สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 363
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 363 โอกาสที่ดีสำหรับผู้ชายโสด
สายตาทุกคู่ของบรรดาแฟนคลับด้านล่าง ต่างหันมองกันไปทุกทิศทุกทาง เหมือนกับกำลังค้นหาเงาของเสิ่นอีเวย
เสิ่นอีเวยเริ่มคิดว่าวันนี้ตนเองโชคดีมากที่สวมหมวกปีกกว้าง ดังนั้นคนรอบข้างจึงแทบจะมองไม่เห็นใบหน้าเธอชัดเจน
แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มีความกังวลในใจเล็กน้อย เนื่องจากเธอคือแม่ของเหมียนเหมียนน้อย ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงเคยโดนสื่อมวลชนสัมภาษณ์มาหลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงไม่แน่ใจว่าท่ามกลางบรรดาเหล่าแฟนคลับของเหมียนเหมียนน้อย จะมีสักกี่คนที่สามารถจำหน้าตนเองได้
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เสิ่นอีเวยเริ่มรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกผู้คนจ้องมองอย่างสนใจ รวมทั้งตอนนี้เธอไม่รู้ว่าลูกสาวของตนเองแท้จริงคิดจะทำอะไร ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่เงยหน้าขึ้นมา
แต่เธอคิดไม่ถึงว่าพิธีกรที่ถือไมโครโฟนด้านบนเวทีจะพูดอย่างเสียงดังฟังชัดว่า:“คุณแม่ของเหมียนเหมียนน้อยได้ยินไหมคะ เหมียนเหมียนน้อยมีบางอย่างจะพูดกับคุณ เชิญขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ!”
เสียงของเหมียนเหมียนน้อยถึงแม้จะดังก้องกังวาน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง การควรคุมสถานการณ์นี้ สุดท้ายจึงต้องตกเป็นของพิธีกร เนื่องจากมีเพียงพิธีกรที่จะมีทักษะนี้
พิธีกรสาวทิ้งท้ายอีกประโยค เสิ่นอีเวยได้ยินเสียงผู้คนกระซิบรอบกายตนเอง:“คุณแม่ของเหมียนเหมียนน้อย อยู่ไหนกันนะ……”
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่เคยเห็นหน้า เหมือนกับว่าจะอยู่ท่ามกลางพวกเราในนี้นะ……”
เสิ่นอีเวยหัวใจเต้นแรง เหตุการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้ มองดูแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เธอทำได้เพียงกัดฟันและถอดหมวกออก ค่อยๆผลักแว่นกันแดดไว้บนหน้าผาก ก้าวเท้ายาวๆขึ้นไปบนเวที
เมื่อบรรดาแฟนคลับมองเห็นสาวสวยเดินผ่านพวกเขาขึ้นไปบนเวที ต่างพากันหลีกทางโดยไม่รู้ตัว เสิ่นอีเวยถอนหายใจเบาๆ เพราะมองเห็นสถานการณ์เบื้องหน้า มีบางจังหวะที่เธอคิดว่าตนเองเหมือนกำลังเดินอยู่บนพรมแดง……
รอจนกว่าเสิ่นอีเวยขึ้นมายืนบนเวที เหมียนเหมียนน้อยกระโดดลงจากเก้าอี้และพุ่งหาเธออย่างรวดเร็ว วินาทีต่อมา เสิ่นอีเวยรู้สึกถึงก้อนแป้งหอมๆนุ่มๆอยู่ในอ้อมแขนของตนเองทันที
“ม่ามี้!”เหมียนเหมียนน้อยส่งเสียงมีความสุข
เนื่องจากวันนี้บังเอิญเจอกับเซิ่งเจ๋อเฉิงบนเขาหวินมู่ ดังนั้นความรู้สึกภายในใจที่แต่เดิมสงบเงียบของเสิ่นอีเวยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ถึงแม้เมื่อสักครู่เธอจะโบกป้ายไฟและดอกไม้ในมือไปกับบรรดาแฟนคลับด้านล่างเวที แถมยังทุ่มเทแรงกายแรงใจตะโกนเพื่อเหมียนเหมียนน้อย
แต่เธอต้องยอมรับว่า เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกสาวสุดที่รักของตนเองที่นั่งอยู่บนเวที และอีกเหตุผลคือเธอกำลังสนับสนุนอย่างเต็มที
เดิมทีเข้าใจว่างานมีตแอนด์กรี๊ดวันนี้จะจบเร็ว หลังจากจบกิจกรรมเหมียนเหมียนน้อยจะมีเวลาว่างเพื่อไปพักผ่อนได้ครึ่งวัน ดังนั้นแต่เดิมเธอวางแผนพาเหมียนเหมียนน้อยไปเที่ยวสวนสนุกสักรอบ
เพียงแต่แปลกมาก เมื่อสักครู่ที่เหมียนเหมียนน้อยพุ่งเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกในใจที่เศร้าหมอง ทุกอย่างหายไปอย่างคาดไม่ถึง
เสิ่นอีเวยนั่งยองๆ เพื่อให้สายตาที่อ่อนโยนของตนเองอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของเหมียนเหมียนน้อย เธอยิ้มและถามว่า“วันนี้เหมียนเหมียนน้อยมีความสุขไหมคะ?”
เหมียนเหมียนน้อยประคองสองมือเล็กๆไว้รอบคอของเสิ่นอีเวย ดวงตาคู่โตยิ้มเหมือนดวงดาวที่ส่องแสง พร้อมกับพยักหน้า:“ มีความสุข! แม่มาได้เหมียนเหมียนน้อยยิ่งมีความสุข!”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทันใดนั้นเอง เสิ่นอีเวยอยากจะร้องไห้ออกมา ลูกสาวสุดที่รักของตนเอง แต่ไหนแต่ไรมารู้จักคิดจริงๆ
ในตอนนี้ พิธีกรเดินเข้ามายื่นไมโครโฟนให้เสิ่นอีเวย เธอพยักหน้าเบาๆและพูดว่า“ขอบคุณค่ะ”
เสิ่นอีเวยรับไมโครโฟนหันไปทักทายบรรดาแฟนคลับของเหมียนเหมียนน้อยที่ยืนอยู่ด้านล่าง:“สวัสดีค่ะแฟนคลับทุกคน ฉันคือแม่ของเสิ่นเหมียน”
เมื่อเธอพูดจบ มีเสียงปรบมืออย่างสนอกสนใจจากด้านล่าง จากการตอบสนองของทุกคนสามารถมองเห็นว่า ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจมากกับเสิ่นอีเวย
ผู้ชายที่เพิ่งจะถูกเสิ่นอีเวยชวนคุยเหมือนกับจะจำได้ เขาตกใจอ้าปากค้างจนแทบจะยัดไข่ไก่ลงไปได้ทั้งฟอง มะ……แม่ของเหมียนเหมียนน้อย คิดไม่ถึงว่าจะเข้ามาคุยกับตนเอง……
ทันใดนั้น มือที่ถือไมโครโฟนของเสิ่นอีเวยก็ว่างเปล่าขึ้นมาทันที เนื่องจากเหมียนเหมียนน้อยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะเอาไมโครโฟนจากมือเธอ คนตัวเล็กกระแอมสองที เพื่อเตรียมตัวพูด
“ใช่แล้วค่ะ สาวสวยคนนี้คือม่ามี้ของหนู ในวันนี้ หนูอยากใช้โอกาสนี้เพื่อเติมเต็มความปรารถนาที่มีมานานแสนนาน!”
เสิ่นอีเวยที่ยืนบนเวทีรู้สึกไม่ชอบใจที่ตนเองกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนมากมาย เธอชำเลืองมองเห็นคนด้านล่างกำลังถ่ายภาพตนเองและเหมียนเหมียนน้อย ถึงแม้เธอจะเป็นแม่ของนักแสดงเด็กชื่อดัง ในไม่ช้าก็เร็วทุกคนอาจรู้จัก แต่เสิ่นอีเวยกลับคิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึงเร็วเช่นนี้
เธอรู้สึกไม่แน่ใจ:ลูกสาวสุดที่รักของเธอ ลูกเพียงต้องการเติมเต็มความปรารถนาของตนเองก็ดีแล้ว แต่ทำไมต้องลากม่ามี้ขึ้นเวทีด้วย?
“หนูอยากหาแฟนให้แม่สักคน!”
เหมียนเหมียนน้อยพูดประโยคที่สองจบ ทุกคนในเหตุการณ์เงียบสงัด เสิ่นอีเวยคิดว่ามีหูของเธอมีปัญหาจึงฟังผิด แต่เมื่อเธอมองเห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่ตกตะลึง จึงยกเลิกความคิดนี้ของตนเองอย่างไม่ลังเล
เสิ่นอีเวยมองไปทางเหมียนเหมียนน้อยอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ เธอยิ้มอย่างแข็งทื่อ:“เหมียนเหมียนน้อย หนูเพิ่งจะพูดอะไรออกมา?”
เหมียนเหมียนน้อยแสดงท่าทีไม่รู้สึกรู้สา:“หนูพูดว่า หนูต้องการหาแฟนให้ม่ามี้สักคน——”
หลังจากอธิบายอย่างอดทน เหมียนเหมียนน้อยหันกลับไปพูดกับแฟนคลับด้านล่างอย่างจริงจัง:“ม่ามี้ของหนู ชื่อว่าเสิ่นอีเวย อายุ28 ปี สูง 168 เซนติเมตร เป็นผู้อำนวยการออกแบบของบริษัทออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียง นิสัยอ่อนโยน แถมยังทำอาหารอร่อย ในวันนี้ หนูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะแนะนำม่ามี้ให้กับบรรดาแฟนคลับชายโสดที่มีความโดดเด่น!ทุกคนโปรดคว้าโอกาสนี้ให้กับชายโสดโดดเด่นที่อยู่รอบตัวคุณด้วยค่ะ!”
คนตัวเล็กพูดออกมาโดยไม่มีใครคาดคิด เสิ่นอีเวยแทบจะคุกเขาลงกับพื้น
สิ่งที่ลูกสาวสุดที่รักของตนเองพูดออกมา ไม่เพียงเป็นเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางอก แต่ยังพลิกคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอที่บอกกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับพ่อของเหมียนเหมียนน้อยว่าทำงานไกลอยู่ที่ต่างประเทศ
เจ้าลูกคนนี้ กล้าหักหน้าเธอต่อสาธารณชน……เสิ่นอีเวยยิ้มมุมปากทำตัวไม่ถูก
แต่ความโชคดีก็คือ เมื่อเสิ่นอีเวยหันไปสังเกตปฏิกิริยาของบรรดาแฟนคลับด้านล่าง เหมือนกับไม่มีใครใส่ใจเรื่องที่เหมียนเหมียนน้อยพูดจาไม่ตรงกับคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ อาจเป็นไม่ค่อยมีคนดูข่าวตอนนั้น
อีกทั้งในโลกของวงการบันเทิง มีข่าวใหม่อยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งก็ไม่น่าเชื่อถือ