สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 528-2 ความแตกครั้งใหญ่ (2)
บทที่ 528 ความแตกครั้งใหญ่ (2)
ในเมื่อเรื่องแดงขึ้นมาแล้ว เซียวเหิงจึงไม่ปิดบังต่อ เดินเข้าห้องโถงอย่างผ่าเผย
เพียงแต่ความสนใจของทุกคนในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ขาเขา แค่มองผ่านๆ ก็แอบรู้สึกว่ามีอะไรสักที่ที่ไม่ปกติ แต่นึกไม่ออก
แม่นางเหยาก็เอาอย่างที่ไม่ดีมาด้วย นางไม่ได้เอ่ยทัก รอให้พวกเขาตกใจกันเอาเอง
“พี่เขย นั่งสิ” กู้เสี่ยวซุ่นให้เซียวเหิงนั่งลง
เซียวเหิงกับเสี่ยวจิ้งคงเป็นเจ้าของวันเกิด จึงนั่งข้างกันตรงม้านั่งยาว
อันที่จริงพวกเขาไม่ค่อยชินกับการฉลองวันเกิด แต่เสี่ยวจิ้งคงฉลองทุกปี เขาเลยพลอยโชคดีไปด้วย คนที่บ้านจึงเริ่มฉลองวันเกิดกัน
ที่พลาดอย่างเดียวก็คือวันเกิดของกู้เจียวกับกู้เหยี่ยน ระหว่างทางที่กู้เจียวไปด่านชายแดนก็ไม่ได้ฉลอง กู้เหยี่ยนเลยไม่ฉลองตาม
กู้เหยี่ยนบอกว่ารอปีหน้าเขาค่อยฉลองด้วยกันกับเจียวเจียว
“เณรน้อย เอาไปสิ” กู้เหยี่ยนมอบตุ๊กตาปั้นที่ทำเองให้เสี่ยวจิ้งคง ปีนี้ในที่สุดก็ไม่ใช่ห้องว่างๆ แล้ว แต่เป็นบ่อปลาเล็กๆ ในนั้นมีปลาน่าเกลียดสองตัวที่แกะสลักจากหัวผักกาดขาวด้วย
ส่วนที่เขามอบให้เซียวเหิงไม่ใช่บ่อปลา แต่เป็นเรือน สามารถประกอบกับของขวัญเมื่อปีที่แล้วได้เป็นคฤหาสน์เล็กๆ พอดี มีหัวคิดไม่น้อย
กู้เสี่ยวซุ่นมอบกล่องเสียบพู่กันให้ทั้งคู่คนละอัน ฝีมือประณีต ซ้ำยังสลักกลอนไว้ด้วย
เสี่ยวจิ้งคงชอบมาก เซียวเหิงก็พอใจมาก
กู้เสี่ยวซุ่นเรียนแกะสลักมานานเพียงนี้ ความก้าวหน้าไม่ใช่ด้านฝีมืออย่างเดียว เขายังมีความรู้เต็มเปี่ยมด้วย ยามนี้เขารู้หนังสือกว่าซิ่วไฉในเมืองหลวงอีก
ตราบใดที่บอกเขาว่าจะแกะสลักอักษรตัวไหนบ้าง เขาก็จะจำมันทั้งหมดในทันที
คนทั่วไปจำตัวอักษรตามลำดับขีด กู้เสี่ยวซุ่นจำตัวอักษรโดยการมองตัวอักษรเป็นภาพวาด แม้วิธีการจะแตกต่าง แต่ก็ได้ผลลัพธ์เดียวกัน
เมื่อเทียบกันแล้ว ความรู้ของกู้เหยี่ยนต่างหากที่ไม่อาจทนมองได้
แต่ไม่ใช่เพราะว่ากู้เหยี่ยนโง่ ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบ้านนอกจากเซียวเหิงเลย
ไม่ว่าเรื่องใดก็ปิดบังเขาไม่ได้
อย่างเช่นจุดแดงพรหมจรรย์บนหน้ากู้เจียว
แม่นางเหยาไม่เคยบอกเขา และเขาก็ไม่ได้แอบฟังอยู่ตรงมุมกำแพงในคืนนั้นด้วย เขาเดาถูกเอง
หรืออย่างเช่นแววตาเลศนัยที่กู้เจียวมองเซียวเหิง กู้เหยี่ยนก็ไม่มีทางเดาไม่ออกว่ากู้เจียวกำลังคิดอะไรอยู่
ช่วยไม่ได้ ฝาแฝดนั้นแข็งแกร่งเพียงนี้
ก่อนจวงไทเฮาจะกลับได้ทิ้งของขวัญไว้ให้ทั้งคู่ มอบลูกประคำแก้วให้เสี่ยวจิ้งคง นี่เป็นการเคลือบสีชุดแรกที่มีคุณภาพและความเงาดีเยี่ยม ซึ่งแคว้นจ้าวผลิตได้สำเร็จ หลังจากที่แคว้นเหลียงถ่ายทอดเคล็ดวิชาเคลือบแก้วให้แคว้นเจา
เสี่ยวจิ้งคงย่อมชอบมากอยู่แล้ว
จวงไทเฮามอบแท่นฝนหมึกแก้วให้เซียวเหิง
จี้จิ่วอาโวสุมอบตำราให้ทั้งคู่ แม่นางเหยาทำเสื้อผ้าให้ด้วยตัวเอง
ส่วนกู้เจียวเตรียมของขวัญไว้แล้วเช่นกัน นางมอบกลองป๋องแป๋งจากชายแดนให้เสี่ยวจิ้งคง
หลังจากคว้าชัยมาได้ เด็กน้อยสี่ขวบเมืองเย่ว์กู่คนนั้นก็มอบกลองป๋องแป๋งให้นาง “ท่านพูดถูก ทัพใหญ่ไม่ได้จากไป! นี่ของรางวัลของท่าน!!”
นี่เป็นน้ำใจที่จริงใจที่สุดจากเด็กน้อยในภัยพิบัติสงคราม
เสี่ยวจิ้งคงสังเกตเห็นบางอย่างแปลกๆ อย่างรวดเร็ว “เหตุใดพี่เขยไม่มีของขวัญเล่า”
“พี่สาวเจ้าให้แล้ว” เซียวเหิงมองกู้เจียวอย่างมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง
นางก็คือของขวัญที่ดีที่สุดของเขา
“ข้าอยากเห็น” เสี่ยวจิ้งคงบอก
เห็นแก่ที่เป็นวันเกิดเจ้าหนูน้อย เซียวเหิงจึงไม่ได้โจมตีเขา ก่อนล้วงเอาพู่กันด้ามหนึ่งออกมาจากกองของขวัญ “นี่”
“พู่กันด้ามเดียวหรือ” เสี่ยวจิ้งคงหมุนกลองป๋องแป๋งของตัวเอง “ของขวัญข้าดีกว่าอยู่ดี เจียวเจียวชอบข้าที่สุด”
พวกเขาไปจุดดอกไม้ไฟกันที่เรือนท้าย
“พี่เขย!” จู่ๆ กู้เหยี่ยนก็ขยับมาข้างกายเซียวเหิง ก่อนเอ่ยด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “มานี่ ข้ามีของดีจะให้ดู!”
เซียวเหิงเดินตามกู้เหยี่ยนไปห้องโถง
ยามนี้ทุกคนต่างอยู่เรือนท้ายดูเสี่ยวจิ้งคงกับกู้เสี่ยวซุ่นจุดดอกไม้ไฟ ห้องโถงจึงว่างเปล่า มีเพียงกู้เหยี่ยนกับเซียวเหิงสองคน
กู้เหยี่ยนล้วงเอาขวดลายครามเล็กๆ ออกมาจากอกด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “หนาวจะตายแล้ว! หนาวจะตายแล้ว!”
“นี่คืออะไรรึ” เซียวเหิงถามอย่างฉงน
“สุราน่ะสิ!” กู้เหยี่ยนเลิกคิ้วเอ่ย “ไม่ใช่สุราธรรมดานะ เป็นสุราสองชนิด สุราดอกหลีกับดอกกุ้ยฮวา กว่าข้าจะเอามาจากท่านปู่ได้”
“เจ้าเอามาทำอะไรรึ” เซียวเหิงถาม
กู้เหยี่ยนเอ่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ข้าอยากดื่ม พี่เขย เราดื่มด้วยกันเถิด!”
พอเจ้าเมามายแล้ว เจียวเจียวก็จะสมดั่งปรารถนา!
เพื่อเจียวเจียวแล้ว กู้เหยี่ยนทุ่มสุดตัว
“เจ้าดื่มสุราไม่ได้” เซียวเหิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น
กู้เหยี่ยนเป็นโรคหัวใจ ซ้ำอายุยังน้อยเกินไป ดื่มไม่ได้เด็ดขาด
กู้เหยี่ยนมองเขาอย่างอ้อนวอน “จอกเดียวไม่เป็นไรหรอก”
เซียวเหิงเอ่ย “ครึ่งจอกก็ไม่ได้”
กู้เหยี่ยนเบะปาก “แต่ข้าเอามาเพื่อจะดื่มกับเจ้านะ…ข้าโตถึงเพียงนี้…ยังไม่เคยดื่มสุราเลย…ได้ยินว่าสุราชนิดนี้ดื่มแล้วไม่เมา…พี่เขยขอข้าลองหน่อยว่ามันรสชาติเช่นไร”
เซียวเหิง “ไม่ได้”
กู้เหยี่ยนก้มหน้าลงอย่างน้อยใจ
ท่าทางนี้ของเขา พูดตรงๆ ว่ายากจะต้านทานได้ แต่เซียวเหิงมีสติดี เขาจึงไม่ให้ท้ายให้กู้เหยี่ยนดื่ม
ราวกับมองความตั้งใจแน่วแน่ของเซียวเหิงออก กู้เหยี่ยนถอยหลังก้าวหนึ่ง “เช่นนั้นพี่เขยลองดื่มแทนข้าสักสองอึกที แล้วบอกข้าว่ามันรสชาติเป็นเช่นไร”
“…ก็ได้” ปีใหม่ทั้งที เซียวเหิงจะทำเด็กๆ หมดสนุกไม่ได้
กู้เหยี่ยนเห็นเขารับปากแล้วแววตาก็เป็นประกาย ดีใจเป็นเด็กๆ หยิบจอกสุรามารินให้เซียวเหิงเองจนเต็มจอก
เขารู้ว่าพี่เขยคอแข็ง แต่สุราชนิดนี้ไม่ใช่สุราธรรมดา เขาขโมยมาจากปู่ จอกเดียวก็เมาแอ๋ได้แล้ว!
เมาเสียเถอะ!
พี่เขย!
เซียวเหิงรับจอกมา
ในขณะที่กำลังจะดื่มนั้น คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวจิ้งคงกับกู้เสี่ยวซุ่นจะวิ่งเล่นกัน วิ่งเข้ามาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เสี่ยวจิ้งคงชนเข้ากับเซียวเหิง มือเซียวเหิงพลันสั่น สุราในจอกกระเด็นหกหมด!
กู้เหยี่ยน “…”
กู้เหยี่ยนกำหมัด หลวง! จีน! น้อย!
“พี่เขย ขอโทษ!” เสี่ยวจิ้งคงกล่าวขอโทษ แล้วทำหน้าทะเล้นใส่กู้เสี่ยวซุ่นต่อ “แบร่ แบร่ แบร่! มาจับข้าสิ!”
เขาเอ่ยจบก็วิ่งแจ้นออกไป
กู้เสี่ยวซุ่นไล่ตามไป
กู้เหยี่ยนข่มโทสะไว้ เทจอกที่สองให้พี่เขย ยิ้มตาหยีเอ่ย “ไม่เป็นไร ยังเหลืออยู่”
เซียวเหิงรับจอกที่สองมา
สุดท้ายตัวแสบสองคนวิ่งกลับมาอีก ครานี้กู้เสี่ยวซุ่นเป็นคนชนจอกของเซียวเหิงโดยตรงเลย
จอกตกตุ้บกระแทกพื้น
กู้เสี่ยวซุ่น “เอ๋ ทุกปีสุขสงบ[1]รึ”
กู้เหยี่ยนกราดเกรี้ยวขึ้นมาทันที!
สงบบนหัวเจ้าน่ะสิ!
สุราจะหมดอยู่แล้ว!
กู้เหยี่ยนแทบจะโมโหสองคนนี้ตาย!
ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่ก่อเรื่องนี่ที่หนึ่งเลย!
“ข้าไม่เป็นไร” เซียวเหิงบอก “ข้าทำเอง พวกเจ้าออกไปกันก่อน เดี๋ยวแก้วตำเท้า”
เขาเอ่ยพลางหยิบไม้กวาดมากวาดเศษบนพื้น
ในขณะนั้นเอง กู้เสี่ยวซุ่นก็สังเกตเห็นว่าเซียวเหิงเดินเหินปกติแล้ว เขาไม่ได้ขาเป๋กะเผลกแล้ว ขะขะขะเขา…
“ไอ้หยาพี่เขย…” กู้เสี่ยวซุ่นมองขาขวาเซียวเหิง
“มัวมาพี่เขยอะไรอยู่อีก! รีบไปจุดพลุกัน!” กู้เหยี่ยนดันกู้เสี่ยวซุ่นออกจากห้องโถง
กู้เสี่ยวซุ่น “เมื่อครู่ข้าเห็น…”
“เอาละ เอาละ เจ้าเห็นแล้ว ข้ารู้แล้ว อย่ามายุ่งธุระข้า จิ้งคง! เสี่ยวซุ่นอยู่ที่!” กู้เหยี่ยนโบกมือให้เสี่ยวจิ้งคง
เสี่ยวจิ้งคงถือพลุวิ่งมาหากู้เสี่ยวซุ่น
ตัวแสบทั้งสองไปเล่นกันอีกครั้ง
กู้เหยี่ยนกลับมาที่โถง
ก็แค่ขาของพี่เขยไม่ใช่หรือไร
หายตั้งงานแล้ว เจ้าโง่ เพิ่งจะมารู้เอาป่านนี้!
“พี่เขย ข้าช่วยดีกว่า!” กู้เหยี่ยนแย่งไม้กวาดมาอย่างระวังมาก เขากวาดเศษบนพื้นจนเกลี้ยง แล้วใช้ที่ตักขยะตักออก
เมื่อเขากลับมาที่ห้องโถงอย่างอารมณ์ดี กลับไม่เห็นเงาพี่เขยตัวเองแล้ว มีแต่พี่สาวตนที่สีหน้าแดงก่ำนั่งอยู่ข้างโต๊ะ
เขาเดินไปหาอย่างตกใจ ถามกู้เจียว “พี่ พี่เขยเล่า”
กู้เจียวใช้สายตาเลื่อนลอยมองเขาแวบหนึ่ง แล้วยกมือชี้ไปที่ห้องหนังสือ
กู้เหยี่ยนเห็นปฏิกิริยากู้เจียวแปลกๆ เขามองกู้เจียว แล้วมองขวดลายครามบนโต๊ะ ใจพลันกระตุก!
เขาคว้าขวดมาแกว่งดู ว่างเปล่า เขายกขวดขึ้นมาเท สุราสักหยดก็ไม่มี!
ไม่ ไม่มีทางกระมัง…
กู้เหยี่ยน “บอกมาว่าเจ้าไม่ได้ดื่ม! รีบบอกมาเร็วเข้า!”
ตุ้บ!
ศีรษะน้อยๆ ของกู้เจียวกระแทกโต๊ะ
กู้เหยี่ยน “…”
เขาจะมอมพี่เขยให้เมาแล้วส่งเข้าห้องพี่สาว ทว่าพี่เขยไม่ได้เมา พี่สาวเขาดันหมดสติไปแล้ว
หมดกัน จบเห่หมดแล้ว!
กู้เหยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถอนใจยาวเหยียด เอาหัวกระแทกโต๊ะด้วยเช่นกัน!
เมื่อเซียวเหิงเดินออกมาก็เห็นศีรษะน้อยๆ ทั้งสองเบียดกันอยู่บนโต๊ะ…
แม่นมฝางเปลี่ยนผ้าปูให้ห้องตะวันออก เซียวเหิงจึงต้องพากู้เจียวมายังห้องตะวันตกแทน เดี๋ยวค่อยไปส่งกลับ
กู้เหยี่ยนเอ่ยอย่างหงุดหงิด “ข้าจะให้โต้วหยาต้มน้ำแกงแก้เมามาให้”
น้ำแกงแก้เมาส่งมาถึงอย่างรวดเร็ว แต่ป้อนไม่ได้แม้แต่คำเดียว ถูกกู้เจียวปัดร่วงทิ้งหมด กระเด็นใส่ตัวเซียวเหิงทั้งหมด
เห็นท่าทางพี่สาวเมามายเป็นโคลนแล้ว กู้เหยี่ยนก็รู้ทันทีว่าไม่มีทางแก้สถานการณ์อะไรได้แล้ว
เขาจึงส่ายหน้าอย่างเสียไม่ได้ ไปจุดพลุที่เรือนท้ายอย่างยอมจำนน
เซียวเหิงเปื้อนน้ำแกงแก้เมาไปทั้งตัว เสื้อผ้าหนาๆ น้ำแกงหกใส่เลยไม่ร้อน แต่เปียกซ่กจนไม่สบายตัว ซ้ำลมหนาวก็พัดมาทำเอาหนาวจนสั่น
เขาจึงต้องไปเปลี่ยนชุดก่อน
เขามองกู้เจียว ก่อนเอ่ยอย่างขบขัน “เมาถึงเพียงนี้แล้ว”
กู้เจียวเมามายสุดๆ ไม่รู้เลยว่ากำไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองเอาแต่ใฝ่หามาอยู่ตรงหน้าแล้ว
เซียวเหิงเอื้อมมือเรียวยาวขาวดุจหยกไปแกะเข็มขัดเบาๆ ถอดชุดชั้นนอกและชั้นกลางออกมา
ชุดชั้นในขาวพิสุทธิ์ก็เปียกด้วยเช่นกัน ชุ่มจนแนบติดกล้ามเนื้อแน่นๆ
เขาค่อยๆ ถอดมันออก เผยผิวขาวดุจหยก กระดูกไหปลาร้าสวย ไหล่กว้าง หน้าอกแน่นๆ บั้นเอวไร้ไขมันและเรียบ เนียนเต็มไปด้วยพลังของชายชาตรี
จู่ๆ กู้เจียวก็ตื่น
นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ
มองกล้ามเนื้อแน่นหนั่นของคนบางคน ร่างกายเย้ายวน ก่อนจะแอบผิวปากอย่างอดไม่ได้
ว้าว
[1] คำ ‘ปี’ พ้องเสียงกับคำ ‘แตก’