CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 300.1 แต่งงาน (1)

  1. Home
  2. สามีข้าคือขุนนางใหญ่
  3. บทที่ 300.1 แต่งงาน (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 300 แต่งงาน (1)

เซียวลิ่วหลังไม่รู้เรื่องป้ายชื่อเลยสักนิด ย่อมไม่รู้ว่าเฉินเปียนซิวจะนำป้ายชื่อนี้ไปถึงหอเซียนเล่อ

นั่นเป็นหอนางโลมอย่างแท้จริง หน่วยงานแห่งคุณธรรมอย่างสำนักฮั่นหลินจะเหยียบเข้าไปโดยพลการไม่ได้เด็ดขาด

ใครจะรู้ว่าเฉินเปียนซิวจะใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้

ทว่าสองวันต่อมา เฉินเปียนซิวไม่ได้มาที่สำนักฮั่นหลิน และไม่ได้ส่งใครมาลาแทนด้วย

วันแรก ผู้คนก็แค่สงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดไปในทางไม่ดี ต่างก็คิดว่าน่าจะป่วย หรือไม่ที่บ้านก็เกิดเหตุสุดวิสัยจึงไม่ได้มาแจ้งกับสำนักฮั่นหลิน

วันที่สองยังคงเป็นเช่นนั้น หยางซื่อตู๋คิดว่าอย่างน้อยเขาก็เคยเป็นลูกน้องสังกัดของเขา จึงส่งคนไปถามไถ่ที่บ้านของเฉินเปียนซิว

ครอบครัวเฉินเปียนซิวเป็นครอบครัวบัณฑิตธรรมดาในเมืองหลวง มีพ่อเป็นซิ่วไฉ เปิดสถาบันสอนเด็กเล็กหาเลี้ยงครอบครัว แม่เป็นบุตรสาวภรรยาคนหนึ่งของขุนนางเก่า ค่อนข้างมีฐานะ

ตระกูลเฉินแม้จะไม่ถือว่าเป็นตระกูลร่ำรวยสูงศักดิ์ แต่ก็มีเรือนให้อาศัย มีคนรับใช้ให้ไหว้วาน

สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ คนในตระกูลเฉินก็กำลังจะออกบ้านไปตามหาเฉินเปียนซิวที่สำนักฮั่นหลินเช่นกัน

พวกเขานึกว่าเฉินเปียนซิวอยู่เวรที่สำนักฮั่นหลิน

เรื่องเช่นนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น ช่วงที่สำนักฮั่นหลินงานยุ่งเป็นที่สุด เฉินเปียนซิวเคยไม่กลับบ้านติดต่อกันสามวัน

แต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ทั้งสองฝ่ายต่างรีบไปแจ้งความกับทางการ

ทางการสืบคดีได้รวดเร็วยิ่งนัก หรืออาจเป็นเพราะคดีนี้ไม่ได้ยากอะไร

พวกเขาพบศพของเฉินเปียนซิวในกองสิ่งของที่มุมตึกหน้าประตูทางตะวันตกของหอเซียนเล่อ

“คดีเช่นนี้พวกข้าพบเห็นมามากแล้ว…เป็นพวกที่อยากแอบเข้าไปในหอเซียนเล่อแต่ถูกหาว่าเป็นขโมยจึงถูกตีจนตายอีกคนแล้วสินะ…”

หอเซียนเล่อมีกำแพงสูงยิ่งนัก คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนคิดเพ้อฝัน บังเอิญว่าหน้าประตูตะวันตกของหอเซียนเล่อมีที่ทิ้งสิ่งของกองอยู่ มีคนแอบมุดเข้าไปจากทางนี้อยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายก็อย่างที่เห็น

องครักษ์ของหอเซียนเล่อใช่ว่าจะล่วงเกินกันได้

ผู้ใดที่แอบลักลอบเข้ามาถือว่าเป็นโจร ตีให้ตายเสียให้หมด!

คนตระกูลเฉินไม่เชื่อ คนของสำนักฮั่นหลินก็ไม่เชื่อ

แต่เฉินเปียนซิวถอดชุดขุนนางสำนักฮั่นหลินออก สวมใส่ชุดสีน้ำเงินที่ตัดมาใหม่ เขายังโกนเคราอีก เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะไปพบคนสำคัญเป็นแน่

“ไม่แน่ว่า…ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะทำร้ายเขาจนตายแล้วเปลี่ยนชุดให้เขาก็ได้!” คนตระกูลเฉินเอ่ย

ทำร้ายขุนนางแห่งราชสำนักกับทำร้ายชาวบ้านธรรมดาโทษไม่เหมือนกัน

ทว่าการคาดเดาเช่นนี้ก็ตกไปในไม่ช้า เนื่องจากทหารทางการหาคนขับรถม้าที่เฉินเปียนซิวเรียกมาวันนั้นเจอ

คนขับรถม้าให้ปากคำว่า ตอนขึ้นรถม้า เฉินเปียนซิวสวมใส่ชุดขุนนางของสำนักฮั่นหลิน เมื่อลงจากรถม้ากลับเปลี่ยนเป็นอีกชุดหนึ่ง และยังโกนหนวดเคราอีก

“ข้าส่งเขาถึงหอชิงเฟิง หลังจากนั้น ข้าเห็นเขาเดินไปทางหอเซียนเล่อ”

คราวนี้ เส้นทางและจุดประสงค์ของเฉินเปียนซิวก็แน่ชัดแล้ว บวกกับตำแหน่งของเฉินเปียนซิวที่ไม่สามารถเข้าหอเซียนเล่ออย่างเปิดเผยได้ เช่นนั้นจึงเหลือเพียงแค่การปีนข้ามกำแพงแล้ว

คนของหอเซียนเล่อไม่รู้ว่าเขาเป็นขุนนาง เห็นเขาเป็นโจรทั่วไปเท่านั้น แน่นอนว่าย่อมลงมือไม่ยั้ง

เรื่องแบบนี้ หากขึ้นศาลก็ย่อมทำได้ เพราะอย่างไรเสียก็ทำร้ายคนจนเสียชีวิต หอเซียนเล่อต้องรับผิดชอบในความผิดนี้ เพียงแต่หากทำเช่นนี้ ชื่อเสียงของเฉินเปียนซิวก็จะถูกทำลายจนสิ้น

สุดท้ายหอเซียนเล่อชดใช้ด้วยเงินทองเพียงเล็กน้อย แล้วเรื่องนี้ก็ผ่านไป

แต่ช้างตายทั้งตัวใบบัวย่อมปิดไม่มิด เรื่องที่เฉินเปียนซิวไปหอนางโลมแล้วถูกทำร้ายจนเสียชีวิตก็ยังแพร่ไปทั่วสำนักฮั่นหลินอยู่ดี ทุกคนไม่ได้พูดคุยกันอย่างเปิดเผย แต่ก็แอบถกเถียงกันอย่างลับๆ

“พวกเจ้าว่า…คนดีมีคุณธรรมอย่างเฉินเปียนซิวเหตุใดจู่ๆ ถึงไปหอนางโลมได้”

“หรือว่าจะถูกเซียวซิวจ้วนยุยงเอา ในสำนักฮั่นหลินนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครมีสัมพันธ์กับหญิงนางโลมแล้ว”

“เบาๆ หน่อย หานเสวียซื่อไม่ให้เราถกเรื่องนี้กัน!”

“ข้าพูดอะไรผิด ก่อนที่เฉินเปียนซิวจะหายตัวไปหนึ่งวัน…ข้าเห็นเขาพูดคุยกับเซียวซิวจ้วน…ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน…ดูท่าทางโมโหมาก…”

ขณะที่พวกเขาถกเถียงกันถึงเรื่องนี้ เซียวลิ่วหลังก็เดินมาจากที่ไม่ห่างออกไปนัก

พวกเขาเงียบไปในทันที ส่งสายตาให้กันแล้วสลายตัวไป

แต่ที่จริงเซียวลิ่วหลังได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว

เขาไม่ได้ยุยงเฉินเปียนซิวแน่นอน

แต่เมื่อคนคนหนึ่งถูกกีดกันไม่ให้เข้าพวกแล้ว แม้แต่หายใจก็ยังผิด

ตั้งแต่ตกลงจะให้หลานสาวแต่งงานกับอันจวิ้นอ๋องแล้ว ราชเลขาหยวนก็ให้คนไปรวบรวมบทกลอนช่วงหลายปีมานี้ของอันจวิ้นอ๋องมาให้หมด

เขาดูอย่างละเอียด ช่างเป็นคนที่มีความสามารถเสียจริง บทกลอนบางบทที่ท่องกันอย่างแพร่หลายจนถึงวันนี้เป็นกลอนที่เขาได้เขียนขึ้นเมื่อเป็นตัวประกันอยู่ที่แคว้นเฉิน แม้จะมีบางจุดที่ด้อยอยู่บ้าง แต่การที่ตัวอยู่ต่างแคว้น แบกรับชะตากรรมของแผ่นดินเกิด อดทนอดกลั้นต่อการถูกเหยียดหยาม แล้วยังมีความห้าวหาญของคนหนุ่มเช่นนี้ได้ ช่างเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ

ราชเลขหยวนให้คนนำบทกลอนไปให้หลานสาว

เขารู้ดีว่าหลานสาวของเขาเป็นคนมีความสามารถ เย่อหยิ่งทะนงตน ไม่มองคนธรรมดาทั่วไป แต่คนมีความสามารถอย่างอันจวิ้นอ๋องน่าจะพอเข้าตานางอยู่บ้าง

ราชเลขาหยวนหารู้ไม่ว่า แม่ชีน้อยเห็นบทกลอนที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ว หน้านิ่วคิ้วขมวดทันใด

เหตุใดจึงให้นางอ่านบทกลอน

นางอยากอ่านบทละครต่างหาก!

ว่าแต่ผ่านไปนานมากแล้ว เหตุใด ‘อวิ๋นถิงจี้’ เล่มที่สามยังไม่ออกอีก

ไหนบอกว่าออกเดือนละเล่มอย่างไรเล่า

นี่มันหนึ่งเดือนกับสามวันแล้ว เขาหายตัวไปในอากาศแล้วหรืออย่างไร!

ณ ตรอกปี้สุ่ย จี้จิ่วอาวุโสที่เพิ่งเขียนอักษรตัวสุดท้ายเพิ่งจะวางพู่กันลง จู่ๆ ก็จามอย่างแรง “ฮัดเช้ย!”

เขาเพิ่งจะรับตำแหน่งดูแลกั๋วจื่อเจียน เงินค่าตอบแทนไม่สูงนัก อีกเหตุผลหลักคือเงินเก็บที่เคยมีก็ถูกหญิงชราปล้นไปเสียหมด เขายังอยากเปลี่ยนรถม้าใหม่อีกด้วย…

เพื่อเป็นการรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เขาจึงจำเป็นต้องหยิบอาชีพเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ นั่นก็คือการเขียนบทละคร

เขาไม่ได้เขียนมาหลายปีแล้ว นามปากกาเดิมก็ถูกลืมเลือนไปเสียหมด เขาจึงใช้นามปากกาใหม่ นั่นก็คือ ‘จุ้ยเซิงเมิ่งสื่อ’ หรือใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างเพ้อฝันนั่นเอง

แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกได้อารมณ์แล้ว

บทละครเล่มแรกของเขาเมื่อกลับมาเขียนอีกครั้ง พูดถึงตัวประกันแคว้นศัตรูผู้อ่อนแอทำลายระบบราชสำนัก และความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดกับองค์หญิงราชวงศ์ซย่า

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงข้อถกเถียงที่ไม่จำเป็น เขาได้เล่าเท้าความว่านี่เป็นเพียงความฝันของตัวประกันตั้งแต่ต้นเรื่อง

ทว่าแม้เป็นเช่นนั้น ก็ทำให้ผู้คนติดตามกันอย่างล้นหลาม

สองเล่มแรกขายดีอย่างยิ่ง เขาทำเงินได้เล็กน้อย เล่มที่สามตามจริงต้องส่งบทนานแล้ว แต่ช่วงนี้ในกั๋วจื่อเจียนมีธุระมากมายให้จัดการ เขาจึงได้ล่าช้า

เพื่อเป็นการขอโทษ เขาตัดสินใจว่าจะนำบทร่างไปส่งให้ร้านหนังสือด้วยตนเอง

วันนี้แม่ชีน้อยก็ไปที่ร้านหนังสือเช่นกัน นางไปเพื่อเร่งบท

จี้จิ่วอาวุโสอดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟัง

ด้านหลังของชั้นวางหนังสือ เด็กในร้านหนังสือกำลังแนะนำบทละครเรื่องอื่นให้กับแม่ชีน้อย

แม่ชีน้อยเปิดดูอย่างไม่สนใจแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ดี ไม่เร้าใจเท่าของจุ้ยเซิงเมิ่งสื่อ”

จี้จิ่วอาวุโสนึกว่าอีกฝ่ายจะพูดว่าบทละครของตนแปลกใหม่ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคำว่าเร้าใจ

จี้จิ่วอาวุโสกระแอมเล็กน้อย

เหมือนว่า…จะเร้าใจจริงๆ นั่นแล

แม่ชีน้อยเอ่ย “ตอนที่องค์หญิงเลิกลากับราชบุตรเขยนั้นดีมาก องค์หญิงไม่ควรจะต้องมาทนทรมานเช่นนี้!”

ที่จริงองค์หญิงเป็นเพียงตัวประกอบที่ไม่สำคัญในบทละครเท่านั้น ไม่ได้เขียนเนื้อความรายละเอียดเลยด้วยซ้ำ ตอนเลิกกับราชบุตรเขยก็แค่พูดผ่านๆ ไม่กี่ประโยคเท่านั้น คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะจำได้แม่นยำเพียงนี้

ถือเป็นนักอ่านตัวยงคนหนึ่งเลย!

จี้จิ่วอาวุโสกระแอมเบาๆ อดความสนใจที่จะพูดคุยกับอีกฝ่ายไม่ได้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้แรงบันดาลใจมากกว่าเดิมก็เป็นได้ “แม่ชีท่านนี้ชอบหนังสือเล่มนี้เช่นกันหรือ”

แม่ชีน้อยตอบ “ก็ชอบ การเขียนสำบัดสำนวนพอใช้ได้”

จี้จิ่วอาวุโส ‘ข้าเป็นถึงจี้จิ่วแห่งกั๋วจื่อเจียนเชียวนะ สำบัดสำนวนแค่พอใช้ได้หรือ’

แต่เพื่อเป็นการลดกำแพงให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เขาตั้งใจเก็บสำบัดสำนวนไว้ และใช้คำภาษาพูดมากขึ้น เช่นนี้ก็เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจของผู้อ่าน

แต่เพื่อให้เข้ากับรสนิยมของพวกปัญญาชน เขาก็ได้สอดแทรกบทกลอนที่แต่งขึ้นเองเข้าไปไม่น้อย จุดเหล่านี้ คนทั่วไปก็จะอ่านข้ามไป ไม่กระทบต่อการดำเนินเรื่องของบทละคร

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 300.1 แต่งงาน (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์