สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 357
บทที่ 347 ถูกเขาโยนลงสระน้ำ
จูบของเขารุนแรงและป่าเถื่อน จนหล่อนแทบจะหายใจไม่ได้ หล่อนรู้สึกเหมือนอากาศในหน้าอกหล่อนนั้นถูกดูดไปจนหมด หน้าอกที่ว่างเปล่านั้นกำลังขาดอากาศ
สมองของเสิ่นอีเวยครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว เมื่อเลือดขึ้นหน้า หล่อนยกขาขึ้นแล้วเตะไปที่หว่างขาของเซิ่งเจ๋อเฉิง หล่อนสวมรองเท้าส้นสูง เมื่อหล่อนเตะออกไป ความเจ็บปวดนั้นน่าจะพอคาดเดาได้ว่ามากขนาดไหน
แต่ว่าปลายส้นแหลมของรองเท้ายังไม่ทันถึงตัวของเซิ่งเจ๋อเฉิง ข้อเท้าของหล่อนก็ถูกมือข้างหนึ่งยึดไว้ ข้อเท้าเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดในร่างของหล่อนรองมาจาก คอและหู
แต่ว่าตอนนี้กลับถูกผู้ชายคนนี้ใช้มือข้างหนึ่งยึดไว้แน่น มือที่มีอุณหภูมิเร่าร้อนเหมือนไฟแผดเผา กำลังเผาไหม้ผิวหนังที่ข้อเท้าของหล่อน
ระยะห่างระหว่างเขากับตนเองนั้น ใกล้มากขนาดนี้ หล่อนยังถูกเขาจูบอีก แล้วข้อเท้าก็มาถูกยึดไว้ รู้สึกได้เลยว่าวินาทีนี้ เสิ่นอีเวยอยากจะตาย
แต่สุดท้าย เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ปล่อยหล่อน ใบหน้าเขาถอยออกไปแล้ว อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าไปในทรวงอกของเสิ่นอีเวย
มาถึงขนาดนี้แล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยังจับข้อเท้าของหล่อนไว้ไม่ปล่อย เสิ่นอีเวยพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่หลุด
ใบหน้ามีความโกรธและตื่นกลัว
ถูกเขาจูบโดยที่หล่อนไม่เต็มใจ ในใจหล่อนเต็มไปด้วยความเดือดดาล ที่หล่อนพยายามควบคุมไว้แต่ก็ไม่เป็นผล :”เซิ่งเจ๋อเฉิงคุณบ้าไปแล้วเหรอ โรคจิต..”
เซิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะเยาะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบว่า:”คิดจะท้าทายผมเหรอ ไม่ได้ผลหรอก”
เขาหลุบตาลง มองไปที่ผู้หญิงที่พยายามดิ้นรนอยู่บนโซฟาอย่างเย็นชา แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า: “คิดไม่ถึงเลยว่าไม่ได้เจอกันสี่ปี ร่างกายคุณก็ยังอ่อนแอเหมือนเดิม คิดจะสลัดผมออกเหรอ ไม่มีทาง”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิง ก็สัมผัสได้ว่ามีลมพาดผ่านหน้าเขาไป เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว เสิ่นอีเวยก็ยกขาที่ข้างที่ไม่ได้ถูกเขายึดไว้เตะมาที่เขา
เซิ่งเจ๋อเฉิงตกใจ พอได้สติก็รีบหมุนตัวหลบ เสิ่นอีเวยรีบฉวยจังหวะนี้หนีมาอีกด้าน หลุดจากพันธนาการของเซิ่งเจ๋อเฉิง
ครั้งนี้ เสิ่นอีเวยโกรธมากจริงๆ เซิ่งเจ๋อเฉิงยังไม่ทันได้พูดอะไร เสิ่นอีเวยก็ยกขาขึ้นมาเตะเขาอีก เป้าหมายก็คือใบหน้าที่แสนจะหล่อเหลาของเขา
เซิ่งเจ๋อเฉิงชะงัก สีหน้าเคร่งเครียดมากขึ้น
ผู้หญิงคนนี้ไปเรียนเทควันโดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ยังกล้าเอามาเล่นงานเขาด้วย ดี ดีมาก
เตะไปหนึ่งครั้งตามด้วยอีกหมัดโจมตีชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ทุกการโจมตีหล่อนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เรียกว่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย มองเสิ่นอีเวยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อที่จะทำร้ายเขา เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่การทำร้ายฝั่งตรงข้าม จึงต้องใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
จริงๆแล้วเสิ่นอีเวยดูออกว่าผู้ชายที่ต่อสู้กับหล่อนตรงหน้านั้นยอมให้หล่อน แต่เมื่อเป็นแบบนี้แล้วยิ่งกลับทำให้หล่อนไม่พอใจ เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณชอบดูถูกคนอื่นมาตลอด ใครบอกให้คุณยอมฉัน
เสิ่นอีเวยรำพึงในใจ มือและเท้าก็ออกแรงมากยิ่งขึ้น
หลังจากผ่านไปสักพัก เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ดูออกว่า ผู้หญิงคนนี้ต้องการให้พลาดท่าเสียทีดูบ้าง แต่น่าเสียดายที่ทักษะเทควันโดของหล่อนยังห่างไกลจากเขามาก
แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายหล่อน มองเสิ่นอีเวยที่ยังไม่ยอมสงบลงเสียที เขาจึงตัดสินใจเองในใจ
เขาฉวยจังหวะที่เสิ่นอีเวยหันข้าง เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ก้มตัวลง อีกฝ่ายหันกลับมาก็ไม่เห็นคนแล้ว พอก้มลงมาก็ถูกเขาอุ้มไว้เสียแล้ว
จะพูดว่าอุ้มก็ไม่ถูกนัก น่าจะพูดว่าแบกไว้เสียมากกว่า
เซิ่งเจ๋อเฉิงใช้มือข้างเดียวกดขาทั้งสองข้างของเสิ่นอีเวยที่ถีบสะบัดไปมาไม่หยุดบนหลังเขา
ในใจเสิ่นอีเวยตื่นตระหนก ดิ้นพลางตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
“คุณทำบ้าอะไร ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำเสียงเย็นของเซิ่งเจ๋อเฉิงดังขึ้น:” คุณสงบลงไม่ได้สักที ผมก็จะช่วยให้คุณสงบลงไง”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่มีเสียงสูงต่ำ ฟังไม่ออกว่าเขารู้สึกอย่างไร เสิ่นอีเวยคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นเหมือนเมื่อก่อน ทุกครั้งที่หล่อนไม่ฟังเขา หรือทำให้เขาโกรธ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็จะแบกหล่อนขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน จากนั้นก็…..ไม่สามารถบรรยายได้แล้ว
เมื่อคิดว่าอาจจะต้องเป็นแบบนั้น หล่อนก็เริ่มสงบลง แต่หลังจากที่เซิ่งเจ๋อเฉิงแบกหล่อนเดินไปไม่กี่ก้าว หล่อนจึงรู้ว่าไม่ใช่
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เดินไปชั้นบน ถ้าอย่างนั้นเขาจะแบกหล่อนไปไหน เกิดความสงสัยขึ้นภายในใจหล่อน
วิวห้องรับแขกของคฤหาสน์ตระกูลเซิ่งนั้นล้วนแตกต่างกัน ด้านตะวันออกเป็นสวนเล็กๆ ด้านตะวันตกเป็นหน้าต่างบานยักษ์ จากหน้าต่างมองออกไปก็จะเห็นสระส่วนตัว
เซิ่งเจ๋อเฉิงที่แบกเสิ่นอีเวยไว้ กำลังเดินไปทิศทางนั้น อีกฝ่ายหลังจากที่เห็นทิศทางที่เขาไปชัดเจนแล้ว ในใจก็เกิดความตื่นกลัวขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ …คิดจะทำอะไร”
อาบน้ำด้วยกันเหรอ ไม่น่าจะใช่
ในขณะที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเดินไปที่สระน้ำ
มือและขาของหล่อนก็ยังคงดิ้นรนอยู่ตลอด ไม่มีวี่แววว่าจะยอมหยุด นั่นยิ่งทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองยิ่งขึ้น
ตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงหยุดยืนอยู่ข้างสระน้ำ การดิ้นรนเสิ่นอีเวยก็สิ้นสุดลง ทั้งสองนิ่งเงียบ มองไปที่สระน้ำสีเขียวมรกต ในใจเสิ่นอีเวยเกิดความหวั่นวิตก หล่อนถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า:” คุณ คุณคิดจะทำอะไร”
ตอนแรกคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่สนใจหล่อน แต่เสิ่นอีเวยกลับได้ยินคำตอบจากปากเขา: “คุณไม่ใช่ว่าสงบเย็นลงไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ผมจะทำให้คุณใจเย็นขึ้น”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตนเองเลยแม้แต่น้อย
มาถึงตอนนี้ ปฏิกิริยาของเสิ่นอีเวยไม่ได้ช้าขนาดนั้น แน่นอนว่าหล่อนฟังออกว่าสิ่งที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร พอได้สติจึงรีบคว้าเสื้อของเซิ่งเจ๋อเฉิงไว้แน่น แล้วตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า:”ไม่นะ คุณ..”
“อร๊าย” ภายในคฤหาสน์อันใหญ่โต ก็มีเสียงร้องแหลมบาดหูของผู้หญิงดังขึ้น
ไม่ต้องสงสัย เป็นเสียงร้องของเสิ่นอีเวย
ประโยคเมื่อครู่ยังไม่ทันสิ้นเสียงหล่อน ก็ถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงโยนลงไปในสระน้ำแล้ว
ท่าทางที่เซิ่งเจ๋อเฉิงโยนหล่อนลงไปอย่างไม่ลังเล หล่อนรู้สึกเหมือนว่าหัวใจหล่อนถูกกระชากออกไป ในสมองมีแต่ความว่างเปล่า จนกระทั่ง
หลังจากที่ตกลงไปในน้ำ น้ำก็ไหลเข้ามาในหูหล่อน หล่อนรู้สึกแย่มาก พอได้สติก็พยายามดิ้นรนสะบัดแขนขาเพื่อให้ลอยขึ้นไปเหนือผิวน้ำ แต่สิ่งที่น่าเวทนาก็คือ หล่อนว่ายน้ำไม่เป็น
และผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างบนนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าหล่อนว่ายน้ำไม่เป็น
เซิ่งเจ๋อเฉิงยืนมองสระน้ำที่ถูกเสิ่นอีเวยทำให้กระเพื่อมเป็นวงกว้างอย่างเย็นชา สีหน้าที่เย็นชา ใช่ไม่ผิด เขาต้องการลงโทษผู้หญิงคนนี้ ให้หล่อนได้สัมผัสกับน้ำเย็นๆจะได้ช่วยให้หล่อนมีสติขึ้นมาบ้าง