สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 625 หักหน้า (1)
บทที่ 625 หักหน้า (1)
หลังจากกู้เจียวเข้าไปแล้วก็เลิกม่านขึ้น เดินเข้าไปในห้องอย่างชินทาง ก่อนจะอ้อมฉากกันลมมายังหน้าเตียง
ท่าทางที่เหมือนไม่ต้องให้ใครนำทางเช่นนี้ ราวกับเคยมาแล้วอย่างไรอย่างนั้น
แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
วันนี้ม่านถูกเปิดอ้าไว้ กู้เจียวมองปราดเดียวก็เห็นว่าเป็นชายวัยกลางคนหลับใหลอยู่บนเตียง ที่ต่างไปจากเมื่อวานก็คือศีรษะกับบนแขนของเขามีเข็มเงินฝังคาอยู่
ฮูหยินรองนางนั้นได้บอกไว้เมื่อครู่ว่า ศิษย์ของหมอเทวดาลั่วเพิ่งจะฝังเข็มให้ท่านกั๋วกง ยามนี้ไปต้มยาให้ท่านกั๋วกงอยู่
เมื่อวานสถานการณ์คับขัน กู้เจียวได้พบหน้าท่านกั๋วกงอย่างรีบร้อน ไม่ได้จับชีพจรตรวจให้เขา และไม่ได้พินิจลักษณะท่าทางเขาอย่างละเอียดด้วย
ยามนี้ได้เห็นแล้ว
หากจะกล่าวว่าใบหน้าผอมตอบจนไร้เค้าเดิมก็ไม่ได้เกินไปสักนิด แต่โครงเขายอดเยี่ยมมาก มาดก็เลิศล้ำ จินตนาการได้ไม่ยากว่าก่อนที่เขาจะสลบไสลเคยเป็นบุรุษที่สง่างามและอ่อนโยนมาก่อน
จู่ๆ ใจกู้เจียวก็เกิดความรู้สึกยากที่จะบรรยายขึ้นมา นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
ก่อนจะจับชีพจรให้เขา กู้เจียวสอบถามอาการของผู้ป่วยก่อน “ท่านกั๋วกงกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วนานเท่าใดแล้ว”
บนรถม้า มู่ชิงเฉินไม่ได้บอกอาการของท่านกั๋วกงให้กู้เจียวฟัง เพราะมู่ชิงเฉินคิดว่าแค่มาทำพอเป็นพิธีเท่านั้น
มู่ชิงเฉินมองกู้เจียวอย่างตกตะลึง ราวกับรู้สึกว่ากู้เจียวแสดงได้เหมือนมาก
เพียงแต่คำถามนี้ค่อนข้างตอบยากไปหน่อย
มู่ชิงเฉินกับฮูหยินรองต่างเงียบกันไป
“ถูกพิษ”
“ล้ม”
มู่ชิงเฉินกับฮูหยินรองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
ทั้งคู่ชะงัก
“ล้ม”
“ถูกพิษ”
มู่ชิงเฉินกับฮูหยินรองเอ่ยขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“สรุปว่าล้มหรือว่าถูกพิษกันแน่ หรือว่าทั้งคู่” กู้เจียวถาม “ทางที่ดีอย่าได้ปิดบัง ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัยของข้า”
มู่ชิงเฉินใช้สายตา ‘เจ้าเข้าถึงบทบาทได้ล้ำลึกนัก’ มองกู้เจียวอย่างซับซ้อน
สุดท้าย ก็เป็นฮูหยินรองที่ทอดถอนใจพลางเอ่ย “ช่างเถิด ไม่ใช่ความลับอะไร อีกอย่างเจ้าก็เป็นคนที่ท่านชายชิงเฉินพามา ให้เจ้ารู้ก็ไม่เป็นไร ท่านกั๋วกงตกลงมาจากหลังม้าจึงได้สลบไป จากนั้นก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย แต่ตอนที่หมอหลวงรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านกั๋วกงพบว่าท่านกั๋วกงถูกพิษหายากมาอย่างยาวนาน เรียกอะไรนะ…เจ็ดดาราพราย คนที่ถูกพิษในระยะแรกจนถึงระยะกลางจะไม่แสดงอาการใดๆ เมื่อพิษกำเริบก็แทรกซึมเข้าสู่อวัยวะต่างๆ อย่างลึกล้ำแล้ว ไม่อาจฟื้นให้หายได้ วันคืนที่ท่านกั๋วกงถูกพิษก็แค่ระยะเวลาสั้นๆ พวกหมอหลวงจึงพยายามหาวิธีกำจัดพิษในร่างกายของท่านกั๋วกงออก”
ชายผู้นั้นเหน็บแนม “ท่านชายชิงเฉิน หมอที่เจ้าเชิญมาฝีมือการแพทย์ไม่ได้เรื่องหรอก แม้แต่สาเหตุของอาการยังต้องให้คนอื่นบอกเขาเลย เช่นนั้นเขาจะไปมีประโยชน์อะไรอีก”
มู่ชิงเฉินปรายตามองชายผู้นั้นอย่างเย็นชา
กู้เจียวไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ถามต่อ “หลังจากถอนพิษแล้ว ท่านกั๋วกงก็เอาแต่สลบไสลตลอดเลยหรือ”
ฮูหยินรองส่ายหน้า “ไม่ฟื้นเลย”
กู้เจียวเอ่ยอีก “มีอาการเช่นนี้มานานเท่าใดแล้ว”
ฮูหยินรองเอ่ย “สามปีกว่าแล้ว”
เกินหนึ่งปีไปแล้ว โดยพื้นฐานแล้วสามารถวินิจฉัยให้เป็นเจ้าชายนิทราได้
กู้เจียวถามอีก “สภาพร่างกายก่อนที่เขาจะตกจากหลังม้าเป็นอย่างไรหรือ ตั้งแต่เด็กจนโตเคยล้มป่วยหนักบ้างหรือไม่ ก่อนจะเกิดเรื่องได้เป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อนหรือไม่”
ฮูหยินรองส่ายหน้าอีกหน “ไม่เลย ท่านกั๋วกงร่างกายแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยได้ยินว่าตั้งแต่เด็กจนโตเขาล้มป่วยอะไรหนักๆ มาก่อน และไม่ได้เป็นโรคหลอดเลือดสมองด้วย อย่างไรเสียเขาก็ยังหนุ่มถึงเพียงนี้”
ในสายตาของฮูหยินรองนั้น โรคหลอดเลือดสมองมีแต่คนสูงวัยที่เป็นโรคนี้ ปีนี้ท่านกั๋วกงเพิ่งจะสี่สิบ จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างไร
เช่นนั้นก็สามารถตัดโรคความผิดปกติของสมอง โรคความจำเสื่อมและโรคเมตาบอลิซึมไปได้
กู้เจียวรู้สึกว่าเขามีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บเฉียบพลันเป็นอย่างมาก กู้เจียวถามอีกว่าท่านกั๋วกงเคยจมน้ำ ขาดอากาศมาก่อนหรือไม่ คำตอบที่ได้ล้วนเป็นไม่เคย
ดูท่าแล้วสาเหตุหลักๆ จะมาจากอุบัติเหตุตกม้าครานั้น
มู่ชิงเฉินขมวดคิ้ว ส่งสายตาให้กู้เจียวว่า ‘ควรท่องสูตรยาได้แล้ว ไม่ต้องเล่นละครเป็นจริงเป็นจังถึงเพียงนี้หรอก’
กู้เจียวเมินสายตาเขา
ในขณะที่นางกำลังสังเกตและสอบถามอาการผู้ป่วยนั้น อันที่จริงนางไม่ได้ตั้งใจจะแตะต้องเข็มเงินบนแขนผู้ป่วยเลย กะว่ารอให้หมอเทวดาลั่วคนนั้นมาดึงเข็มออกไปแล้ว ค่อยตรวจรักษาให้เขา แต่ในขณะนั้นเอง นางก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของกั๋วกงกระตุกเล็กน้อย
แรกๆ หนังตากระตุก จากนั้นดวงตาของเขาก็ขยับอย่างผิดปกติ แม้แต่มุมปากของเขาก็ดูเหมือนจะกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
โดยปกติแล้ว ทุกอาชีพล้วนมีกฎกติกาของตัวเอง ไม่ว่ากู้เจียวจะเก่งกาจเพียงใด นางก็ไม่อาจไปก้าวก่ายการรักษาของคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าได้ เว้นเสียแต่ว่ามีเหตุจำเป็น
กู้เจียวกวาดตาไป พบต้นตอของปัญหา
นางเอื้อมมือไป ดึงเข็มเงินเล่มที่ฝังอยู่บนข้อมือผู้ป่วยออกมา
ใบหน้าท่านกั๋วกงหยุดกระตุกเล็กน้อยแล้ว
เพียงแต่ด้านหน้าเตียงที่กู้เจียวยืน ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกั๋วกง เห็นเพียงกู้เจียวดึงเข็มเงินของกั๋วกงออก
คนในห้องพลันตกใจ
มู่ชิงเฉินขมวดคิ้ว
“เจ้าทำอะไรน่ะ!”
พร้อมกับเสียงตวาดเจือความขุ่นเคืองนี้ เด็กสาวในชุดกระโปรงผูกเอวสีเขียวอ่อนก็ยกยาเดินเข้ามา
นางวางยาลงบนโต๊ะ เร่งฝีเท้ามาหน้าเตียง มองกู้เจียวอย่างเดือดดาล
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ชอบตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก เดิมทีเด็กสาวเพียงแค่โมโหไม่เท่าใด แต่มาเห็นใบหน้ากู้เจียวแล้วก็ยิ่งเหยียดหยามกว่าเดิม
นางเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าเป็นผู้ใด! เหตุใดมาแตะต้องเข็มของข้า!”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
กู้เจียวถือเข็มเงินเล่มนั้นไว้พลางเอ่ยเสียงเรียบกับนาง “เจ้าฝังจุดเน่ยกวานเบี้ยว”
เด็กสาวคิ้วงามขมวดมุ่นพลางเอ่ย “เป็นไปไม่ได้! เจ้าเป็นคนรับใช้จากไหนกัน! นึกไม่ถึงว่าจะกล้าดูถูกฝีมือการแพทย์ของข้า! ฮูหยินรอง! คนจวนกั๋วกงของพวกท่านไม่เห็นหัวผู้ใดกันหมดเช่นนี้เลยรึ!”
ฮูหยินรองกระอักกระอ่วน
เด็กสาวเป็นชาวแคว้นเบื้องล่างจริง แต่นางไม่ใช่ชาวแคว้นเบื้องล่างธรรมดา นางเป็นศิษย์ของหมอเทวดาลั่วผู้โด่งดัง อาการป่วยของท่านกั๋วกงยังหวังให้นางมารักษาเลย
ชายผู้นั้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มเอ่ยขึ้น “ท่านนี้…คือหมอแคว้นเจาที่ท่านชายชิงเฉินเชิญมาให้ท่านกั๋วกงโดยเฉพาะ”
เขาเน้นคำว่าแคว้นเจาลอดไรฟัน
ใครไม่รู้บ้างว่าแคว้นเจากับแคว้นเฉินไม่ถูกกัน ปีที่แล้วเพิ่งจะทำศึกใหญ่กันไปหมาดๆ แคว้นเฉินพ่ายแพ้ ชดใช้เงินให้แคว้นเจาไปไม่รู้ตั้งเท่าใด
แววตาที่เด็กสาวมองกู้เจียวมาดร้ายเสียยิ่งกว่าเดิม นี่มันขุ่นเคืองในอาชีพเดียวกันที่ไหน นี่มันแค้นระดับชาติชัดๆ !
“ฮูหยินรอง ท่านก็คิดว่าข้าฝังเข็มผิดตำแหน่งหรือ” เด็กสาวถาม
แน่นอนว่าฮูหยินรองไม่คิดเช่นนั้น เด็กสาวเป็นศิษย์ของหมอเทวดาลั่ว จะเกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร
อันที่จริงตำแหน่งที่เด็กสาวฝังเข็มน่ะถูกแล้ว เพียงแต่มุมมันเอียงไปเล็กน้อย กู้เจียวไม่รู้ว่านางฝังเข็มในสถานการณ์อย่างไร รีบร้อนวิตกอยู่ หรือว่าเย่อหยิ่งลำพอง
เด็กสาวเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ฮูหยินรอง ในเมื่อพวกท่านไม่เชื่อในฝีมือการแพทย์ของข้า ไม่สู้เชิญยอดฝีมือคนอื่นมาแทนเถิด ท่านกั๋วกง ข้าไม่รักษาแล้ว!”
“ไม่ได้เด็ดขาด!” ฮูหยินรองรีบออกปากรั้งไว้ “แม่นางมู่ฝีมือการแพทย์สูงส่ง เป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาลั่ว นอกจากแม่นางมู่แล้ว ยังมีผู้ใดสามารถรักษาท่านกั๋วกงได้อีกเล่า”
ถ้อยคำดังกล่าวค่อนข้างจะเกินไปหน่อย ไม่ใช่ว่าแคว้นเยี่ยนไม่มีหมอที่มีประสบการณ์มากมาย แต่บ้างก็เชิญมาไม่ได้ บ้างก็วิธีของหมอไม่ได้ผล
พวกเขาจึงต้องฝากความหวังไว้ที่หมอแคว้นอื่นแทน
***************************************