สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 289
บทที่ 289 เวลาทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป
ปี่ที่สองที่เสิ่นอีเวยมาอยู่ที่อังกฤษ
พ่อของหลินโม่เยนที่เคยได้รับบทเรียนจากการทำธุรกิจล้มเหลว ได้เริ่มกลับมาก่อร่างสร้างตัวอีกครั้ง สร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ ซึ่งนับวันก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น จนได้มาเปิดสาขาที่ประเทศอังกฤษ
เวลา ของสิ่งนี้ บางครั้งก็แปลกมาก จะบอกว่าโหดร้ายก็โหดร้าย จะว่าเมตตาปรานีก็เมตตาปรานี
มันทำให้หล่อนมีเวลาเพียงพอที่จะรักษาตัว สี่ปีก่อนที่หล่อนจะออกเดินทาง หล่อนได้ติดต่อโรงพยาบาลที่รักษามะเร็งตับได้ดีที่สุดไว้แล้ว ที่นั่นมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย มีศักยภาพในการรักษา รวมทั้งการบริการทางการแพทย์
สิ่งที่เสิ่นอีเวยคิดไม่ถึงเลยก็คือ เมื่อหล่อนได้รับทราบว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือการปลูกถ่ายตับนั้นจะทำให้การรักษาได้ผลดี หลังจากมาที่อังกฤษแล้ว ผ่านการรักษาที่ใช้ระยะเวลาพอสมควรก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ
เมื่อร่างกายดีขึ้นแล้ว ก็สามารถพาตัวเองหนีจากคนและเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจได้ ทัศนคติและอารมณ์ก็เริ่มดีขึ้น ดังนั้นโรคซึมเศร้าของเสิ่นอีเวยหลังจากมาอยู่ที่อังกฤษได้หนึ่งปีอารมณ์ความรู้สึกที่แย่ๆเหล่านั้นก็ค่อยๆลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าหมอจะย้ำกับหล่อนว่า เพื่อไม่ให้เกิดอาการกำเริบขึ้นมาอีก หล่อนก็ควรจะต้องใช้ยารักษาโรคซึมเศร้าต่อไป
แต่ว่าตอนนี้เสิ่นอีเวยนั้นพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันมาก และมีความมั่นใจมาก หากไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น หล่อนก็แน่ใจว่าอาการป่วยทางจิตจะไม่กำเริบขึ้นมาอีกแน่นอน
นี่ก็คือสิ่งที่เวลาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเสิ่นอีเวย ไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณหรือว่าอารมณ์
หลินโม่เยนมองเสิ่นอีเวยอย่างพินิจพิจารณา ถอยหลังไปเล็กน้อยก่อนจะร้องออกมาว่า:” อีเวยนะอีเวย ตอนนี้เธอนับวันยิ่งมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ การเป็นแม่คนนี่ทำให้ไม่เหมือนเดิมจริงๆ เมื่อก่อนนั้นเธอขี้อายจะตายไป ขนาดจะให้ไปผับกับฉันยังกระบิดกระบวน ตอนนี้กลับไม่กลัวอะไรแล้ว”
ใบหน้าของหลินโม่เยนมีรอยยิ้มที่งดงาม แม้ว่าจะผ่านไปสี่ปีแล้ว แต่ยังคงมีความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและน่ารักเช่นเดิม
เมื่อเจอเพื่อนซี้แกล้งหยอกอย่างนี้ เสิ่นอีเวยก็ยิ้มพร้อมพูดว่า:”แกยังกล้ามาว่าฉันอีก ตอนนี้แกเองก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าคนที่วันๆคลุกอยู่ในผับในบาร์อย่างแก ตอนนี้จะกลายเป็นผู้รับช่วงบริหารต่อของบริษัทใหญ่ขนาดนี้”
หลินโม่เยนยิ้ม ยื่นแขนออกมาเตรียมจะไปคล้องแขนของเสิ่นอีเวย
เพื่อนสนิทของหล่อนเอง ก็ถูกเวลาทำให้เปลี่ยนไปได้เช่นกัน หลังจากที่พ่อของหล่อนมาเปิดบริษัทสาขาที่อังกฤษ หล่อนก็รับอาสาที่จะมาดูแลรับผิดชอบบริษัททางนี้ ตอนแรกพ่อของหล่อนก็ไม่เชื่อมั่นในการบริหารจัดการของหล่อนนัก เพราะหลินโม่เยนนั้นเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยคาดเอาอะไรไม่ได้ตั้งแต่เด็ก คนเป็นพ่อจึงมองไม่ออกว่าถ้ามอบอำนาจบริหารจัดการบริษัทให้กับลูกสาวผู้ไม่สนใจโลกนั้นจะเป็นอย่างไร
ตอนนั้นเองหลินโม่เยนเองก็ไม่มั่นใจว่าตนเองมีความสามารถพอที่จะบริหารบริษัทหรือไม่ แต่หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของครอบครัว ทำให้หล่อนเติบโตได้ภายในชั่วข้ามคืน หล่อนตั้งใจไปเรียนสถาบันการจัดการชั้นนำของอเมริกาหนึ่งปี จึงกลับมารับช่วงต่อการบริหารบริษัทที่อังกฤษจากพ่อ
ดังนั้นสองปีก่อนที่หลินโม่เยนมาที่อังกฤษ เสิ่นอีเวยก็มีเพื่อนที่รู้ใจไว้ปรับทุกข์เมื่อต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
ถึงแม่ว่าหล่อนเมื่อก่อนจะเคยมาที่อังกฤษแล้วก็ตาม แต่ว่าตอนนั้นมาเรียนไม่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จึงไม่ได้มีเพื่อนมากมายนัก มีอยู่ไม่กี่คนหลังจากจบการศึกษา เพราะระยะทางห่างไกลจึงค่อยๆหายจากกันไป
ดังนั้นสองเพื่อนสนิทนี้ เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่างก็มักจะนัดกันออกมาช้อปปิ้ง หรือไม่ก็ดื่มชาตอนบ่าย นับว่าเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากทีเดียว
หลินโม่เยนละสายตามามองที่เหมียนเหมียนน้อยในรถ ฝ่ายหลังดวงตากระพริบปริบๆ ถูกแสงสว่างจากไฟบนศีรษะส่องลงมาพอดีทำให้เหมือนกับเพชรสองเม็ดที่ส่องประกายระยิบระยับ
เหมียนเหมียนน้อยทำปากจู๋ แล้วกางแขนอ้วนๆสั้นๆออก แล้วส่งเสียงร้องออกมาว่า: “น้าโม่เยนอุ้ม อุ้ม”
ลองดูสิ ว่าผู้ใหญ่คนไหนที่เจอเสียงเรียกน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้แล้วจะไม่ละลายบ้าง
ตาของหลินโม่เยนโค้งมนเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ยื่นมือออกมารับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเหมียนเหมียนน้อยแล้วพูดว่า: “เหมียนเหมียนน้อยของน้า หนูยิ่งนับวันยิ่งสวยใหญ่แล้ว อ้อ อีเวย บ้านฉันมีหลานอยู่หลายคน อายุพอๆกับเหมียนเหมียน จะมากกว่าก็แค่ปีสองปี ให้ฉันเป็นแม่สื่อจับคู่ให้พวกเขาแต่งงานกันดีมั้ย”
พูดจบ เสิ่นอีเวยก็มองไปที่เหมียนเหมียนที่อยู่ในอ้อมกอดของหลินโม่เยนยื่นมือไปจับแก้มนุ่มๆหอมๆของเด็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า:”เหมียนเหมียนน้อยยังไม่รีบประจบน้าโม่เยนอีก เรื่องสำคัญในชีวิตหนูอยู่ในมือของน้าเขาแล้วนะ”
หลินโม่เยนถูกเย้าแหย่จนหัวเราะออกมา มองไปที่นัยน์ตาของเสิ่นอีเวยที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง
เพื่อนสนิทของหล่อนคนนี้ ตอนแรกที่จะย้ายมาที่นี่นั้นมาอย่างไร หล่อนก็ไม่ค่อยแน่ใจ บางครั้งหล่อนก็เคยคิดว่า คนภายนอกดูอ่อนแอบอบบางอย่างเสิ่นอีเวย ทำไมถึงกล้ารับแรงกดดันมากมายขนาดนี้
พ่อ แม่ถูกรมแก๊สเสียชีวิตพร้อมกัน เสิ่นหุ้ยพี่สาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ตัวเองก็ถูกผู้หญิงเลวๆทำร้าย หลังจากแต่งงานชีวิตก็ไม่มีความสุข และยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีลูกสักคน สุดท้ายเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นถึงได้รักษาชีวิตลูกไว้ได้
หลินโม่เหยียนเคยลองคิดหากเป็นตัวเองที่ต้องเจอเรื่องราวแบบเสิ่นอีเวย หล่อนจะทนรับมันไหวมั้ย
คำตอบแน่นอนว่าคือไม่ไหว
ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่หลินโม่เยนถึงนับถือเพื่อนคนนี้มาโดยตลอด
ด้านเสิ่นอีเวย สายตากลับเฝ้ามองอยู่แต่ที่เหมียนเหมียนเท่านั้น
หากจะพูดว่าเวลา คือสิ่งที่ทำให้หล่อนได้รับการรักษา ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาปกติ และยังช่วยบำบัดจิตใจอารมณ์แล้ว อย่างนั้นแล้วเด็กน้อยที่ถูกหล่อนจับแก้มนี้ก็คือสิ่งที่เวลาและโชคชะตามอบให้หล่อนเป็นของขวัญที่ดีที่สุด
สวรรค์รู้ดี ว่าหล่อนอยากมีลูกเป็นของตัวเองมากแค่ไหน
หล่อนไม่สามารถรักษาลูกคนแรกไว้ได้เพราะเหตุสุดวิสัย เป็นความผิดของหล่อนเอง
ดังนั้นเมื่อหล่อนมาถึงอังกฤษได้สองเดือน หล่อนก็พบว่าประจำเดือนของหล่อนมาช้าผิดปกติไปมาก หล่อนจึงซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาเหมือนเมื่อครั้งแรก เรื่องราวแบบเดียวกัน หล่อนผ่านมาสองครั้งแล้ว แต่อารมณ์กลับไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง