สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 158
บทที่ 158 คุณจะได้รับจดหมายจากทนายของผม
สายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนกับเต็มไปด้วยไฟ สายตาที่กวาดไปรอบ ๆเซียวหันถิงเหมือนกับถูกไฟเผาเสียเช่นนั้น
“ผู้รู้สึกตกใจจริง ๆ ตลาดมาประธานเซียวกลับกลายเป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น”
เซียวหันถิงยิ้มแล้วพูดว่า “เพียงแต่เธอมีปัญหา ผมก็จะต้องช่วย ทำไม ? ประธานเซิ่งไม่กล้าจะตอบคำถามผมรึ ? “
สายตาที่น่ากลัวเย็นเฉียบมองไปยังเซียวหันถิง “กรุณาระวังคำพูดของคุณ เขาไม่ใช่คุณหญิงเสิ่น เขาเป็นคุณนายม่อ”
เซียวหันถิงหัวเราะ แล้วใช้ผ้าขาวเช็ดไปตรงที่เซิ่งเจ๋อเฉิงชกไปกับหน้าข้างขวา ใบหน้าที่เหมือนกับไม่มีทางออกแต่อย่างใด
“หากผมจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ ตอนที่อยู่ในงานแต่งของคุณ จะไม่มีทางยอมรับว่าเธอนั้นเป็นคุณนายม่อ ดังนั้นเลยให้คนอยู่ข้าง ๆไม่สามารถเรียกแบบนี้แล้วหรือ ? ทำไม ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วรึ ?”
“นี่เป็นเรื่องของคนสองคน ของสามีภรรยา ประธานเซียวเป็นคนโด่ดเดี่ยว ไม่เข้าใจก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องปกติ”
สายตาของเขายิ่งอยู่ยิ่งน่าเกลียด อุณหภูมิของสายตาก็ยิ่งลดลงเรื่อย ๆ
“ ไพ “
ผ้าข้าวก็ถูกเขาทิ้งไปบนโต๊ะ
เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้เพียงแต่มองเพื่อรอว่าเขาจะพูดอะไรอย่างเงียบ ๆ”
“งั้นกระผมก็รู้สึกประหลาดใจแล้วล่ะ เมื่อฟังคำพูดคุณเมื่อสักครู่นี้ ในใจก็เหมือนว่าจะมีความรู้สึกต่อคุณหญิงเสิ่น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในคืนนี้ที่เธอพบเรื่องแบบนี้ คุณจะนำเขากลับไปและก็ไม่ทำอะไร ? “
เซิ่งเจ๋อเฉิงฟังแล้วกระทุ้งเสียงออกมา ในปากก็จะพูดด้วยคำที่เต็มไปด้วยความเสียดสี “ดูไม่ออกเลย ใจของคุณก็ใหญ่เหมือนกันนะ เมื่อสักครู่ที่ผมตบหน้าคุณคงยังไม่โหดร้ายพอสินะ ไม่ได้เหลืออะไรไว้ในใจคุณเลย ผู้ชายคนหนึ่งถูกตบหน้า หากพูดถึงผมไม่มีอะไรจะต้องเสียหน้ามากกว่านี้แล้ว ”。
หน้าของหันเซียวถิงก็กระตุกขึ้นมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความน่าเกลียดน่ากลัว แต่ว่าก็ใช้เวลาแปปเดียวก็หายไป
ความจริงเซิ่งเจ๋องเฉิงพูดก็มิมีผิดแต่อย่างใด ตัวเองเป็นถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ แต่วันนี้ถูกตบหน้าเสียซะงั้น หากเรื่องแบบนี้ถูกพูดออกไป ก็จะต้องได้รับความอับอายไม่มากก็น้อย
กลับคืนสู่รากเดิมไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นเรื่องตลก
“ยังมีอีก……”
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เสริมต่อ ผู้ชายสองคนได้มองกันอย่างสุขุม
“มือเมื่อสักครู่นี้ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ทำอะไร ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คุณก็จะได้รับจดหมายจากทนายของผม เลยมาบอกไว้ก่อน ขอให้เตรียมตัวไว้ให้ดีดี”
แม้เสียงของเขาจะเต็มไปด้วยความเรียบง่าย แต่ในหนึ่งกลับเต็มไปด้วยความหมายที่มากมาย เซียวหันถิงใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
“ความหมายของคุณคือ ? จะฟ้องผม ? ความผิดอะไร ? “
เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่สามารถที่จะหุบยิ้มได้ “ประธานเซียวไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ แต่เป็นข้อหาที่ทำร้ายหรือประทุษร้ายผู้อื่นโดยเจตนา ธุรกิจของประธานเซียวใหญ่โตอำนาจมาก คิดว่าคงไม่กลัวเรื่องพวกนี้หรอก “
หน้าตาของเซียวหันถิงเงียบขรึม “เจตนาทำร้ายผู้อื่น ? จะพูดจากตอนไหน ? ”
เซิ่งเจ๋อเฉิงก้มหน้าแล้วมองไปยังเสิ่นอีเวย พูดว่า “เขาถูกมอมยามึนเมา หรือไม่ใช่ว่าเป็นความคิดของคุณ ?
เซียวหันถิงยิ้มแล้วตอกกลับไปว่า “เธอเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นคนทำ ตอนที่ผมรับเขามาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองเซียวหันถิง “อ้อ จริงหรือ ? ในเมื่อเป็นแบบนี้สามารถบอกได้ไหมว่าใครเป็นคนทำ ? ”
เซียวหันถิงมองตาเหมือนมีดคม ในใจเต็มไปด้วยความเครียดนิดหน่อย “ผมไม่รู้ชัดเจน”
แล้วยิ้มเยาะเย้ยว่า “แท้จริงแล้วแม้แต่ภรรยาตัวเองคุณยังดูได้ไม่ดีเลยสินะ ? “
เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้ตอบอะไรเขาไป แต่กลับไปคิดถึงเรื่องนั้นเป็นสำคัญ
สายตาที่แหลมผมมองไปยังเซียวหันถิง “พูดถึงผู้กระทำ แท้จริงแล้วท่านประธานไม่ชัดเจนหรือไม่กล้าพูดกันแน่ ? “
ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามมีความตระหนกอยู่นิดหนึ่ง เขาได้เงียบไปสักครู่แล้วพูดว่า “ไม่รู้แน่ชัด”
“ผมก็กลับรู้สึกกังวลเหลือเลย ประธานเซียวรู้ได้อย่างไรว่าเธอนั้นอยู่ในอันตรายแล้วสามารถมารับได้อย่างทันเวลา”
หลังจากที่เซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นบุกเข้ามาในห้อง ในใจของเขาก็เริ่มมีแต่ความโมโหโทสะ และตอนนี้ก็เห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงที่มีท่าทางพร้อมจะประกาศศึก ในใจเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ เลยพูดไปว่า “ประธานเซิ่งไม่จำเป็นจะต้องอ้อมไปอ้อมมา เพื่อที่จะมาให้ผมหลงกล อยากถามอะไรก็ถามมาเถอะ “