สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 25
ตอนที่ 25 การปรากฏตัวของเซียวหันถิง
” คิดไม่ถึงว่าพูดไปแบบนั้นแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่กล้าลงมือเธอ คงไม่ใช่หรอกมั้ง!” เสิ่นอีเวยรื้อค้นใบรายการออกแบบพลาง คุยโทรศัพท์กับเพื่อนพลาง ทั้งสองคนนี้รู้จักกันตอนอยู่มหาวิทยาลัย หลินโม่เยนเป็นคนที่มีนิสัยตรงไปตรงมาตั้งแต่เกิด ขอเพียงเสิ่นอีเวยรู้สึกน้อยใจ เธอก็พร้อมที่จะทวงคืนความยุติธรรมแทนเธออย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เสิ่นอีเวยตอบกลับว่า “นับตั้งแต่วันนั้นมาฉันมีชีวิตเงียบสงบมาโดยตลอด จากเหตุการณ์อันตื่นตาในวันนั้น เห็นได้ชัดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงเชื่อในคำพูดของผู้ชายคนนั้น แต่เขากลับไม่เคยลงมือกับฉันมาก่อนเลย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไหม”
หลินโม่เยนถอนหายใจแรงๆออกหนึ่งเฮือก “ถ้ารู้อย่างนี้ ฉันน่าจะเปลี่ยนความคิด และรีบกลับประเทศให้เร็วกว่านี้อีกหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอในช่วงนี้ได้รับความลำบากมากถึงขนาดนี้ แม้แต่คนพูดคุยด้วยก็ยังไม่มีเลย”
เสิ่นอีเวยยิ้มแย้ม “เอาล่ะ เธอก็อย่าคิดมาก รอให้เธอปรับสภาพความแตกต่างของเวลาได้ก่อน พวกเราสองคนค่อยนัดพบเจอกัน”
“ไม่มีปัญหา! รอให้ถึงเวลานั้นเธอก็ค่อยไปจิกผู้ชายที่บาร์ เกลียดนักไอ้บ้าเซิ่งเจ๋อเฉิงคนนั้น!”
เสิ่นอีเวยนิ่งอึ้งชั่วขณะ นิสัยของหลินโม่เยนเธอรู้ดี พูดได้ทำได้ เพียงแต่อีกสักครู่ก็จะเริ่มการประชุมอย่างเร่งด่วนขึ้นแล้ว และคงไม่มีเวลาพูดคุยกับเธอต่อ
“เอาล่ะ สรุปว่าฟังเธอก็แล้วกัน ตอนนี้ทางบริษัทของฉันกำลังจะประชุมแล้ว งั้นวางสายก่อนนะ!”
“โอเค บาย รอฉันรักเธอนะ!”
หลังจากวางสายเสร็จ เสิ่นอีเวยก็ลุกขึ้นยืน จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอรู้สึกว่าทรวงอกเหมือนกับถูกกดทับ และรู้สึกวิงเวียนศีรษะจนยืนไม่ค่อยมั่นคง สถานการณ์อย่างนี้ได้ปรากฏขึ้นมาไม่กี่ครั้งมาแล้ว
แต่เสิ่นอีเวยไม่มีเวลาคิดมาก เธอส่ายหน้าพร้อมรวบรวมสมาธิไว้ เมื่อจัดวางใบรายการออกแบบในมือเสร็จ ก็เปิดประตูและเดินตรงไปห้องประชุมตามระเบียงทางเดิน
เมื่อเปิดประตู เกือบทุกคนก็มาถึงห้องประชุมแล้ว เสิ่นอีเวยรู้สึกสงสัยมาก วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น
เสิ่นอีเวยนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นหันหน้าฮายกุ้ยเดินเข้ามา
“อีกสักครู่ก็จะมีแขกคนสำคัญคนหนึ่งมา เขาน่าจะมาถึงห้องประชุมด้วยตัวเอง เพื่ออธิบายความต้องการด้านการออกแบบของเขา”
บริษัทออกแบบชุดแต่งงานที่เสิ่นอีเวยทำงานอยู่เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารจากต่างประเทศ และเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นเลยบริการเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับสูงเป็นส่วนใหญ่
เพราะความสามารถในการออกแบบล้ำเลิศ เลยมีเพียงลูกค้าระดับสูงสั่งการไว้ล่วงหน้า และแทบจะไม่เคยต้อนรับลูกค้ามาก่อนเลยสักคน ดังนั้นคนทั้งบริษัทเลยต้องเปิดการประชุมที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้มาก่อนขึ้น
ห้องประชุมที่กว้างใหญ่เริ่มมีคนซุบซิบพูดคุยกัน ทุกคนต่างพากันคาดเดาว่าคนที่จะมาอีกสักครู่เป็นพระองค์ไหนกัน
หลังจากที่หัวหน้าเพิ่งพูด ประตูของห้องประชุมข้างหลังก็ถูกเปิดออก ทุกคนต่างพากันมองตรงไปที่ประตูทางเข้า
มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับมีบอดี้การ์ดอีกไม่กี่คนเดินตามข้างๆด้วย เพียงแค่เขาสะบัดมือเบาๆ คนเหล่านั้นก็รับคำสั่งและเดินออกไปรอหน้าประตูทางเข้า
เมื่อเสิ่นอีเวยเห็นผู้ชายคนนั้น เธอก็นิ่งอึ้งทันที และเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไหมวันนี้บริษัทถึงต้องรวบรวมคนจำนวนมากด้วย
เซียวหันถิงเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจของเมืองนี้ ตอนที่เสิ่นอีเวยพบเจอกับเขานั้น เป็นตอนที่ตัวเองแต่งงานกับเซิ่งเจ๋อเฉิง
สุภาษิตได้กล่าวไว้ว่า อายุสามสิบต้องสร้างเนื้อสร้างตัว เซียวหันถิงท่านนี้มีอายุสามสิบปีแล้ว ซึ่งตอนนี้เขาครอบครองทรัพย์สินเงินทองมากกว่าล้านแล้ว จนทำให้คนรอบข้างอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ แต่ผู้ชายที่มีร่ำรวยส่วนใหญ่มักจะมีโรค โรคหยิ่งยโสโอหัง ดังนั้นเลยมีข่าวลือว่าไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ตัวเขา
คงเป็นโรคแบบเดียวกันกับเซิ่งเจ๋อเฉิงแน่เลย
และที่น่าบังเอิญก็คือเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจท่านนี้เป็นศัตรูทางการค้าคนสำคัญที่สุดของเซิ่งเจ๋อเฉิงตอนนี้ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะต่อกรกันอย่างไรบ้างเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์
เสิ่นอีเวยรู้สึกปวดหัว สำหรับตัวเองในฐานะผู้อำนวยการการออกแบบที่มีทั้งอำนาจและชื่อเสียงที่สุดในบริษัทตอนนี้ต้องเสนอตัวเพื่อดำเนินการเจรจาต่อรองกับเขา ตอนนี้เธอกำลังคิดไตร่ตรองอยู่ว่าควรรับมือยังไงดี แต่จู่ๆเซียวหันถิงกลับเข้ามาพูดคุยกับเธอโดยตรง
เมื่อเซียวหันถิงเห็นแววตาอันสับสนของเสิ่นอีเวย ก็เผยสีหน้าสงบนิ่งที่แฝงด้วยรอยยิ้มบางๆดั่งก้อนเมฆอันบอกบางขึ้น
เขาเดินมาเบื้องหน้าของเสิ่นอีเวย และยื่นมือออกมาหาเธอ ขณะเดียวกันบนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มสุขุม “คุณนายเซิ่ง เจอกันอีกแล้วนะครับ”
เสิ่นอีเวยยื่นมือตอบรับเขาอย่างมีมารยาท “อยู่ที่นี้สามารถเรียกนามสกุลฉันได้เลย ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะ ท่านประธานเซียว”
บนใบหน้าของเซียวหันถิงเผยสีหน้าหว่านเสน่ห์ออกมาแวบหนึ่ง วินาทีต่อมา คำพูดที่เขาพูดออกมาทำให้คนทั้งหมดต่างพากันตกอกตกใจ
น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยน้ำแข็งก้อนหนึ่งที่ทั้งหนักและเย็นชา จนทำให้คนไม่กล้าปฏิเสธ “นอกจากคุณเสิ่น ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ออกไปให้หมด ผมต้องการพูดคุยตามลำพังกับเธอ”