ะ?
เย้นหว่านพยักหน้า แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนบรรยากาศแปลกๆ แล้วรีบส่ายหัวอีก
ใจเธอวุ่นไปหมดแทบไม่กล้ามองหน้าโห้หลีเฉินตรงๆเลยด้วยซ้ำ “ฉันทำเองได้จริงๆค่ะ”
มองดูหน้าตาที่เขินอายและตื่นตกใจของเธอ สายตาของโห้หลีเฉินมืดลงทันที อารมณ์ที่เร่าร้อนเป็นไฟในร่างกายเขาดิ้นไม่หยุด
ถ้าหากเขาช่วยเธอตรวจร่างกายด้วยตัวเอง เดี๋ยวเขาอาจจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วทำเรื่องอะไรบางอย่าง
จะทำให้เธอตกใจได้
“ผมอยู่แค่นอกห้อง ไม่เข้าใจอะไรก็ถามผมนะ”
โห้หลีเฉินพูดจบ ถึงได้หันหลังเดินออกไปทางด้านนอก
พร้อมด้วยเสียงปิดประตู ในที่สุดข้างในห้องก็เหลือแค่เธอคนเดียวแล้ว
เย้นหว่านรู้สึกโล่งอกไปที ตอนนี้ถึงได้หยิบมือถือออกมา เริ่มค้นหาขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจในอินเตอร์เน็ต
ที่นอกห้อง ป่ายฉีพิงอยู่ที่ผนังอย่างขี้เกียจ และมองโห้หลีเฉินด้วยสายตาล้อเล่น
“คุณโห้ก็ถูกไล่ออกมาแล้วหรือ?”
หยอกล้อกันแบบซึ่งๆหน้าไม่มีปิดกั้นเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าที่หล่อเหลาของโห้หลีเฉินสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เดินออกมายืนอยู่ด้านนอกอย่างสง่า เยือกเย็นสูงส่งและห่างเหิน
เขาไม่มองป่ายฉีเลยด้วยซ้ำ ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
ป่ายฉีก็ไม่ได้โกรธ และส่องมองโห้หลีเฉินด้วยสายตาลึกซึ้ง
ถูกคู่หมั้นไล่ออกมา ดูแล้วความสัมพันธ์ระหว่างโห้หลีเฉินกับเย้นหว่าน ไม่ได้ดีเหมือนอย่างที่เห็นจากภายนอก แบบนี้ก็สนุกขึ้นเยอะเลย
นอกจากเกิดเรื่องเล็กน้อยตอนที่ตรวจเคลื่อนไฟฟ้าหัวใจแล้ว การตรวจสุขภาพรายการอื่นๆก็ราบรื่นดี
หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จสมบูรณ์แล้ว เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินกลับไปที่นอกห้องของมู่หรงชิ่น แต่เดิมคิดว่าจะต้องรอเธอสามชั่วโมงถึงจะออกมาได้ แต่เวลานี้ประตูห้องกลับถูกเปิดออกจากข้างในแล้ว
เว่ยชีเดินออกมาจากข้างในอย่างหน้าแดง สีหน้าอึดอัดและทำตัวไม่ถูก
เย้นหว่านแปลกใจ “เลขาเว่ยคะ ทำไมคุณออกมาแล้วล่ะ?”
หรือว่าการรักษาเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?
เว่ยชีส่ายหัว และรีบทำให้ตัวเองใจเย็นๆ พยายามพูดแต่ละถ้อยคำให้ชัดเจน:
“ผมทำตามที่คุณหมอป่ายบอก ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“ไหนบอกว่าต้องใช้เวลาสามชั่วโมงไม่ใช่หรอ?”
ทุกคนต่างมองไปทางป่ายฉีที่นั่งชิวๆอยู่ข้างๆ
ป่ายฉีไม่สนใจความสงสัยของพวกเค้าเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เลยจำเวลาผิดน่ะ”
เว่ยชี: “……” สีหน้าทั้งแดงทั้งโมโห
เย้นหว่าน: “……..”
ดังนั้นทำไมไม่ให้เธออยู่ช่วยมู่หรงชิ่นที่นี่ เพราะฉะนั้นเธอเองก็สามารถให้มู่หรงชิ่นช่วยเธอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้เหมือนกัน
โห้หลีเฉินกลับไม่รู้สึกเหนือความคาดหมายเลยสักนิด เหมือนกับว่าทั้งหมดนี้อยู่ในความคาดหมายของเขาอยู่แล้ว เฉียบคมจนราวกับว่าดูลูกไม้ของป่ายฉีออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
แต่ว่ายิ่งเป็นแบบนี้ เขายิ่งให้ป่ายฉีมีโอกาสอยู่กับเย้นหว่านสองต่อสองไม่ได้เด็ดขาด เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้มีเจตนาไม่ดี
“แอ๊ด”
มู่หรงชิ่นที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินออกมาจากในห้องพร้อมเสียงเปิดประตู
ต่างกับเว่ยชี สีหน้าเธอกลับเป็นธรรมชาติ ซื่อตรงและใจกว้าง เหมือนกับว่าเมื่อกี๊ที่อยู่ข้างในห้องแค่ตรวจสุขภาพแบบธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้เกิดเรื่องที่ทำให้คนอึดอัดใจสักนิด
เธอเห็นโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านอยู่ที่นี่แล้ว ก็รู้สึกโล่งอกไปที
เนื่องด้วยมารยาท เย้นหว่านถามด้วยความห่วงใย:“คุณมู่หรงคะ รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ?”
มู่หรงชิ่นส่ายหัว “ไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร”
พูดแล้ว มู่หรงชิ่นมองไปที่ป่ายฉี
ป่ายฉีตอบอย่างชิวๆ “นี่แค่ตรวจสุขภาพของคุณเท่านั้นเอง มันก็ต้องไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรอยู่แล้ว”
มู่หรงชิ่นกำมือไว้อย่างแน่น “แล้วโรคของฉัน สามารถรักษาได้มั้ยค่ะ?”
“โรคของคุณ คุณเองก็น่าจะรู้ดี ก็ต้องดูว่าคุณต้องการอะไรแล้ว ถ้าจะให้สร้างมดลูกขึ้นมาให้คุณอันนึง ผมยังไม่มีความสามารถถึงขั้นนั้นหรอกนะ”
ที่ป่ายฉีพูดก็คือความจริงของเรื่องนี้ เพียงแต่น้ำเสียงเขาเชิดหยิ่ง ไม่ไว้หน้ามู่หรงชิ่นเลยแม้แต่น้อย
มู่หรงชิ่นรู้สึกขายหน้า เธอเป็นถึงคุณหนูของตระกูลมู่ผู้สูงส่ง เคยทนความอับอายแบบนี้เสียที่ไหน
แต่ว่า เธอต้องขอความช่วยเหลือจากป่ายฉี ก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องทนความไร้มารยาทของผู้ชายคนนี้ต่อ
มู่หรงชิ่นควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ แล้วพูดต่อว่า:“คุณหมอป่าย ฉันแค่อยากได้โอกาสในการเป็นแม่เท่านั้น และสามารถเอาไข่ออกมาแล้วฝากไข่เอาไว้”
วิธีแบบนี้ที่โรงพยาบาลทั่วไปก็สามารถทำได้ แต่เป็นเพราะว่าปีนั้นเธอบาดเจ็บสาหัสเกินไป อยากจะเอาไข่ออกมาฟองนึงอย่างสมบูรณ์แบบ โอกาสที่จะทำสำเร็จไม่มีเลยแม้แต่น้อย
เธอก็ต้องตั้งความหวังไว้ที่ป่ายฉีแล้ว
ป่ายฉียักไหล่ชิวๆ “ได้”
ทุกคนรู้หมด หากป่ายฉีบอกว่าทำได้ ก็ต้องทำได้อย่างแน่นอน
มู่หรงชิ่นดีใจมากๆ เธอจับแขนของโห้หลีเฉินไว้ด้วยความตื่นเต้น มองเขาด้วยแววตาที่น้ำตาจะไหลออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
“เฉินคะ คุณได้ยินรึยัง ฉันสามารถเป็นแม่คนแล้ว ฉันมีโอกาสที่จะได้เป็นแม่แล้ว”
โห้หลีเฉินอยากจะดึงมือกลับมาอย่างไม่รู้ตัว แต่พอหันไปมองเห็นแววตาที่แดงจนน้ำตาจะไหลออกมาของมู่หรงชิ่นแล้ว ท่าทางของเขาแข็งนิ่งไปเลย
ที่มู่หรงชิ่นเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะเขา
เขาเคยสัญญาไว้ว่าจะดูเลเธอเหมือนน้องสาวคนนึง และปกป้องเธอ
“อื้ม” โห้หลีเฉินตอบด้วยเสียงเบาคำนึง
แต่คำนี้กลับทำให้มู่หรงชิ่นยิ่งดีใจใหญ่ เธอกอดแขนของโห้หลีเฉินไว้ วินาทีนี้เธอเหมือนกับว่าได้ครอบครองโลกทั้งใบ
เย้นหว่านมองดูเค้าสองคน รู้สึกเสียใจยังไงไม่รู้
มู่หรงชิ่นสามารถฝากไข่ได้แล้ว ต่อไปก็สามารถหาคนอุ้มบุญ และคลอดลูกของเธอกับโห้หลีเฉินออกมา
คุณนายใหญ่ของตระกูลโห้ก็ไม่มีเหตุผลห้ามไม่ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ตัวและเข้าใจว่า แผนการที่โห้หลีเฉินพูดคืออะไรกันแน่ ที่แท้สิ่งที่เขารอมาตลอดก็คือการที่มู่หรงชิ่นสามารถมีลูกได้อย่างสำเร็จ
กลับไปครั้งนี้ เธอกับโห้หลีเฉินก็ต้องถอนหมั้นกันแล้ว
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
……………….
ในบ้านของป่ายฉีถึงแม้จะมีสองชั้น แต่มีแค่หนึ่งห้องนอนเท่านั้น ในห้องสมุดมีเตียงหนึ่งเตียง ห้องอื่นๆต่างก็ใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป สรุปก็คือไม่มีห้องนอนสำหรับแขก
พวกเขาต้องพักที่นี่คืนนึง จะนอนที่ไหนก็ได้กลายเป็นปัญหาซะแล้ว
โห้หลีเฉินอยากจะอาศัยโอกาสนี้พาเย้นหว่านไปจากที่นี่ซะ“ในเมื่อไม่มีที่ให้นอน เราก็กลับก่อนนะ”
“ก็แค่ปัญหาเตียงนอนไม่กี่เตียงเองคุณวางใจเถอะ ผมไม่ใช่คนขี้งกสักหน่อย ผมเตรียมพร้อมไว้ตั้งนานแล้ว”
ป่ายฉีหัวเราะเหมือนคิดอะไรอยู่ เขาอุตส่าห์ออกแรงช่วยคน ก็เพื่อจะให้พวกเขาพักอยู่ที่นี่คืนนึง จะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง?