สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 186
บทที่ 186 ฉันสามารถขอโทษเจิ้งอวี๋นชวนได้
เพียงแต่เสิ่นอีเวยยิ่งพูดก็ยิ่งหลงใหล เดิมทีก็ไม่ได้ระวังสายตาที่เซิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อน อีกทั้งกว่าจะรอหล่อนรับรู้บรรยากาศในอากาศแล้วดูเหมือนว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงหันหลังศีรษะกลับมา ตอนนั้นเอง ก็เป็นเวลาเดียวกับที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเปิดดวงตาของเขาขึ้นมาพอดี
เสิ่นอีเวยไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ พูดต่อว่า: “ที่ฉันเพิ่งพูดจบจบ ก็อธิบายทุกอย่างได้หมดทุกกระบวนการแล้ว ดังนั้นฉันจึงเพิ่งจะสามารถพูดได้ว่าแต่ไหนแต่ไรมา ฉันกับเจิ้งอวี๋นชวนไม่มีความสัมพันธ์กัน และตอนที่รู้จักกับเขาครั้งแรกก็เป็นความบังเอิญที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก อักทั้งช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมานี้ แต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยนึกว่าจะได้มาพบกับเขาอีก ระหว่างเขากับฉันก็เหมือนคนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น
เซิ่งเจ๋อเฉิงฟังแล้วก็ทำเพียงแค่มองเสิ่นอีเวย ไม่ได้พูดอะไร
“ก็แค่”
เสียงของเสิ่นอีเวยที่เปล่งออกมาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเบาลง
“เพียงแต่สิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากเขารู้แล้วว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ จะมาทำเรื่องข่มขู่คุณอย่างนี้ได้ ตลอดมาฉันเกลียดเจิ้งอวี๋นชวนคนนี้มาก แต่อย่างไรทางบ้านเขาก็เป็นคนมีชื่อเสียง ฉันไม่นึกว่าแท้จริงจะน่ารังเกียจขนาดนี้ มาทำอย่างนี้กับคุณออกมาได้
เซิ่งเจ๋อเฉิงคว้าถ้วยชาจากโต๊ะกลมและดื่มไปอึกหนึ่ง สายตาทอดไกลออกไป เปิดปากพูดอย่างช้าช้าว่า “ไม่มีนักธุรกิจใดไม่ชั่วร้าย ขอเพียงบนศีรษะยังสวมหมวกพ่อค้า คนมากมายไม่เลือกวิธีการที่จะใช้เพียงเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย แต่ไหนแต่ไรพวกเขาล้วนไม่สามารถไปดูแล ใช้วิธีแบบคนจนหรือชั้นสูง ขอเพียงท้ายที่สุดให้บรรลุเป้าหมายของตน เช่นนั้นวิธีการอะไรล้วนใช้ได้หมด”
เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดประโยคนี้ด้วยลมเบาๆ เพียงแต่เสิ่นอีเวยได้ฟังแล้ว กลับรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก
คุณพูดแบบนี้ทั้งหมดแล้ว อย่างนั้นไม่ได้พูดว่า คุณก็เป็นหนึ่งในคนพวกนี้เหรอ? เสิ่นอีเวยตั้งคำถามเงียบๆในใจ
และเสิ่นอีเวยก็เพิ่งรู้ว่า เจิ้งอวี๋นชวนคนนี้ในกระดูกน่ารังเกียจมากกว่าภายนอกมากนัก บนโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญได้ขนาดนี้ หากหล่อนรู้เร็วกว่านี้ว่าวันนี้เซิ่งเจ๋อเฉิงจะถูกเจิ้งอวี๋นชวนใช้เรื่องนี้ไม่ให้ความร่วมมือกับเซิ่งซื่อเช่นนั้นเมื่อห้าปีก่อนหล่อนย่อมไม่ทำเรื่องแก้แค้นเจิ้งอวี๋นชวนแบบนั้นลงไปอย่างแน่นอน
เพราะในใจหล่อนรู้ว่า หล่อนในครั้งนั้น ถึงแม้ว่าต้องมอบเพื่อเซิ่งเจ๋อเฉิงทุกอย่าง เธอล้วนยินยอม
ที่จริงแล้วตอนนี้เสิ่นอีเวยคิดเองขึ้นมา รู้สึกว่าเมื่อห้าปีก่อนความกล้าหาญของตนเองช่างมากมายนัก อำนาจในบ้านของเจิ้งอวี๋นชวนยิ่งใหญ่มาก อีกทั้งครั้งนั้นตนเองอัพโหลดภาพที่เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เหมาะสมของเขาและก่อให้เกิดความสนใจในสื่อต่างประเทศเป็นเวลานาน ตอนนี้ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ สิ่งที่ผู้ประกอบการชื่อดังมากมายหวาดกลัวที่สุดก็คือการเกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่องค์กร
หลังเจิ้งอวี๋นชวนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาแล้ว ภาพลักษณ์ของบริษัทเจิ้งโป๋หงน่าอับอายและเสื่อมเสียอย่างรุนแรง เจิ้งโป๋หงโกรธมาก การลงโทษลูกชายตัวเองจึงไม่น้อยเลย ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว เจิ้งอวี๋นชวนต้องการหาตัวตนเองและนำกลับไป เสิ่นอีเวยก็รู้สึกว่าให้อภัยได้
ไม่ต้องพูดถึง หล่อนรู้ว่าการทำข้อตกลงของบริษัทเซิ่งซื่อและเจิ้งโป๋หงครั้งนี้จำเป็นมากขนาดไหนดังนั้น เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างแน่นอน
หลังเสิ่นอีเวยชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียในใจแล้ว ก็ทำการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในใจ หล่อนหันศีรษะไปมองเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างเงียบงัน กล่าวว่า :“เจิ้งอวี๋นชวนพูดอะไรกับคุณเป็นพิเศษไหม? เขาต้องการให้ฉันขอโทษเขาอย่างไร? ส่วนตัวมั้ย หรือว่าในที่สาธารณะ?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังก็หันศีรษะมามองหล่อน เพราะสายตาของเขามืดมน ดังนั้นเสิ่นอีเวยจึงไม่สามารถรับรู้อารมณ์ในตอนนี้ของเขาว่าเป็นอย่างไร
เป็นเวลาเนิ่นนาน เซิ่งเจ๋อเฉิงค่อยๆกล่าว: “ความต้องการของเจิ้งอวี๋นชวนคือให้คุณขอโทษเขาต่อหน้าสาธารณชน”
เมื่อได้ฟังประโยคนี้ของเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้ว เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองใจเย็นขึ้นมา ใช่แล้ว หล่อนไม่ควรตั้งความหวังให้กับเรื่องนี้เลย
บทสนทนาทั้งหมดเมื่อครู่
ในบรรดาทั้งหมด หล่อนสนใจสายตาและการแสดงออกของเซิ่งเจ๋อเฉิงโดยตลอด เสิ่นอีเวยนึกว่า หลังเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังถึงทัศนคติของตนน่าจะจะเยาะเย้ยหรือไม่ก็ค่อนขอด แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย
เซิ่งเจ๋อเฉิงสงบสติอารมณ์อยู่เสมอ ทำให้เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าบางทีผู้ชายคนนี้จะมีความคิดเห็นอื่นเกี่ยวกับเรื่องที่เจิ้งอวี๋นชวนมีจุดประสงค์ให้ไปขอโทษเขา แต่ตอนนี้ดูๆไปแล้ว ไม่มีเลย
หล่อนมักจะเข้าใจผิดไปว่าเขายังมีความเมตตาสงสารตนอยู่ แต่ว่าไม่มีเลย เซิ่งเจ๋อเฉิงคงจะให้สัญญาไปแล้วว่าตนเองจะไปขอโทษเจิ้งอวี๋นชวนสินะ
เสิ่นอีเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ มองตาเซิ่งเจ๋อเฉิง ใบหน้าของหล่อนไม่ได้แสดงอะไร
“ฉันสามารถไปขอโทษเจิ้งอวี๋นชวนได้ จะไม่ทำให้การตกลงของพวกคุณครั้งนี้ได้รับผลกระทบสักนิด”
เสิ่นอีเวยเอาความกล้าพูดประโยคนี้ออกมา
หล่อนไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของตนจึงผ่อนลง อุณหภูมิที่มุมปากของเซิ่งเจ๋อเฉิงค่อยๆเย็นลง คาดว่าแค่การขอโทษเจิ้งอวี๋นชวนคงยังไม่พอล่ะมั้ง? เช่นนั้นเขาอยากให้หล่อนทำอะไรอีกล่ะ?
เสิ่นอีเวยกำลังสับสน น้ำเสียงเย็นชาของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ดังขึ้นที่ข้างหู: “ผมอนุญาตตอนไหนว่าให้คุณไปขอโทษเขา”
เสิ่นอีเวยประหลาดใจ ไม่เข้าใจความหมายในประโยคนี้ของเซิ่งเจ๋อเฉิง หล่อนขยับริมฝีปากเล็กน้อย :“คุณ…คุณหมายความว่าอะไร?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงดึงสายตาที่เพิ่งมองหล่อนกลับมา กล่าวเสียงเบา: “หากผมจำคำพูดไม่ผิด คืนนี้ผมตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้รับปากตามสิ่งที่ เจิ้งอวี๋นชวนเรียกร้อง คุณไม่ต้องไปขอโทษเขา เรื่องนี้ผมแก้ไขได้”
เสิ่นอีเวยตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง หล่อนคิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า ที่แท้เซิ่งเจ๋อเฉิงก็มีท่าทีอย่างนี้ เขาคงเก็บซ่อนไว้กับตัวเองล่ะมั้ง?
“แต่ว่าต่างก็เป็นคนในวงการธุรกิจด้วยกัน เขาย่อมต้องรู้ไม่มากก็น้อยถึงลักษณะนิสัยของเจิ้งอวี๋นชวนคนนั้น เขาเย่อหยิ่งและเผด็จการเกินไป จุดประสงค์หลักของเขาคือให้ฉันขอโทษเรื่องเมื่อห้าปีก่อนกับเขา ถ้าหากคุณไม่ให้บรรลุจุดประสงค์ ข้อตกลงของพวกคุณครั้งนี้อาจจะได้รับผลกระทบได้”
น้ำเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิงเยียบเย็น เสิ่นอีเวยฟังออกถึงความอดทนในน้ำเสียง: “ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ผมสามารถแก้ไขได้ คุณไม่เชื่อในความสามารถของผม?”
“เปล่า ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันเพียงแค่อยากยืนยันสิทธิที่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และจุดยืนเท่านั้น” เสิ่นอีเวยมองดวงตาของเขา กล่าวอย่างใจเย็น
เซิ่งเจ๋อเฉิงมองหล่อนอย่างเฉยชา ไม่มีท่าทีตอบสนอง ตกอยู่ในสมาธิของตนเอง
เสิ่นอีเวยเห็นเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ตนเองก็ไม่ได้เปิดปากอีก คนทั้งคู่นั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้น ไม่ได้รู้สึกว่าบรรยากาศน่าเบื่อหรือน่าอึดอัด
คืนนี้เซิ่งเจ๋อเฉิงออกจะแปลกไปสักหน่อย เสิ่นอีเวยเงียบไปเนิ่นนานหลังตอบคำตอบนั้นออกมา
ปลายฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิในอากาศต่ำสักเล็กน้อย ที่น่าแปลกก็คือทั้งสองคนกลับไม่รู้สึกหนาวเลย ในสภาพแวดล้อมที่สงบและเงียบสุดขีดนี้ เรื่องๆหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมองของเสิ่นอีเวยทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ
สิ่งที่คุณหมอลู่บอกกับเธอ เกี่ยวกับเรื่องที่เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ หรือควรใช้โอกาสตอนนี้บอกเซิ่งเจ๋อเฉิงไปดีล่ะ?
แต่ว่าแท้จริงแล้วควรเริ่มพูดว่าอะไรล่ะ? ทัศนคติของนายผู้เฒ่าเซิ่งแข็งแกร่งตลอดมา เพียงแค่ต้องการให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมีลูกแล้ว ก็จะให้หุ้นของเซิ่งซื่อกับเขามากขึ้น ก็ง่ายๆแค่นี้เอง
เซิ่งเจ๋อเฉิงเกลียดตัวเองเช่นนั้นมาโดยตลอด ครั้งนั้นขอให้ฉันมีลูกให้เขาคนหนึ่ง คงใช้ความกล้าออกไปมากมายสินะ ถ้าหากว่าตอนนี้บอกเขาไปว่าสภาพร่างกายของตนเองไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งครรภ์ได้
เสิ่นอีเวยไม่กล้าจินตนาการเอาเลยว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง