CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 490 โจมตีกลางดึก

  1. Home
  2. สามีข้าคือขุนนางใหญ่
  3. บทที่ 490 โจมตีกลางดึก
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 490 โจมตีกลางดึก

กู้เจียวเอ่ยจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ด้วยระดับสติปัญญาของถังเย่ว์ซานแล้ว เขาต้องเชื่อที่นางพูดแน่ๆ

ก็ไม่ได้พูดว่าเขาจะเป็นคนเขลาเสียทีเดียว…

แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ

แล้วคนทึ่มแบบนั้นสามารถนำทัพทหารได้ด้วยรึ คำตอบคือได้

โบราณว่าไว้ ความสามารถของบุคคลนั้นมักสะท้อนให้เห็นในด้านต่างๆ บางคนเก่งวรรณคดี บางคนเก่งศิลปะการต่อสู้ และบางคนเก่งการวางแผน ส่วนถังเย่ว์ซานคือคนที่ช่ำชองในสนามรบ หนึ่งคือเขาคุ้นเคยกับศิลปะแห่งสงคราม ประการที่สองคือเขากล้าหาญและเก่งในการต่อสู้ และสามคือนักธนูของตระกูลถังมีส่วนช่วยในการสู้รบได้เป็นอย่างมาก

ถังเย่ว์ซานเป็นคนที่อาศัยความกล้าหาญเป็นหลัก รองลงมาคือเรื่องของกลยุทธ์

กู้เจียวเดินไปที่ห้องหลักเพื่อดูว่าจะต้องปรุงอาหารอย่างไร ส่วนกู้เฉิงเฟิงก็กำลังนั่งทอดกายลงบนเก้าอี้ มองดูเตาไฟสลับกับมองไปที่กู้เจียว

ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ในห้อง กู้เฉิงเฟิงก็ได้ยินเช่นกัน จึงกระซิบถามกู้เจียวด้วยความสงสัย “นี่เจ้าวางยาเขาจริงหรือ”

“เปล่าเสียหน่อย” กู้เจียวเปิดฝาหม้อออกพลางส่ายหัว

ยาพิษแพงจะตาย กู้เจียวเจียดเงินซื้อไม่ลงหรอก

เส้นสีแดงนั่น นางเป็นคนวาดเอง

รอยเขียว นางหยิกเนื้อเขา

ส่วนตรงศีรษะ นางเป็นคนถอนผมเขาเอง!

กู้เฉิงเฟิง “…”

พอกู้เจียวเดินออกไป ถังเย่ว์ซานถึงกับซึมไป

แน่นอนเขาสงสัยว่านางอาจพยายามทำให้เขารู้สึกกลัว แต่ท่าทีของนางนั้นดูเป็นธรรมชาติเกินจนจับพิรุธอะไรไม่ได้เลย

คนปกติทั่วไปนั้นจะไม่นำยาพิษติดตัวไปด้วย แต่ด้วยความที่กู้เจียวเป็นหมอ ถังเย่ว์ซานเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในเมืองหลวง ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเห็นกู้เจียวเปลี่ยนยารักษาให้แก่ท่านเหล่าโหวด้วยตาของเขาเอง

และดูเหมือนร่องรอยบาดแผลตามเนื้อตัวของเขาเกรงว่าคงได้นางช่วยรักษาไว้ด้วยเช่นกัน

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากหมอคนหนึ่งจะพกยาพิษติดตัวไว้

พอคิดได้เช่นนี้ ถังเย่ว์ซานเริ่มจะไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นแล้ว

อาหารทั้งหลายวางอยู่ในห้อง

ถังเย่ว์ซานได้เจอกับกู้เฉิงเฟิง

กู้เฉิงเฟิงไม่ได้ใส่หน้ากาก ไม่ใช่เพราะเขาอยากเปิดเผย แต่เพราะทั้งหน้ามีแต่ผ้าพันแผล

ถังเย่ว์ซานแค่เห็นรูปร่างของกู้เฉิงเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือคนร้ายอีกคนในคืนนั้น

ว่ากันตามจริงแล้ว กู้เฉิงเฟิงไม่ใช่คนร้ายด้วยซ้ำ วันนั้นเขาแค่ไปหากู้เจียวเท่านั้น แต่พอไปถึงก็เห็นว่ากู้เจียวกำลังต่อสู้อยู่กับคนของราชเลขาหยวน

ตอนนั้นเขาแค่อยากช่วยพานางออกมา แต่ถังเย่ว์ซานกลับติดภาพจำของกู้เฉิงเฟิงไปอย่างไม่รู้ตัว

ถังเย่ว์ซานมองดูกู้เจียวที่กำลังแทะน่องไก่ พลางหันไปทางกู้เฉิงเฟิงที่ได้แต่ซดน้ำแดง “นางเป็นบุตรสาวตระกูลกู้ ส่วนเจ้าคือสมาชิกคนไหนของตระกูลกู้ล่ะ”

ก่อนหน้านี้ พวกเขามีส่วนร่วมในการทำร้ายถังหมิง ส่วนตอนนี้ พวกเขาช่วยกันพาเหล่าโหวเหย่หนีออกมา หากตอบว่าไม่เกี่ยวข้องกันคงจะโกหก

กู้เฉิงเฟิงสวนกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าเป็นใครมาจากไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

ถังเย่ว์ซานจ้องเขม็งไปที่กู้เฉิงเฟิง “กู้เฉามีหลานชายสี่คน เจ้าไม่ใช่กู้ฉังชิง ก็เหลือสามคน และเจ้าก็ไม่ใช่คนเล็กสุดนั่นด้วย ดังนั้น ก็เหลือสอง”

เดี๋ยวก่อนนะ นี่เจ้าโง่แบบเลือกปฏิบัติก็ได้ด้วยรึ

ตอนอยู่กับเด็กนั่นโดนตุ๋นซะเปื่อยเชียว ทีอยู่ต่อหน้าข้าไหงกลับฉลาดเป็นกรดขึ้นมาทันทีล่ะ

ถังเย่ว์ซานพูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่าหลานชายคนที่สามของกู้เฉาบวชเป็นพระแล้ว ดังนั้นเจ้าน่าจะเป็นคนรอง”

กู้เฉิงเฟิงกระตุกมุมปาก

บวชเป็นพระอะไรกัน แค่ผมของกู้เฉิงหลินขึ้นช้าเท่านั้นเอง

กู้เฉิงเฟิงกัดฟันแน่นพลางพึมพำ “ใครมันเป็นคนต้นเรื่องปล่อยข่าวลือกันนะ กลับไปจะจัดการให้หมดเลย!”

ถังเย่ว์ซานเริ่มพูดจาเสียดสี “แต่ก่อนเคยได้ยินว่าหลานของกู้เฉาแต่ละคนได้ดิบได้ดีกันทั้งนั้น แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะซ่อนของดีกันไว้ขนาดนี้”

ที่จริงคำว่าซ่อนของดีควรเป็นคำชมเสียด้วยซ้ำ แต่พอออกจากปากของถังเย่ว์ซานกลับให้ความรู้สึกประชดและเหยียดหยาม

ถังเย่ว์ซานเอ่ยต่อ “ปู่ของพวกเจ้าเป็นคนขึ้นชื่อเรื่องความซื่อตรง แต่กลับมีหลานไม่ได้เรื่องซักคน จนข้าเริ่มสับสนว่าภาพลักษณ์อันดีงามที่เขาสร้างขึ้นเป็นเพียงการเสแสร้ง หรือแท้จริงแล้วเป็นเพราะพวกเจ้าที่หลงระเริงกันไปเอง”

ใบหน้าของกู่เฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา แม้จะถูกผ้าพันแผลปิดไว้ แต่แววตาของเขาบ่งบอกทุกอย่าง “ท่านอย่ามาพูดจาบ้าน้ำลายที่นี่นะ เรื่องของพวกเราไม่เกี่ยวอะไรกับท่านปู่เลย! แต่ในเมื่อท่านพูดถึงภาพลักษณ์อันดีงามแล้ว ข้าละอยากจะถามท่านจอมพลถังเหลือเกินว่า ในเมื่อท่านเองก็คบกับภรรยาของพี่น้องท่านและให้กำเนิดเดนคนอย่างถังหมิงออกมา ดังนั้น ท่านไม่มีสิทธิ์มาพูดกล่าวหาคนอื่น!”

ถังเย่ว์ซาน “เจ้า!”

“อีกอย่างนะ ที่ท่านบอกว่าพวกเราหลงระเริง ถ้าให้เทียบกับเศษเดนอย่างเจ้าถังหมิงพวกเราเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ท่านที่เป็นพ่อของเขายังมีหน้ามาสั่งสอนลูกหลานคนอื่นอีกอย่างนั้นหรือ! อย่างน้อยพวกเราก็ไม่เคยกระทำชำเราบุตรสาวบ้านอื่น ไม่เคยกลั่นแกล้งบุตรชายตระกูลอื่นแบบที่เจ้านั่นทำ! ไทเฮาทรงอุตส่าห์ไว้หน้าท่าน บอกว่าถังหมิงเป็นแบบนั้นเพราะโดนฤทธิ์ของยาผิด ท่านก็หลงเชื่อจริงๆ สินะ! ท่านคือหรือว่าลูกชายของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน! ท่านคิดหรือว่าคนอื่นจะไม่รู้เรื่องสกปรกที่ท่านก่อไว้! และคิดหรือว่าลูกของท่านเป็นคนดีที่สุดในแผ่นดิน! หลอกลวงทั้งเพ!”

“เจ้า…เจ้า…” ถังเย่ว์ซานไม่เคยถูกใครหักหน้าแบบนี้มาก่อน เขาโกรธจนหน้าและคอเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาเป็นคนประเภทใช้กำลังอย่างเดียว ไม่ถนัดเรื่องการต่อล้อต่อเถียงเท่าไหร่

เขาโกรธมากจนเกือบจะอาเจียนเป็นเลือดอีกครั้ง

ทันใดนั้น ถังเย่ว์ซานเด้งตัวลุกขึ้นและเตรียมจะง้างมือตบกู้ฉังชิง

กู้เฉิงเฟิงตบตะเกียบลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ยืดอกขึ้นและตะโกนใส่เขา “อยากฆ่าข้ารึ! มาสิ เอาลย! และอย่าหวังว่าจะได้ยาแก้พิษ!”

กู้เฉิงเฟิงเข้าบทบาทในชั่วพริบตาเดียว งานแสดงละครด้นสดสำหรับเขาง่ายเสียกว่าปอกกล้วย!

ความโกรธของถังเย่ว์ซานถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นชะงักไว้ทันที เขากำหมัดด้วยความโกรธและในที่สุดก็ยอมนั่งลงด้วยความรู้สึกอัปยศอดสู!

ในอีกไม่กี่วันต่อมามีหิมะตกหนักติดต่อกันหลายครั้งและพวกเขาก็ไม่มีทางออกจากที่นี่ได้ เช่นเดียวกัน เป็นเรื่องยากสำหรับพวกทหารเช่นกันที่จะตามหาพวกเขาต่อ

พวกเขาปักหลักพำนักที่กระท่อมแห่งนี้เป็นการชั่วคราว

ในวันที่สาม ท่านเหล่าโหวมีอาการติดเชื้อเล็กน้อยหลังการผ่าตัด เขามีแผลบวมแดงและมีไข้สูง กู้เจียวจึงทำความสะอาดบาดแผลและฉีดยาแก้อักเสบให้เขา

หลายครั้งที่เขาตื่นกลางคันด้วยสภาพสะลึมสะลือ พอลืมตาก็เจอกับถังเย่ว์ซาน ครั้งถัดมาเจอกู้เฉิงเฟิง อีกทั้งศิษย์น้องของเขา

พลางนึกในใจ ที่นี่มันชายแดนมิใช่รึ เหตุใดพวกเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่กันล่ะ

กู้โหวเหย่คิดว่าตัวเองคงกำลังฝันอยู่จึงเลยหลับต่อ

วันที่ห้า ในที่สุดท้องฟ้าก็แจ่มใส

อาการบาดเจ็บของถังเย่ว์ซานเริ่มดีขึ้น แม้จะมีร่องรอยของสารปรอทหลงเหลือในร่างกายอยู่บ้าง ขณะเดียวกัน ร่างกายของกู้เฉิงเฟิงก็ฟื้นตัวได้ดี และสามารถเอาผ้าพันแผลออกได้แล้ว

“เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้ ต้องรีบย้ายออก” ถังเย่ว์ซานเอ่ยขึ้นขณะพวกเขากำลังกินข้าว

ด้วยความที่เขาเคยนำทัพมาก่อน ย่อมรู้ว่าทหารแต่ละกองจะมีเส้นทางประจำ พวกนั้นต้องเอะใจ ที่ทหารสองกองแรกยังไม่กลับไปและวางแผนออกตามหาอย่างแน่นอน เพียงแต่สองสามวันที่ผ่านมาหิมะตกหนักจึงเป็นอุปสรรค

วันนี้หิมะหยุดตกแล้ว พวกเขาต้องตามมาถึงที่นี่แน่ๆ

“เข้าใจแล้ว พวกเราจะออกเดินทางกันเลย” กู้เจียวพยักหน้า

คราวนี้กู้เจียวได้ใช้เปลหามที่วันก่อนนางเพิ่งทำไว้เพื่อเอาไว้ใช้กับท่านเหล่าโหว โดยถังเย่ว์ซานและกู้เฉิงเฟิงรับผิดชอบแบกแปล ขณะที่กู้เจียวรับหน้าที่ขี่ม้านำ

ทั้งทวนพู่แดงและตะกร้าของนางสะพายไว้บนหลังพร้อม

กู้เฉิงเฟิงเอาผ้ามาพันที่ทวนของกู้เจียวไว้ เพราะสำหรับเขามันมีลวดลายที่น่าเกลียดเสียจนเขาทนเห็นมันไม่ได้

ถังเย่ว์ซานไม่รู้ว่าทวนนี้แท้จริงเดิมเป็นของจากแคว้นเยี่ยนที่เซวียนผิงโหวนำกลับมาเพื่อเป็นรางวัลในค่ายทหาร เขาคิดแต่เพียงว่ามันคือทวนยาวและน่าจะมีน้ำหนักไม่น้อยเลยทีเดียว

เหตุใดเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถึงได้ครอบครองอาวุธขนาดใหญ่เช่นนี้

หรือว่า จะเป็นของกู้เฉา

หรือไม่ก็เป็นของกู้เฉิงเฟิง เขาเชื่อไม่ลงว่าทวนนั้นเป็นของของกู้เจียว

ถังเย่ว์ซานคุ้นเคยกับทางในผืนป่าแห่งนี้ และรู้ว่าควรไปทางไหน

ทั้งสี่คนเดินฝ่าหิมะกองหน้าไปยังข้างหน้า กู้เฉิงเฟิงและถังเย่ว์ซานพยายามทำรอยเท้าหลอกเพื่อล่อให้พวกทหารเดินไปที่อื่น และใช้วิชาตัวเบากลับมายังแถวขบวน

ถึงเวลาพลบค่ำ พวกเขามาหยุดอยู่ที่ธารน้ำแห่งหนึ่ง

“ข้ามธารนี้ไป ก็เป็นทางออกจากเมืองหลิงกวนแล้ว” ถังเย่ว์ซานเอ่ยพลางมองไปยังอีกฝั่ง

“ให้ข้ามไปอย่างไรล่ะ เดินไปรึ” กู้เจียวเอ่ยพลางมองไปยังจุดที่ธารน้ำแข็งตัว

“เราไม่มีเรือ คงต้องใช้วิธีเดินเท่านั้น” ถังเย่ว์ซานเอ่ย

กู้เจียวลองทดสอบความแข็งแรงของพื้นโดยการลองโยนหินเข้าไป จนเกิดเป็นเสียงสะท้อน

“ตรงนี้เดินได้” กู้เจียวเอ่ย

ถังเย่ว์ซานถือเปลและเดินขึ้นไปบนน้ำแข็งก่อน จากนั้นหันศีรษะและพูดเตือนพวกเขา”น้ำแข็งลื่นมาก พวกเจ้าทุกคนควรระวัง”

“อืม” กู้เจียวพยักหน้า “เอาเปลมาให้ข้าช่วยถือเถอะ”

คนสามคนพร้อมกับม้าอีกสองตัวก้าวขึ้นไปบนน้ำแข็งอย่างระมัดระวัง ม้าของพวกเขาใส่เกือกม้า แม้สภาพจะไม่ค่อยดีนัก แต่ยังพอกันลื่นได้

ถังเย่ว์ซานและกู้เฉิงเฟิงเกิดลื่นหกล้มหลายครั้ง โชคยังดีที่ร่างของกู้โหวเหย่ถูกยึดไว้อย่างแน่นหนาบนเปลหาม ไม่อย่างนั้นร่างของโหวเหย่มีหวังได้ไถลออกจนกระแทกพื้นน้ำแข็งแน่นอน

คนที่เดินได้เสถียรที่สุดคือกู้เจียว

หลังจากผ่านการลื่นล้มนักต่อนัก ในที่สุดพวกเขาก็ใกล้ถึงฝั่ง

“แล้วพวกเราต้องไปทางไหนต่อ” กู้เฉิงเฟิงเอ่ยถาม

“ทิศตะวันออกคือเมืองเย่ว์กู่ ส่วนทิศตะวันตกคือเมืองเย่”

กู้เฉิงเฟิงพูดโดยไม่ลังเล “ไปทางตะวันออก ไปทางตะวันออก! เมืองเย่ว์ถูกกองทัพแคว้นเฉินและพวกราชวงศ์ก่อนหน้ายึดครองไปแล้ว อย่ารนหาที่ตายเลย!”

กู้เจียวหันไปมองถังเย่ว์ซาน เขาไม่พูดอะไรต่อ

พวกเขามุ่งหน้าไปข้างหน้า

ขณะที่พวกเขากำลังจะขึ้นฝั่ง จู่ๆ ลูกธนูก็พุ่งทะลุมาจากทางด้านหลัง และปักเข้าที่ด้านหลังของกู้เจียวเข้าอย่างจัง!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 490 โจมตีกลางดึก"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์