CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 347 แม่ลูกรวมใจ (1)

  1. Home
  2. สามีข้าคือขุนนางใหญ่
  3. บทที่ 347 แม่ลูกรวมใจ (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 347 แม่ลูกรวมใจ (1)

“ไม่เอา!”

“ไม่ฟัง!”

“ไม่ได้!”

“ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!”

ณ ตำหนักเหรินโซ่ว กู้เจียวที่เพิ่งจะเสนอความคิดอะไรบางอย่างให้ฟังกลับถูกจวงไทเฮาปฏิเสธรัว จนกู้เจียวแทบจะหาจังหวะแย้งไม่ได้เลย

อย่างมากกู้เจียวก็ทำได้แค่ร้องอุทานเสียงประหลาดออกมา

เพราะตั้งแต่รู้จักท่านย่ามา นี่เป็นครั้งแรกที่กู้เจียวถูกปฏิเสธอย่างไร้หนทางไปต่อ

ที่จริงก็ไม่ได้จะให้ท่านย่าต้องทำอะไรมาก กู้เจียวก็แค่พูดตามที่ท่านปู่บอกให้พูด ให้ท่านย่าวางอคติชั่วคราวและร่วมมือกับฝ่าบาทเพื่อล่อคนร้ายตัวจริงออกมา

แต่ดูเหมือนท่านย่าจะไม่อยากให้ความร่วมมือเท่าไหร่นัก

“เดี๋ยวข้าให้กินผลไม้อบแห้งวันละสามลูกดีไหม” กู้เจียวพยายามต่อรอง

“เหอะ!” จวงไทเฮาไม่สนใจ

“สี่ล่ะ”

“เอ่อ…ห้าล่ะ” กู้เจียวกางนิ้วทั้งห้าออกให้ดู

จวงไทเฮาไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ ก่อนจะเดินไปที่ห้องหนังสือและทิ้งกู้เจียวไว้ตรงนั้น

“เฮ้อ” กู้เจียวถอนหายใจ

จากนั้นเดินออกมานั่งปล่อยใจที่ชิงช้ายักษ์

ที่นี่ช่างดูเงียบเหงายิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เจ้าตัวเล็กไม่อยู่ด้วยกัน

แม้อากาศยามค่ำคืนเดือนเจ็ดยังคงร้อนอยู่ แต่เนื่องจากฝนตกต่อเนื่อง จึงไม่อบอ้าวเหมือนวันก่อนๆ

กู้เจียวแกว่งชิงช้าอย่างเบื่อหน่าย ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

และในตอนนั้นเองที่ฉินกงกงเดินเข้ามาหาพอดี “แม่นางกู้”

กู้เจียวใช้เท้าจิกลงพื้นเพื่อหยุดแกว่งชิงช้า

“ฉินกงกง” กู้เจียวทักทายเขากลับ

ฉินกงกงมาหยุดยืนนิ่งอยู่ข้างชิงช้า มองไปที่กู้เจียวแล้วแหงนหน้ามองแผ่นฟ้าที่มืดมิด

ฉินกงกงนึกย้อนไปถึงวันที่เขาได้เจอกับกู้เจียวเป็นครั้งแรก เขามองว่านางเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้จักกฎเกณฑ์ใดๆ แต่ต่อมาพอได้รู้จักกันนานวันเข้า เขาก็พบว่า เขาคิดผิด

นางคือผู้ที่เหยียบกฎเกณฑ์ไว้เสียจมดินต่างหากล่ะ

นางมีความสุขุมนุ่มลึกที่หาได้ยากในเด็กวัยเดียวกัน

นางเป็นเด็กที่ติดดิน ไม่เข้าหาทางโลก อีกทั้งเป็นคนจริงใจ ไม่ทวงบุญคุณ ไม่นึกสงสัยใคร

ไม่ว่าคนคนนั้นจะดีหรือร้ายอย่างไร

นางเป็นคนมีความเชื่อของตัวเอง เป็นคนหนักแน่นมาก ไม่มีใครมาทำให้นางหวั่นไหวได้ง่ายๆ

ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวร่างผอมบางผู้นี้ดูเหมือนจะมีพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นพลังที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ และยังเป็นพลังที่ทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้

บางครั้งฉินกงกงก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าฝ่าบาทแน่วแน่และเชื่อมั่นในตนเองเหมือนกับที่แม่นางกู้เป็น เรื่องของฝ่าบาทกับไทเฮาไม่บานปลายมาจนเป็นอย่างทุกวันนี้กระมัง

“ฝ่าบาทติดไทเฮามากเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ยิ่งกว่าองค์หญิงหนิงอันเสียอีกขอรับ”

ฉินกงกงนึกย้อนไปยังความทรงจำในอดีตที่ทำให้เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ข้าจำได้ว่า ครั้งหนึ่ง… จวงไทเฮาเคยพาองค์ชายของตระกูลจวงมา แต่องค์ชายผู้นั้นไม่รู้ทางในวัง แถมยังถูกสุนัขของกุ้ยเฟยขู่จนตกใจกลัว ไทเฮาจึงต้องคอยจับมือองค์ชายคนนั้นไว้ตลอด กลับกลายเป็นว่าเรื่องนี้ทำเอาฝ่าบาทรู้สึกน้อยใจมาก พอตกกลางคืน ก็ทรงไม่ยอมเสวยอาหาร ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่พลิกตัวไปมาบนเตียง สุดท้ายก็ไม่ยอมพูดออกมาว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร”

“จิ้งไท่เฟยถามฝ่าบาทว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า แต่ทรงไม่พูดอะไรเลย องค์หญิงหนิงอันเองก็เอ่ยถามเช่นกัน แต่ฝ่าบาทก็ทำหน้าบูดบึ้งและไม่พูดอะไร”

กู้เจียวฟังไปก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก พลางนึก ขนาดจิ้งคงไม่เห็นจะเอาแต่ใจแบบนี้เลย

“แล้วภายหลังเป็นอย่างไรต่อหรือท่าน” กู้เจียว

ฉินกงกงยังคงหัวเราะต่อ “จิ้งไท่เฟยก็เลยส่งฝ่าบาทไปที่ตำหนักไทเฮา ซึ่งก็คือตำหนักคุนหนิงในตอนนี้ ฝ่าบาททรงปีนขึ้นไปบนเตียงของไทเฮาและทรงบรรทมที่นั่น พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ทรงกลับมาสดใสเหมือนเดิม”

กู้เจียวเบะปาก เอาแต่ใจชะมัดฮ่องเต้คนนี้

“ตอนนั้นฝ่าบาทอายุเท่าไหร่รึ” กู้เจียวเอ่ยถาม

ฉินกงกงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนอายุเจ็ดหรือแปดพรรษาขอรับ ตอนนั้นฝ่าบาทน่าจะอายุน้อยกว่าองค์ชายเจ็ดเล็กน้อย แต่รูปร่างไม่อ้วนเท่าองค์ชายเจ็ด ที่เห็นฝ่าบาทรูปร่างสูงใหญ่ตอนนี้ แต่ในอดีตพระองค์เคยผอมเหมือนลิงไส้กิ่ว ขนาดไทเฮายังเคยคิดว่าฝ่าบาทน่าจะไม่โตไปมากกว่านี้แล้วขอรับ”

คงคล้ายกับจิ้งคงสินะ ดูเหมือนว่ากู้เจียวจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความสูงของจ้าตัวเล็กมากเกินไปแล้วสินะ เด็กบางคนต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่

“แล้วหลังจากนั้นล่ะท่าน” กู้เจียวสนใจอยากฟังต่อ

ฉินกงกงถอนหายใจ “ต่อมา ฝ่าบาทและไทเฮาค่อยๆ เหินห่างจากกัน ข้าเองก็บอกไม่ได้แน่ชัดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ กล่าวโดยสรุปคือ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น ส่วนองค์หญิงหนิงอันผู้เป็นตัวกลางก็เริ่มลำบากใจ หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ โดยมีจวงไทเฮาปกครองหลังม่าน จวงไทเฮาก็สั่งเนรเทศจิ้งไท่เฟยให้ไปอยู่ที่สำนักชี จากนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองก็เป็นอันขาดสะบั้น”

ฟังดูน่าเจ็บใจไม่น้อย

กู้เจียวไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของพวกเขาทั้งหมดได้ แต่ก็ลองนึกภาพตามหากเป็นตัวเองกับจิ้งคง ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งจิ้งคงทิ้งตัวเองไปหาคนอื่น คงต้องรู้สึกเสียใจมากแน่ๆ

ความรู้สึกเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดบนโลกใบนี้ ต่อให้ไม่ใช่ความผูกพันทางสายเลือด แต่ถ้าได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปง่ายๆ

“ท่านย่ากับจิ้งไท่เฟยก็เป็นเช่นนั้นหรือ” กู้เจียวเอ่ยถาม

ฉินกงกงพยักหน้า ใช่แล้ว ไทเฮากับจิ้งไท่เฟยครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่มีหรือที่คนเราจะไม่เคยถูกหลอกเลย

ว่ากันว่า ศัตรูยังไม่น่ากลัวเท่าคนใกล้ตัวที่แปรพักตร์

กู้เจียวนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ท่านย่าออกจะฉลาดขนาดนั้น แต่ไม่รู้วิธีที่จะชิงฝ่าบาทมาจากคนๆ นั้นได้เลยหรือ”

ฉินกงกงได้แต่ส่ายหัว “ใช่ว่าไม่มีวิธี แต่แค่ไม่อยากคิดวิธีต่างหากขอรับ พอปลงแล้วก็ไม่อยากจะไปคิดไปยุ่งวุ่นวายอีก”

“ไม่มีอะไรน่าเศร้าไปกว่าหัวใจที่ตายด้าน…สินะท่าน”

ฉินกงกงพยักหน้า “เป็นเช่นนั้นขอรับ”

กู้เจียวเคยมีประสบการณ์กับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน และนางก็จำความรู้สึกนั้นไม่ได้อีกต่อไป ความทรงจำเกี่ยวกับการถูกพ่อแม่ทอดทิ้งในวัยเด็กเหลือเพียงเสียงและภาพไม่กี่ภาพ นางสามารถมองดูพวกเขาอย่างสงบโดยไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปได้แล้ว

มันคือความชินชานั่นเอง

กู้เจียวคุ้นชินกับความรู้สึกชินชาตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นในอดีตภพ กู้เจียวจึงสามารถเป็นสายลับในองค์กรและเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นที่สุดได้

ส่วนจวงไทเฮาที่เพิ่งประสบกับสิ่งเหล่านี้ในช่วงวัยกลางคน แม้จะไม่สามารถทำใจให้ชินชาได้ทั้งหมด แต่ก็ทำได้เพียงพยายามต่อไป

อีกทั้งความเป็นไทเฮา ความเป็นเสด็จย่าของแผ่นดินที่ค้ำคออยู่ นางไม่มีทางลดตัวลงไปหาเรื่องกับจิ้งไท่เฟยเพื่อแย่งบุตรชายที่ตัวเองเลี้ยงดูและผูกพันมาได้หรอก

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบใจท่านฉินกงกงมาก”

กู้เจียวไม่มีทางบังคับให้ท่านย่าทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ

ในเมื่อแผนการของท่านปู่ไม่ได้ผล ก็ต้องลองหาวิธีอื่นดู

ฉินกงกงรู้สึกโล่งใจ มองว่ากู้เจียวเด็กที่มีเหตุผล ไม่แปลกที่ไทเฮาจะรักและเอ็นดูนางขนาดนี้ ขนาดตัวเขาเองยังอดเอ็นดูนางไม่ได้เลย

แต่เขาเป็นแค่ขันทีตัวเล็กๆ ไม่ได้มีสิทธิ์ไปเอ็นดูอะไรมากมายขนาดนั้น

กู้เจียวลงจากชิงช้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องทรงหนังสือของไทเฮา

จวงไทเฮากำลังโมโหกับกองฎีกาที่เพิ่งได้อ่าน แม้จะรู้ตัวว่าตัวเองก็ไม่ใช่นายที่ดีที่สุด แต่ด้วยความที่นางทำงานในวังหน้าและหลังมากนาน จึงรู้ว่าน้ำที่ใสเกินไปก็ไร้ปลา

พระองค์เห็นคุณค่าในความสามารถของคนคนหนึ่งเสมอ และเมื่อใช้จุดแข็งของใครบางคน นางจะยอมรับจุดอ่อนของคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของนางสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการได้

ทุกสิ่งมีขีดจำกัด นางไม่สามารถฆ่าล้างบางใครได้เลยหากไม่พอใจ เพราะนั่นเท่ากับว่านางกำลังกลั่นแกล้งคนไร้ทางสู้ด้วย แต่ถ้าเรื่องมันเลยเถิดจริงๆ แน่นอนว่าจวงไทเฮาย่อมไม่ปล่อยไปง่ายๆ เช่นกัน

“เงินล้านตำลึงค่าบรรเทาภัยพิบัติ ถูกโกงไปแสนห้าตำลึง ไม่ให้ฆ่าเจ้าแล้วจะฆ่าใคร!”

จวงไทเฮาตะคอกอย่างเย็นชาและโยนสมุดบันทึกลงในกองสมุดบันทึกที่ต้องส่งต่อไปถึงฮ่องเต้ คนอย่างเขาต้องหาวิธีจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน

“ท่านย่า”

กู้เจียวค่อยๆ ชะโงกหัวเข้าไปในห้อง

ไทเฮาแค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าใคร

“ทำอะไรน่ะ” จวงไทเฮาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้ากลับก่อนล่ะ ท่านเองก็รีบพักผ่อนด้วย”

พูดจบ กู้เจียวก็ดันประตูปิดลงเบาๆ

“ช้าก่อน” จวงไทเฮาเอ่ย

“หืม” กู้เจียวผลักประตูเปิดอีกครั้ง ก้าวข้ามธรณีประตู และมองไปที่ท่านย่าโดยไม่กระพริบตา

“ที่พูดเมื่อครู่นี้เรื่องจริงใช่ไหม”

“เรื่องใดรึ” กู้เจียวเอ่ยถาม

จวงไทเฮากระแอมหนึ่งที “ก็…ห้าลูกนั่นไง!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 347 แม่ลูกรวมใจ (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์