สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 297
บทที่ 297 เธอที่ทำให้รู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า
เสิ่นอีเวยในตอนนี้ไม่เหมือนเสิ่นอีเวยในเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้จะสำรวจดูอย่างละเอียด แต่ก็ไม่อาจที่จะเดาออกได้เลย
และในตอนนี้เขานั้นยืนอยู่ข้างหน้าเสิ่นอีเวย ที่เต็มไปด้วยหนามแหลม หากแตะต้องนิดหน่อยก็อาจจะบาดเจ็บได้
ในขณะที่ถามเสิ่นอีเวยเมื่อสักครู่นี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกว่าไฟแห่งความโกรธนั้นลุกขึ้นจนถึงขีดสุด เลยใช้เสียงที่เคร่งขรึมน่ากลัว
“เสิ่นอีเวย ผมให้โอกาสคุณอีกครั้งหนึ่ง”
เสิ่นอีเวยถามกลับอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “อ้อ คุณจะให้โอกาสกับฉันเรื่องอะไรหรือ ?”
“เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะให้คุณนะ หากยังพูดโกหกแล้วล่ะก็ ฉันรับรองว่าคุณจะไม่ได้เห็นลูกสาวคุณเลย”
เสิ่นอีเวยก็เต็บไปด้วยความโกรธ เพราะว่าเธอได้รู้สึกถึงคำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงว่า “ลูกสาวของคุณ” แต่ไม่ใช่พูดถึงชื่อของเหมียนเหมียน
ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ให้ความทรงจำกับเสิ่นอีเวยมันมีความลึกซึ้งสุดใจ เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เรียกชื่อเหมียนเหมียนเป็นอย่างอื่นไป ซึ่งหมายถึงว่าเขานั้นไม่ได้เชื่อเรื่องราวทั้งหมด แต่เริ่มเกิดความสงสัย
แต่เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เรพาะผู้ชายคนนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอไม่สนใจ และไม่ยินยอมสนใจ
เสิ่นอีเวยยักคิ้วแล้วพูดว่า “คุณชายเซิ่ง พวกเราไม่ได้เจอกันมาสี่ปีแล้ว เดิมทีก็คิดว่านิสัยที่ยโสของคุณนั้นจะเพลาลง แต่ตอนนี้พอมาดูแล้ว กลับไม่ลดลงไปเลย”
“ปัญหานี้ ไม่ว่าคุณจะถามฉันสักกี่รอบ ฉันก็ยังมีคำตอบเดียวคือ เหมียนเหมียน ไม่ใช่ลูกของฉันกับคุณ แต่ฉันก็คงไม่โง่ที่จะเอาชื่อพ่อจริง ๆ ของเธอนั้นบอกกับคุณหรอก เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันนั้นเข้าใจคุณมากมายนัก คนอย่างคุณน่ะ หากรู้ชื่อของพ่อเขาก็ต้องไปแก้แค้นแน่นอน ”
เสิ่นอีเวยพูดแต่ละคำ ไม่ได้มีการหยุดเลย และไม่ได้ให้โอกาสเสิ่นอีเวยในการตอบโต้ด้วย
สุดท้ายก็ได้เพียงถามคำเดียว “ในใจของคุณ ผมเป็นคนเช่นนั้นจริง ๆ หรือ? ”
ไม่รู้ว่าห้องทำงานนั้นเงียบไปตอนไหน เสิ่นอีเวยก็ได้ยินคำถามของเซิ่งเจ๋อเฉิง ซึ่งทำให้เธอนั้นตกใจ
ผู้ชายคนนี้หมายความว่าอะไร ? เพราะอะไรถึงถามแบบนี้ ?
เสิ่นอีเวยไม่ค่อยรู้สึกชัดเจนกับท่าทีของเซิ่งเจ๋อเฉิง แต่เธอกลับไม่ได้ใช้วิธีเช่นนี้ในการทำต่อเขา หากมันเป็นการแสดงล่ะ ?
ตอนแรกเขาโกหกว่าที่ซื้อบริษัทหัวยู่น เพราะว่าจะเหลือของชิ้นสุดท้ายไว้ให้ฉัน น้ำเสียงที่จริงใจ แต่ชัดเจนว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่เขานั้นพูดมาง่าย ๆ
สี่ปีที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าเธอนั้นผ่านอะไรมา เธอไม่รู้ว่าเขานั้นผ่านอะไรมา
เสิ่นอีเวย ฉันหาคุณมานานแล้ว
เซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นพูดในใจ เขาอยากจะพูดกับเธอ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่อาจจะพูดออกไปได้เลย
ตอนนี้เขานั้นได้ยืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นอีเวย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย หรือนิสัยอะไรก็ตาม หากพูดไปแล้ว ก็กลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว
เขานั้นจำใบหน้าเธอได้ จำเสียงเธอได้ แต่กลับจำความรู้สึกนั้นไม่ได้แล้ว เสิ่นอีเวย อยู่ที่อังกฤษเป็นเวลาสี่ปี ทำให้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ ?
แต่ความจริงแล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงสามารถอดทนมันได้ แต่สิ่งที่เขานั้นไม่อาจจะรับได้คือ เสิ่นอีเวยในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เมื่อก่อนเธอนั้นแม้จะโกรธจะเกลียดอย่างไร แต่สายตาก็ยังเต็มไปด้วยความรัก แต่ตอนนี้กลับไม่แล้ว เสิ่นอีเวยที่มองเขาในตอนนี้ เต็มไปด้วยความเย็นชา
เขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เจอเรื่องราวมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ดูถูกหรือเหยียดหยาม เขาสามารถยอมรับมันได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้เลยก็คือ เสิ่นอีเวย ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดทำกับเขาเช่นนี้
พอคิดถึงตรงนี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็รู้สึกว่าผู้หญิงที่มองเขาอยู่ตอนนี้ มีความรู้สึกที่ไม่พอใจ ซึ่งทำให้ใจเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าทำไมเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ดีดีก็มาอยู่ตรงหน้าเธอ เพราะว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรรวดเร็วมาก
เสิ่นอีเวยยังไม่ทันตอบโต้ ก็ถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงจับไว้แล้ว เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อะไร แต่ก็ได้ยืนมองด้วยตาโต ๆแล้วพูดว่า “ผ่านไปก็หลายปีแล้ว ทำไมยังทำแบบนี้ ? ฉันไม่อยู่กี่ปี คุณก็ยังหาคนอื่นมาซ้อมทำแบบนี้หรือ ? ”
แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้คิดและสนใจอะไร เขาไม่ได้มีความคิดจะไปพูดอะไรรับเธอ เพราะตอนนี้จิตใจเขามันไม่มีความสุขเลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบที่สุดคือดึงคาง แต่ครั้งนี้เธอกลับไม่ขัดขืน
ไม่ว่าจะทะเลาะ วุ่นวายอย่างก็ตาม แต่เขาก็ยังมีท่าทางเช่นนั้นก็คือไม่ได้ไปสนใจอะไร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ขัดตรเซิ่งเจ๋อเฉิงมาก ทำให้เขานั้นมีความรำคาญโมโห
“เสิ่นอีเวย คุณไม่ต้องใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผม ” เซิ่งเจ๋อเฉิงกับสายตาสีดำ แล้วก็มองเสิ่นอีเวยอยู่เช่นนั้น
เสิ่นอีเวยโกหกว่าตกใจ สีหน้ามีความตระหนกมาก ปากก็กลายเป็นรูปตัวโอ “อ้อ ฉันมีน้ำเสียงอย่างไร ? คุณรู้สึกว่าฉันมีน้ำเสียงแปลกไปหรือ? แต่ก็ไม่ปิดบังคุณนะ ฉันเดิมทีก็เกลียดคุณ ไม่มีความรู้สึกดีดีเลย ตอนนี้ที่ยืนคุยกับคุณดีขนาดนี้ คงเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว”
คำพูดเหล่านี้เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ฟังอย่างชัดเจน และก็โมโหอย่างมาก แต่ว่าก็มีความรู้สึกแปลกประหลาด เมื่อก่อนเสิ่นอีเวยทำเขาโกรธ เขาจะต้องแสดงออก แต่ครั้งนี้ไม่เลย
เซิ่งเจ๋อเฉิงกลับรู้สึกว่า การที่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ เหมือนกลายเป็นคนอื่นไกล อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
เธอะจต้องกลับมา ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในการคาดการณ์ แต่นอกเหนือจากการคาดการณ์คือ เพราะว่าเขานั้นรู้ว่าเสิ่นอีเวยไม่อาจจะเห็นบริษัทของแม่เธอนั้นถูกขายทิ้งไป
แต่ว่าเขาไม่คาดคิดก็คือ สิ่งที่ตัวเองนำพามา กลับกลายเป็นคนแปลกหน้านั่นคือเสิ่นอีเวย