สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 188.2 จุดจบ (2)
บทที่ 188.2 จุดจบ (2)
ในที่สุดความโกรธกริ้วของของท่านโหวก็ระเบิดออกมา เขาลุกยืนขึ้น เท้าข้างหนึ่งถีบยันอกอนุหลิง จนร่างทั้งร่างของนางหงายหลัง!
อนุหลิงหน้าคว่ำกระแทกพื้นอย่างแรง มุมปากกระอักเลือดออกมา
วินาทีที่เจ็บปวดที่สุดคือตอนนี้นั่นเองนี่เอง
ตอนที่ปักใจเชื่อว่านางตั้งท้องกับชายชู้ เขากลับไม่ได้เดือดดาลถึงเพียงนี้ แต่พอนางเล่นงานแม่นางเหยาและกู้เหยี่ยนเพียงแค่นิดหน่อย เขากลับเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
นางสารเลวนั่นกับลูกชายของนางก็ยังไม่เป็นอะไรเสียหน่อย
พวกเขายังมีชีวิตสุขสบายดีมิใช่หรือ
นางทำงานเยี่ยงวัวเยี่ยงม้าในจวนหลังนี้ แม้แต่สิทธิ์ที่จะเป็นแม่คนยังถูกพรากไป!
“เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้” ท่านโหวกู้มองอนุหลิงอย่างไม่เข้าใจ
“เหตุใดน่ะหรือ…” อนุหลิงหัวเราะ “ก็เป็นเพราะท่านโหวน่ะสิเจ้าคะ…”
ตั้งแต่วินาทีที่ข้าตกบันไดแล้วท่านรับตัวข้าไว้ ข้าก็อยากแต่งงานกับท่าน
แต่เหตุใดท่านต้องเป็นพี่เขยของข้าด้วย
ยามข้าเห็นพี่สาวอยู่กับท่าน ข้าก็อิจฉาจนแทบจะเป็นบ้า!
พอพี่สาวตายจาก
ก่อนตายพี่สาวนั้นดีกับข้ามาก
แต่ข้าไม่เสียใจเลย ไม่แม้แต่นิด
เพราะข้ารู้ว่าโอกาสของข้ามาถึงแล้ว
….
ท่านโหวกู้สั่งคนให้พาตัวอนุหลิงออกไป
ความผิดของอนุหลิงมิอาจให้อภัยได้ ทว่าประการแรก นางเป็นลูกสาวตระกูลหลิง ประการที่สอง ตอนนี้ลูกชายทั้งสามยังไม่รู้ความผิดของอนุหลิง หากจัดการอย่างไม่รอบครอบ แล้วบรรดาลูกชายไม่เชื่อขึ้นมา เอาแต่โทษว่าเป็นฝีมือของแม่นางเหยา หากเป็นเช่นนั้นแล้วจะยิ่งเข้าใจผิดกันไปใหญ่
ท่านโหวกู้พลันเหนื่อยใจขึ้นมา
ข่าวลือเกี่ยวกับแม่นางเหยานั้น ตัวเขาเองได้ยินมาไม่มากนัก อย่างแรกเป็นเพราะไม่มีคนกล้าพูดต่อหน้าเขา อย่างที่สองเป็นเพราะแม่นางเหยาไม่เคยฟ้องเขาแต่อย่างใด เขาเคยได้ยินเหล่าบ่าวไพร่นินทาอยู่ไม่กี่หน แต่ก็สั่งลงโทษในทันที
“ท่านโหว คนพวกนี้จะจัดการอย่างไรขอรับ” หวงจงถาม
ท่านโหวเอ่ยอย่างเหลืออด “เจ้าพวกนั้นก็ไล่ออกไปเสีย! แม้แต่เรื่องแบบนี้ก็ยังต้องถามข้าอีกหรือ”
“ขอรับ ขอรับ!”
เฮ้อ โดนหางเลขไปด้วยเช่นนี้ น่าสงสารแท้!
หวงจงสั่งโบยคนที่สมควรถูกโบย ส่วนพวกที่สมควรถูกขายก็ให้ขายไปเสีย เอาเป็นว่าคนพวกนั้นจะไม่มีวันได้เข้ามาเหยียบในจวนโหวอีกแน่นอน
“ท่านโหว” หวงจงเอ่ย “นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนเถิดขอรับ”
ไม่ทันรู้ตัวก็ดึกดื่นค่อนคืนเสียแล้ว
แม่นางเหยากลับเรือนไปก่อนหน้าตั้งนานแล้ว
เหล่าฮูหยินกู้โมโหจนเวียนหัวไปหมด พอกลับมาถึงห้องก็กินยาแล้วนอนหลับไป
ท่านโหวกู้เองก็เหนื่อยล้าไปทั้งกาย แต่เขากลับยังไม่เข้านอน ทว่าไปที่เรือนของกู้เฉิงเฟิงและกู้เฉิงหลินแทน
กู้เฉิงเฟิงเพิ่งทำภารกิจกลับมาเหนื่อยจนแทบหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าซีดขาว แต่กลับบังเอิญท่าทางเหมือนคนที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
ท่านโหวกู้ “ไปเรียกพี่ใหญ่พวกเจ้ามา”
ท่าทีของเขาดูผิดปกติ
สองพี่น้องหันหน้ามาสบตากัน ไม่เข้าใจว่าท่านพ่อเป็นอะไรไป
กู้เฉิงหลินเอ่ย “พี่ใหญ่ไปที่ค่ายทหารขอรับ”
ท่านโหวกู้เอ่ยอย่างอ่อนล้า “เช่นนั้นก็ดี ข้าบอกกับพวกเจ้าสองคนก่อนก็แล้วกัน”
ท่านโหวกู้ไม่ได้บอกว่าอนุและพรรคพวกสบคบคิดวางแผนร้าย เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องดีงามแต่อย่างใด อีกอย่างเขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายต่อหน้าลูกอย่างไร
เขาบอกเพียงแค่ว่าอนุหลิงยักยอกเงินทั้งยังจ้างวานบ่าวไพร่ให้ปล่อยข่าวลือ ปั้นน้ำเป็นตัวต่าง ๆ นานา
สองพี่น้องอ้าปากค้างตกตะลึง
แม่นางหลิงจากไปตั้งแต่ยังสาว ยามที่อนุหลิงเข้าจวนมา สองพี่น้องยังคงอยู่ในวัยที่ยังติดแม่อยู่ พวกเขาได้รับความอบอุ่นของแม่จากอนุหลิง ในใจของพวกเขา อนุหลิงก็เหมือนแม่คนที่สอง
กู้เฉิงหลินลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ “ข้าไม่เชื่อ! อนุไม่มีทางทำเช่นนั้น! ต้องเป็นแม่นางเหยาแน่นอน! เป็นแม่นางเหยาหญิงสารเลวผู้นั้นที่ใส่ร้ายอนุ!”
“เจ้าเรียกใครว่าสารเลว!” ท่านโหวกู้ยืนขึ้นด้วยท่าทีเคร่งขรึมเช่นกัน!
นี่เป็นครั้งแรกที่กู้เฉิงเฟิงเข้ามาขวางหน้าน้องชาย
เขาไม่ยอมให้อนุหลิงต้องมาถูกใส่ร้าย แล้วก็ไม่ยอมให้ท่านพ่อลงโทษน้องชายเพราะความผิดที่ไม่สมควรเป็นความผิดเช่นนี้ด้วย!
ทันใดนั้นท่านโหวกู้ก็สัมผัสได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของลูกชายทั้งสองคน ทว่าเขาไม่มีเวลามาคิดมาก เขากำหมัดแน่นจนเสียงดังกรอบ “หลักฐานมัดตัวหนาแน่น บ่าวพวกนั้นก็ยอมรับสารภาพรับโทษกันถ้วนหน้าแล้ว หากไม่เชื่อพวกเจ้าก็ลองไปถามดู!”
กู้เฉิงหลิงเอ่ย “พวกเขาต้องถูกแม่นางเหยาซื้อตัวไว้แล้วแน่นอน! แม่นางเหยาบังคับให้พวกเขาพูดอะไร พวกเขาก็พูดเช่นนั้น! ข้าไม่เชื่อคำพูดของพวกเขา! ข้าจะไปหาอนุ! ข้าจะถามนางด้วยตัวเอง! ข้าเชื่อแค่นาง!”
ท่านโหวกู้คำรามเสียงดังดั่งสายฟ้าฟาด “ลูกไม่รักดี!”
กู้เฉิงหลินสนใจเสียที่ไหน ในใจของกู้เฉิงหลิน อนุหลิงนั้นสำคัญยิ่งกว่าท่านพ่อด้วยซ้ำ!
ยามเขาป่วย ก็เป็นอนุหลิงที่คอยดูแลเขาไม่ห่าง!
ยามเขาคิดถึงแม่ ก็เป็นอนุหลิงที่คอยกอดเขาทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน!
ยามเขาถูกพ่อบังเกิดกล้าทุบตีจนเนื้อตัวฟกช้ำ ก็เป็นอนุหลิงที่คอยปลอบโยนเขา ตามใจเขา ทำของอร่อยให้เขากิน!
นอกเหนือจากท่านแม่แล้ว อนุหลิงเป็นคนที่ดีกับเขาที่สุดบนโลกนี้!
เขาต้องการแค่อนุหลิงเพียงคนเดียว!
กู้เฉิงหลินพุ่งตัวไปยังเรือนของอนุหลิง
กู้เฉิงเฟิงเองก็เป็นห่วงอาการของอนุหลิง จึงตามไปด้วยเช่นกัน
“อนุ!” กู้เฉิงหลินมาถึงหน้าเรือนแล้ว
องครักษ์ขวางเขาไว้ “ท่านชายสาม ท่านเข้าไปไม่ได้นะขอรับ!”
“ถอยไป!”
กู้เฉิงหลินยุดยื้อกับองครักษ์ที่เฝ้าเวรยามหน้าประตู
ทว่าจะผลักอย่างไรก็อีกฝ่ายก็ไม่ขยับ
กู้เฉิงเฟิงเดินเข้ามา ขยับเพียงปลายนิ้ว องครักษ์สัมผัสได้ว่าถูกบางอย่างโจมตีเข้าที่หัวเข่า จนร่างกายทรุดล้มลง กู้เฉิงหลินให้จังหวะนั้นผลักเขาไปอีกทาง แล้วบุกเข้าไปในเรือนพร้อมกับกู้เฉิงเฟิง
“อนุ! อนุ!” กู้เฉิงเฟิงกระวีกระวาดเข้าไปที่ห้องของอนุหลิง
ภายในห้องเงียบสงัด ไม่มีแสงจากตะเกียง มีเพียงแสงจันทร์รำไรสาดส่องเข้ามาจากด้านนอก
“อนุ” กู้เฉิงหลิงหอบหายใจ
อนุหลิงปล่อยผมสยายหวีผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เหม่อมองไปยังกระจกสำริด
ภายในเวลาสั้นๆ เพียงแค่หนึ่งวัน ราวกับว่าวัยสาวอันงดงามของนางได้มลายหายไปแล้ว
“อนุ…” กู้เฉิงหลิงเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังอนุหลิง
อนุหลิงนิ่งเงียบ
ทว่าจากขอบตาแดงก่ำของนางนั้น มองออกได้อย่างง่ายดายว่าเมื่อครูนางกำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทั้งมุมปากของนางยังมีคราบเลือดอีกต่างหาก
หัวใจของกู้เฉิงหลินเหมือนถูกมีดกรีด เขาทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง แหงนมองอนุหลิงอย่างปวดใจ “อนุ ท่านพ่อทุบตีท่านหรือ เขาช่างป่าเถื่อนนัก! ข้าจะไม่สนใจเขาอีกต่อไป! ข้าไม่ต้องการเข้าแล้ว!”
ขอบตาของอนุหลิงแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นใต้ตารื้นเต็มเบ้า นางยกมือขึ้นมาเกลี่ยแก้มของกู้เฉิงเฟิง “เด็กโง่เอ๋ย”
กู้เฉิงหลินแนบใบหน้าของตนเข้ากับฝ่ามือของนาง ก่อนจะเอ่ยเสียงหนักแน่น “พวกเขาบอกว่าท่านใส่ร้ายแม่นางเหยา ทั้งยังปลอมแปลงหลักฐานมาปรักปรำท่านอีก! อนุวางใจได้เลย ข้าไม่มีทางถูกหลอก! ท่านพ่อถูกนางจิ้งจอกนั่นเป่าหู ข้าจะคิดหาวิธีล้างมลทินให้ท่านเอง!”
อนุหลิงเอ่ย “ไหนเจ้าบอกว่านางโง่เง่า สร้างเรื่องให้ร้ายคนอื่นไม่เป็นไม่ใช่หรือ”
กู้เฉิงหลินส่งเสียงฮึดฮัด “นั่นมันเมื่อก่อน! ข้าเห็นนางไปแอบไปพบใครคนหนึ่ง ทั้งยังหลอกล่อให้ข้าไปคว้าน้ำเหลวอีกต่างหาก ข้าถึงได้รู้ว่านางไม่ธรรมดา! นางไม่ใช่คนดี! อนุ หากจวนนี้ไม่ยอมรับท่าน ข้าเองก็จะไม่อยู่ที่นี่เช่นกัน! ข้าจะพาท่านหนีไป! หนีไปจากจวนโหว!”
อนุหลิงยิ้มอย่างขมขื่น “เจ้าเป็นลูกชายของท่านโหว ท่านโหวไม่ยอมให้เจ้าไปจากจวนโหวหรอก เจ้าจะถูกจับตัวกลับมา”
กู้เฉิงหลินสะอึกไป ก่อนจะรีบเอ่ยออกมา “เขา…เขาไม่จับข้าหรอก! พวกเราไปซ่อนตัวที่เรือนตระกูลหลิงกัน! ท่านยายจะต้องออกหน้าแทนข้าแน่นอน!”
นางออกหน้าแทนเจ้า แต่ไม่ออกหน้าแทนข้าน่ะสิ
คุณค่าของข้า ก็ถูกลดทอนจนหมดสิ้นตั้งแต่วินาทีที่พวกเจ้าเติบโตขึ้นมาแล้ว
อนุหลิงมองเขาทั้งน้ำตา ก่อนจะเอ่ยเสียงสะอื้น “มาให้ข้ากอดเจ้าอีกสักครั้งเถิด”
กู้เฉิงหลินพยักหน้า สองแขนโอบเอวของอนุหลิง ศีรษะก็ซุกเข้าหาอ้อมกอดของนาง
วินาทีนั้น ความเจ็บปวดก็แล่นริ้วขึ้นมาจากหน้าอกของเขา
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วยิ่งนัก กู้เฉิงเฟิงที่อยู่ข้างกันไม่ทันได้ตั้งตัว กริชของอนุหลิงก็แทงเข้าที่หัวใจของกู้เฉิงหลินแล้ว!
กู้เฉิงหลินก้มหน้ามองกริชบนหน้าอกของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เชื่อสายตา “อนุ…”