สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 203
บทที่ 203 แท้จริงแล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่มีน้ำยาเลยหรือ
พอเสิ่นอีเวยพูดเสร็จ เจิ้งอว๋นชวนก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วค่อย ๆลุกโซฟามาหาเธอ
ทั้งสองคนชัดเจนว่าไม่ได้ห่างกันมากมายนักแต่เขากลับเดินอย่างช้า ๆและในขณะที่เดือนนั้น เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้มองเธออย่างไม่ละสายตาซึ่ง เธอก็ได้มองเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น ในใจของเสิ่นอีเวยก็เลยเกิดความตื่นตระหนกขึ้นและได้ใช้มือกำกระโปรงของตนเองอย่างแน่น แต่สีหน้ากลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น
ในสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้เธอไม่สามารถที่จะให้ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นถึงเบื้องลึกของความรู้สึก
เจิ้งอวิ๋นชวนได้เดินมายังหน้าของเธอและได้ก้มลงนิดหนึ่ง เขาห่างจากเธอใกล้มากซึ่งเธอสามารถดมหรือได้กลิ่นน้ำหอมจากบนตัวของเขา
ทันใดนั้น เสิ่นอีเวยก็ได้รับรู้ถึงผลที่ปรากฏออกมาว่า ไม่เหมือนกับเซิ่งเจ๋อเฉิง
หากพูดถึงผู้ชายที่พิถีพิถันในวันธรรมดา เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ใช้น้ำหอมเป็นประจำซึ่ง กลิ่นน้ำหอมที่เขาชอบนั้นก็เป็นกลิ่นที่มีความหอมไม่แรงและไม่เข้มมจนเกินไปซึ่งมีความพอดีเมื่อดมไปแล้วเหมือนมีความละมุนอยู่ในนั้น
ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ และก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
แต่ว่าผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าเธอตอนนี้ กลิ่นน้ำหอมของเขามีความแรงมากเมื่อดมไปแล้วก็รู้สึกและรับรู้ถึงนิสัยอันแข็งกร้าวของเขา คือคนที่ทำการไม่เหลือเยื่อใย และรับรู้ถึงความกดดัน จนกระทั่งอยากจะโต้ตอบขึ้นไป
เสิ่นอีเวยในใจรับรู้ว่านี่น่ะหรือคือความไม่สมดุลของบรรยากาศ
ตอนนี้ทั้งสองมองหน้ากัน เสิ่นอีเวยเงยหน้ามองเจิ้งอวิ๋นชวน และเจิ้งอวิ๋นเขาก็ได้ก้มหน้ามองเธอยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ เสิ่นอีเวยยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปอีก
ในใจเหมือนกำลังดึงสายดนตรีอย่างใช้พลังเหมือนจะสายจะขาดสะบั้น ซึ่งเธอได้มองเจิ้งอวิ๋นชวนที่ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามา ทำให้เธอได้ตอบกลับไปว่า “คุณจะทำอะไร?”
เจิ้งอวิ๋นชวนยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่าหน้ากลับหัวเราะเบา ๆ ซึ่งเสิ่นอีเวยได้เห็นภาพนี้ชัดเจน
ในใจของเธอรู้สึกโกรธมาก ในใจก็เตรียมคำพูดว่ามากมาย แต่ว่าเจิ้งอวิ๋นชวนก็ชิงพูดก่อน
“ผมคิดว่าคุณหญิงเสิ่นจะมีความกล้ามากมาย ตอนนี้ทำไมกลับไม่เหมือนที่คิดไว้”
เสิ่นอีเวยไม่ได้โมโหเพราะคำพูดของเขา แต่เธอก็ได้พูดกลับไปว่า “คุณเจิ้ง คุณอยากจะทำอะไรกันแน่ ขอให้คุณพูดออกมาโดยเร็ว”
เจิ้งอวิ๋นชวนได้ฟังเสร็จ ก็รู้สึกถึงความน่าสนใจ เขายืนอยู่ตรงนั้น เสิ่นอีเวยก็นั่งอยู่ ณ ที่นั้น ซึ่งเจิ้งอวิ๋นชวนรู้สึกเหมือนมองอยู่ที่สูง”
เขาได้หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วยิ้มพูดกับเสิ่นอีเวยว่า “อ้อ ใช่หรือ ? ไม่ว่าผมจะพูดอะไรคุณก็จะตกลงใช่ไหม ? ”
เสิ่นอีเวยรู้ว่าเขานั้นมีความซ่อนความอยู่ในนั้น ก็เลยบอกไปว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่ จะต้องดูว่าคุณมีเงื่อนไขอะไร”
เจิ้งอวิ๋นชวนยิ้มแสยะ ในใจคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มากก็น้อยที่จะมีการปกกันตัวเอง
สองมือของเขาก็ยังสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง และได้ยืนขึ้น สีหน้าก็ได้มีความเข้มมากขึ้น “ได้เลย ในเมื่อคุณหญิงเสิ่นพูดเช่นนี้ ก็มากับผมเถอะ”
เสิ่นอีเวยคิดอยู่ครู่หนึ่งว่า เจิ้งอวิ๋นชวนจะทำอะไร ? ทำให้เธอไปไหน ? เสิ่นอีเวยมีความกังวล
“คุณจะพาชั้นไปไหน? ” เสิ่นอีเวยถาม
เจิ้งอวิ๋นชวนไม่ได้หันกลับไป แล้วไปเดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “หากว่าวันนี้คุณไม่ได้มาขอโทษผมด้วยความจริงใจแล้วล่ะก็ งั้นคุณก็เลือกที่จะนั่งอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน”
เขาได้พูดด้วยความรวดเร็ว เหมือนกับพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเองเลย
เสิ่นอีเวยรู้สึกรีบร้อน แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่นใดเพราะว่าเจิ้งอวิ๋นชวนได้เปรียบทางผลประโยชน์ จึงได้เพียงแต่เดินตามไป
แต่ว่าเสิ่นอีเวยคาดไม่ถึงว่าเจิ้งอวิ๋นชวนจะเดินไวขนาดนี้ ซึ่งตอนแรกยังเห็นเขาอยู่ พอลงมาจากตึกก็ไม่เห็นเสียแล้ว
เสิ่นอีเวยก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้น แต่หูได้ยังเสียงที่สะท้อนมาจากชั้นหนึ่ง
แต่ในเวลานี้ ในชั้นที่หนึ่งในบางห้องได้รู้สึกว่าเธอไม่ได้เดินตามเจิ้งอวิ๋นชวนไป แต่สักครู่หนึ่งก็ได้มีคนใส่ชุดฟอร์มเหมือนผู้จัดการออกมา
พนักงานก็ได้ออกมาจากประตูแล้วเห็นคุณชายเจิ้ง แล้วได้พูดว่า “คุณชายเจิ้ง ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ มีอะไรให้รับใช้ ? ”
เจิ้งอวิ๋นชวนได้ตบไหล่เขาไปหนึ่งที ใบหน้าที่มีท่าทางแปลก ๆ ถามว่า “หากจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ ในบาร์แห่งนี้มีห้องเก็บของขนาดใหญ่อยู่ใช่ไหม ? ”
ตรงหน้าของเขาก็คือคุณชายเจิ้งก็เลยไม่กล้าที่จะปิดบังแล้วตอบไปว่า “ใช่ครับ มีครับ คุณชายจะไปดูหรือครับ ? ”
เจิ้งอวิ๋นชวนยิ้มแล้วพูดว่า “ดูก็ไม่ได้น่าสนใจอะไร แต่ผมอยากจะใช้มัน ลองบอกสภาพคร่าว ๆ ของห้องเก็บของในบาร์ให้ฟังผมหน่อย”
พอได้ยินคำสั่งก็อธิบายให้กับคุณชายเจิ้งฟัง
“ห้องเก็บของชั้นใต้ดิน ใช้เก็บเหล้า ไวน์ ในห้องใหญ่ ๆ มีห้องเล็ก ๆ แบ่งเป็นสัดส่วน”
พนักงานยังพูดไม่เสร็จ เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้จับประเด็นแล้วพูดว่า “ห้องเล็ก ๆ เป็นห้องปิดใช่ไหม ? “
พนักงานตอบไปว่า “ใช่แล้วครับ สามารถใช้กุญแจล็อกได้”
เจิ้งอวิ๋นชวนคิดและได้พยักหัวตาม และใบหน้าก็มีความยิ้มแย้มเป็นพิเศษ “ดีมาก อธิบายถึงตรงนี้ก็พอแล้ว เอากุญแจมาให้ผม”
เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้ยื่นมือเพื่อที่จะเอากุญแจ
พนักงานรู้ดีว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับเจ้านาย แต่ว่าห้องเก็บของนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงไม่กล้าที่จะเอากุญแจให้ เลยมีท่าทีที่มีความสงสัยและงงงวย
เจิ้งอวิ๋นชวนได้มองแล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณกำลังเป็นห่วงเรื่องอะไร ไม่ต้องไปคิดมาก ผมก็รู้ว่าเขาคือใคร ในเมื่อคุณได้เป็นถึงผู้จัดการ ก็น่าจะรู้ความสัมพันธ์ของผมกับเจ้านายคุณสินะ ทำตามที่ผมพูดเถอะ หากเจ้านายโทษคุณ ผมจะออกหน้าให้เอง”
พอฟังเจิ้งอวิ๋นชวนพูดเสร็จ ผู้จัดการในใจเขาก็รู้สึกเต้นตุบ ๆ สายตาข้างหน้าของเขาก็ได้เห็นถึงผู้ใหญ่พูดเช่นนี้แล้ว เขายังจะกล้าที่จะไม่ทำตามอีกหรือ ?