สัญญาร้ายของประธานปีศาจ - ตอนที่ 118
ตอนที่ 118 ไม่สนใจจริงนะ
ดูเหมือนฟางหรงเทียนจะกลับไปแล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อร์กังวลใจ แต่ก็วางงานที่ทำแล้วเข้าไปในออฟฟิศที่อยู่ไม่ห่าง เปิดประตูเข้าไป ก็พบใบหน้าอึมครึมของชายหนุ่ม
“ประธานเผย มีอะไรจะสั่งคะ?”
เผยลี่เชินจ้องมองเธอ รู้สึกโกรธ “ใครอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาล? บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เธอรักษาตัวให้หายดีก่อน?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบด้วยความรู้สึกเฉยๆ “ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว อยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวมันน่าเบื่อ”
เธอยังพูดไม่จบ เผยลี่เชินลุกขึ้นก้าวเดินไปหาเธอ
ร่างเขาเหมือนมีน้ำแข็งปกคลุม มันน่ากลัวอย่างยิ่ง ไป๋เสว่เอ๋อาร์รู้สึกได้จึงก้าวถอยหลังไป “ประ..ประธานเผย”
วินาทีต่อมา เธอรู้สึกแน่นเอว ถูกคนดึงเข้าสู่อ้อมอก “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่..ไม่ฟังกันบ้างเลย หืม?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ปฏิเสธ “เปล่า”
ที่เธอไม่อยากอยู่โรงพยาบาล เพราะเธอเจอเขาน้อยมาก เธอมาที่บริษัทเธอก็ได้เจอเขาบ่อยมากขึ้น…
เพียงแต่คำพูดนี้ถูกกลืนลงคอ เธอกลับไม่พูดออกมา
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าถาม “อ้อ…งานการกุศลคุณคิดจะพาฉันไปจริงหรือ?”
ถ้าเผยลี่เชินพาเธอไปจริง เกรงว่าสวี่เยว่หรูจะไม่พอใจ
เผยลี่เชินก้มหน้าตอบกลับ “ทำไม? เธอไม่อยากไป?”
เธออยากไป แต่เธอเกรงว่าคนในบริษัทจะเข้าใจเธอผิด
เธอลังเลสักพักก่อนจะพูดเบาๆ “รองประธานฟางพาเลขาอาน ถ้าคุณพาฉันไปแต่ไม่พาเลขาสวี่ไป เธอต้องไม่พอใจเป็นแน่”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว “เธอแคร์ว่าคนอื่นจะพอใจไม่พอใจ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์จุกจนพูดไม่ออก
เห็นเธอกังวลใจ เผยลี่เชินใช้มือเสยคางของเธอให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของเขา “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ฉันเลือกเธอก็มีเหตุผลในการเลือก สังคมนี้คือการเอาตัวรอด ผู้เหมาะสมก็ได้อยู่ต่อ ฉันเลือกเธอเพราะฉันวางใจในตัวเธอ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น”
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวของพวกเขา รวมทั้งเรื่องความรักด้วย
เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปาก “จริงหรือ?”
“ฉันเคยหลอกเธอรึ?” เขาเห็นรอยยิ้มของเธอ เผยลี่เชินหัวใจแทบละลาย อยากจะฝังร่างเธอไว้ทั้งหมด
ทันใดนั้นในสมองของเขานึกถึงภาพหนึ่งจึงถามเธอ “เมื่อกี้ฟางหรงเทียนพูดอะไรกับเธอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์คิ้วย่น เงียบไปสักครู่ เขาค่อยๆ ปล่อยเธอและเตือนเธอ “ฟางหรงเทียนเจ้าเล่ห์ อย่าเข้าใกล้าเขาให้มากนัก เขาถามอะไรเธอก็ตอบไปเรื่อยเปื่อยก็พอ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกผิดปกติ “เขาไม่ใช่แขนขาของคุณท่านเผยหรือคะ?”
“ใครบอกว่าเป็นแขนขา ก็แค่ความทะเยอทะยาน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนี้ถึงเข้าใจ จึงพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก
ถึงตอนนี้มีเสียงเคาะประตูด้วยความรีบร้อน จากนั้นมีเสียงของสวี่เยว่หรูดังขึ้น “ประธานเผย มีคนมาหา….”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอยกลับไปอยู่ด้านข้างอยู่ห่างจากเผยลี่เชิน สีหน้าของเผยลี่เชินเปลี่ยนเป็นเย็นชาตามปกติพร้อมกับคำพูด “เข้ามา”
สวี่เยว่หรูเปิดประตูเข้ามารีบร้อนพูดออกมา “ประธานเผย คุณหนูลู่ครั้งที่แล้วมาไม่พบ ครั้งนี้เลยมาหาคุณถึงที่”
เธอพูดเพียงครึ่งเดียว ก็เหลือบเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง สีหน้าเย็นชาหยุดพูดไปชั่วขณะ
วินาทีต่อมาพอได้สติกลับคืน ก็ละสายตาจากไป๋เสว่เอ๋อร์ แล้วหันไปที่เผยลี่เชินรายงานสถานการณ์ต่อ “คุณหนูลู่มาถึงประตูด้านนอก ประธานเผยต้องการพบเธอไหมคะ?”
เผยลี่เชินยังไม่ทันใดพูดอะไร ที่ประตูก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ลู่อี้หลิงในชุดสีแดงสดก็ปรากฏใบหน้าอยู่ที่ประตู
น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยเสียงหัวเราะ “เลขาสวี่ ไม่ต้องรบกวนคุณแล้ว ฉันมาแล้ว เขาไล่ฉันไปไม่ได้แล้ว”
เผยลี่เชินเห็นลู่อี้หลิงอยู่ที่ประตู ใบหน้าเย็นชา “คุณมาได้อย่างไร?”
“เผยลี่เชิน คำถามนี้ฉันควรถามคุณมากกว่า?” ลู่อี้หลิงยืนอยู่ด้านหน้า “เมื่อคืนวานทิ้งฉันไว้ในบาร์คนเดียว ครั้งนี้ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีคุณเลย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินเธอพูด ใจเต้นแรง เมื่อคืนวาน? หรือว่าเมื่อวานเผยลี่เชินเจอลู่อี้หลิง?
“เมื่อวานผมมีธุระ ก็เลยออกมาก่อน” เผยลี่เชินพูดด้วยเสียงเรียบๆ “แต่ผมกำชับกู้หลี่เหลียง ให้ดูแลคุณให้ดี มีอะไรที่ขาดตกบกพร่องหรือเปล่า?”
“ไม่มี” ลู่อี้หลิงหัวเราะแบบสุภาพ “แต่คุณทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวไม่เกินไปหน่อยรึไง?”
น้ำเสียงฉอเลาะเหมือนคนรักทะเลาะกัน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านข้างเหมือนอากาศธาตุที่ไม่มีใครมองเห็น ตอนที่เธอทำให้เหมือนมีตัวตน ลู่อี้หลิงหันมามองเธอ
เธอทักทายด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่า เลขาไป๋อยู่ด้วย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มให้เธอเป็นการทักทาย ตอนแรกนึกว่าเผยลี่เชินจะบอกให้เธอไปเตรียมน้ำชา แต่รอตั้งนาน เขาก็ไม่พูดสักที
เผยลี่เชินนั่งลงที่โต๊ะทำงานพูดแบบเรียบๆ “คุณหนูลู่หากไม่มีเรื่องอื่น เชิญกลับไปก่อน ผมมีงานอื่นต้องทำ”
ลู่อี้หลิงนั่งลงตรงหน้าเขาแบบไม่เกรงใจ ภายใต้รอยยิ้มบนใบหน้า “เผยลี่เชิน นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว ทุกครั้งปล่อยฉันให้เหมือนนกพิราบบินไปโน่นไปนี่เอง แบบนี้ไม่เกินไปหน่อยรึ?”
น้ำเสียงเธอไพเราะเหมือนเมื่อสักครู่ เกือบเหมือนว่าเธอกำลังซักไซ้ไล่เลียงอยู่
เผยลี่เชินมองเธอสองสามวินาทีไม่พูดอะไรอยู่นาน หลังจากนิ่งไป เขาก็พูดขึ้น “ได้ งั้นคืนนี้ไปกินข้าวด้วยกัน”
ลู่อี้หลิงรู้สึกผิดปกติ คาดไม่ถึงว่าวันนี้เผยลี่เชินจะตอบรับอย่างรวดเร็ว เธอถามด้วยความไม่เชื่อใจ “เอาจริง?”
“อืม ฉันจองร้านอาหาร ตอนค่ำจะแจ้งเวลาพร้อมสถานที่ให้คุณทราบ” เผยลี่เชินพูดจบก็พลิกเอกสารที่อยู่ตรงหน้า ตรวจสอบโน่นนี่ ถอนหายใจ
ลู่อี้หลิงเห็นเขาจริงจัง มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์แล้วออกจากออฟฟิศ
หลังจากที่ลู่อี้หลิงออกไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ที่นั่น รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่สบายใจอย่างมาก มีอะไรอัดแน่นเต็มอก
เธอหันหลังเดินกลับไปที่ประตู เดินออกไปสองก้าว ก็ได้ยินจากด้านหลัง “หยุดก่อน”
เธอกัดฟันหันกลับมามองไปที่สายตาของชายหนุ่ม เธอสะกดอารมณ์ไว้ก้มหน้าแล้วพูด “ประธานเผยมีอะไรจะสั่งคะ?”
เห็นเธอเย็นชา เผยลี่เชินจึงพูดเสียงเบาๆ “มานี่”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินก้าวไปข้างหน้าสองก้าวจึงหยุด
เห็นเธอไม่มีความสุข เผยลี่เชินลดสายตาหัวเราะเสียงเข้ม เขาลุกขึ้นก้าวไปหาเธอหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “ไม่มีความสุข?”
“เปล่าคะ” เธอตอบด้วยสายตาเงียบๆ
เขากับผู้หญิงอื่นอยู่ต่อหน้าเธอ ทำไมเธอดูเหมือนไม่สนใจ? เธอไม่อยากแสดงออกว่าตนเองก็สนใจเผยลี่เชินหัวเราะเบาๆ แล้วยกมือสัมผัสที่หน้าผากของเธอ “คืนนี้เธอไปกับฉัน”
“อ๋า?” ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ “ทำไมฉันต้องไปด้วย?”
ดวงตาของเผยลี่เชินเหมือนมีประกายแฝงอยู่ “หรือว่าเธออยากให้ฉันอยู่กับเขาสองต่อสอง?”
ไป่เสว่เอ๋อร์นิ่งไปสองสามวินาที ลดระดับสายตาลงบ่นพึมพำ “ฉันไม่สนหรอก….”
“อะไรนะ?” เผยลี่เชินเอื้อมมือโอบไหล่เธอไว้ เอนกายลงถาม “เธอไม่สนแน่นะ?”