สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 456 โทสะของฮองเฮา
บทที่ 456 โทสะของฮองเฮา
เพื่อให้แผนการสำเร็จ นางจึงแยกกับหลงอี นางจำต้องดับไฟนั้นด้วยตัวเอง นางก็บาดเจ็บเช่นกัน จากนั้นก็แบกเซียวเหิงที่หมดสติออกไปจากกั๋วจื่อเจียน
เดิมนางคิดว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้ก็จะจบลงแล้ว ไม่คิดว่าวันรุ่งขึ้นกั๋วจื่อเจียนจะมีข่าวลือออกมาว่าเซียวเหิงถูกเผาตาย
ทั้งๆ ที่เซียวเหิงนอนอยู่ตรงหน้านางแท้ๆ…
นางจำได้แม่นว่าตัวเองดับไฟไปแล้ว แล้วหลังจากนั้นใครเป็นคนจุดไฟกันเล่า
นางอดนึกถึงเซียวเหิงกินยาสลบล้มกับพื้นขึ้นมาไม่ได้ ดูจากท่าทางเปลวเพลิงที่เข้ามาจากนอกหน้าต่าง ตอนที่นางบอกตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมาเขาก็สิ้นหวังไปแล้ว ทว่าชั่วขณะนั้นแววตาเขาเต็มไปด้วยความดิ้นรนและวิงวอน
ราวกับกำลังขอร้องให้นางปล่อยเขาไป
หลังจากผ่านไปนานทีเดียวนางถึงได้รู้ตัวว่าตอนนั้นเขาอาจจะไม่ได้กำลังขอร้องให้นางปล่อยเขาไป แต่เขากำลังขอร้องให้นางปล่อยเด็กหนุ่มที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนนั้นไปต่างหาก
เขารู้ว่ากั๋วจื่อเจียนซุกซ่อนเด็กหนุ่มไว้คนหนึ่ง
เห็นได้ชัดมากว่าหลังจากนางจากไปก็มีคนมา
นางจำไม่ได้ว่าข้างกายเซียวเหิงมีเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกับเขาอยู่คนหนึ่ง ตอนนั้นนางเดาตัวตนที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ออก
หนิงอ๋องไปเพียงครั้งเดียว น้ำมันกับเทียนในครั้งแรกหนิงอ๋องก็เป็นคนทำ แต่เปลวเพลิงสุดท้ายที่เผาเด็กหนุ่มคนนั้นกลับเป็นฝีมือคนกลุ่มนั้น
คนกลุ่มนั้นไม่เชื่อหนิงอ๋องสนิทใจ จึงได้มาด้วยตัวเอง คิดว่าเด็กหนุ่มที่ติดอยู่ในกั๋วจื่อเจียนคนนั้นเป็นเซียวเหิง จึงเผาให้ไฟคลอกเขาตายอยู่ในนั้น
ร่องรอยของคนกลุ่มนั้นแปลกพิกลมาก ซ้ำยังรู้จักหลบหลีกหลงอีเป็นอย่างดี
นางมองเซียวเหิงบนเตียง จู่ๆ ก็เกิดแผนการหนึ่งขึ้น
“ท่าน…ท่านชาย”
จู่ๆ ก็มีเสียงร้องตกใจของสาวใช้ด้านนอกประตู
อวี้จิ่นหันไปมองทางหน้าประตู ก็เห็นเซียวลิ่วหลังเข้ามาในเรือนตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ซ้ำยังยืนอยู่ห่างจากหน้าต่างไม่ถึงสิบก้าวด้วย
อวี้จิ่นมองเซียวลิ่วหลังด้วยความตกใจ แล้วมององค์หญิงซิ่นหยางที่ฟุบโต๊ะเมามายไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
นางไม่รู้ว่าเซียวลิ่วหลังจะได้ยินที่องค์หญิงซิ่นหยางพูดเมื่อครู่หรือไม่ ในขณะที่นางกำลังตัดสินใจจะถามเซียวลิ่วหลังนั้นเอง จู่ๆ ขันทีน้อยก็มาหาตรงหน้าห้อง ก่อนรีบร้อนเอ่ย “แย่แล้ว แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว!”
หลงอีก่อเรื่องแล้ว
เขาฟาดครรภ์ไท่จื่อเฟยจนแท้งแล้ว เซียวฮองเฮาได้ยินข่าวน่าตกใจติดต่อกันสองข่าวในตำหนักคุนหนิง ข่าวแรกไท่จื่อเฟยตั้งครรภ์ เซียวฮองเฮาทั้งเหลือเชื่อทั้งยินดี
แม้ว่าไท่จื่อเฟยจะมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับหนิงอ๋อง แต่นางเคยติดตามยามเวินหลินหลังออกไปไหนมาไหนอย่างละเอียดแล้ว เด็กคนนั้นคือลูกของไท่จื่อ
ไท่จื่อยี่สิบสามแล้ว ในที่สุดเขาก็จะเป็นพ่อคนเสียที! และในที่สุดนางก็จะได้อุ้มหลานแล้ว!
แต่นางดีใจยังไม่ทันหนำใจ ก็มีข่าวร้ายว่าไท่จื่อเฟยแท้งเข้ามาอีก
เซียวฮองเฮาแทบจะล้มทั้งยืน!
หลงอีเป็นคนทำเรื่องนี้
พูดตรงๆ ว่ากู้เจียวไม่คิดเลยว่าหลงอีจะทำ พูดให้จริงจังหน่อยก็คือไม่ใช่ความผิดของหลงอีไปเสียทั้งหมด ไท่จื่อเฟยเอาแต่เน้นย้ำว่าครรภ์นี้เป็นป้ายทองคำละเว้นโทษประหารไม่หยุด หลงอีก็คิดไปจริงๆ ว่าในท้องนั่นเป็นป้ายแผ่นหนึ่งจริงๆ
หลงอีก็แค่ทำลายป้ายแผ่นนี้เท่านั้นเอง
หลงอีไม่เข้าใจว่าเหตุใดทุกคนจึงต้องจับตัวเขาด้วย
หลงอีล้วงป้ายทองคำแผ่นเล็กๆ ให้ไท่จื่อเฟย
ราวกับกำลังบอกว่า
นี่ไง ชดใช้ให้
ไท่จื่อเฟยโมโหจนเกือบเป็นลม!
กู้เจียวอยู่กับหลงอีด้วย เลี่ยงไม่ได้ที่คนจะคิดว่าหลงอีถูกนางสั่งมา
แม้แต่ไท่จื่อเฟยยังเชื่อสนิทใจกับเรื่องนี้
นางไม่มีทางเชื่อว่ากู้เจียวไม่ได้มุ่งเป้ามาที่นาง ซ้ำทุกครั้งที่หลงอีเสียมารยาทกับนางกู้เจียวก็อยู่ด้วยหมด จึงอดทำให้นางสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายสั่งการหลงอีมาตลอด
ปากพูดฟังดูสูงส่ง แต่ในที่ลับกลับให้หลงอีลงมือแทนนาง ช่างชั่วช้าสามานย์เสียจริงๆ!
เมื่อเซียวฮองเฮามาถึงสวนหลวง หมอหลวงก็มาถึงพอดี
หมอหลวงจับชีพจรให้ไท่จื่อเฟยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เซียวฮองเฮารีบถาม “หมอหลวง เป็นอย่างไรบ้าง”
หมอหลวงประสานมือเอ่ยอย่างเสียดาย “ทูลฮองเฮา ครรภ์แท้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้! หมอหลวงหลัว! เมื่อครู่นี้เจ้ายังบอกอยู่เลยไม่ใช่รึว่าสัญญาณชีพจรข้าดีมาก! ครรภ์นี้ปกติสมบูรณ์มาก!” ไม่เช่นนั้นนางจะเอาความกล้าที่ไหนลงจากเตียงไปหาเซียวฮองเฮากัน
หมอหลวงคิดในใจว่า มันก็ยังต้านทานความตายที่ตัวเองทำไม่ได้อยู่ดี เหตุใดเจ้าจะต้องออกมาให้ได้ด้วย ถูกองครักษ์ลับฟาดไปทีหนึ่ง ต่อให้ตั้งครรภ์นาจาก็แท้งได้เหมือนกัน!
ประโยคดังกล่าวหมอหลวงหลัวไม่กล้าพูดออกไป
เซียวฮองเฮาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มองเวินหลินหลังอย่างเย็นชา “แม้แต่ลูกก็ยังรักษาไว้ไม่ได้!”
ซ้ำนี่ก็ไม่ใช่สถานการณ์อย่างหนิงหวังเฟยที่มีร่างกายอ่อนแอ นางตั้งครรภ์อย่างแข็งแรงแท้ๆ! เด็กคนนี้แท้งได้น่าโมโหนัก!
เซียวฮองเฮาเกิดแม้กระทั่งความคิดจะฆ่าเวินหลินหลังขึ้นมาแล้ว!
แน่นอนว่าหากเป็นเมื่อก่อน เซียวฮองเฮาไม่มีทางไร้ปรานีเพียงนี้ ทว่ายามนี้เรื่องระหว่างเวินหลินหลังกับหนิงอ๋องแดงออกมาแล้ว เซียวฮองเฮาจึงแทบอยากจะฆ่านางให้ตาย!
เวินหลินหลังไม่ได้พูดผิด เด็กคนนี้เป็นป้ายทองคำละเว้นโทษตายของนางจริงๆ เซียวฮองเฮาเห็นแก่เด็กจึงจะปกป้องนางจากฮ่องเต้
ทว่าดูสิว่าเวินหลินหลังทำอะไรลงไป!
แน่นอนว่าเวินหลินหลังจะแบกรับโทษนี้ไว้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางได้ถูกเซียวฮองเฮาเกลียดตายแน่
นางชี้กู้เจียวพลางเอ่ย “เสด็จแม่! เป็นนางเพคะ! นางเป็นคนให้องครักษ์ลับคนนี้ทำร้ายครรภ์ข้า!”
เสี่ยวจิ้งคงกระทืบเท้า “เจ้าเหลวไหล! เจียวเจียวหาได้ทำไม่!”
เสียงดังโหวกเหวกนี้ทราบไปถึงตำหนักเหรินโซ่ว ฉินกงกงจึงพานางกำนัลเร่งรุดมา
กู้เจียวให้เฝ่ยชุ่ยพาเสี่ยวจิ้งคงกลับไปก่อน จากนั้นก็เอ่ยกับไท่จื่อเฟย “เจ้ากล้าพูดถ้อยคำเมื่อครู่ที่พูดกับข้าต่อหน้าพระพักตร์ฮองเฮาอีกรอบหรือไม่”
ไท่จื่อเฟยสะอึกไป
กู้เจียวเอ่ย “เจ้าไม่กล้ารึ ก็ได้ ข้าจะพูดแทนเจ้าเอง ‘หมอกู้ ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าอย่าได้คิดมาเป็นศัตรูกับข้า เจ้าเอาแต่มุ่งเป้ามาที่ข้าทุกเรื่อง ผลสุดท้ายข้าก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดีไม่ใช่รึ เจ้าบอกว่าข้ามีมลทินกับหนิงอ๋อง แล้วเจ้าสะอาดสะอ้านสักเท่าใดกันเชียว เรื่องครานี้ภายนอกเหมือนเชลยแคว้นเฉินเป็นคนทำ แต่ข้ารู้ว่าเจ้าก็มีส่วนร่วมด้วย! เจ้าออกเรือนไปแล้ว กลับยังไปมาหาสู่กับเชลยแคว้นเฉิน เจ้าสูงส่งกว่าข้าสักเท่าใดกันเชียว เจ้าอย่าได้เสียเวลาเล่นงานข้าอีกเลย! สิ่งที่อยู่ในครรภ์ข้าคือป้ายทองคำยกเว้นโทษประหาร ข้ามีมันแล้ว ต่อให้ข้าฆ่าเจ้าก็ไม่มีใครลงโทษข้าหรอก!’ เป็นอย่างไรบ้าง เจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่อีกหรือไม่”
สีหน้าไท่จื่อเฟยพลันเปลี่ยน
เซียวฮองเฮาแค่มองสีหน้าไท่จื่อเฟยก็รู้แล้วว่าที่กู้เจียวกล่าวมาเป็นความจริง นางคิดไม่ถึงว่าไท่จื่อเฟยจะอวดดีได้ถึงเพียงนี้ ได้ยินประโยคดังกล่าวที่นางพูด ดูเหมือนว่าความขัดแย้งระหว่างนางกับกู้เจียวจะไม่ใช่หนสองหนแล้ว เช่นนี้นางยังกล้าวิ่งแจ้นไปโอ้อวดวางอำนาจใส่กู้เจียวอีก นางกลัวว่าครรภ์นี้จะอายุยืนหรือไร
ว่ากันตามตรง คนที่ทำร้ายนางจนแท้งต่างหากที่เป็นตัวต้นเหตุ แต่นางที่เป็นคนมอบโอกาสให้คนเขาก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ไร้มลทิน!
เซียวฮองเฮาเอ่ยกับกู้เจียว “หมอกู้ เจ้าไปเถิด องครักษ์คนนี้รั้งอยู่ก่อน”
เห็นแก่จวงไทเฮาและฝ่าบาท นางจะเชื่อคำพูดของเด็กคนนี้ชั่วคราว เชื่อว่าไม่ใช่กู้เจียวเป็นคนสั่งการ แต่องครักษ์คนนี้ตัดสินใจทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของไท่จื่อเอง นางไม่มีทางปล่อยเขาไป
“ฮองเฮา…” ฉินกงกงอยากร้องขอ
อันที่จริงเขาไม่ได้รู้จักหลงอีแต่อย่างใด แต่กู้เจียวแก้ต่างแทนหลงอี นั่นก็หมายความว่าเขาเป็นคนฝั่งตน
เซียวฮองเฮาเอ่ยเสียงเย็น “ฉินกงกง ต่อให้เรื่องนี้ใหญ่โตไปถึงไทเฮา ข้าก็ยังจะเอาชีวิตเขาอยู่ดี!”
ฉินกงกงย่อมเข้าใจว่าความต้องการของเซียวฮองเฮาไม่ได้เกินไปเลยสักนิด หากเป็นอย่างที่ฮองเฮากล่าวจริงๆ ว่าถ้าเรื่องใหญ่โตไปถึงตำหนักเหรินโซ่วแล้ว เซียวฮองเฮาก็ยังเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ดี
กู้เจียวไม่มีทางทิ้งหลงอี นางรู้สึกว่าจากฝีมือของนางกับหลงอีนั้น การรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางนั้นไม่ใช่ปัญหา
ใครจะรู้ว่าเซียวฮองเฮาจะออกคำสั่งเรียกกองทัพองครักษ์ลับหนึ่งพันนายของราชสำนักออกมา
นี่มันช่าง…
กู้เจียว ‘เอ่อ…ต้องใช้ไม้แข็งถึงขนาดนี้เลยหรือ’
“หมอกู้ หากเจ้าจะไปข้าก็จะปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้าจะร่วมส่งเขาตายด้วย ข้าก็จะไม่ขวางเจ้าไว้” เซียวฮองเฮาเอ่ยกับกู้เจียวจบ สายตาก็เบนไปตกบนหน้ากากหลงอี “ชีวิตของคนผู้นี้ เป็นของข้าแล้ว!” เซียวฮองเฮาเดือดดาลขึ้นมาจริงๆ
แน่นอนว่าหลงอีสามารถหลบหนีได้ แต่หลังจากหนีไปแล้วเล่า ไท่จื่อเฟยรู้ว่าเขาเป็นองครักษ์ลับขององค์หญิงซิ่นหยาง เซียวฮองเฮาให้ทหารองครักษ์ไปล้อมจับหลงอีที่ถนนหม่าเชวี่ยโดยตรงก็ได้แล้ว
เซียวฮองเฮาจะไว้หน้าองค์หญิงซิ่นหยางหรือไม่
กู้เจียวเดาว่าอาจจะไม่
องค์หญิงซิ่นหยางเย็นชาหมางเมินกับเซวียนผิงโหว และก็คงจะไม่ต่างกับเซียวฮองเฮาเท่าใดนัก
ครานี้เกรงว่าคงไม่มีใครดับโทสะของเซียวฮองเฮาลงได้เลย
หรือต้องให้หลงอีหนีออกจากเมืองหลวงไปจริงๆ และไม่ให้ปรากฏตัวขึ้นอีกเลยหรือ
กู้เจียวขยับไปข้างกายหลงอีตามสัญชาตญาณ ก่อนมองไปยังเซียวฮองเฮา “ฮองเฮา…”
นางเพิ่งจะเอ่ยขึ้น เงาร่างอันคุ้นเคยก็เดินใกล้เข้ามา
เป็นเซียวลิ่วหลัง!
เขาถือไม้เท้าที่นางทำให้เขาใหม่ คนขาเป๋เดินกะเผลกๆ มาด้วยฝีเท้าที่ค่อยข้างมั่นคง
จู่ๆ คนที่หายสาบสูญไปนานปรากฏตัวขึ้นในสายตาทุกคน นอกจากกู้เจียว หลงอีและฉินกงกงที่รู้เรื่องนี้ดี คนอื่นๆ ต่างเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาทั้งสิ้น
เซียวฮองเฮามองเด็กหนุ่มที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับหลานชายตัวเองคนนี้ ก่อนขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร
นางถึงขนาดไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ
“ฆ่าเขาซะ”
นางหมายถึงหลงอี
หลังจากออกคำสั่งนี้ นางก็หันหลังเดินจากไป
เซียวลิ่วหลังกลับเร่งฝีเท้ามาด้านหลังนาง
เขาถูกซูกงกงขวางไว้
เขามองแผ่นหลังเย็นเยียบของเซียวฮองเฮาที่จากไป ก่อนอ้าปากเอ่ยขึ้น “ท่านอา…”
เซียวฮองเฮาพลันตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที!