สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 328 ชิงความโปรดปราน (1)
บทที่ 328 ชิงความโปรดปราน (1)
ยามโหย่ว กั๋วจื่อเจียนกับสำนักบัณฑิตชิงเหอก็เลิกเรียน
กู้เสี่ยวซุ่นไปเรียนงานฝีมือกับอาจารย์หลู่และหนานเซียง กู้เหยี่ยนอ้างว่าไม่สบายเพื่อลาหยุด
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ไม่สบายจริงๆ อยู่แล้ว เขาจงใจลาหยุดเพื่อดำเนินการตามแผนการที่ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเสี่ยวจิ้งคงเพื่อต่อต้านพี่เขย
“ทำไมเณรน้อยจึงยังไม่กลับอีกนะ” กู้เหยี่ยนเดินวนไปวนมาในลานบ้าน
แม่นางเหยายิ้มเอ่ยถาม “ร่างกายหายดีแล้วหรือ”
กู้เหยี่ยนกระแอมเบาๆ “ข้า ข้าตากลมหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”
แม่นางเหยารู้ดีว่าเขาจงใจโดดเรียน แต่ติดที่อาการของร่างกายเขาจึงไม่ได้เอ่ยอะไร
แม่นางเหยาอายุครรภ์มากขึ้นเรื่อยๆ กู้เหยี่ยนไม่ร้อน แต่นางกลับร้อนจนเหงื่อเปียกโชกทั้งตัว นางจึงกลับห้องไปอาบน้ำ
กู้เหยี่ยนชะเง้อชะแง้มองอยู่หน้าประตู ไม่รู้เหมือนกันว่าชะเง้อมองอยู่นานเท่าใด ในที่สุดเณรน้อยก็กลับมาเสียที
“เหตุใดเจ้าจึงกลับมาช้านัก” กู้เหยี่ยนถาม
เสี่ยวจิ้งคงทอดถอนใจเหมือนผู้ใหญ่เขาทำกัน “ก็ท่านปู่น่ะสิ ข้าบอกแล้วว่าข้ากลับมาเองได้ แต่ท่านปู่ก็ไม่วางใจ จะให้ข้ารอเขาให้ได้”
จากกั๋วจื่อเจียนมาตรอกปี้สุ่ยไม่ได้ไกลนัก เสี่ยวจิ้งคงเดินไปกลับทุกวัน หลับตายังไม่หลงทางเลย
แต่ความคิดของผู้ใหญ่กับเด็กไม่ค่อยเหมือนกันนัก ขอบเขตความปลอดภัยของเขาคือตรอกสายนี้ เลยออกไปเล็กน้อยผู้ใหญ่ที่บ้านก็จะเป็นกังวลแล้ว
กู้เหยี่ยนมองไปทางสองฝั่งของตรอก ก่อนจูงมือเสี่ยวจิ้งคง “เอาละ เรื่องนี้เอาไว้ก่อน พี่สาวกับพี่เขยใกล้จะกลับมาแล้ว”
นี่หมายความว่าทั้งคู่จะเริ่มแอบทำเรื่องไม่ดีกันแล้ว
แต่อย่างไรเสียนี่ก็เป็นครั้งแรก พวกเขายังต้องค่อยๆ ปรึกษากันให้ดีก่อน
วันนี้โรงหมอกับสำนักฮั่นหลินงานไม่ยุ่ง กู้เจียวกับเซียวลิ่วหลังจึงกลับถึงบ้านไว หลังจากถึงบ้านแล้วเซียวลิ่วหลังก็ไปห้องหนังสือตรวจการบ้านของเสี่ยวจิ้งคง
เขาทำการบ้านเร็วกว่ากู้เหยี่ยน ดังนั้นโดยปกติแล้วจะตรวจของเขาก่อน
ส่วนกู้เจียวไปห้องครัว
กู้เหยี่ยนหรี่ตาลง ก่อนจะแอบไปนอกห้องครัวแล้วแอบมองด้านใน พบว่าพี่สาวเขากำลังทำเต้าฮวยเค็มอยู่!
หา!
เอาเต้าฮวยให้พี่เขยกินจนติดใจไปแล้วหรือนี่
นึกไม่ถึงว่าจะมาลงมือทำเต้าฮวยเองเลย!
มหาสมุทรแห่งความอิจฉาในหัวใจของกู้เหยี่ยนคลื่นลมโหมกระหน่ำ เสี่ยวจิ้งคงอ้างว่าไปฉี่จึงวิ่งหนีออกจากห้องหนังสือมา เด็กน้อยทั้งสองหลบกันอยู่หลังต้นไห่ถังอย่างลับๆ ล่อๆ ก่อนจะแลกเปลี่ยนข่าวที่ไปสืบมาแก่กันอย่างระมัดะวัง
เสี่ยวจิ้งคงเอ่ยเสียงเข้ม “เจียวเจียวไปรับพี่เขยที่สำนักฮั่นหลินแล้ว พวกเขาสองคนกลับบ้านมาด้วยกัน!”
กู้เหยี่ยนโมโหยกใหญ่ พี่สาวไม่เคยไปรับเขาตอนเลิกเรียนเลยสักครั้ง!
กู้เหยี่ยนกัดฟันเอ่ย “พี่สาวกำลังทำเต้าฮวยเค็มอยู่ ซ้ำยังทำให้พี่เขยด้วย! แล้วก็ไม่มีของพวกเราสองคนเลยด้วย!”
เสี่ยวจิ้งคงเกิดความคิดวาบผ่าน แผนการปรากฏขึ้นในใจ!
“เจียวเจียว! ท่านปู่เรียกแหน่ะ!” เสี่ยวจิ้งคงมาถึงนอกห้องครัวก็เอ่ยบอกกู้เจียวด้วยสีหน้าน่ารักน่าชัง
กู้เจียววางทัพพีลงพลางเอ่ย “อ๋อ เช่นนั้นข้าจะไปหาหน่อย”
เท้าหน้านางเพิ่งเดินไป เด็กแสบทั้งสองก็เร้นกายเข้ามาทันที
ทั้งสองสบตากันพร้อมกับยิ้มร้าย ก่อนหยิบโหลเครื่องปรุงมาเทใส่ลงไปในเต้าฮวยพรวดๆ!
“ใส่เกลือสักหน่อยดีกว่า!”
“น้ำพริก!”
“โป๊ยกั๊ก!”
“พริกหม่าล่า!”
“แล้วก็อันนี้ อันนี้!” กู้เหยี่ยนหอบโหลออกมาใบหนึ่งจากด้านในสุดของตู้ชาม “ดีบัว ขมอย่าบอกใครเชียว!”
เสี่ยวจิ้งคงทำตาเหลือกล้มไปกับพื้นเพราะขม ก่อนจะลุกขึ้นมาหัวเราะฮ่าๆ จนตัวสั่นไปหมด
ทั้งสองทำเรื่องไม่ดีเสร็จ เพิ่งจะเก็บโหลสุดท้ายใส่ตู้ กู้เจียวก็กลับมา นางเอ่ยด้วยความมึนงง “เมื่อครู่ท่านปู่ไม่ได้เรียกข้านี่นา”
เสี่ยวจิ้งคงแบมือวางมาดจริงจัง “อ๊ะ ข้าคงหูฝาดไป”
“พวกเจ้าสองคนกำลังทำอะไรน่ะ” กู้เจียวถาม
ทั้งสองแววตาเป็นประกาย
กู้เหยี่ยนเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน “อ๋อ เจ้าทำเต้าฮวยให้พี่เขยมิใช่หรือ พวกเราช่วยเจ้ายกไปนะ!”
เสี่ยวจิ้งคงรีบคล้อยตามทันที “ใช่! ช่วยเจียวเจียวยกไปนะ!”
กู้เจียวส่งเสียงอ้อ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่ได้ทำเต้าฮวยให้พี่เขยพวกเจ้ากินนะ อันนี้ทำให้พวกเจ้า คราก่อนซื้อเต้าฮวยมาให้แค่พี่เขยพวกเจ้า ไม่ได้ซื้อให้พวกเจ้าเลย ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะผิดหวังไม่น้อย วันนี้ข้าจึงกลับมาไวหน่อย ทำให้พวกเจ้าคนละชาม พวกเจ้ามากันพอดีเลย รีบกินกันล่ะ!”
ทั้งสองมองจานดำๆ ที่พวกเขาใช้เครื่องปรุงนับไม่ถ้วนทำลายอย่างไร้ปรานี ในใจพลันมีสายฟ้าฟาดนับหมื่นสาย…
เด็กแสบทั้งสองอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ยามนี้เสียใจก็คงไม่ทันแล้ว ฮือออ
กู้เจียวเห็นสีหน้าที่ค่อยๆ แตกสลายของทั้งสองก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “เป็นอะไรไปรึ ไม่ชอบกินเต้าฮวยที่ข้าทำหรือ”
ฮือ ไม่ชอบไม่ได้หรอก!
มิฉะนั้นคงได้พ่ายแพ้ให้แก่พี่เขยแน่!
พวกเขาต้องรักเจียวเจียวให้มากกว่าพี่เขยนิสัยไม่ดี!
ทั้งสองหยิบชามเล็กๆ ของตัวเองออกมา กู้เหยี่ยนตักให้เสี่ยวจิ้งคงช้อนใหญ่ “เจ้าเป็นน้อง เจ้ากินให้มากหน่อย”
เสี่ยวจิ้งคงตักช้อนใหญ่กว่าให้กู้เหยี่ยน “โบราณมีข่งหรงสละลูกสาลี่ ยามนี้มีจิ้งคงสละเต้าฮวย พี่เหยี่ยนกินให้มากหน่อยดีกว่า”
กู้เหยี่ยน “ไม่ เจ้ากินเยอะๆ นั่นแหละ เจ้าต้องโตนะ”
เสี่ยวจิ้งคง “ข้ายังเด็ก ค่อยๆ โตได้ พี่เหยี่ยนรักษาร่างกายนั้นสำคัญกว่า”
เอาสิ ทำร้ายกันเลย!
การร่วมมือกันย้อนต่อต้านพี่เขยครั้งแรก จบลงด้วยการทำร้ายกันเอง!
…
จนกระทั่งกินข้าวเสร็จ กู้เหยี่ยนกับเสี่ยวจิ้งคงก็หน้าบูดหน้าบึ้ง
“เฮอะ!” เสี่ยวจิ้งคงหันหน้าหนี
“เฮอะ!” กู้เหยี่ยนก็หันหน้าหนีเช่นกัน
ทุกคนต่างมึนงงไปหมด เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงทะเลาะกันได้
มื้อค่ำผ่านพ้นไป กู้เจียวก็ลุยศึกษาดินระเบิดของนางต่อ ศึกษาได้ครึ่งทางฉินกงกงก็มาหา
ฉินกงกงอายุอานามมากแล้วนึกไม่ถึงว่ายังกระโดดลงจากหลังม้าจนแทบจะหงายหลังขาชี้ฟ้าได้
“ฉินกงกง ท่านช้าหน่อย!” กู้เสี่ยวซุ่นอยู่หน้าประตูพอดีจึงไปประคองเขา
ฉินกงกงปาดเหงื่อเย็นตรงหน้าผาก ก่อนยิ้มเอ่ย “ขอบคุณน้องเสี่ยวซุ่น! น้องเสี่ยวซุ่น พี่สาวเจ้าอยู่หรือไม่”
“อยู่ขอรับ! อยู่เรือนท้ายแหนะ!” กู้เสี่ยวซุ่นเอ่ยพลางตะโกนบอกด้านใน “ท่านพี่! มีคนมาหา! ฉินกงกงน่ะ”
กู้เจียวเก็บขวดเก็บโหลเรียบร้อยก็ลุกขึ้นมองไปยังฉินกงกงที่เร่งฝีเท้ามาหา “ฉินกงกงดึกดื่นเพียงนี้ ท่านย่าเรียกหาข้าหรือ”
ฉินกงกงรีบเอ่ย “ไอ้หยานั่นสิ…ไม่ใช่!”
กู้เจียวถาม “สรุปแล้วใช่หรือไม่ใช่”
“เฮ้อ!” ฉินกงกงหยิกตัวเองหนึ่งที “ดูปากข้าสิ พอร้อนใจก็พูดไม่เป็นเสียแล้ว คืออย่างนี้ แม่นางกู้ ไทเฮานางกินปลาแล้วก้างปลาติดคอ ติดลึกเสียด้วย พวกหมอหลวงถอนออกไม่ได้ ข้าจึงมาหาเจ้า!”
“ได้ ข้าจะเข้าวังกับเจ้าเดี๋ยวนี้ล่ะ” กู้เจียวกลับไปที่ห้องตะวันออก หยิบกล่องยาใบน้อยแล้วออกบ้านไปกับฉินกงกง
แต่นางยังไม่ทันขึ้นรถม้าก็มีรถม้าอีกคันมาจอดอยู่หน้าบ้านเสียก่อน
เว่ยกงกงลงมาจากรถม้า สีหน้าก็ร้อนใจเช่นกัน “แม่นางกู้! แม่นางกู้!”
กู้เจียวส่งเสียงอ้อ “เว่ยกงกงก็มาหาข้าเช่นกันรึ”
เว่ยกงกงหายใจหอบพลางเอ่ย “ฝ่าบาท…ฝ่าบาทเชิญแม่นางกู้ให้ไปตำหนักหวาชิง…มีคนบาดเจ็บ!”
ฉินกงกงดึงแขนเสื้อกู้เจียวไว้ “แม่นางกู้ ไปหาไทเฮาก่อน!”
“ไทเฮาเป็นอะไรไปรึ” เว่ยกงกงไม่มีเวลามารอฉินกงกงตอบ ดึงแขนเสื้ออีกข้างของกู้เจียวไว้ทันที “เกี่ยวพันถึงชีวิต แม่นางกู้ตามบ่าวไปตำหนักหวาชิงก่อนดีกว่า!”
ฉินกงกงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไทเฮาก็เกี่ยวพันถึงชีวิตเช่นกัน! นางกระอักเลือดแล้ว!”
ประเด็นคือแรกเริ่มไทเฮาไม่ได้สนใจเรื่องก้างติดคอนัก ใช้วิธีบ้านๆ อย่างกลืนข้าวสองสามคำ ผลสุดท้ายกลืนก้างไม่ลง ซ้ำยังทิ่มคอด้วย
กู้เจียวเอ่ยกับเว่ยกงกงว่า “เอาก้างออกรวดเร็วนัก ข้าเอาก้างออกแล้วจะไปหา”
เว่ยกงกงยกมือ “แต่ว่า…”
ไม่มีแต่
กู้เจียวเดินขึ้นรถม้าฉินกงกงไป
ฉินกงกงพรูลมหายใจโล่งออก คิดในใจว่าไม่เสียแรงที่ไทเฮาเอ็นดูแม่นางกู้!
ช้าก่อน มีคนบาดเจ็บอย่างนั้นรึ
ใครได้รับบาดเจ็บจนทำให้ฝ่าบาทวิตกเช่นนี้กัน