สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 309
บทที่ 309 เหมียนเหมียนน้อยกลายเป็นนักแสดงเด็ก
ซ่งลู่เหยี่ยนนิ่งไป เขาไม่เคยคิดว่าเสิ่นอีเวยจะเปิดปากพูดกับตนเองมากมายขนาดนี้ เพราะตนเองเป็นเพียงคนที่มาจัดการปัญหาตามที่เจ้านายสั่ง
“แต่ว่าคุณเสิ่น……”
ซ่งลู่เหยี่ยนยังไม่ทันพูดจบ ก็โดนเสิ่นอีเวยพูดแทรก:“เอาเถอะ คุณไม่ต้องพูดอะไร ฉันรู้ว่าคุณมาจัดการธุระแทนเซิ่งเจ๋อเฉิง ดังนั้นคำพูดที่ฉันเพิ่งพูดออกไป รบกวนคุณช่วยฝากไปบอกเขาแทนฉันด้วย หากไม่สามารถบอกเรื่องที่ฉันไม่เปิดเอกสารก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจที่สุด”
หลังจากพูดประโยคนี้จบ เสิ่นอีเวยจึงหันหลังกลับและเดินออกจากร้านโดยไม่หันหลังกลับมามอง ทิ้งให้ซ่งลู่เหยี่ยนวุ่นวายใจอยู่ตรงนั้นคนเดียว
จนกระทั่งมองเห็นเสิ่นอีเวยขับรถของตนเองออกไป ซ่งลู่เหยี่ยนก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เขาก้มลงมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ วันนี้ตนเองทำไม่สำเร็จใช่ไหม?
ซ่งลู่เหยี่ยนย้อนถามตนเองในใจ อย่างไม่ต้องสงสัย คำตอบคือใช่ กลับไปคงโดนด่าจนน้ำตาไหล
เพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ดังนั้นบนท้องถนนรถจึงติดมาก รถของเสิ่นอีเวยขยับไปตามถนนอย่างช้าๆ ด้านหน้าคือไฟแดงอีกแล้ว แต่เสิ่นอีเวยกว่าจะรู้ตัวก็สายไป เธอเหยียบเบรกอย่างกระทันหันเมื่อได้รับการเตือนจากตำรวจจราจร เนื่องจากความเฉื่อย เธอจึงหยุดรถชั่วคราว
ในตอนนี้ ความรู้สึกนึกคิดของตนเองค่อนข้างกระสับกระส่าย เสิ่นอีเวยอารมณ์เสีย เพราะบนถนนรถติดมาก อีกทั้งเธอต้องการรีบกลับไปหาเหมียนเหมียนน้อย ดังนั้นหลังจากแยกกับซ่งลู่เหยี่ยน ความรู้สึกนึกคิดของเสิ่นอีเวยจึงตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายมาก
เธอคิดถึงเหมียนเหมียนน้อย คิดถึงมากเหลือเกิน อดใจรอไม่ไหวที่จะได้พบกับลูกสาวตัวน้อย แท้จริงเธอรู้ดีว่าเพราะอะไร นั้นเป็นเพราะซ่งลู่เหยี่ยนให้ตนเองดูเอกสารข้อตกลงแต่งงานใหม่จากเซิ่งเจ๋อเฉิงในร้านกาแฟ
เสิ่นอีเวย เธอไม่ได้ตัดสินใจปล่อยวางไปแล้วหรอ แล้วทำไมตอนที่รู้จุดประสงค์ของผู้ชายคนนั้น หัวใจของเธอยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ?ตราบใดที่เธอไม่แคร์ มันก็จะไม่มีอารมณ์เหล่านี้ จริงใช่ไหม?
มันสมเหตุสมผลแล้ว มีหลายคนที่รู้ แต่น้อยคนกลับทำได้
เธอไม่ใช่นักบวชที่ละจากทุกสิ่ง เธอเป็นเพียงคนๆหนึ่งที่มีอารมณ์และความต้องการของตนเอง
ช่วงเวลาที่สังเกตเห็นอันตรายที่เซิ่งเจ๋อเฉิงจะนำมาให้แก่ตนเอง เสิ่นอีเวยอดนึกถึงเหมียนเหมียนน้อยไม่ได้ เพราะเมื่อคนเราอยู่ในสภาวะที่น่าหวาดกลัวและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก คนที่จะคิดถึงที่สุด จะต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดหรือน่าเชื่อใจได้ที่สุด
แต่เมื่อนึกถึงเหมียนเหมียนน้อย ในใจของเสิ่นอีเวยก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันที วันก่อนในห้องทำงานของเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอไม่ได้พูดไปแล้วหรอว่าเหมียนเหมียนน้อยไม่ใช่ลูกสาวของเขา?
ถึงแม้จะโกหก แต่เสิ่นอีเวยกลับคิดว่าตอนนั้นตนเองไม่ได้ทำตัวน่าสงสัยให้จับได้ และในแผนการของเธอ เซิ่งเจ๋อเฉิงจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดเกี่ยวกับชีวิตของเหมียนเหมียนน้อย
แต่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนี้เลย มิฉะนั้น เขาคงไม่สั่งให้ซ่งลู่เหยี่ยนวางแผนจัดฉากให้ตนเองขับรถชนรถของเขา จากนั้นจึงให้ตนเองดูเอกสารข้อตกลงแต่งงานใหม่
แต่ว่าเธอรู้จักเซิ่งเจ๋อเฉิงมากพอ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ไม่ที่มีความอดทนสูง โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึก
เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง และเชื่อมั่นใจความคิดของตนเองมาก ตนเองได้พูดโกหกว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นและคลอดลูกออกมาหนึ่งคนไปแล้ว
แต่ผลลัพธ์ที่มองเห็นตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงไม่ถือสาปัญหาข้อนี้ แถมยังคิดไม่ถึงว่าจะยอมรับเหมียนเหมียนน้อย?
เรื่องนี้ เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าตนเองมีตรงไหนที่เข้าใจผิดบ้างไหม แต่มองดูเบื้องต้น ก็ไม่มีอะไรผิด
สำหรับเสิ่นอีเวย คนๆนี้อาจจะเคยเป็นเซิ่งเจ๋อเฉิงมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ผู้ชายคนนั้น เขาถูกแทนที่ไปนานแล้ว
แม้ว่าความคิดจะสับสน แต่เสิ่นอีเวยใช้เวลาไม่น้อย พยายามจัดการเรื่องราวตรงหน้าอย่างเร็วที่สุด ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการด่วนที่สุด คือหางานทำให้ได้ เพื่อหาเงินมาดูแลตนเองและเหมียนเหมียนน้อย
กลับมาในประเทศครั้งนี้ จริงๆแล้วมันเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับตัวเธอเอง ดังนั้นทุกอย่างต้องทำตั้งแต่เริ่มต้น
แต่ครั้งนี้ เสิ่นอีเวยกลับไม่คิดจะทำงานเป็นคนออกแบบชุดแต่งงานต่อไป เหตุผลข้อแรกคือแต่ก่อนตอนทำงานที่บริษัทเซิ่งซื่อ เธอพบปัญหาอย่างหนึ่ง
หากคนพัฒนางานอดิเรกของตนเองให้เป็นอาชีพที่ทำเงิน จากนั้นส่วนใหญ่มักจะถูกกดดันด้วยแรงกดดันของอาชีพนั้น ยิ่งนานวันเข้ายิ่งเหนื่อย ยิ่งเหนื่อยยิ่งอยากทำออกมาให้ดี ยิ่งอยากทำให้ดีก็ยิ่งเหนื่อย นานวันเข้า คนก็จะตกอยู่ในวังวนนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เหตุผลข้อสองคือ หัวข้อการออกแบบชุดแต่งงานแทบจะเต็มไปด้วยชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอทั้งหมด ในเมื่อครั้งนี้เธอต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เสิ่นอีเวยต้องการรู้ว่าตนเองมีหรือไม่มีศักยภาพอย่างอื่นที่สามารถนำออกมาใช้ได้
ดังนั้นครั้งนี้ เธอเลือกออกแบบเครื่องประดับ เธอสามารถเลือกได้ เพราะตนเองเตรียมตัวล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
สี่ปีที่อยู่ประเทศอังกฤษ เสิ่นอีเวยปกตินอกจากทำงานและดูแลเหมียนเหมียนน้อย เธอยังใช้เวลาว่างเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องประดับอีกด้วย
จนกระทั่งปีที่สี่ เธอสามารถสอบจนได้หนังสือรับรองออกแบบเครื่องประดับ
หนังสือรับรองนั้น สำหรับนักออกแบบมืออาชีพ ในแง่ของการหางาน นับว่ามีประโยชน์จริงๆ โดยเฉพาะในประเทศ
ดังนั้นในวันนี้ หลังจากเสิ่นอีเวยผ่านการสัมภาษณ์ที่เข้มงวดกับบริษัทออกแบบเครื่องประดับซั่งซิง ในที่สุดก็ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบเครื่องประดับ และจากนี้ชีวิตในประเทศของเธอในที่สุดค่อยๆไปในทิศทางที่ดีขึ้น
งานประเภทออกแบบเครื่องประดับเป็นที่นิยมมากในเมืองที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ อีกทั้งตนเองเป็นคนที่มีความสามารถ ดังนั้นเงินเดือนของเสิ่นอีเวยจึงค่อนข้างสูง
เพื่อเลี้ยงดูเหมียนเหมียนน้อยของตนเอง บวกกับจ้างคุณป้าหนึ่งคน ทั้งหมดไม่มีปัญหา
ความกดดันในชีวิตน้อยลง สถานการณ์การทำงานราบรื่น อารมณ์ของเสิ่นอีเวยก็ดีขึ้นไปโดยปริยาย เพียงแต่เธอยังนึกถึงบริษัทหัวยู่นเป็นครั้งคราว เธอรู้ว่า หากพึ่งพาความสามารถในการบริหารจัดการในปัจจุบันของเธอ คงไม่สามารถพาบริษัทหัวยู่นไปสู่ทิศทางที่ดีได้ อีกทั้งขนาดของบริษัทหัวยู่นก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนแต่ก่อน
แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยเรียนด้านการบริหารจัดการ ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีความมั่นใจนำบริษัทหัวยู่นมาจากมือของเซิ่งเจ๋อเฉิง และการไม่มีความมั่นใจ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเซิ่งเจ๋อเฉิง แต่เป็นเพราะเสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถบริหารจัดการบริษัท
ดังนั้นในใจของเธอรู้ดีว่า เพราะสิ่งนี้ทำให้บริษัทหัวยู่นยังคงตกอยู่ในกำมือของเซิ่งเจ๋อเฉิง สำหรับบริษัท แท้จริงไม่ใช่เรื่องที่ดี