CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 133 หัวอกคนเป็นแม่

  1. Home
  2. สามีข้าคือขุนนางใหญ่
  3. บทที่ 133 หัวอกคนเป็นแม่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

กู้ฉังชิงภาวนาไม่ให้เรื่องเป็นอย่างที่เขาคิด “คนที่ทำร้ายเจ้า นอกจากเขาจะชกต่อยเจ้าแล้ว ยังใช้เชือกมามัดตัวเจ้าแล้วจับขังในห้องเก็บฟืน ไม่ยอมปล่อยให้เจ้าออกมาใช่ไหม”

กู้เฉิงหลินทำหน้าตื่น “พี่ใหญ่รู้ได้อย่างไร”

กู้ฉังชิงกำหมัดแน่น พยายามข่มอารมณ์ตัวเองไว้ “คนที่เจ้าว่า เป็นสตรีตัวเล็กๆ ใช่หรือไม่”

คราวนี้กู้เฉิงหลินสะดุ้งหนักกว่าเก่า

ไม่หรอกกระมัง พี่ใหญ่จะเก่งเกินไปแล้วนะ

ขนาดรอยฟกช้ำยังดูออกเลยว่าเป็นฝีมือของสตรี

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังมีอะไรที่เขาไม่รู้อีก

กะแล้วเชียวว่าเจ้าน้องชายไม่รักดีไปทำเขาก่อน ไม่แปลกที่จะโดนอีกฝ่ายเล่นงานกลับ

แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองเป็นเหยื่ออีก!

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจวนโหวแห่งนี้มีสวะอย่างเจ้าอยู่ด้วย” กู้ฉังชิงเอ่ยจบก็ซัดเขาเข้าให้หนึ่งที

กู้เฉิงหลินตามไม่ทันแล้ว

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

เหตุใดจู่ๆ เขาถึงเจ็บตัวอีกจนได้

กู้เฉิงหลินที่ยังไม่รู้ตัวว่าความแตกแล้ว ยังคงตีหน้าซื่อต่อ “ท่านพี่ทำอะไรน่ะ จริงอยู่ที่ข้าโดนทำร้ายเพราะข้ามันเป็นคนอ่อนแอเอง แต่ใครใช้ให้ท่านปู่ไม่ยอมสอนการรบให้ข้ากับพี่รองเล่า! ไม่เช่นนั้นข้าคงปกป้องตัวเองได้ ไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ และคงไม่ต้องให้ถึงมือพี่ใหญ่หรอก”

พอเอ่ยถึงตรงนี้ กู้ฉังชิงยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม

ความผิดของท่านปู่หรืออย่างไรที่ไม่ยอมสอนพวกเจ้า เป็นเพราะพวกเจ้าเองต่างหากที่ไร้ความอดทน!

แม้เมื่อก่อนเขาจะมองว่าท่านปู่เข้มงวดกับเขามากไปหน่อย ที่เขาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ เพราะเขาไม่มีทางเลือก เขาเป็นหลานชายคนโตของจวนโหว มีหน้าที่แบกรับชะตากรรมของตระกูลในอนาคต แน่นอนว่าน้องชายทั้งสองไม่ต้องมารับภาระแบบที่เขาเจอ

สักพักเขาก็นึกถึงวันนี้ตอนที่เขาไปเห็นจิ้งคงกำลังฝึกวิทยายุทธ์ อายุแค่นั้นแต่กลับตั้งใจฝึกฝนอย่างยากลำบาก แถมยังไม่บ่นสักคำ!

ที่สำคัญ ไม่มีใครบังคับเขาให้ทำด้วย!

พอมีข้อเปรียบเทียบแบบนี้ กู้ฉังชิงได้แต่ปลงอย่างเดียว

“ไปคุกเข่าที่ห้องหนังสือเดี๋ยวนี้” กู้ฉังชิงออกคำสั่งทำโทษน้องชายอย่างไม่ใยดี

“ท่านพี่ว่าอย่างไรนะ” กู้เฉิงหลินนึกว่าตัวเองหูแว่วไป จึงถามอีกครั้ง

“ข้าสั่งให้เจ้า ไปคุกเข่า ในห้องหนังสือ!” กู้ฉังชิงเอ่ยเสียงแข็ง

กู้เฉิงหลินเริ่มหัวร้อน “เหตุใดข้าต้องทำด้วย นี่ข้าโดนทำร้ายมาขนาดนี้ท่านพี่ยังคิดจะทำโทษข้าอีกรึ ยังเห็นข้าเป็นน้องชายอยู่หรือไม่”

พอเห็นน้องชายตัวเองที่ดูเหมือนจะยังไม่สำนึก ซ้ำยังปากเก่งใส่ กู้ฉังชิงจึงเดือดหนักยิ่งกว่า

ตอนที่มารดาของพวกเขาจากโลกนี้ไป น้องชายทั้งสองของเขายังเล็ก ด้วยความสงสาร พวกเขาเลยถูกปฏิบัติและเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตลอด โดยเฉพาะกู้เฉิงหลินที่ถูกประคบประหงมเป็นพิเศษจนแทบจะเสียคนไปแล้ว

ยังดีที่กู้เฉิงเฟิงพอโตขึ้นเขายังพอรู้เรื่องรู้ราวบ้าง จะมีก็แต่กู้เฉิงหลินที่ยังเล่นเป็นเด็ก แต่เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว หากทำผิดย่อมต้องได้รับโทษ ไม่มีการปล่อยผ่านใดๆ ทั้งสิ้น

“ก็เพราะข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้าอย่างไรเล่า ถึงต้องมานั่งสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ! เจ้าจะไปเองดีๆ หรือจะให้ข้าลากเจ้า!”

“ท่านพี่…”

กู้เฉิงเฟิงที่ยืนฟังอยู่ด้านนอกตั้งแต่เริ่ม พอเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินเข้ามา “ท่านพี่ น้องสาม หยุดทะเลาะได้แล้ว!”

พอกู้เฉิงหลินเห็นกู้เฉิงเฟิงเข้าก็ทำหน้าหงอใส่ คนเดียวที่ตอนนี้เป็นที่พึ่งพิงให้เขาได้ก็มีแต่พี่รองเท่านั้น

“ท่านพี่รองขอความเป็นธรรมให้ข้าด้วย! พี่ใหญ่จะทำโทษข้าแล้ว!”

“เจ้าหยุดพูดก่อน!” กู้เฉิงเฟิงตอกกลับ

ตอนที่ท่านพี่ใหญ่ตัดสินใจลงโทษเขา กู้เฉิงเฟิงพอจับใจความได้แล้วว่าพี่ใหญ่คงรู้อะไรเข้าให้แล้ว กะแล้วเชียวว่าวิธีนี้อย่างไรก็ไม่ได้ผล คนอย่างพี่ใหญ่หลอกง่ายเสียที่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่ถูกขนานนามว่าเป็นพญายมราชหรอก

กู้เฉิงเฟิงพยายามส่งสายตาให้น้องชาย ทว่าสภาพกู้เฉิงหลินตอนนี้ดูเหมือนจะไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น

“ท่านพี่ใหญ่เห็นเจ้าเด็กบ้านั่นดีกว่าข้าเลยทำโทษข้าสินะ! แล้วท่านพี่จะต้องเสียใจ! ท่านพี่ ฮือๆๆ”

กู้เฉิงหลินกำลังจะพูดว่า รู้ไหมว่าเจ้าบ้านั่นเป็นใคร

แต่ดันถูกกู้เฉิงเฟิงเอามือมาปิดปากไว้เสียก่อน

กู้เฉิงเฟิงเหงื่อตก

นี่เจ้าสามคิดจะเปิดเผยตัวตนของกู้เหยี่ยนอย่างนั้นรึ

ถ้าพี่ใหญ่รู้เข้าว่าเป็นกู้เหยี่ยน เท่ากับยืนยันว่าเจ้าสามลงมือกระทำเขาก่อนจริงๆ มิหนำซ้ำ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเขาเป็นโรคหัวใจ ไปขังเขาไว้ในที่มืดๆ แบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกันกับการจงใจฆาตกรรมเขา

นี่ไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้งธรรมดาแล้ว แต่มันคือความเป็นความตาย!

ต่อให้กู้เฉิงหลินจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาจะอธิบายแก้ต่างอย่างไรเล่า

พี่ใหญ่จะฟังเขารึ

“ที่พี่ใหญ่ลงโทษเจ้าก็เพื่อตัวเจ้าเองนั่นแหละ! ดูเข้าสิ ตัวเองหาเรื่องข้างนอกไม่พอ ยังมาหาเรื่องพี่ใหญ่อีก!” กู้เฉิงเฟิงถลึงตาใส่น้องชาย พยายามส่งสัญญาณให้เขาเข้าใจว่าอย่าทำให้เรื่องบานปลาย

ในที่สุดกู้เฉิงหลินก็เข้าใจ และไม่เอ่ยอะไรต่อ

“ท่านพี่ใหญ่ เจ้าสามก่อเรื่องไว้สมควรโดนลงโทษ แต่ในเมื่อเขาเจ็บหนักขนาดนี้ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการสั่งสอนในระดับหนึ่งแล้ว ให้เขาไปนั่งคุกเข่านานๆ เกรงว่าเดี๋ยวจะเป็นอะไรไปก่อน ปล่อยให้เขาได้รักษาเนื้อรักษาตัวก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ยังไม่สาย”

กู้เฉิงเฟิงรู้ว่าพี่ชายตนเป็นคนเข้มงวดและมีวินัยสูง แต่กับน้องชายแล้วอย่างไรก็ต้องมีใจอ่อนบ้าง

กู้เฉิงหลินทำท่าให้กู้เฉิงหลินดูเป็นนัยว่าเรื่องราวน่าจะคลี่คลายแล้ว

แต่ในตอนนั้นเอง ที่ด้านนอกเรือนดันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

บ่าวนายหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “ท่านชายสามขอรับ! แย่แล้ว! ฮูหยินแจ้งว่าต้องการพบท่าน! ข้าน้อยห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่ขอรับ!”

สำหรับกู้ฉังชิงแล้ว เขามองแม่นางเหยาเป็นคนไม่สู้คนมาโดยตลอด แต่เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้กลับกลายเป็นว่าได้ทำลายมุมมองของเขา แม่นางเหยาจู่ๆ พุ่งตัวเข้ามาราวกับคนบ้า ไม่ว่าพวกบ่าวจะพยายามห้ามนางอย่างไรก็ห้ามไว้ไม่อยู่

แล้วนางก็เดินมาหยุดอยู่หน้าเตียงของกู้เฉิงหลินโดยไม่สนว่ายังมีกู้ฉังชิงและกู้เฉิงเฟิงยืนอยู่ตรงนั้นด้วย จากนั้นก็ง้างมือตบเข้าไปที่พวงแก้มของกู้เฉิงหลินหนึ่งที!

กู้เฉิงหลินออกอาการเหวอในทันใด!

เขาตกใจยิ่งกว่าตอนที่กู้เจียวมาแก้แค้นเสียอีก ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้จักอะไรกับกู้เจียวอยู่แล้ว

แต่กับแม่นางเหยาซึ่งเป็นคนคุ้นเคย นางเป็นคนอ่อนแอ ไม่สู้คน และเพราะเหตุนั้น นางและกู้เหยี่ยนถึงได้ระเห็ดออกไปอยู่ที่อื่น

อย่าว่าแต่ตบหน้าเลย แม่นางเหยาไม่เคยกล้าว่าเขาด้วยซ้ำ!

กู้เฉิงหลินหันไปมองแม่นางเหยา

แววตาของนางดูโกรธแค้นราวกับจะฆ่าเขาให้ได้

และนั่นทำให้กู้เฉิงหลินเริ่มรู้สึกหวาดหลัว

กู้ฉังชิงเองก็ทำท่าตกใจไม่แพ้น้องชาย วันก่อนเขายังเห็นแม่นางเหยายิ้มอยู่เลย แต่จู่ๆ ดันเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือจนเขาเองก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเข้ารู้จักแม่เลี้ยงคนนี้ดีพอแล้วหรือยัง

“ท่านตบเขาทำไม” กู้ฉังชิงเปิดคำถาม

แม่นางเหยาหัวเราะแสยะทั้งน้ำตา “ทำไมข้าต้องตบเขาน่ะหรือ เจ้าเป็นพี่ใหญ่นะ จะไม่รู้ได้ไงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเจ้าจะกลั่นแกล้งข้ายังไงก็ได้ แต่เหตุใดพวกเจ้าถึงต้องไปลงกับเหยี่ยนเอ๋อร์ด้วย กว่าเขาจะมีวันนี้ได้…กว่าเขาจะอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้ได้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…”

ก่อนหน้าไม่นาน แม่นางเหยาแวะไปหากู้เจียวเลยได้รู้ว่าเหยี่ยนเอ๋อร์ถูกทำร้าย ทั้งคู่ไม่ยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง นางจึงแอบไปถามกู้เสี่ยวซุ่น ขอร้องให้เขาเล่าให้ฟัง

ที่จริงกู้เสี่ยวซุ่นรู้เรื่องแค่บางส่วนเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนช่วยกู้เหยี่ยนเอาไว้ รู้แค่ว่าเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด อีกทั้งรู้ว่าคนที่แกล้งเขามีนามว่ากู้เฉิงหลิน

นางยังถามอีกว่ากู้เฉิงหลินที่ว่าคือใคร หน้าตาเป็นอย่างไร เรียนอยู่ห้องไหน

แม่นางเหยาจินตนาการไม่ออกเลยว่ากู้เหยี่ยนจะต้องทรมานมากเพียงใด ทั้งถูกขังในห้องเก็บฟืนมืดๆ ดิ้นรนจนบาดเจ็บ จนกระทั่งโรคหัวใจกำเริบอีกครั้ง

แม่นางเหยาเป็นแม่คน!

นางก็ใจสลายเป็นเหมือนกัน!

“ถึงพวกเจ้าจะไม่รับเขาเป็นน้องชายก็ไม่เป็นไร จะเห็นเขาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งก็ย่อมได้…ในเมื่อเขามีพี่สาวแล้ว เขาจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับพวกเจ้าอีก! เขาหลีกเลี่ยงพวกเจ้ามาได้นานขนาดนี้แล้ว…แต่ทำไม พวกเจ้า ถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเสียที!”

แม่นางเหยาสะอื้นหนักโดยเฉพาะตอนพูดประโยคท้าย

“ตอนเด็กๆ พวกเจ้าเคยรังแกเขา ข้าเห็นว่าพวกเจ้ายังเด็กเลยไม่ติดใจอะไร…แต่ตอนนี้พวกเจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว! เหตุใดยังกลั่นแกล้งเขาอีกเล่า ไม่รู้รึว่าเขาเป็นโรคหัวใจ จะต้องให้เขาตายหรอกหรือ พวกเจ้าถึงจะพอใจ”

“เพราะอะไรกัน เพราะว่าพวกเจ้าโกรธแค้นข้าอย่างนั้นรึ ข้าทำอะไรผิดกับพวกเจ้างั้นรึ!”

“ข้าไม่เคยคิดร้ายต่อมารดาของพวกเจ้าเลย! ไม่เคยคิดจะแย่งชิงบิดาของพวกเจ้าเลยด้วย! การตายของนางไม่เกี่ยวกับข้าเลยแม้แต่นิด! เหตุใดพวกเจ้าถึงได้โยนความผิดมาให้ข้าทั้งหมด”

ข่าวลือเหลวไหลที่ผ่านมาแม่นางเหยาไม่เคยออกมาพูดตอบโต้เลยสักครั้ง เอาแต่เก็บไว้อยู่ฝ่ายเดียว แต่พอมาวันนี้ที่นางได้รู้ว่าลูกชายของนางเกือบต้องมาตายด้วยน้ำมือของพี่ชายต่างแม่ นางจะไม่ทนอีกต่อไป

ความเจ็บปวดที่นางทนเก็บไว้เป็นเวลาสิบกว่าปีในที่สุดก็ได้ระเบิดออกมาในเวลานี้ ไม่มีแล้วแม่นางเหยาคนเดิม กลายเป็นแม่นางเหยาที่พร้อมจะสู้คน

แม่นางเหยาก็คือแม่ แม่ที่ไม่ได้เจอหน้าลูกสาวแท้ๆ มาเป็นเวลาสิบกว่าปี แม่ที่คอยเฝ้าดูอาการป่วยของลูกชายอย่างใกล้ชิด

ดังนั้นแล้ว นางจะไม่ยอมให้ลูกของนางเป็นอะไรไปโดยเด็ดขาด

เพราะพวกเขาคือทั้งชีวิตของนาง…

หากจะต้องมีคนตายเพื่อให้เรื่องนี้จบลง นางจะเป็นคนไปเอง

นางจะพากู้เฉิงหลินก้าวลงยมโลกด้วยกันนี่ล่ะ!

“ฮูหยิน!” กู้ฉังชิงรีบเข้าไปคว้าข้อมือของแม่นางเหยา “ท่านคงเหนื่อยน่าดู กลับไปพักที่เรือนก่อนเถิด เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเจ้าสามให้เอง! ตามคนมา! พาฮูหยินกลับไปพักที่เรือน!”

สิ้นคำสั่ง คราวนี้ไม่ใช่บ่าวที่เข้ามา แต่เป็นองครักษ์ลับ

พวกเขาคว้าเข้าไปที่ท่อนแขนของแม่นางเหยา

“ระวังอย่าให้ฮูหยินเจ็บตัว” กู้ฉังชิงกำชับ

“ขอรับ”

พวกเขาจึงค่อยๆ พยุงร่างอันเศร้าโศกของแม่นางเหยาออกไปจากห้อง

กู้ฉังชิงเก็บมีดสั้นที่คว้ามาได้จากแขนเสื้อแม่นางเหยาเข้าไปในแขนเสื้อของเขา และหันมาจ้องเขม็งที่กู้เฉิงหลิน

“พี่ใหญ่! ฟังข้าอธิบายก่อน! ข้า…รู้ว่าเขาเป็นใคร…แต่ข้า…ไม่ได้ตั้งใจ…ข้า…ข้าไม่ได้จะทำร้ายเขา…ข้าคิดว่าเขาไม่ใช่…ข้า…” กู้เฉิงหลินใจตกไปอยู่ตาตุ่มและเริ่มพูดไม่ได้ศัพท์

กู้เฉิงเฟิงที่ยืนดูอยู่ก็เริ่มปาดเหงื่อ เอาละ เรื่องที่ไม่อยากให้เกิดดันเกิดจนได้ กะแล้วเชียวว่าเจ้าสามจะต้องอธิบายไม่รู้เรื่องแน่นอน

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 133 หัวอกคนเป็นแม่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์