สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 201
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 201 ไม่คิดว่าคุณจะมีโรคอาการหวาดกลัวในที่แคบ
เจิ้งอวิ๋นชวนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนละเหี่ย แต่กลับซ่อนการบังคับอยู่เป็นนัย เสิ่นอีเวยไม่ได้โง่ไม่ใช่ว่าจะฟังไม่ออก
ซึ่งเสิ่นอีเวยอยากรู้ว่าเจิ้งอวิ๋นชวนมีอะไรแอบแฝงอยู่ในความมืด แต่ว่าเธอไม่สามารถเดามันออกมาได้ และเรื่องของวันนี้ซึ่งมาดู ๆ แล้ว ตัวเองรู้สึกถึงการถูกอีกฝ่ายบังคับอย่างหนักหน่วง ดังนั้นจึงได้เพียงแต่ใช้สายตามองตัวเองที่ถูกเขาขัดขวางตลอดเวลา
เธอได้วิเคราะห์ในใจเพื่อดูความคิดของเขาอยากลึกซึ้งอีกครั้ง และได้เรื่องว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกต่อกับตนเอง ดังนั้นจึงได้ถามเรื่องที่เกิดเมื่อสักครู่นี้ เป็นเพราะเขาตื่นตระหนกเลยได้เปิดปากถามอย่างเรื่อยเปื่อย เพียงแค่อยากให้เธอนั้นฟังคำสั่งจากเขาแค่นั้นเอง
คนอย่างเจิ้งอวิ๋นชวน เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพียงแต่ให้คนอื่นนั้นยอมรับในคำสั่งอย่างไม่มีข้อแม้ก็เพียงพอแล้ว
นิสัยของเธอแม้ไม่ใช่คนที่จะชอบหาเรื่องคนอื่นแต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ขี้ขลาดและทุกครั้งที่ผ่านมาเธอเป็นคนที่มีความรอบคอบอยู่เสมอและไม่ใช่คนที่ตัดสินใจอะไรรวดเร็วและไม่สนใจสิ่งใดและไปทำสิ่งที่ตนเองรู้ว่าไม่ควรทำ
เมื่อมาคิดถึงตอนนี้ในใจของเสิ่นอีเวยก็ทำการตัดสินใจจะพูดก็พูดเถอะ ให้นึกเสียว่าเป็นเพียงแค่การสนทนาเรื่อยเปื่อยเธอเพียงอยากรู้ว่าเจิ้งอวิ๋นชวนแท้ที่สุดแล้วจะทำอะไร
เลยทำให้ห้านาทีต่อมาทำให้เสิ่นอีเวยนำเรื่องที่ตนเองติดลิฟต์นั้นมาพูดให้กับเขาอีกครั้งหนึ่งอย่างคร่าวๆคร่าวๆ
ไม่คิดว่าเมื่อเจิ้งอวิ๋นชวนได้ยินแล้วพูดว่า “แค่ลิฟต์แค่นั้นมันทำให้เธอตกใจขนาดนี้เชียวหรือ ? ดู ๆ แล้วความกล้าเด็ดเดี่ยวของคุณหญิงเสิ่นก็ไม่ได้เหมือนกับผมที่มีความกล้าที่ยิ่งใหญ่”
เสิ่นอีเวยตกใจไปสักครู่ แล้วโต้ตอบกลับไปว่า “ชั้นมีโรคอาการหวาดกลัวในที่แคบ ดังนั้นเลยทำให้อาการมันดูร้ายแรง”
คิ้วของเจิ้งอวิ๋นชวนและสายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจหลังจากนั้นก็เหมือนมีสายตาแห่งความเจ้าเล่ห์เข้ามาแทน ส่วนปากของเขาทำท่าเสมือนคิดอะไรอยู่ในใจคิดว่า ถึงว่าล่ะเมื่อสักครู่นี้ได้เห็นผู้หญิงคนนี้แสดงให้เห็นท่าทีอย่างชัดเจนว่าเหมือนคนตกใจจริงๆ
แต่ว่าเธอมีโรคอาการหวาดกลัวในที่แคบแบบนี้ก็เริ่มมีความหมายแล้วล่ะสิ
เสิ่นอีเวยเห็นเจิ้งอวิ๋นชวนมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทำให้ในใจนั้นมีเรื่องเร่งรีบร้อนใจอย่างยิ่ง เลยทำให้ในใจเขาถามขึ้นมา “คุณเจิ้งคะ สิ่งที่คุณอยากฟังชั้นก็พูดหมดแล้ว แล้ววันนี้ชั้นขอพูดเรื่องที่ชั้นจะมาหาคุณวันนี้ได้ไหมคะ ? ”
รู้สึกแปลกใจมาก ท่าทีของเธอที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากกว่าครั้งไหน ๆ แต่ว่าก็ทำให้เจิ้งอวิ๋นชวนมีความรู้สึกแปลกใจ ความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่มีความกลัวความรู้สึกใด ๆ ของตนเองเลย
ก็ใช่อยู่ หากยืนอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่มีความกล้าอันน้อยนิดเช่นนั้น ห้าปีก่อนที่อยู่อังกฤษเธอจะมาแก้แค้นที่ครั้งก่อนเขาเคยได้แกล้งเธอหรอกหรือ ?
ในใจของเจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้ตัดสินใจว่าวันนี้เขาจะต้องทำให้เสิ่นอีเวยมีความรู้สึกอึดอัดใจ
“ได้เลย เชิญพูดมาเลย ผมกำลังฟังอยู่ ” เจิ้งอวิ๋นชวนได้พิงอยู่บนโซฟา
เสิ่นอีเวยได้ขมวดคิ้ว สายตาได้กวาดไปรอบ ๆ คนที่อยู่โซฟาและในใจคิดว่า ผู้ชายคนนั้นอยู่ดีดีจะให้ตัวเองพูดออกมาเชียวหรือ ?
“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของชั้นและคุณ ชั้นหวังว่าจะมีเพียงแค่คุณกับชั้น” เสิ่นอีเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและจริงใจ
คนในพื้นที่นั้นก็ได้มีเสียงหัวเราะออกมา เสิ่นอีเวยได้ยินอย่างชัดเจน มีแม้กระทั่งคนใช้สายตาในการเย้ยหยันเธอ เสิ่นอีเวยไม่ได้แคร์อะไร สิ่งที่เธอต้องการคือท่าทางของเจิ้งอวิ๋นชวนคนอื่นนั้นเธอไม่ได้แคร์
เจิ้งอวิ๋นชวนได้หัวเราะไปหนึ่งยก มองหน้าเธอแล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงเสิ่นไม่ต้องไปใส่ใจพวกนี้พวกเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีของผม ไม่ได้แบ่งแยกอะไร ให้ฟังไปก็ไม่มีอะไรหรอก คุณพูดเถอะ ? ”
ไม่แบ่งแยกชนชั้นคุณปู่คุณน่ะสิ เสิ่นอีเวยด่าในใจด้วยคำพูดที่แสนสกปรก เธอได้มองเจิ้งอวิ๋นชวนอย่างเคร่งขรึมและด้วยหน้าตาที่มีความรู้สึกถึงความคับแค้นใจ และในตอนนี้เธอก็รู้อย่างชัดเจนแล้วว่า เขากำลังจะทำให้เธอนั้นลำบากใจ
ดี ในเมื่อคุณไม่เกรงใจต่อกันเช่นนั้นชั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องบังคับตัวชั้นอีกแล้ว
เสิ่นอีเวยยิ้มแล้วเปิดปากพูดว่า “งั้นดีเลย ในเมื่อคุณเจิ้งได้เปิดประเด็นแล้ว งั้นชั้นก็จะขอบอกข่าวดีที่มาวันนี้แล้วกันนะ”
พอพูดถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยก็ได้หยุดไปสักครู่และสายตาที่มองเจิ้งอวิ๋นชวนอย่างไม่เกรงใจ ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรก็เพียงแต่ฟังเธออย่างเงียบ ๆ
“วันนี้ชั้นมาก็จะมาขอโทษคุณเจิ้งนะคะ ซึ่งที่ชั้นได้ถ่ายรูปภาพคุณในภาพที่ไม่ควรถ่าย และยังส่งให้คุณอีก ถ้าหากคุณยังโมโหอยู่ก็สามารถลงโทษที่ชั้น อย่าไปลำบากคนอื่นเลย
เสิ่นอีเวยไม่ได้หยุดพูดเลยสักประโยค รัวใส่มาเหมือนปืนกล
พอเธอพูดเสร็จ ทั้งห้องก็ได้มีเสียงถึงความไม่พอใจ โดยเริ่มจากเสียงซุบซิบนินทาเบา ๆ ค่อย ๆ ดังขึ้นมา
“ที่แท้เมื่อห้าปีก่อน คนที่ทำคุณชายเจิ้งก็เป็นผู้หญิงคนนี้นี่เอง”
“เธออยากตายงั้นหรือ ? ทำเรื่องแบบนั้นไปแล้วยังพอพูด แต่ตอนนี้กลับมาพูดต่อหน้าคุณชายเจิ้ง””
“ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน กล้าดียังไงนะ ? ยังกล้ามาหาเรื่องคุณชายเจิ้ง ”
แม้ว่าเสียงจะค่อย ๆ หายไปแต่ว่าภายในห้องนั้นคนแต่ละคนห่างกันใกล้มาก เลยทำให้ได้ยินตั้งแต่เริ่มจนจบ ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ถูกแล้ว สิ่งที่เธอต้องการคือผลแบบนี้
คุณไม่ใช่ว่าอยากจะทำให้คนอื่นลำบากใจหรอกหรือ ? งั้นชั้นก็อยากจะดูว่าใครทำให้ใครลำบากใจกันแน่
ในใจของเธอได้ประเมินสภาพจิตใจของ เจิ้งอวิ๋นชวนซึ่งเรื่องราวเมื่อห้าปีก่อนนั้นที่เธอได้ให้รูปภาพกับเขายังคงเป็นความแค้นในใจ และทั้งยังสามารถกดขี่เซิ่งเจ๋อเฉิงรวมทั้งบริษัทเซิ่งซื่ออีกด้วย ซึ่งชัดเจนว่าตลอดมาผู้ชายคนนี้นั้นได้เก็บความแค้นอยู่ในใจ
ดูเหมือนว่าจะยิ่งใหญ่ แต่ข้างในกลับกลวงซะงั้น เจิ้งอวิ๋นชวนหนอเจิ้งอวิ๋นชวน ลำบากคุณแล้ว ในใจของเสิ่นอีเวยเต็มไปด้วยความหัวเราะเยาะเย้ย
เมื่อสักครู่นี้เธอได้รำลึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาแต่ว่าเขานั้นก็ไม่ยอมให้คนที่อยู่ข้างข้างเขานั้นหนีออกไปอยากจะให้เธอนั้นขายหน้า แต่ว่าไม่คิดว่าคนที่ขายหน้านั้นคือเขาเอง
เมื่อสักครู่นี้เธอได้นำข้อความหลักเรื่องราวหลักที่เกิดเมื่อห้าปีก่อนนั้นพูดออกมาเพื่อที่จะทำให้เขาโกรธเพราะว่าเธอรู้แล้วว่านิสัยของผู้ชายคนนี้เป็นคนอย่างไรดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมาเลยไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เสิ่นอีเวยนั้นมาช่วยระลึกความจำเถอะ
มีคนบางกลุ่มถูกทำให้โกรธขึ้นมาเลยทำให้ตื่นตระหนกตกใจ เสิ่นอีเวยกับเจิ้งอวิ๋นชวนแม้มองหน้ากันไม่ได้จะฆ่าแกงกัน แต่ไม่มากก็น้อยที่จะมีสงครามทางจิตวิทยา
ในใจของเธอเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ เธอเงยหน้าขึ้น สายตาค่อย ๆ ลดระดับลงมามองยังเจิ้งอวิ๋นชวน ซึ่งเขานั้นก็ทำใบหน้าที่เยือกเย็น รู้สึกกลัวอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นสามารถชนะเขาได้แล้ว
หลังจากเสิ่นอีเวยได้พูดประโยคเมื่อสักครู่นี้ไป เจิ้งอวิ๋นชวนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ในห้องนอกจากเสียงซุบซิบบนโซฟาแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเลย
บรรยากาศในห้องนั้นทุกคนค่อย ๆเริ่มรู้สึกความไม่ปกติ เลยทำให้ค่อย ๆ เงียบลง ทำให้ทั้งห้องเงียบเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ราวกับว่าเข็มตกลงพื้นยังได้ยิน
ผสานกับเสียงดนตรีในห้องไม่รู้ว่าเล่นจบไปตอนไหน ในห้องนั้นก็ยิ่งเพิ่มความเงียบเข้าไปอีก