สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 352
บทที่ 352 ผมรู้ว่าคุณกำลังโกหก
สี่ปีแล้ว เวลาผ่านไปสี่ปีเต็มๆ แต่นิสัยแย่ๆของผู้ชายคนนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เสิ่นอีเวยไร้คำพูดใดๆ นอกจากคำนี้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการซักถามของเซิ่งเจ๋อเฉิงอีกครั้ง เสิ่นอีเวยเหมือนเป็นตัวเม่นที่กำลังพองขน ผู้ชายคนนี้ คิดว่าคนอื่นจะโกรธเขาไม่ได้หรอ?
ดวงตาของเสิ่นอีเวยค่อยๆเปลี่ยนเป็นน่ากลัว:“แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิง คุณมีสิทธิ์อะไรมาถามฉัน ถึงแม้เหมียนเหมียนน้อยจะเป็นลูกสาวของฉันกับคุณจริงๆ แต่คุณต้องจัดการปัญหานี้ให้ชัดเจน ฉันกับคุณหย่ากันแล้ว พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยามาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเหมือนกับที่คุณกักตัวฉันไว้ที่นี่ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว และอีกอย่าง พวกเราเลิกกันมาสี่ปี สำหรับพวกเราต่างฝ่ายต่างก็เหมือนตายจากกันในความทรงจำแค่นั้น สี่ปีที่ผ่านมาคุณใช้ชีวิตยังไง เพราะกลัวจะเหงาจึงหาผู้หญิงมากมายมาอยู่ข้างกาย นั่นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน!
และด้วยเหตุผลเดียวกัน สี่ปีที่ผ่านมาฉันจะเจอผู้ชายกี่คน หรือโดนผู้ชายกี่คนแตะต้อง ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ!”
เสิ่นอีเวยพูดสิ่งที่ตนเองคิดออกมาในอึดใจเดียว ในใจรู้สึกโล่งขึ้นมาทันที แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าที่แสนน่ากลัวของเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอถึงรู้ทันทีว่า สิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกไปเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตจริงๆ
เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่บางของเสิ่นอีเวยเอาไว้แน่น เธอโดนเขาบีบจนเจ็บ จนน้ำตาแทบจะไหลออกมา แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่สนใจ ทันใดนั้นเขาก้มศีรษะลงใช้ริมฝีปากตนเองปิดริมฝีปากของเธอ
เสิ่นอีเวยมึนงง ในสมองมีเพียงความว่างเปล่าทันที เหมือนกับถูกฝังเข็มอย่างนั้น จนไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ สองวินาทีต่อมา การตอบสนองของเสิ่นอีเวยแทบฆ่าหัวใจของเซิ่งเจ๋อเฉิงทั้งหมดที่มี เพราะเธอเพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ว่า เหมียนเหมียนน้อยยังคงยืนอยู่ที่ประตู!
ผู้ชายคนนี้ แท้จริงเขาคิดจะทำอะไรกันแน่!
เซิ่งเจ๋อเฉิง เธอจดจำความเจ็บปวดและความเมินเฉยที่ผู้ชายคนนี้ทำกับเธอ ส่วนเขาก็จดจำความหวาดกลัวจากการหนีไปของเธอสลักลึกลงไปในหัวใจ
เดิมทีเสิ่นอีเวยคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะโมโหอย่างเดือดดาลต่อหน้าเธออีกครั้ง แต่เธอคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้เธอต้องระทมทุกข์ และจูบในครั้งนี้……ถึงแม้จะเหมือนเป็นการบังคับ แต่ในนั้นกลับมาความอบอุ่นและนุ่มนวล แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เสิ่นอีเวยรู้สึกประหลาดในใจ แต่มือที่ต้องการผลักเซิ่งเจ๋อเฉิงออกไปกลับไม่ยอมหยุด
ในที่สุด ตนเองก็ถูกปล่อยออกมา เสิ่นอีเวยหายใจเข้าออกยกใหญ่ ดวงตาคู่สวยและสดใสเหมือนเปื้อนน้ำ ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงชะงักงัน เขาไม่รู้ว่าเธอร้องไห้หรือเปล่า
ในที่สุด ขาโน้มตัวลงช้าๆ ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวแนบชิดกับหูของเสิ่นอีเวยเบาๆ
เธอได้ยินเขาพูดด้วยความรักและผูกพัน:“ อีเวย ที่จริง……ผมตามหาคุณนานมาก”
น้ำเสียงตอนท้ายของเขา เหมือนกับหางแมวที่แสนนิ่ม ทะลวงเข้ามาในหูของเธอโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้า
ทันใดนั้นเอง สมองของเสิ่นอีเวยสว่างไสวเหมือนกับฟ้าแลบขึ้นมา หัวใจที่บอบบางเหมือนโดนค้อนกระแทกเข้าอย่างแรง ในขณะที่รู้สึกเจ็บปวดกลับรู้สึกอบอุ่นไปด้วย
แท้จริงแล้วตนเองเป็นอะไรไป?ตอนนี้เสิ่นอีเวยรู้สึกอยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก
แต่เรื่องราวในอดีตที่ยากจะลืม ทำให้เธอเจ็บปวดมาเสมอ ไม่สามารถพูดว่าลบทิ้งก็สามารถลบทิ้ง แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์และความสามารถแบบนั้น ยิ่งกว่านั้นพวกเขาทั้งหมดเป็นเพียงคนธรรมดาบนโลกใบนี้
ดังนั้นถึงแม้หัวใจตนเองอดไม่ได้ที่จะถลำลึกเข้าไป แต่ในตอนสุดท้าย เสิ่นอีเวยยังคงพูดประโยคหนึ่งออกมาเบาๆ:“ ทำไมคุณต้องการตามหาฉัน?ชีวิตก่อนหน้านี้ ความเจ็บปวดและการถูกทอดทิ้งที่คุณให้กับฉัน ยังไม่พออีกหรอ?”
ตอนพูดประโยคนี้ น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยบางเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด กดทับลงบนหัวใจของเซิ่งเจ๋อเฉิง เพียงแต่ เสิ่นอีเวยไม่รู้ตัว
แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงท้ายที่สุดก็คือเซิ่งเจ๋อเฉิง เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้ฟังคำตอบที่พอใจ ดังนั้นเมื่อกระโปรงของตนเองถูกผู้ชายคนนี้ยกขึ้น เสิ่นอีเวยตอบโต้โดยทันที แต่ถึงอย่างไรตนเองก็ยังประเมินผู้ชายที่อยู่หน้าต่ำไป
“แควก!”คือเสียงกระโปรงของเธอฉีกขาด
เสิ่นอีเวยดวงตาเบิกกว้าง เธอมองผู้ชายตรงหน้าที่เหมือนกับสัตว์ร้ายอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ เธอสังเกตเห็นว่าเขาคิดจะทำอะไร เธอหันออกไปมองที่ประตูตามสัญชาตญาณ เพื่อดูว่าเหมียนเหมียนน้อยยังอยู่ตรงนั้นหรือไม่
แต่ก่อนที่เธอจะหันไปมอง น้ำเสียงเย็นชาบนศีรษะดังขึ้น :“ไม่ต้องมอง เมื่อสักครู่หลินอวี้เข้ามาพาเหมียนเหมียนน้อยออกไปแล้ว”
เสิ่นอีเวย:“……”
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้หันหลังให้กับประตู แต่ทำไมเขาถึงรู้ทุกอย่าง! เธอไม่อยากจะเชื่อ!
เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดต่อว่า:“คุณเพิ่งจะรู้จักสวี่เส้าเหิงหลังจากกลับมาจากประเทศอังกฤษ ตอนนี้คุณกับเขาแตกหักกันไปแล้ว ดังนั้นผมจะไม่ซักถามอีก แต่สี่ปีที่คุณอยู่ประเทศอังกฤษ ผมขอโทษ ผมก็ให้หลินอวี้ส่งคนไปสืบข้อมูลส่วนตัวของคุณ ข้อมูลที่พวกเขาส่งให้ผมคือ คุณไม่ได้สนิทกับผู้ชายคนไหนเป็นการส่วนตัว แต่ว่า——”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ แววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นเปลี่ยนน่ากลัวทันที เขาค่อยๆพูดเสียงต่ำลง:“เขากลับพูดว่าคุณชอบคลุกคลีอยู่ในบาร์ใหญ่ๆ สถานที่เที่ยวกลางคืน มันคือเรื่องจริงหรือหลอก?”
เสิ่นอีเวยได้ยินประโยคนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา เธอยิ้มอย่างสดใสและพูดว่า :“คิดไม่ถึงว่าความสามารถในการทำงานของหลินอวี้จะยอดเยี่ยมขนาดนี้ แน่นอนมันคือความจริง ข้อมูลที่เขาส่งให้คุณทั้งหมดคือเรื่องจริง เพียงแต่ว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันต้องแก้ไขให้ถูกต้อง——”
เสิ่นอีเวยไม่ได้สนใจสีหน้าของที่เปลี่ยนไปเซิ่งเจ๋อเฉิง พูดต่อว่า:“เขาบอกว่าตอนอยู่ประเทศอังกฤษฉันไม่เคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหน เรื่องนี้ผิด ที่จริงแล้วยังมี และยังมีการพัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบคนรักถึงสองครั้ง คุณก็รู้ดี คนต่างชาติ ค่อนข้างเปิดกว้าง ดังนั้นถ้าฉันพูดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันพูดออกไปคุณก็คงไม่เชื่อ จริงไม่จริง?”
นานเข้าเสิ่นอีเวยยิ่งรู้สึกสนุก เพราะเธอยอมรับว่า ตนเองชอบมองสีหน้าจำยอมของเซิ่งเจ๋อเฉิงในตอนนี้
เธอไม่ได้บอกเขา ว่าที่จริงตนเองโกหก เพราะตอนนี้มองดูแล้ว เธอไม่อยากพ่ายแพ้ต่อหน้าเขาอีกครั้ง เธอไม่อยากสูญเสียตัวตนนั้นไป
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้วิธีหลอกลวงเช่นนี้ เขาก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยโกหกตนเองมาก่อน ต่างฝ่ายต่างเสมอกันเท่านั้นเอง
สายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเอาแต่จ้องมองริมฝีปากสีแดงของเสิ่นอีเวย ริมฝีปากนั้นเพิ่งจะโดนเขากัดจนแดง เขายื่นมือออกไปลูบไล้ริมฝีปากแดงอย่างดุเดือด
มันมีเสน่ห์เหมือนกับดอกกุหลาบสีแดง สวยงามน่าหลงไหล
“อีเวย อย่ามาแกล้งผม ผมรู้ว่าคุณกำลังโกหก” ในแววตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
เสิ่นอีเวยใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ตนเองโดนจับได้หรอ?เธอคิดว่าตนเองปกปิดได้แนบเนียนมาก