สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 24 รักษาได้
กู้เจียวงับฉากบังลมปิดลง ตรวจดูเซียวลิ่วหลังอยู่ในนั้น
นางแอบสังเกตเซียวลิ่วหลังตอนอยู่ที่บ้านมาแล้ว พบว่าที่จริงแล้วปัญหาหลักของเขาอยู่ที่ข้อเท้า ยามนี้ตรวจดูอย่างละเอียดอีกรอบแล้วจึงได้มั่นใจในการคาดเดาของตัวเอง
ข้อเท้าเขาเคยหักมาก่อน แต่หมอกลับวินิจฉัยไม่เจอ คิดว่าเขาแค่บาดเจ็บที่ขาเท่านั้น ดังนั้นจึงรักษาให้แค่ที่ขาเขา ทว่าต่อให้ไม่ได้รักษาในทันที เท้าถูกจำกัดการเคลื่อนไหวไว้ดังนั้นจึงแทบไม่ได้ใช้เท้าเลย ข้อเท้าสมานกันเองเรียบร้อยแล้ว แต่กระดูกที่แตกด้านในไม่ได้ทำความสะอาดให้ดี พอเขาเดินจึงเจ็บเจียนขาดใจ
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ได้แสดงออกมา กู้เจียวคาดคะเนว่าเขาแค่ข้อต่อกระดูกข้อเท้าแข็งธรรมดา อันนั้นจะไม่เจ็บ ยามนี้วินิจฉัยได้แน่ชัดแล้ว จึงได้รู้ว่ายามปกติเขาใช้ความอดทนมหาศาลเพียงใดมาข่มกลั้นเอาไว้
กู้เจียวชาติก่อนเคยผ่าตัดอาการประเภทนี้มาไม่น้อย สำหรับนางแล้วความยากไม่มาก แต่ยากับวัสดุสิ้นเปลืองสำหรับการผ่าตัดยังไม่ปรากฏในกล่องยาในขณะนี้
ทว่า…นึกไปถึงการพบเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน กู้เจียวตัดสินใจรออีกหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่ดีในการทำการผ่าตัด ต้องจัดการบริเวณส่วนที่บาดเจ็บของเขาเสียก่อน ดังนั้นรอให้ถึงวันส่งท้ายปีสำนักบัณฑิต
ปิดภาคการศึกษาจะดีกว่า
เถ้าแก่รองกับผู้ดูแลหวังเอาแต่รออยู่นอกฉากบังลมตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้แอบดูเลยแม้แต่น้อย
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เถ้าแก่รองคิดจะให้หมอของหุยชุนถังล้อมดูฝีมือการแพทย์ของกู้เจียว แต่นี่เป็นครั้งแรก คำขอร้องนี้เหมือนจะกะทันหันเกินไป เขาจึงอดทนไว้
เมื่อครู่กู้เจียวเข้าไปวินิจฉัยและรักษาได้จงใจลากฉากบังลมมาปิดไว้ ท่าทีเช่นนี้หมายความได้ว่ากู้เจียวไม่อยากเผยแพร่ฝีมือการแพทย์ของตัวเอง คิดได้เช่นนี้ เถ้าแก่รองจึงรู้สึกโชคดีที่เมื่อครู่ตัวเองไม่ได้เอ่ยบอกความต้องการจะเรียนรู้ออกไป
ทว่ามีจุดหนึ่งที่เถ้าแก่รองเดาผิด นั่นคือกู้เจียวไม่ได้ไม่อยากเผยแพร่ฝีมือการแพทย์ของตัวเอง นางแค่ไม่อาจให้คนอื่นเห็นกล่องยาของนางต่างหาก
กู้เจียวอยู่ด้านในนานพอสมควร
ตรวจดูหนึ่งเค่อ ชื่นชมคนรูปงามอีกครึ่งชั่วยาม
แค่ก!
ไม่ได้ถอดเสื้อผ้า ไม่ได้ถอด!
กล่องยาถูกกู้เจียวใส่ไว้ในตะกร้า นางหิ้วตะกร้าเดินออกมา
เถ้าแก่รองเข้ามาต้อนรับ ยิ้มเอ่ยอย่างเกรงใจว่า “แม่นางกู้เข้าไปนานเพียงนี้ อาการบาดเจ็บของคุณชายเซียวซับซ้อนมากใช่หรือไม่”
กู้เจียวเอ่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า “ซับซ้อนไม่น้อยเลย ข้าต้องทำการผ่าตัดให้เขาสักครั้ง”
ซับซ้อนน่ะจริง ดูคนรูปงามก็จริงเหมือนกัน
ได้ยินว่าต้องผ่าตัด เถ้าแก่รองก็มึนงงไปเล็กน้อย ผ่าตัดเป็นวิธีการแพทย์ที่จะใช้ได้ในสนามรบ ในหมู่ชาวบ้านเจอได้น้อยนัก หนึ่ง ความเสี่ยงสูง สอง ข้อกำหนดทางการแพทย์ของแพทย์สูงเกินไป ขนาดหมอในหุยชุนถังของพวกเขายังไม่ค่อยมีใครกล้าลงมีดบนร่างผู้บาดเจ็บเลย
“เจ้า…แน่ใจหรือ” เถ้าแก่รองสีหน้าฉงน
หมอใหญ่ที่หุยชุนถังคนหนึ่งกล้าลงมีดผ่าตัดอายุอานามปาไปห้าสิบแล้ว คนเขายังเป็นผู้สืบทอดตระกูลแพทย์เก่าแก่ด้วย
“อืม” กู้เจียวพยักหน้า “ส่วนวันเวลาข้าขอคิดก่อน รอให้ตัดสินใจแน่แล้วค่อยแจ้งพวกท่าน อีกอย่าง ยังมีของบางอย่างที่ต้องเตรียมไว้ ต้องรบกวนเถ้าแก่รองแล้ว ส่วนเงิน…ก็หักจากเงินค่ารักษาที่ข้ารับมาก็แล้วกัน”
“ไม่รบกวน” เถ้าแก่รองยิ้มบอก
หุยชุนถังไม่ใช่โรงทานอะไรเสียหน่อย คนไข้ที่มาที่นี่ล้วนต้องจ่ายเงินกันทั้งนั้น ยิ่งฝีมือการแพทย์สูงเท่าใด เงินค่ารักษาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
“แต่ว่า…เจ้ารักษาได้ทุกโรคเลยหรือ” เถ้าแก่รองถาม
“เรื่องนั้นกลับไม่ใช่” กู้เจียวตอบ “ต้องดูก่อนจึงจะรู้ ทางที่ดีท่านหาพวกโรคที่รักษายากมาให้ข้า อย่าสิ้นเปลืองจำนวนครั้งในการรับรักษา”
ฟังสิ ฟังสิ ฟังสิ นี่คือความมั่นใจ!
เถ้าแก่รองกลับไม่ได้คิดว่านางกำลังคุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย ความเป็นจริงแล้ว ขอแค่เป็นคนที่เคยเห็นฝีมือการแพทย์ของนางล้วนมีเหตุผลที่จะเชื่อว่านางสามารถฟื้นคืนความตายคนได้
กู้เจียวต้องหาวัตถุดิบยาในการรมยาให้เซียวลิ่วหลัง นางแบกตะกร้าไปยังโถงใหญ่
เถ้าแก่รองหัวเราะออกมาอย่างแปลกประหลาด “เหล่าหวังเอ๋ย เจ้าว่าฝีมือการแพทย์นางดีเพียงนี้
จะสามารถ…รักษาให้ท่านผู้นั้นในเมืองหลวงได้หรือไม่”
“ท่านผู้นั้นในเมืองหลวงรึ” ผู้ดูแลหวังนิ่งอึ้ง ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ จึงได้มีปฏิกิริยาขึ้น “เจ้าหมายถึงคุณชายน้อยผู้นั้นของท่านโหวนะหรือ”
เถ้าแก่รองดวงตาสองข้างเป็นประกาย “เขานั่นล่ะ!”
ผู้ดูแลหวังรีบโบกมืออย่างตระหนก “ไม่ ไม่ ไม่ พูดไม่ได้! พูดไม่ได้!”
นั่นเป็นถึงชนชั้นสูงของเมืองหลวงเชียวนะ! หุยชุนถังในสายตาพวกเขาก็แค่ระดับชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น ไม่พอให้แลมองเลยสักนิด! “ข้าดูฝีมือการแพทย์ของแม่นางกู้แล้วไม่เลว…”
“เถ้าแก่รอง พวกเราต่างมีศีรษะเดียวกันนะขอรับ”
ผู้ดูแลหวังทำลายความคิดของเถ้าแก่รองอย่างโหดเหี้ยม
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไปหาเงินจากจวนโหว แต่โรคของท่านชายน้อยผู้นั้นไม่อาจรักษาให้หายได้จริงๆ รักษาแย่ลงได้ถึงแก่ชีวิตคนรักษาแน่
จะว่าไปแล้วท่านชายน้อยท่านนั้นก็น่าสงสาร ปีนั้นที่โหวฮูหยินคลอดเขาได้ยังไม่ถึงเดือน คลอดอยู่ในวัดทรุดโทรมแห่งหนึ่ง ข้างกายไม่ได้พาหมอตำแยมาด้วยจึงไปหามาจากในหมู่บ้านระแวกนั้นมาแทน
คลอดก่อนกำหนด ปัจจัยการคลอดย่ำแย่ ผนวกกับหมอตำแยฝีมือไม่ดี พอคลอดออกมา โหวฮูหยินจึงเสียชีวิตลง
ที่ย่ำแย่กว่านั้นก็คือ นึกไม่ถึงโหวฮูหยินจะตั้งครรภ์แฝด คลอดออกมาได้แล้วคนหนึ่ง เรี่ยวแรงของโหวฮูหยินก็แทบจะใช้หมดแล้ว พอคนที่สองที่อยู่ในท้องอดทนไว้นานเกินไป ตอนคลอดออกมาทั้งร่างก็ม่วงคล้ำไปหมดแล้ว
ท่านชายน้อยคือเด็กคนที่สองคนนั้น ก่อนเขายังมีพี่สาวอีกคน
ท่านชายน้อยมีร่างกายอ่อนแอมาจากท้องแม่ กินยาตั้งแต่เด็ก แทบจะโตมาด้วยยา
เพื่อรักษาโรคของคุณชายน้อยให้หาย หลายปีมานี้จวนโหวหาหมอที่มีชื่อเสียงมาไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่อาการป่วยของท่านชายน้อยสุดท้ายไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด ตรงกันข้าม เพราะใช้ยาอยู่บ่อยๆ ทำให้เขายิ่งอ่อนแอลง
ว่ากันว่ายามนี้เขาเหลือแค่เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแล้ว
หากโชคไม่ดีละก็ พอพวกเขาป้อนยาให้ไป ท่านชายน้อยก็หมดลมแล้ว
หากท่านชายน้อยตายลงในมือพวกเขาจริงๆ หัวของหมอทุกคนในหุยชุนถังรวมกันยังไม่พอชดใช้ชีวิตเขาเลย
เถ้าแก่รองก็ทราบถึงผลได้ผลเสียในเรื่องนี้ดี แต่เขาไม่ยอมแพ้
เดิมทีเขาก็เป็นคนมีความทะเยอทะยานอย่างมากอยู่แล้ว มิฉะนั้นคงไม่เห็นคุณค่าอันยิ่งใหญ่ในตัวกู้เจียวหรอก
จะว่าไปแล้ว ท่านชายน้อยท่านนั้นกับแม่นางกู้เหมือนว่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน
เถ้าแก่รองคล้ายกำลังคิดอะไรอยู่เอ่ยว่า “เช่นนั้นเอาอย่างนี้ ให้แม่นางกู้รักษาอาการเซียวลิ่วหลังให้ก่อน หากรักษาหายได้จริงๆ ค่อยให้นางไปลองดูที่จวนโหวก็ไม่เห็นเป็นไร”
ผู้ดูแลหวัง “…”
…
เมื่อเซียวลิ่วหลังฟื้นขึ้นมาภายในห้องก็มีหมอชราเคราขาวเพิ่มมาคนหนึ่ง
“ท่านคือ…”
หมอชราแย้มยิ้ม เอ่ยว่า “ข้าคือหมอจาง เมื่อครู่เจ้าหลับไป เรื่องนี้ต้องโทษข้า ลืมเอากำยานนอนหลับออก”
เซียวลิ่วหลังชะงักไป “ไม่เป็นไร”
“ให้ข้าดูขาเจ้าหน่อย”
“ขอรับ”
หมอชราดำเนินการตามวิธีที่กู้เจียวได้กำชับไว้รอบหนึ่ง
ว่ากันตามจริงเขาประหลาดใจยิ่ง ขาของเซียวลิ่วหลังเขาเป็นคนตรวจให้มาก่อน จากฝีมือการแพทย์ของ
หุยชุนถังยามนี้หมดหนทางจะรักษาได้
เด็กสาวคนนั้นมีวิธีให้เขา…ลุกขึ้นยืนอีกครั้งจริงๆ หรือ
เซียวลิ่วหลังถือใบสั่งยาที่หมอชราออกให้ไปยังห้องโถงใหญ่ เฝิงหลินลุกพรวดขึ้นมา “เจ้าออกมาได้เสียที หมอจางบอกว่าอย่างไรบ้าง ขาเจ้ามีทางรักษาหรือไม่”
เซียวลิ่วหลังขานรับ เอ่ยว่า “หมอจางบอกว่าใช้ยารมก่อนสักระยะ เดือนหน้าค่อยมาใหม่”
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียนของเขา กู้เจียวยังไม่ให้หมอชราเอ่ยถึงเรื่องผ่าตัดไว้ชั่วคราวก่อน
“ข้าบอกแล้วว่าหมอจางต้องรักษาได้!” เฝิงหลินชื่นชอบเต็มเปี่ยม
เซียวลิ่วหลังกลับมองหาบางอย่างรอบๆ